เกิดใหม่พร้อมอาชีพสุดเทพเหรอ ความจริงคือมาพร้อมโชคเฉยๆ น่ะ - ตอนที่ 1 ความตายที่แท้จริง
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่พร้อมอาชีพสุดเทพเหรอ ความจริงคือมาพร้อมโชคเฉยๆ น่ะ
- ตอนที่ 1 ความตายที่แท้จริง
บทที่ 1 – ความตายที่แท้จริง
ฉันมีชื่อว่า อีวา ฟีล อย่างที่เห็นเป็นผู้ชายหน้าตาบ้านๆ ที่ทำอะไรก็บ้านๆ ไปหมด ไม่สิ ยังมีอย่างหนึ่งที่ฉันไม่บ้านนั่นคือโชคของฉัน
ไม่ใช่ว่าเป็นคนที่ดวงซวยแบบฟ้าประทานอะไรทำนองนั้นหรอก แต่เอาเข้าจริงๆ สำหรับฉันมันก็คือซวยนั่นแหละ ประมาณว่าขึ้นรถบัสไม่ทันเพราะนาฬิกาจู่ๆ ก็ช้ากว่าปกติจึงไปไม่ทันอะไรทำนองนั้น
ไม่ได้มีปัญหากับชีวิตวัยทำงานของตัวเองเลยสักนิด ถึงพูดเองมันอาจจะยังไงๆ ก็เถอะนะ แต่ฉันคิดว่าตัวเองเป้นคนที่เข้าหาคนอื่นง่ายพอสมควร
เลยทำให้ฉันมีเพื่อนเยอะอยู่พอสมควร และอย่างที่บอกว่าฉันคือสิ่งมีชีวิตประเภทบ้านๆ หาได้ทั่วไปตามท้องถนน
แน่นอนว่าแฟนฉันเองก็เคยมีบ้างอยู่คนสองคน.. กล่าวคือฉันคือคนธรรมดาคนหนึ่งอย่างแท้จริงและไม่ผิดเพี้ยนแน่นอน
และไม่คิดเหมือนกันว่าสิ่งที่ฉันจำได้ครั้งสุดท้ายก่อนจะมานั่งพล่ามอะไรแบบนี้ คือความทรงจำที่ฉันถูกรถชนจนสลบแต่ก็ไม่ตาย…?
เอ่อ.. ไม่สิ ฉันต้องบอกว่าฉันวิ่งชนรถจนสลบสิ.. จำได้ว่าฉันวิ่งหนีสุนัขอย่างสุดกำลัง ถึงจะไม่รู้จักชื่อมัน แต่มันเป็นคู่อริของฉันเลยก็ว่าได้
และเจ้าหมอนี่มันไล่ฉันสุดกำลัง แน่นอนวิญญาณนักวิ่งในตัวฉันก็ถูกปลุก แล้วก็วิ่งสุดแรงเกิดจนไปชนรถบรรทุกที่จอดอยู่ๆ เฉยๆ หัวฟาดพื้นจนสลบไปทั้งแบบนั้น.. แต่ฉันพนันได้เลยว่าที่ฉันพล่ามได้แบบนี้คือฉันยังไม่ตาย
ก็แหม.. แค่วิ่งชนรถถึงจะวิ่งเร็วขนาดไหน ก็ไม่น่าจะถึงกับตายหรอกใช่ไหมล่ะ
“ไม่หรอก.. เธอน่ะตายไปแล้ว”
“ห้ะ”
จู่ๆ ตอนนั้นเองฉันก็รู้สึกตัวขึ้นมา พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ห้องแห่งหนึ่ง ซึ่งมีโต๊ะทำงานอยู่ แล้วก็มีของบางอย่างคล้ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
แต่ก็ไม่น่าจะใช่ รอบๆ ห้องมีเส้นแสงสีขาวขนาดใหญ่ และมีเส้นสีขาวเล็กๆ แตกแขนงออกเป็นวงกว้างแอย่างน่าประหลาดตา
ไม่ว่าฉันจะมองยังไงที่นี่มันก็คือออฟฟิศที่ติดแสงสีขาวแทนที่จะเป็นแสง rgb ชัดๆ เลยนี่น่า.. แต่รสนิยมไม่เลวเลยล่ะ
ตอนอยู่ที่ทำงานถ้าฉันตกแต่งแบบนี้ คงโดนหัวหน้าแผนกด่าจนหูชาแน่นอน
