เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น? - ตอนที่ 63 เชียในวันถัดมา และ(ข้อมูล)นักร้องสาวอาเรีย
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น?
- ตอนที่ 63 เชียในวันถัดมา และ(ข้อมูล)นักร้องสาวอาเรีย
ตอนที่ 63 เชียในวันถัดมา และนักร้องสาวอาเรีย
วันต่อมา
“เชียー? ขอโทษนะ พอจะมีเวลาสักนิดไหม”
“ค่ะ!”
หลังจากจบการเรียนในวันนี้ เชียยังคงทำงานอย่างคล่องแคล่วเช่นเคย แต่เมื่อเบเรธเรียกเธอ เธอก็หยุดมือทันทีและหันมาหาเขา
“คือ… เรื่องงานเลี้ยงอาหารค่ำที่พ่อของเอเลน่าเป็นเจ้าภาพน่ะ… ฉันควรจัดการเรื่องการทักทายยังไงดี? ได้ยินมาว่าจะมีคนมาร่วมงานเยอะเลย”
“ควรจัดการยังไง หมายถึงอะไรหรือคะ?”
“ก็คือ… เอ่อ พูดตรงๆ เลยนะ ฉันจำหน้าค่าตาของเหล่าขุนนางไม่ได้เลยน่ะสิ แถมยังไม่ค่อยรู้จักพวกเขาด้วย… ก็เลยกลัวว่าจะเผลอทำอะไรเสียมารยาทเข้า”
(คงเพราะข่าวลือไม่ค่อยดีในอดีตเลยถูกคนอื่นเมินมาโดยตลอด ถึงจะค้นความทรงจำตัวเองก็ไม่เจออะไรชัดเจนอยู่ดี… รู้งี้น่าจะตั้งใจศึกษาให้ดีกว่านี้)
ขณะที่เบเรธพูดในใจ เขาก็ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังเชีย ซึ่งตอบกลับด้วยรอยยิ้มหวานและแววตามุ่งมั่นที่ดูทั้งน่ารักและน่าเชื่อถือ
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลเลยค่ะ! ตอนที่ท่านกล่าวทักทาย ฉันจะคอยช่วยอยู่ข้างๆ เองค่ะ!”
“หมายถึงถ้าฉันอยากทักทายใคร เธอจะบอกข้อมูลล่วงหน้าให้เหรอ?”
“ใช่ค่ะ!”
เชียพยักหน้าแรงจนสร้อยคอที่เขาเคยให้เด้งขึ้นลง ราวกับกำลังยืนยันความมั่นใจของตัวเอง
“อ้อ แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย ขอบคุณมาก งั้นเรื่องนี้ฝากเธอเลยนะ”
“มอบหมายมาได้เลยค่ะ! เอ๋~… เอ๊ะเฮะ…”
เมื่อได้รับคำชม เชียยิ้มแก้มปริ ก่อนจะค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้เขา และยืดตัวขึ้นเล็กน้อย พลางทำเสียง “อืม~” ขณะที่ยื่นศีรษะเข้ามา
“ฮะๆ… ทำงานอยู่ไม่ใช่เหรอ? งั้นแค่นิดเดียวนะ”
ถึงแม้เบเรธจะไม่ได้พูดออกมา แต่เขารู้ดีว่าเชียกำลังขออะไร
เขาเอื้อมมือไปลูบผมสีเหลืองอ่อนของเธอเบาๆ ความนุ่มลื่นของผมที่เปล่งประกาย ทำให้เขาอดใจไม่ได้ที่จะลูบไปเรื่อยๆ
วันนี้เชียดูเหมือนจะอ้อนเขามากเป็นพิเศษ อาจเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ขณะที่มือของเขาลูบอยู่ ความทรงจำของเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมา
สองคนอยู่ในห้องโถงอันเงียบสงบ เชียพูดออกมาว่า
“ฉันไม่อยากรับใช้ใครนอกจากท่านเบเรธค่ะ ฉันอยากจะคอยอยู่เคียงข้างท่านต่อไป…”
ในตอนนั้น เธอพิงตัวเขาพร้อมส่งคำพูดที่จริงใจอย่างที่สุด และเขาก็ตอบรับความรู้สึกนั้นด้วยการจับมือเธอ ส่งเธอกลับถึงห้อง
ถึงแม้เรื่องทั้งหมดจะเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากเรียนจบ แต่คำพูดนั้นก็ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
ตอนนี้เชียกล้าที่จะขอสิ่งที่ต้องการมากขึ้น และกล้าแสดงความอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
(จริงๆ แล้ว เชียจะพอใจกับฉันจริงเหรอ? เธอทั้งสวย ทั้งเก่ง และยังมีนิสัยดีอีก… ในอนาคตเธอคงมีคนที่เหมาะสมกว่านี้แน่ๆ)
ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจเบเรธ ความรู้สึกผิดจากอดีตยังคงติดตัวเขา และเขารู้สึกว่าตัวเองอาจไม่เหมาะสมกับเธอ
(แต่… ไม่สิ นี่ฉันคิดอะไรอยู่?)
