เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น? - ตอนที่ 64 มุมมองของซานย่า(สาวใช้ส่วนตัวของอาเรีย)
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น?
- ตอนที่ 64 มุมมองของซานย่า(สาวใช้ส่วนตัวของอาเรีย)
ตอนที่ 64 มุมมองซานย่า(สาวใช้สวนตัวของอาเรีย)
สามวันก่อนถึงงานเลี้ยงอาหารค่ำที่จัดขึ้นโดยตระกูลเคานต์เลแคลร์
“หาววว~”
ในห้องหนึ่งของคฤหาสน์ตระกูลดยุค ซึ่งมีประตูและพื้นที่อันกว้างใหญ่โต เด็กสาวรูปร่างเล็กนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง ปล่อยร่างกายให้ไร้เรี่ยวแรง และส่งเสียงลากยาวออกมาด้วยน้ำเสียงที่งดงามเกินไป
รูปร่างเล็กกระทัดรัดของเธอ อาจเทียบได้กับเชีย สาวใช้จากตระกูลมาร์ควิส——
“คุณหนูอาเรีย…”
สาวใช้ประจำตัว ซานย่า ที่มองเห็นสภาพที่ดูหมดเรี่ยวแรงของคุณหนูผู้เป็นเจ้านาย ก็อดถอนหายใจไม่ได้พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่เจือความเหนื่อยหน่าย
“คุณหนูไม่คิดจะปรับปรุงเรื่องนี้หน่อยเหรอคะ?”
“ไม่~”
คำตอบนั้นถูกเอ่ยออกมาอย่างฉับไว
“ถ้าฉันไม่ปล่อยตัวแบบนี้ ร่างกายจะอ่อนแอเอานะ”
“แต่สำหรับคุณหนู ดูเหมือนจะเป็นข้อยกเว้นนะคะ”
แม้ซานย่าจะเห็นด้วยว่าการปล่อยตัวให้พักผ่อนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่การที่อาเรียอยู่ในสภาพนี้เกือบตลอดเวลา—ตั้งแต่เมื่อวานและวันก่อนหน้า ยกเว้นตอนเรียนหรือทานอาหาร—มันก็เกินไป
ถึงแม้อาเรียจะมีตารางงานแน่นมาก ทั้งงานเลี้ยงและวันเกิดที่เธอได้รับเชิญอย่างไม่ขาดสาย แต่การได้เห็นคุณหนูที่ดูไร้ซึ่งความสง่างามและเรียบร้อยในห้องส่วนตัวก็ทำให้ซานย่าหนักใจ
“แบบนี้จะอ้วนได้นะคะ”
คำพูดต้องห้ามที่ถูกเอ่ยออกมา แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่มีผลกับคุณหนูแห่งตระกูลดยุคผู้นี้
“ยังไม่เป็นไรหรอก~ ดูนี่สิ”
อาเรียเปิดผ้าห่มออกโดยไม่ลังเล เผยให้เห็นหน้าท้องที่พอมีกล้ามเนื้อเล็กน้อย เธอใช้แขนปิดส่วนหน้าอกที่เด่นชัด แต่สิ่งที่เธอแสดงให้เห็นคือร่างกายที่ดูมีสุขภาพดี
ภายในห้องนอน อาเรียมักอยู่ในสภาพเกือบเปลือย หากชายใดได้เห็นสภาพเช่นนี้ คงไม่สามารถอดใจจากความเย้ายวนได้
แม้เธอจะถูกขนานนามว่า “นักร้องสาวแสนงาม” แต่การใช้ชีวิตแบบไร้แบบแผน—นอนหลับเมื่อต้องการและพักผ่อนมากเกินไป—ทำให้เธอมีรูปร่างที่พัฒนาอย่างรวดเร็วกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน เว้นเพียงเรื่องส่วนสูงที่หยุดนิ่ง
“ไม่น่าดูเลยค่ะ รีบปิดเถอะค่ะ”
“ค่า~”
“เฮ้อ…”
คำตอบที่ดูเหมือนไม่ใส่ใจ และการถอนหายใจที่เกิดขึ้นต่อหน้าเจ้านายเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่ในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน นี่คือสิ่งที่ได้รับการยอมรับ
“ได้โปรดจริงจังหน่อยเถอะค่ะ หากใครรู้ว่าคุณหนูของตระกูลดยุคใช้ชีวิตเหมือนหนอนเช่นนี้ แม้จะแต่งงานได้ แต่ก็คงถูกทอดทิ้งในไม่ช้า”
“ไม่เป็นไรหรอก~ ยังไม่มีใครจับได้เลย…แค่ก”
จู่ๆ อาเรียก็ไอเบาๆ จากนั้นน้ำเสียงและสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เธอกลายเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในชั่วพริบตา
ทั้งที่ยังนอนแผ่หลาบนเตียง ความสามารถที่แสนประหลาดนี้ทำให้ซานย่าทึ่งอยู่ไม่น้อย
ซานย่าทิ้งตัวนั่งลงข้างเตียงที่อาเรียนอนอยู่
“เอาล่ะค่ะ ฟังเรื่องสำคัญหน่อยนะคะ”
“ค่า~”
“เกี่ยวกับงานเลี้ยงอาหารค่ำที่จะมีในอีกสามวันข้างหน้า…”
“อื้ม!”