แล้วคนที่พูดขึ้นเหมือนจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ใช้ผ้าสีขาวคาดผมที่กระเซอะกระเซิงขึ้น
ใต้ดวงตามีขอบสีดำแสดงให้เห็นว่าไม่ได้หลับไม่ได้นอนมานานแล้ว นอกจากนี้ยังมีขวดยาที่ฉันเคยเห็นวางกองเป็นพะเนินข้างๆ นี่มันยาชูกำลังที่ฉันเคยกินบ่อยๆ ตอนทำงานนี่น่า
แต่ฉันจำได้ว่าพอฉันกินแค่ขวดหนึ่งแล้ว ฉันข่มตานอนไม่หลับไปคืนหนึ่งเลย ถึงบริษัทที่ฉันอยู่จะเป็นบริษัทเกือบจะเป็นแรงงานทาส
แต่ก็ไม่ได้กินยาชูกำลังหนักแบบนี้แน่ๆ แต่คุณพี่เขากินไปเยอะขนาดนี้ทำไม อีกอย่างที่ว่าฉันตายแล้วนี่มันหมายความว่า….
“อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ ที่นี่คือโลกหลังความตาย”
“เอ่อ… ที่นี่อะนะ.. ดูยังไงมันก็ออฟฟิศนี่น่า”
“ก็ฉันชอบบรรยากาศแบบนี้นี่น่า”
“อืม พอเข้าใจอยู่นะ”
ฉันพยักหน้าเห็นด้วย บรรยากาศขาวสว่างในออฟฟิศนี่มันคือบรรยากาศสุดแสนพิเศษเลยล่ะ แต่ที่ทำงานของฉันเนี่ยเป็นบริษัทขี้งกอะนะ
ออฟฟิศเลยค่อนข้างเงียบเหงาไร้ซึ่งของตกแต่ง
“แล้วที่ว่าฉันตายไปแล้วนี่คือหมายถึงอะไรเหรอ.. เอ่อ…”
“ฉันชื่อ อลิซาเบ็ธ เรียกฉันเบตตี้ก็ได้มันง่ายดี”
“งั้นเบตตี้เธอ….”
ก่อนที่ฉันจะทันได้ถามอะไร เบตตี้ก็ยกยาชูกำลังกระเดือกลงอีกขวดแล้วก็โยนขวดทิ้งไว้ข้างๆ ตากับนิ้วยังขยับทำอะไรบางอย่างกับสิ่งที่คล้ายคอม
ส่วนปากก็พูดกับฉัน
“อย่างที่ฉันบอก เธอตายแล้ว เธอวิ่งชนรถจนตายเองน่ะนะ และฉันก็คือพระเจ้า.. พระเจ้าสูงสุดนั่นแหละ”
“เอ๋… วิ่งชนรถจนตายนี่เป็นไปได้เหรอ..”
“นั่นแหละปัญหา เธอเป็นคนที่ซวยนิดซวยหน่อยมาตั้งแต่เกิดแล้วใช่ไหมล่ะ นั่นแหละคือประเด็น ตอนที่เธอวิ่งไปชนรถมันทำให้เธอหงายหลังหัวฟาดพื้นน่ะ”
พอฉันได้ยินแบบนั้น.. ก็พอรู้ตัวอยู่หรอกว่าชนแล้วล้มหัวฟาดพื้นแต่นั่นถึงตายเลยสินะ ฉันพยักหน้าแบบเข้าใจ
“ไม่หรอก.. เธอไม่ได้ตายเพราะหัวฟาดพื้น.. เพราะตอนนั้นเธอแค่สลบ.. แต่หน้าเธอดันจุ่มลงไปในบ่อน้ำที่ค้างจากฝนซึ่งตกเมื่อคืนน่ะ”
“งั้น.. ฉันขาดอากาศหายใจจนตายเรอะ”
“ไม่หรอก ฉันบอกแล้วว่าความซวยที่เธอมีมันแค่ความซวยนิดๆ หน่อยๆ พอเธอหน้าจุ่มลงไปในบ่อโคลน สุนัขที่เธอไล่เธอมาเลยมางับขาเธอลากออกจากบ่อน้ำ ทำให้เธอไม่ตายน่ะ”
“ฉันต้องขอบคุณคู่อริฉันเหรอเนี่ย”
“ไม่หรอก เพราะหลังจากนี้สุนัขตัวนั้นมันฉี่รดตัวเธอด้วยอะนะ”
“ไอ้หมาเวรนั่น!!!”
