เกิดใหม่พร้อมอาชีพสุดเทพเหรอ ความจริงคือมาพร้อมโชคเฉยๆ น่ะ - ตอนที่ 17 คุณสมบัติความเป็นแม่ที่แท้จริง
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่พร้อมอาชีพสุดเทพเหรอ ความจริงคือมาพร้อมโชคเฉยๆ น่ะ
- ตอนที่ 17 คุณสมบัติความเป็นแม่ที่แท้จริง
บทที่ 17 – คุณสมบัติความเป็นแม่ที่แท้จริง
มันเป็นเรื่องในตอนที่ข้ายังเด็ก.. ข้าอยู่กับครอบครัวเพียงแค่สามคน แม่ ข้าและพี่ชายฝาแฝด พวกเราเป็นเพียงครอบครัวธรรมดาๆ ครอบครัวหนึ่งเท่านั้น
พี่ชายฝาแฝดของข้าเป็นคนที่มีนิสัยตรงข้ามกับข้าทุกอย่าง ในตอนนั้นข้ายังเป็นแค่เด็กเงียบๆ ชอบอ่านหนังสือคนเดียว
ในขณะที่พี่ชายข้ากล้าหาญสามารถล้มหมีได้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสิบขวบ เป็นคนที่กล้าได้กล้าเสีย เผชิญหน้ากับทุกอย่างโดยไม่เคยยอมแพ้
เขาเป็นคนที่ข้านับถือและเคารพยิ่งกว่าใครในโลก.. ข้าใฝ่ฝันว่าตัวเองอยากจะเป็นเหมือนพี่ชายในสักวัน
ส่วนท่านแม่ของข้าท่านป่วยเป็นโรคที่ลุกจากเตียงไม่ได้ ดังนั้นพวกเราจึงเป็นครอบครัวที่ท่านพี่มักเข้าป่า ส่วนข้ามักอยู่กับท่านแม่
ท่านพ่อของพวกเรานั้นแม้แต่ข้าเองก็ยังไม่เคยเห็น ท่านแม่เองก็ไม่เคยพูดถึงเช่นเดียวกัน พวกเราพี่น้องฝาแฝดเองก็ไม่เคยถามเช่นเดียวกัน
สำหรับพวกเราแล้วท่านแม่คือคนที่สว่างจ้ายิ่งกว่าใคร.. ท่านทั้งอ่อนโยนและใจดี.. แม้แต่ข้าที่ทำแจกันที่สำคัญของคุณแม่แตก
คุณแม่ยังยิ้มแล้วก็บอกกับข้าว่า
“ไม่เป็นไร.. คนเราย่อมมีความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา และมันไม่มีทางจะมีแค่ครั้งเดียวแน่ เพราะงั้นแม่จะไม่บอกให้เมอร์ซี่ว่าห้ามมีครั้งต่อไปเด็ดขาด แต่แม่จะบอกเมอร์ซี่ว่าพยายามอย่าผิดพลาดจงเรียนรู้ไปพร้อมที่มีความผิดพลาด”
นั่นคือคำพูดที่ข้าไม่เคยลืมเลย ในตอนที่ท่านแม่พูดกับข้าในวันนั้น.. ถึงพูดเองมันจะยังไง แต่ข้าคิดว่าตนเองเป็นคนที่ฉลาด
เพราะงั้นข้าถึงเข้าใจคำพูดของท่านแม่.. รู้ว่าคำสอนของท่านแม่มันอ่อนโยนและนุ่มนวลขนาดไหน
ข้าได้เกิดเป็นลูกของท่านแม่.. ข้าภูมิใจยิ่งกว่าอะไรในโลกนี้
จนกระทั่งวันที่พวกเราพี่น้องฝาแฝดอายุครบ 12 ขวบ…
วันที่ท่านแม่เสียชีวิตไปและพวกเราก็ได้ค้นพบหนังสือที่ท่านแม่ซ่อนเอาไว้ไม่เคยให้ข้าอ่าน.. เพราะตัวหนังสือมีรอยบอบช้ำมากมายบางทีท่านแม่อาจจะพยายามทำลายมันบ่อยครั้ง
แต่ทว่าเรี่ยวแรงของท่านแม่อ่อนแอลงทุกวัน จนไม่สามารถทำลายมันได้ ไม่มีแต่กำลังจะลุกไปเผามันทิ้งด้วยซ้ำ
พวกเราเปิดอ่านด้วยความสงสัย ถึงได้รู้ว่ามันเป็นสมุดบันทึกเวทมนตร์ของท่านแม่.. สมุดวิเศษที่จะบันทึกข้อความได้ไม่รู้จบ
และเมื่ออ่านจะได้ยินเหมือนมีเสียงมาพูดเล่าให้เห็นเป็นฉากๆ เหมือนกับเผชิญหน้าอยู่ในช่วงเวลานั้นจริงๆ