“งานจะเริ่มตั้งแต่ 6 โมงเย็น ช่วงแรกเป็นการต้อนรับและรับประทานอาหาร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 2 ทุ่มจะมีการแสดงร้องเพลงของคุณหนูค่ะ”
“เริ่มเข้างานเวลา 18:00 ใช้เวลา 2 ชั่วโมงสำหรับการทักทายและรับประทานอาหาร ส่วนเวลา 20:00 จะเป็นช่วงการแสดงร้องเพลง… เข้าใจแล้ว แล้วหลังจากนั้นล่ะ?”
“หลังจากการแสดงร้องเพลง คุณหนูสามารถพักหรือกลับได้ตามสะดวกค่ะ”
แม้ว่าอาเรียจะดูเกียจคร้านแค่ไหน แต่การที่เธอสามารถจำตารางงานได้โดยไม่ต้องพึ่งสาวใช้ ก็ถือว่าสมกับเป็นบุตรีแห่งตระกูลดยุค
ซานย่าที่เฝ้ามองอยู่ลึกๆ แอบคิดชื่นชมในใจ แต่ก็ไม่กล่าวออกมา เพราะรู้ดีว่าหากเอ่ยปากชม อาเรียจะยิ่งขี้เกียจมากขึ้นไปอีก
“แล้วงานเลี้ยงครั้งนี้ มีใครมาบ้าง?”
“หากจะพูดถึงคนที่คุณหนูอาเรียสนิทสนม ก็มีคุณเอเลน่า เลแคลร์ ซึ่งเป็นเจ้าภาพ และน้องชายของเธอ คุณอลัน เลแคลร์ ค่ะ”
“อื้ม อื้ม~”
อาเรียตอบด้วยน้ำเสียงสดใส
“นอกจากนี้ ดิฉันเองยังประหลาดใจที่ได้ทราบว่า คุณลูน่า เปเลนเมล บุตรีคนที่สามแห่งตระกูลบารอน ก็จะเข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วยค่ะ”
“หา? ลูน่าจอมกำแพงเหล็กนั่นน่ะเหรอ?”
“ใช่ค่ะ คุณลูน่าท่านนั้นเลย”
“ลูน่าคนนั้นจริงๆ เหรอ?”
“ไม่ผิดแน่ค่ะ”
“อ๊า~!”