การปฏิเสธความรู้สึกของเธอเท่ากับเป็นการไม่ให้เกียรติความกล้าของเธอ และอาจทำให้เธอเข้าใจผิดว่าเขาไม่ต้องการเธอ
เบเรธลูบผมเธอต่อไป พร้อมย้ำกับตัวเองว่า เขาจะไม่ทำลายความสัมพันธ์นี้เด็ดขาด
เบเรธหยุดมือที่กำลังลูบผมของเซีย แล้วใช้มือลูบแก้มเธอเบาๆ พร้อมมองตรงเข้าไปในดวงตาของเธอ
(อย่างน้อยก่อนเรียนจบ ฉันต้องเป็นผู้ชายที่เหมาะสมกับเชียให้ได้… การแยกทางกับเธอคงทำให้ฉันเสียใจมาก และที่สำคัญ…)
…แค่คิดว่าเธอจะถูกชายคนอื่นแย่งไป ก็รู้สึกเจ็บปวดจนพูดไม่ออก(TLN:แหนะๆ)
ขณะที่เขาจมอยู่ในความคิดของตัวเอง เสียงเรียกเบาๆ ทำให้เขาตื่นจากภวังค์
“อะ…อะ…เอ่อ… ท่าน… เบเรธ…คะ…?”
“อ๊ะ! ขอโทษที! เมื่อกี้ฉันเหม่อไปหน่อย”
เบเรธได้สติกลับมา พบว่ามือของเขายังประคองแก้มเชียอยู่ และเขากำลังจ้องมองใบหน้าของเธออย่างลึกซึ้ง
เชียหน้าแดงก่ำและดูตื่นตระหนก ขณะที่เขารีบดึงมือกลับพร้อมเอ่ยคำขอโทษ
ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ เชียดูเหมือนจะขยับปากแต่พูดอะไรไม่ออก มือของเธอจับที่ริมฝีปาก ราวกับเธอกำลังแช่แข็งตัวเองด้วยความสับสน
“หืม? เดี๋ยวนะ? อ๊ะ…อย่าบอกนะว่าเธอคิดว่าฉันกำลังจะจูบเธอ!?”
“แย่ะ!? มะ…มะ…ไม่ค่ะ! ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นเลยค่ะ!”
“ไม่จริงน่า เธอต้องคิดแน่ๆ ดูจากท่าทางก็รู้แล้ว แถมพูดติดขัดด้วย”
“ฉะ…ฉันไม่ได้คิดอะไรที่เกินตัวหรือเกินฐานะเลยนะคะ!”
เชียตอบพลางตะกุกตะกัก ปากของเธอพยายามพูดให้ชัดเจน แต่ความเขินอายทำให้เธอดูลุกลี้ลุกลน
ในขณะที่เบเรธพยายามสงบจิตใจ เขาก็ตระหนักได้ว่า แม้จากมุมมองของเชีย ความเข้าใจผิดนี้อาจจะดูสมเหตุสมผลในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ในฐานะเจ้านายแล้ว การแสดงท่าทีเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่เขาควรหลีกเลี่ยง
“ถ้าเธอไม่ได้เข้าใจผิดแบบนั้นก็ดีแล้ว…แต่ว่า…อืม…”
เบเรธก็ยังตกอยู่ในอาการสับสน เขารู้ว่าความสัมพันธ์แบบนายและสาวใช้ควรมีระยะห่าง แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็ยังรู้สึกประหม่า
พยายามหาเรื่องอื่นมาพูดเพื่อลดความตึงเครียดในบรรยากาศ เขาใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว และในที่สุดก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาได้สำเร็จ
“อ้อ ใช่! เปลี่ยนเรื่องดีกว่า…เรื่องงานเลี้ยงอาหารค่ำที่เราคุยกันเมื่อกี้น่ะ ฉันได้ยินมาว่า อาเรีย ท่านหญิงที่จะมาร่วมงาน เป็นคนที่โดดเด่นมากใช่ไหม? เอเลน่าบอกฉันว่าเธอเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเลย”
“แน่นอนค่ะ! ท่านอาเรียเป็นผู้ที่ใช้เสียงเพลงของเธอเสริมอำนาจให้ตระกูลดยุคเข้มแข็งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่เกินความจริงเลยค่ะ!”
“ว้าว ฟังดูน่าประทับใจจัง ขอฟังจากเธอเพิ่มได้ไหม? เนื่องจากตำแหน่งของเธอสูงกว่าฉัน ฉันคงต้องเตรียมตัวไว้สำหรับการทักทาย”
“ค่ะ! ได้เลยค่ะ!”
จากนั้นทั้งคู่ก็พูดคุยถึงท่านหญิงอาเรีย ขณะที่บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลง
เชียบรรยายถึงอาเรียด้วยคำที่เต็มไปด้วยความชื่นชม เช่น “สง่างาม” “เรียบร้อย” “งดงามไร้ที่ติ” เธอยังกล่าวถึงความสำคัญของท่านหญิงในฐานะ “สมบัติล้ำค่าของตระกูลดยุค” ซึ่งคล้ายกับสิ่งที่เอเลน่าเคยพูด
สุดท้าย บรรยากาศที่น่าอึดอัดจากความเข้าใจผิดก็ถูกกลบด้วยการพูดคุยเรื่องอื่นอย่างราบรื่น