สมุดบันทึกนี้ท่านแม่ได้รับมาจากแม่ตัวเองอีกที.. มันเป็นสมุดที่มีราคาแพงพอๆ กับเมืองเมืองหนึ่งเลยก็ว่าได้
แม้ไม่รู้ว่าทำไมแม่ของท่านแม่ถึงซื้อมันมาได้.. สมุดบันทึกเล่มนี้ก็สำคัญกับท่านแม่เป็นอย่างมาก เธอมักจะเขียนเรื่องราวแห่งความสุขของตนเองลงไป
จนกระทั่งตอนที่ท่านแม่อายุ 20 ปี.. ท่านแม่ได้พบว่าตนเองไม่ใช่เผ่ามนุษย์ที่แท้จริง.. แต่เป็นเผ่ามนุษย์ยุคใหม่ที่วิวัฒนาการภายใต้แนวคิดบางอย่าง
มนุษย์ที่เมื่ออายุครบ 20 ปี… ถึงจะสามารถมีเพศเป็นของตนเองได้.. แน่นอนว่าท่านแม่เองก็ถูกปลูกฝังในฐานะผู้หญิงมาตลอด 20 ปี
เธอจึงเป็นผู้หญิงตามการปลูกฝังของตนเอง.. แน่นอนว่าการเลือกเพศไม่ใช่การกดปุ่มที่มีปรนัย มันจะเกิดขึ้นเองภายใต้เงื่อนไขหลายประการ
ท่านแม่ที่กลายเป็นผู้หญิงเต็มตัวจึงสามารถมีความรักได้..
ใช่แล้ว ท่านแม่ได้ไปตกหลุมรักกับขุนนางหนึ่งคนที่เป็นมนุษย์ซึ่งไม่ใช่ส่วนที่วิวัฒนาการ.. เขาเป็นยอดอัศวินที่มีชื่อเสียงไปไกลทั่วแผ่นดิน
แน่นอนว่ามันคือพ่อของพวกเราสองพี่น้องฝาแฝด.. ท่านแม่แต่งงานกับคนคนนั้นและตั้งครรภ์พี่น้องฝาแฝดอย่างพวกเรา
ใช่.. นั่นคงเป็นความสุขครั้งสุดท้ายของท่านแม่ในความคิดของพวกเราสองพี่น้องในตอนอ่านหนังสือครั้งนั้น
เพราะท่านแม่ได้ไปค้นพบความลับบางอย่างของเผ่าพันธุ์ที่วิวัฒนาการแล้ว..ว่า เมื่อวิวัฒนาการขึ้นมาแล้วจะไม่มีลูกแฝดโดยเด็ดขาด
ลูกแฝดเป็นภาระต่อร่างกายของมนุษย์มากเกินไป ดังนั้นพอวิวัฒนาการลูกแฝดจึงไม่ควรเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
ยกเว้น… หากมีเชื้อที่แข็งแกร่งของมนุษย์ที่ยังไม่วิวัฒนาการ.. ถ้ามนุษย์ที่ยังไม่วิวัฒนาการแล้วยังทรงพลังกว่ามนุษย์ที่วิวัฒนาการแล้ว
ยีนส์จากที่ยังไม่วิวัฒนาการจะเหนือกว่าทำให้มีโอกาสที่จะเกิดลูกแฝดได้นั่นเอง… และโชคร้ายที่ลูกในท้องของเธอก็ยังเป็นลูกแฝด
ที่บอกว่าโชคร้ายเพราะหลังจากนี้.. มนุษย์ที่วิวัฒนาการแล้วไม่ได้ถูกออกแบบโครงสร้างทางกายภาพมาเพื่อให้อุ้มเด็กในท้องสองคน
ตลอดหลายล้านปีที่ผ่านมา มนุษย์วิวัฒนาการจากลิงมาสู่มนุษย์ มนุษย์ไม่ได้เพียงวิวัฒนาการให้ดีขึ้นแต่ยังเอาข้อดีบางอย่างมาแทนข้อดีบางอย่างด้วย
นั่นหมายความว่าข้อดีของการมีลูกแฝดมันมีน้อยกว่าการไม่มีลูกแฝดมนุษย์จึงวิวัฒนาการไปในทิศทางดังกล่าวนั่นเอง
เพราะแบบนั้น.. ท่านแม่.. ท่านแม่ของข้าเลยร่างกายอ่อนแอลงอย่างรวดเร็วในขณะที่กำลังอุ้มท้องของพวกเรา
สมุดบันทึกของท่านเหมือนมีความลังเลหลายข้อความ.. ในความคิดของพวกข้าพี่น้องตอนนั้นมองว่า.. ท่านแม่คงจะรู้สึกแย่ที่มีพวกเนา
เพราะพวกเรากำลังพรากชีวิตที่สุขสบายของท่านแม่..