ทันใดนั้น อาเรียก็เตะขากระทืบเตียงด้วยความตื่นเต้น
ด้วยความที่เธออยู่ในชุดนอนเปลือย ทำให้ช่วงขาเรียวเล็กและต้นขาโผล่พ้นผ้าห่มออกมาให้เห็นแวบๆ และเตียงที่ซานย่านั่งอยู่ก็สั่นไหวไปตามแรงกระทืบ
“ดีจัง~ ฉันรอชมชุดเดรสของลูน่าไม่ไหวแล้ว”
ดยุคกับบารอนมีสถานะต่างกันราวฟ้ากับดิน ไม่เพียงเท่านั้น อาเรียยังเข้าเรียนเพียงแค่วันที่มีสอบเท่านั้น แต่การที่ทั้งสองรู้จักกันกลับไม่ใช่เรื่องแปลก
เหตุผลก็คือ อาเรียมักสอบในห้องสมุด ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลูน่าใช้เป็นประจำ การพบปะพูดคุยกันในสถานที่นั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของความสนิทสนม (หรืออย่างน้อยก็มาจากมุมมองของอาเรีย)
“เอ่อ… ต้องขออภัยที่รบกวนช่วงเวลาที่คุณหนูกำลังอารมณ์ดี แต่ดิฉันมีข่าวสำคัญอีกเรื่องที่ต้องแจ้งค่ะ”
“อะไรเหรอ?”
“คุณเบเรธ เซนต์ฟอร์ด แห่งตระกูลมาร์ควิส จะเข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วยค่ะ”
“…หา?”
รอยยิ้มกว้างที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุขของอาเรียหายวับไปทันที ใบหน้าของเธอซีดเผือดราวกับคนเห็นผี
“พูดเล่นใช่ไหม?”
น้ำเสียงของเธอที่ฟังดูสงบนิ่งเหมือนแมวกำลังระวังตัว แม้จะถามซ้ำ แต่คำตอบที่ได้รับก็ยังเหมือนเดิม
“เป็นความจริงค่ะ”
“…”
อาเรียดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า พร้อมซ่อนเส้นผมสีทองที่งดงามเอาไว้ข้างใน
เสียงพูดที่สั่นเครือดังออกมาจากใต้ผ้าห่ม บ่งบอกถึงความวิตกกังวลที่ไม่อาจซ่อนเร้นได้
“น-นั่นมันน่ากลัวมากเลยนะ…! ตอนที่สวนกันที่โรงเรียนครั้งหนึ่ง เขาจ้องมาราวกับจะฆ่าฉันเลยล่ะ!”
“ดิฉันเคยพูดไปแล้วหลายครั้งว่า บางทีเขาอาจคิดว่า ‘เธอแกล้งทำตัวน่ารักมากเกินไปรึเปล่า’ ก็ได้ เพราะมีคนที่มีประสาทสัมผัสเฉียบคมอยู่เหมือนกันนะคะ”
คำพูดนี้เต็มไปด้วยความจริงใจ เพราะมันมาจากส่วนลึกในใจของซานย่า แม้ว่าจะคิดเช่นนั้น แต่เธอก็ยังคงภักดีต่ออาเรียไม่เปลี่ยนแปลง
“ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่สายตานั่นมันน่ากลัวจริงๆ นะ! ไม่มีใครเคยทำแบบนั้นกับฉันเลย มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นแหละ!”
“…”
“ถ้าเกิดเขาจ้องฉันแบบนั้นตอนที่กำลังร้องเพลงอยู่ล่ะก็…”
“ขอประทานโทษค่ะ แต่ดิฉันคิดว่าคุณหนูอาเรียอาจคิดไปเองหรือเปล่าคะ”
“ท-ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?”
“ดิฉันได้ยินข่าวลือมาว่า ในหมู่ชั้นเรียนของเหล่าคนรับใช้ คุณเบเรธเป็นคนที่ได้รับความนิยมสูงมากค่ะ”
“หา!?”
อาเรียถึงกับอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
สำหรับสาวใช้แล้ว เจ้านายควรเป็นศูนย์กลางของโลก ไม่มีทางที่จะมีข่าวลือแบบนั้นแพร่กระจายออกมาได้ตามปกติ
“เขาได้รับความนิยมเหรอ?”
“ค่ะ ดิฉันได้ยินมาว่าเหล่าผู้ติดตามในชั้นเรียนต่างพูดถึงเขาด้วยความชื่นชม”
“…ไม่น่าเชื่อเลย”
อาเรียที่เคยมั่นใจว่าตนเข้าใจผู้คนรอบตัว กลับรู้สึกถึงความไม่คุ้นเคยในตัวเบเรธมากขึ้นทุกที
TLN: “サーニャ” = “Sanya” อยากให้เรียกว่า ‘ซานย่า’ หรือ ‘ซาเนีย’ กันครับ