เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น? - ตอนที่ 103 การพูดคุยกับอาเรีย
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น?
- ตอนที่ 103 การพูดคุยกับอาเรีย
ตอนที่ 103 การพูดคุยกับอาเรีย
“……”
เธอกำลังเดินเข้ามาใกล้
คุณหนูผมสีทองที่ดูเหมือนมีแสงส่องรอบตัว อาเรีย เทียร์เล่ กำลังเดินตรงมาหา
(TLN:Thiele)
“…………”
ด้วยท่าทีสง่างามและท่วงท่าที่งดงาม เธอหยุดยืนตรงหน้า แล้วกล่าวถามด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ทุกคนต้องตกหลุมรัก
“ตอนนี้สะดวกไหมคะ?”
“ค่ะ แน่นอน เมื่อวันก่อนต้องขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ ท่านอาเรีย”
“ไม่เลยค่ะ ดิฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่สนุกสนานเช่นนั้น”
เอเลน่าที่เมื่อครู่นี้ยังพูดจาสบายๆ กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เธอสลับบทบาทเป็นคนใหม่ทันที เพื่อทักทายอาเรียอย่างนอบน้อม
สถานที่นี้กลายเป็นพื้นที่ส่วนตัวของทั้งสองในชั่วพริบตา
เบเรธเพียงแค่ยืนเงียบๆ พลางกระพริบตาถี่ๆ ขณะมองดูเหตุการณ์
(……)
เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงอีกด้านหนึ่งของอาเรีย
คุณหนูผู้เลอโฉมที่หลายคนหลงใหล เธอใช้เวลาอยู่บนเตียงพลิกตัวไปมาอย่างเกียจคร้านเหมือนหนอนตัวใหญ่
เบเรธที่รู้จัก “ด้านหลังม่าน” นี้ของเธอ จึงไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ
(…………)
แต่ก็ยังมีเรื่องหนึ่งที่พอทำให้โล่งใจได้
นั่นคืออาเรียยังไม่รู้ว่าคนที่เคยพูดคุยกับเธอใน “สวนที่มืดมิด” ก็คือเขา
‘ยังไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริง’
ตราบใดที่อาเรียยังคิดเช่นนั้น เขาก็แค่ทำเหมือนไม่รู้อะไรต่อไป
ตราบใดที่ยังไม่ถูกคุณหนูแห่งตระกูลดยุคจับตาดู ทุกอย่างก็น่าจะไม่มีปัญหา
(ตอนนี้แค่ทำตัวให้ดูปกติที่สุด… อย่าให้เธอสงสัยอะไร…)
เขาคิดเช่นนั้น พร้อมปรับท่าทางให้ดูมั่นใจขึ้น แต่ทันใดนั้น…
“นี่ เบเรธ นายเองก็ทักทายสิ เจอกันเมื่อวันก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“อ่ะ เอ่อ… อืม”
เสียงเร่งเร้าจากเอเลน่าทำให้เขาหลุดจากความคิด
เมื่อเขาหันไปสบตากับอาเรีย ก็เห็นเธอยิ้มให้…
มันเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนในสายตาคนทั่วไป แต่เขากลับรู้สึกได้ว่า
(ตาเธอ…ไม่ได้ยิ้มเลย…)
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาเพียงเสี้ยววินาที แต่ก็ทำให้ขนลุกและเหงื่อเย็นไหล
ทั้งที่มั่นใจว่าความลับยังไม่ถูกเปิดเผย ทั้งที่ไม่ควรถูกสงสัย
แต่ทำไมถึงรู้สึกไม่สบายใจขนาดนี้?
เขากลั้นความตื่นตระหนกเอาไว้ แล้วพูดคำทักทายออกไป
“ท…ท่านอาเรีย เมื่อวันก่อนต้องขอบคุณมากนะครับ เรื่องทักทายอะไรต่างๆ ที่คุณช่วยเหลือไว้…”
“ต้องพูดซ้ำอีกครั้ง แต่ไม่เลยค่ะ ดิฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ ขอบคุณสำหรับคำพูดที่สุภาพของคุณนะคะ”
เธอก้มหัวเล็กน้อยเพื่อแสดงความสุภาพและตอบกลับอย่างสง่างาม
(ที่คิดว่าเธอไม่ได้ยิ้มด้วยสายตา… คงแค่รู้สึกไปเองสินะ…)
ถ้าไม่ได้ถูกหมายหัวไว้ ก็คงได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกับที่เอเลน่าได้รับ
ด้วยความโล่งใจที่คิดว่ายังปลอดภัย ใบหน้าของเบเรธจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย
——แต่ความคิดนั้นช่างด่วนสรุปเกินไป
“ทางดิฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ หลายๆ เรื่องเลยค่ะ อย่าง《、、、、》”
“เอ๋……”
คำพูดที่เหมือนพูดเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความหมายที่แฝงอยู่
เบเรธที่ยังยิ้มค้างอยู่อย่างเกร็งๆ เงยหน้าขึ้นมอง เห็นอาเรียที่ยิ้มเต็มหน้าอยู่
แต่ในรอยยิ้มนั้น คิ้วขยับเล็กน้อยชั่วพริบตา
ราวกับกำลังพูดว่า——
‘ฉันรู้นะทุกเรื่องน่ะ〜’
‘ไม่ปล่อยนายไปหรอกนะ〜’
“เอเลน่าจังคะ ขอโทษที่พูดขึ้นมกระทันหัน แต่ดิฉันขอยืมตัวคุณเบเรธสักครู่จะได้ไหมคะ”
“เอ๊ะ?”
“เอ๊ะ?”
ทันใดนั้น เบเรธก็เข้าใจทุกอย่าง
อาเรียตั้งใจมาที่โรงเรียนนี้ก็เพื่อพูดคุยเรื่องนี้โดยเฉพาะ
“จริงๆ แล้ว ดิฉันมีเรื่องสำคัญต้องพูดด้วยค่ะ”
“เรื่องสำคัญ…เหรอคะ?”
“ใช่ค่ะ จริงไหมคะ คุณเบเรธ?”
“ฮะ…ฮะฮะ…”
รอยยิ้มฝืดเคืองของเขายังไม่หายไป
น้ำเสียงของอาเรียส่งผ่านแรงกดดันของชนชั้นสูงที่ดูเหมือนจะพูดว่า——
‘ถ้าปฏิเสธ รู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น?’
นี่คือช่องว่างอันใหญ่หลวงระหว่างฐานะที่ไม่มีวันเอาชนะได้
ในบรรดาคนทั้งหมดที่เบเรธเคยเจอมา อาเรียคือ “ศัตรูตัวฉกาจ” ที่เขาไม่อาจต่อกรได้
“…เอ่อ เอเลน่า ฉัน…คงต้องไปกับเธอสักพักนะ”
“อ่ะ…อืม…เข้าใจแล้วล่ะ”
เขาไม่อยากไป ไม่อยากพูด ไม่อยากทำอะไรเลย
อยากให้เอเลน่าช่วย แต่ก็ทำไม่ได้สักอย่าง
“งั้นเรามาเถอะค่ะ คุณเบเรธ ซาเนียได้เตรียมห้องว่างไว้ให้แล้ว”
“……ค…ครับ”
ในหัวของเบเร็ตผุดคำพูดของอาเรียในน้ำเสียงธรรมดาๆ แต่ดูน่าขนลุก
‘ไม่มีใครได้ยินหรอกนะ เพราะงั้นเรามาคุยกันแบบเปิดอกกันเถอะ〜’
TLN: เบเรธเราจะโดนลากเข้าห้องแล้ว????