จิตใจของท่านแม่เหมือนแบกรับบางอย่างที่หนักอึ้งเกินกว่าที่ข้าจะเข้าใจ.. กระนั้นความโหดร้ายของโลกนั้นไม่เคยหยุดลง
เพราะท่านแม่ได้ไปรู้ความจริงที่บางอย่าง..
“หากให้กำเนิดลูกแฝดของมนุษย์ที่วิวัฒนาการขึ้นมาได้.. ไม่ใช่ว่ามนุษย์ที่วิวัฒนาการแล้วจะวิวัฒนาการไปอีกขั้นเหรอ?”
นั่น.. คือสิ่งที่ครอบครัวของเธอกำลังค้นคว้าอยู่ในเวลานั้น แต่ในทางทฤษฎีมันเป็นไปไม่ได้เลยเพราะว่าไม่มีทางที่มนุษย์ที่วิวัฒนาการแล้วจะสามารถมีชีวิตอยู่จนถึงตอนคลอดได้นั่นเอง….
ยกเว้นท่านแม่ที่มีพลังเวทในการ ‘ควบคุมการเปลี่ยนแปลงสรรพชีพ’ พลังที่สามารถคุมชีพของทุกสิ่งได้โดยไม่สนตรรกะใดๆ บนโลก
เอาภาษาง่ายๆ ก็.. โดยปกติแล้วสิ่งมีชีวิตจะถูกนับเป็นหนึ่งในสรรพชีพ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานร่างกาย อัตราการเต้นหัวใจ สมอง หรือการผลัดเปลี่ยนเซลล์
ทุกอย่างล้วนเป็นสรรพชีพ.. ท่านแม่สามารถควบคุมมันได้โดยเบ็ดเสร็จ..
เอาง่ายๆ ก็ท่านแม่สามารถทำให้ใครเป็นอมตะถูกฆ่าไม่ตาย โดยสมบูรณ์แบบได้นั่นแหละ ตราบใดที่ยังเป็นสิ่งมีชีวิตน่ะนะ
แต่ถึงจะเป็นการควบคุมชีพของสิ่งมีชีวิตแต่ก็ไม่อาจฝืนการเปลี่ยนแปลงระดับเผ่าพันธุ์ได้ มันก็เหมือนกับการบอกให้แวมไพร์ที่มีพลังในการสร้างดวงอาทิตย์
ไปยืนอยู่กลางแสงแดดนั่นแหละ พวกมันก็ถูกแผดเผาจนมวยมรณาอยู่ดีนั่นเอง..
ใช่แล้ว.. ครอบครัวของท่านแม่.. ได้วางแผนทุกอย่างไว้ตั้งแต่แรกรวมหัวกับมนุษย์ที่แกล้งมาเป็นคนรักเพื่อที่จะได้สร้างพวกเราขึ้นมา
เพื่อจะให้พวกเราวิวัฒนาการไปอีกขั้น… จึงได้พร้อมที่จะสังเวยท่านแม่เพื่อเป็นบันไดอีกขั้นสู่การวิวัฒนาการ
นอกเหนือจากจะถูกครอบครัวหักหลัง คนที่เธอเชื่อใจและรักมากที่สุดอย่างสามียัง.. ไม่เคยรักเธอด้วยซ้ำ
จิตใจของท่านแม่แตกสลายไปทั้งแบบนั้น… และนับตั้งแต่วันนั้นท่านแม่ก็ไม่เคยจดบันทึกนี้อีกเลย…
ในตอนนั้นพี่แตกต่างจากช้า.. พี่นั้นเกลียดชังมนุษย์อย่างสุดซึ้ง.. ทว่าข้ากลับรู้สึกผิดที่เกิดมาตลอด บ่อยครั้งที่ข้าพยายามจะฆ่าตัวตาย
ทว่าพี่ชายมักจะหยุดฉันไว้ก่อนเสมอ
ทว่าเมื่อมามองย้อนกลับไปตอนที่ข้าโตแล้ว.. บางทีท่านแม่คงจะรักพวกเรามาก สาเหตุที่เธอซ่อนหนังสือไว้คงเป็นเพราะไม่อยากให้พวกเราเห็นอดีตที่เหมือนพวกเราเป็นคนผิด
และท่านแม่เองก็คงเคยพยายามจะทำลายหนังสือนี้หลายรอบ แต่เพราะมันเป็นของสำคัญ.. เพียงอย่างเดียวที่แม่แท้ๆ แม้จะหักหลังเธอแต่ก็เป็นสิ่งที่มอบให้มา
มันสำคัญกับท่านแม่มากจนไม่อาจทำลายได้ลง.. พอรู้ตัวมันก็สายเกินกว่าที่ท่านแม่จะสามารถทำลายสมุดบันทึกเวทมนตร์นี้ได้เสียแล้ว..