ฉันรู้สึกอยากกลับไปมีชีวิตแล้วก็ต่อยมันสักหมัดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยซะตอนนี้ แต่พอฟังมาถึงจุดนี้ฉันก็สงสัย
“เอ๊ะ งั้นที่ฉันมาอยู่ตรงนี้เพราะ…?”
“ใช่ ฉันจะส่งเธอไปเกิดใหมน่ะ แต่เรื่องนั้นช่างมันเหอะ เป็นเรื่องรองไปแล้วมาฟังสาเหตุการตายของเธอต่อดีกว่า”
“…เฮ้ย ชีวิตในอนาคตฉันเธอบอกว่าช่างเลยเหรอ.. แล้วก็ปกติถ้าจะตายไปต่างโลกตามปกติมันต้องถูกรถบรรทุกชนไม่ใช่เหรอ แต่นี่วิ่งชนเองนี่มันอนาถไปไหม”
“เอาน่า เธอไม่ได้ตายเพราะวิ่งชนรถบรรทุกสักหน่อย.. เรื่องราวที่เธอตายมันพึ่งจะเริ่มต่างหาก”
“ห๊า..?”
ฉันงงกับคำพูดของเบตตี้ที่ดูคลุมเครือ จนกระทั่งเธอเริ่มสาธยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากโดนสุนัขฉี่ใส่.. สุนัขพอมันเห็นฉันไม่ตอบโต้มันก็เลิกสนใจฉันแล้วก็กลับบ้าน
แล้วคนแถวนั้นผ่านมาเห็นฉันก็ตกใจรีบเรียกรถพยาบาลมาช่วย อย่างที่บอกว่าฉันเป็นเพื่อนกับคนแถวบ้านเยอะ
พวกเขาจึงพยายามช่วยฉันก่อนที่รถพยาบาลจะมา.. มีการปั้มหัวใจแล้วก็ผายปอด ซึ่งเดี๋ยวก่อนนะเพื่อนบ้านทั้งหลาย
หัวใจฉันเต้นอยู่นะเออ แล้วก็ฉันไม่ได้จมน้ำตายด้วย แต่ด้วยความเป็นห่วงของมิตรสหาย พวกเขาพยายามช่วยจนทำฉันอ้วกอาหารที่กินไปเมื่อเช้าออกมาจนหมด
ไอ้พวกเพื่อนบ้านก็ดีใจกันใหญ่ว่าช่วยฉันได้..