น่าเสียดายที่พวกเราฝาแฝดไม่ได้วิวัฒนาการตามที่พวกมันคาดหวัง.. แต่พวกเราได้ดูดกลืนชีวิตที่อมตะของท่านแม่ตามกฎของการวิวัฒนาการที่ลูกแฝดเป็นภาระกับการวิวัฒนาการแม้นางจะมีชีวิตที่เป็นอมตะก็ตาม
กล่าวง่ายๆ ก็คือตราบใดที่พวกเรายังอยู่ท่านแม่จะได้รับภาระของเผ่าพันธุ์ ไม่เรา ก็ท่านแม่ที่ต้องตายนั่นเอง
และตลอดช่วงเวลาสิบกว่าปีก่อนที่ท่านแม่จะเสีย พวกเราเป็นเหมือนปรสิตที่ดูดกลืนเลือด ชีวิตท่านแม่…
ส่งผลให้…สิ่งที่วิวัฒนาการไม่ใช่รูปร่างหรือกายหยาบ.. แต่เป็นพลังอันไร้ลักษณ์.. ข้ามีพลังในการควบคุมอายุขัยของทุกสรรพสิ่ง
พลังที่เหมือนได้รับสืบทอดมาจากท่านแม่…
ส่วนพี่ของข้า.. มีพลังในการควบคุม ‘มิติแห่งความเป็นไป’ แม้ข้าจะไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น แต่เหมือนว่าร่างกายทุกสิ่งประกอบขึ้นจากเซลล์ และยังมีลึกลงไปอีกนั่นคืออะตอม..
แต่ทว่ายังมีลึกกว่านั้นอีกที.. และนั่นก็คือพลังของท่านพี่
พลังของท่านพี่นั้นเรียกได้ว่าคือการพลังที่วิวัฒนาการจากพลังของท่านแม่ไปอีกขั้นอย่างแท้จริง
แต่ยิ่งพวกเราแข็งแกร่ง นั่นก็หมายความว่าพสกเรายิ่งแย่งมาจากท่านแม่มากเท่านั้น.. แต่ไม่ว่าพวกเราจะอวดท่านแม่ว่าทำนั่นทำนี่ได้มากเท่าไหร่
ท่านแม่ก็ไม่เคยมองพวกเราด้วยสายตาเกลียดชัง..
พวกเราที่ปรสิตกัดกินท่านแม่
ท่านแม่ยังคงลูบหัวพวกเราสองพี่น้องพร้อมกับบอกว่า
“เก่งมากจ้ะ”
ดวงตาของข้าจ้องมองไปที่ท่านแม่.. ซ้อนทับกับภาพความทรงจำบางที่เลือนรางตรงหน้า.. ไม่สิ… ไม่ใช่
ท่านแม่ต่างหากที่เป็นความทรงจำ
ตอนนี้..
ปัจจุบันของข้า.. โรซาเรีย..
ไม่สิ ท่านโรซาเรียกำลังลูบหัวข้าเหมือนกับที่ท่านแม่ทำ ฝ่ามืออันอ่อนโยนนั้นทำเอาน้ำตาข้าไหลพรากเหมือนย้อนกลับไปตอนอายุสิบขวบ
ข้าพุ่งเข้ากอดเธอโดยไม่รู้ตัวพร้อมกับร้องไห้เหมือนเด็กน้อย
“ฮรือออ ข้า.. ข้าขอโทษ ท่านแม่!”
“ท่านแม่ของข้า”
………..
…….
….
ไม่สิ.. ฉันไม่ใช่แม่ของเธอสักหน่อย บางทีนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่โรซาเรียอยากจะพูดในตอนนั้น แถมเธอยังรู้สึกเหมือนเดจาวู
เหมือนกับว่ามีคนเรียกเธอแบบนี้เหมือนกัน..
เอ้ะ หรือว่าเธอมีคุณสมบัติของความเป็นแม่นะ ?
……….
[ช่วงนี้ทำ OT ติดกันหลายวันเลย เหนื่อยจนไม่ได้เขียน ซอรี่ครับบบ – ผู้เขียน]