“….นี่ล้อฉันเล่นใช่ไหมเบตตี้”
“ไม่อ่ะ นี่เรื่องจริงแท้แน่นอน”
“เดี๋ยวก่อน ทำไมเธอดูสนุกละเฮ้ย”
“คิดไปเองน่า เล่าต่อนะ”
หลังจากฉันอ้วกเอาอาหารที่ทานไปเมื่อเช้าออกมาจนหมด รถพยาบาลก็มาถึง ฉันถึงต้องขอบคุณรถพยาบาลที่มาทันก่อนที่เพื่อนบ้านจะทำอะไรแผลงๆ
แต่จะว่าไป โดนทำขนาดนั้นฉันไม่ตื่นนี่ก็สลบลึกพอสมควรนะเนี่ย ฉันคิดแบบนั้นในขณะที่เบตตี้เล่าเรื่องราวต่อ
พอขึ้นรถพยาบาลไปฉันก็ถูกส่งตัวเข้าไปในโรงพยาบาล แต่อนิจจังโชคซวยวันละนิดของฉันทำงานอีกรอบ รถพยาบาลดันยางรั่วอีก
ไม่พอมีโจรที่ปล้นรถขนส่งเงินในธนาคารขี่มาอย่างรวดเร็วจนชนรถพยาบาลที่ยางไม่ดีกระจุยกระจาย ฉันที่สลบก็กลิ้งออกจากรถพยาบาล
โจรที่หาทางหนีไม่ได้ก็เลยหาจับคนมาเป็นตัวประกันเพื่อหลบหนี และแน่นอนว่าเอาคนที่สลบไม่ได้สติแบบฉันน่ะดีที่สุดอยู่แล้ว
พวกมันเลยจับฉันขึ้นรถขู่ตำรวจให้ไม่ตาม จนหนีออกมาได้ แต่เหมือนจะโชคร้ายวันละนิดอีกรอบ ฉันฟื้นขึ้นมาแต่ก็โดนโป๊ะยาสลบจนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองตื่นมาอีกรอบ
…และเรื่องราวก็ดำเนินไปอย่างอีนุงตุงนัง…
1 ชั่วโมงต่อมา..
เบตตี้ยังคงเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่ฉันจะตายออกมาไม่หยุด เริ่มต้นจากวิ่งหนีสุนัข ตอนนี้ฉันอยู่กับองค์กรทดลองมนุษย์สายพันธุ์ใหม่
ซึ่งกำลังจะทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่สี่ในโลกเดิมของฉัน.. ใช่ ฉันจู่ๆ ก็ไปพัวพันกับการลักพาตัว ข้ามประเทศ สงครามเศรษฐกิจ
ลามไปจนถึงเรื่องระหว่างองค์กรระดับนานาชาติ.. ซึ่งไอ้ตัวฉันโดนโป๊ะยาสลบมาประมาณ 88 รอบแล้วมั้ง.. ลืมนับไปแล้วว่าเท่าไหร่
แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันกำลังกลายเป็นหนูทดลองที่จะเป็นมนุษย์พิเศษคนแรกของโลก แน่นอนว่าหนูทดลองก็คือหนูทดลอง
ฉันเป็นข้อผิดพลาดเลยถูกไปโยนทิ้ง.. พลังพิเศษที่ฉันได้มาจากการทดลองคือพลังสุดโกง… ไม่อ่ะ ล้อเล่น
พลังที่ได้คือพลังกรามค้าง.. ใช่ ฉันเคี้ยวอาหารไม่ได้เพราะพลังนี้นั่นแหละ แน่นอนว่าตอนนี้ฉันยังคงไม่ได้สติ
นี่มันคือหนังเรื่องหนึ่งแล้วเนี่ย..
“แล้วเธอก็ตาย..”
“ห้ะ อะไรนะ ฉันตายเพราะอะไรนะ?”
“เอ๋ นี่เธอไม่ได้ฟังเหรอเมื่อกี้ ฉันบอกว่า..เธอตายเพราะฝนตก”
“…?”
“ก็แบบเธอมีพลังกรามค้างใช่ไหมล่ะ พอถูกโยนทิ้งพายุเข้าฝนตกน้ำฝนเข้าปาก เข้าปอดที่หุบปากไม่ได้ จนสำลักน้ำตายนั่นแหละ”
“นี่..รอดมาตั้งนานแต่มาตาย..เพราะฝนตก?”
“ใช่”
“นี่ล้อฉันเล่นใช่ไหม?”
“เรื่องจริง”
“โกหกน่า…”
“เทพแบบฉันไม่โกหกหรอกนะ”
ว่าแล้วเบตตี้ก็กลั้นขำสุดแรงเกิด ยัยคนนี้ขำกับการตายคนอื่นเนี่ยไม่มารยาทเอาซะเลย.. ถึงจะมีบางช่วงที่ฉันหลุดขำออกมาเหมือนกันก็เถอะ