อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) - ตอนที่ 384

CF:บทที่ 384 เสียงทําลายโสต

ในขณะที่คนจากเบื้องบนกําลังรอคอยคําตอบจากอู่ฮาวเหรินอยู่, แต่อู่ฮาวเหรินได้ผลักเรื่องนี้ออกไปก่อนแล้วเริ่มทํางานของตัวเองต่อ

สําหรับพวกคนที่ได้รับคัดเลือกผ่านทางอินเตอร์เนทนั้นก็ได้เดินทางมายังฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว

คนพวกนี้เดินทางมาเพื่อทําการทดสอบครั้งสองที่นี่, ถ้าพวกเขาผ่านการทดสอบไปได้ พวกเขาก็จะได้เซ็นสัญญากับฟิวเจอร์กรุ๊ป

ในขณะเดียวกัน, 5 เดือนหลังนี้ หลังจากที่สถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตสร้างเสร็จแล้ว พวกเขาก็จะกลายมาเป็นผู้ใช้คนแรกด้วย

ณ สตูดิโอของฟิวเจอร์กรุ๊ป, ในขณะนี้เหล่าหัวหน้าของฝ่ายค่ายเพลงของบริษัท ต่างก็อยู่ในสภาพเหมือนหมูถูกเชือด

“ไม่เอา, ผมไม่เข้าไปข้างในแล้ว, ถ้าให้ฟังมากไปกว่านี้, ผมจะต้องตายแน่ๆ”

“ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้วนะ, คนพวกนี้อะนะจะมีเสียงอยู่ในระดับที่ท่านหัวหน้าบอกเอาไว้? เสียงมันจะไม่สูงไปหน่อยเหรอ?ถ้าพวกเขาร้องเพลงด้วยเสียงแบบนั้นเนี่ย, มันระดับฆ่าคนตายได้เลยนะ”

“ครูตง, คุณจะออกมาทําไมล่ะ? ไม่ใช่ว่าคุณบอกไว้รึไงว่าจะตามดูเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดไม่ใช่เหรอ?”

“ขอซักแปบนะ, ตอนนี้ผมมึนหัวไปหมดแล้ว, เดี๋ยวผมจะบอกคุณทีหลัง”

ว่าแล้วเขาก็นั่งลงที่เก้าอี้ ก่อนจะเทน้ําลงใส่แก้วแล้วดื่ม, หลังจากนั้นสักพัก เขาก็รู้สึกดีขึ้น

“คนก่อนหน้าก็ยังพอไหวอยู่หรอก แต่คนหลังนี่สิเสียงมันโหดร้ายเกินไปแล้ว, แล้วผมก็พบว่ายิ่งฟังเสียงนั้น ใกล้ๆเท่าไรมันก็ยิ่งโหดร้ายมากขึ้นเท่านั้น อย่างกับเสียงเลื่อยไม่แน่ะ”

“แล้วจะทําอย่างไร? ถ้าพวกเราทําไม่ได้ตามที่หัวหน้าต้องการ, พวกเราจะไม่โดนไล่ออกเหรอ!”

“ไม่หรอกน่า, ครูเหลียงเฉินหนิวที่ยังอยู่ข้างใน, เขายังทนได้อยู่!”

มีหลายคนที่หันไปดูข้างใน, และก็พบบางคนที่อยู่ข้างใน

เมื่อ 10 นาทีผ่านไป, อู่ฮาวเหรินเองก็ได้เข้ามาตรวจดู, และนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าห้องอัดเสียงและไม่ได้พูดอะไรออกมา

เสียงนั้น, มันเป็นเสียงที่อยู่ในระดับเสียงทําลายโสตชัดๆ, ซึ่งทําให้เขาสงสัยว่า หรือการทดสอบของจี้นั้นมันจะผิดพลาดก็ได้,เพราะเสียงของคนพวกนี้นั้นสามารถไปถึงได้ในระดับเดียวกับพวกนักร้องในอนาคตจริงๆเหรอ

การทดสอบกินเวลาไปถึงสองชั่วโมง, มีเพียงสองคนเท่านั้นที่เสียงได้ตามที่เขาต้องการจริงๆ, คนอื่นๆพบว่าเสียงนี้นั้น มันช่างโหดร้ายกว่าตอนทดสอบออนไลน์เสียอีก

“หัวหน้าครับ, นี่คือผมการทดสอบครับ, มีเพียงสองคนเท่านั้น ที่มีเสียงตามที่เราต้องการครับ”

“อืม, ไปบอกทั้งสองคนที่คุณเลือก, แล้วตกลงทําสัญญาฝึกร้องเพลง 5 เดือน”

ผลที่ออกมาดีมาก, ฉันหวังว่าทั้งสองจะสามารถผ่านเกณฑ์ไปได้

อู่ฮาวเหรินเดินเข้าไปดูทั้งสองคนที่ว่า, เป็นหญิงสาวอายุ 19 ปี, ที่บุคลิกเงียบๆ, ตอนแรกฉันคิดว่าเธอจะพูดด้วยน้ําเสียงนุ่มนวล,แต่กลับกลายเป็นว่าอู่ฮาวเหรินต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงที่หยาบกระด้างของเธอ

ส่วนอีกคนหนึ่ง, เป็นชาวนาแก่ๆอายุ 50 ปี, มีเสียงที่ดังมาก, ชนิดที่ว่าเสียงคนอื่นๆกลายเป็นเสียงธรรมดาไปเลย

เมื่อเธอทราบว่าเธอจะได้ทําสัญญากับฟิวเจอร์กรุ๊ป, เด็กผู้หญิงก็ได้กระโดดออกมาด้วยความตื่นเต้น,แต่ชาวนาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น, และไม่ได้ตอบสนองอะไร

จนกระทั่งลูกสาวของเขาที่มาด้วยกัน ได้อธิบายให้เขาฟังสักพักหนึ่ง แล้วเขาก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“ทั้งสองคน, ถ้าคุณเซ็นสัญญานี้แล้ว, คุณจะต้องอยู่ที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อทําการศึกษาและฝึกการร้องเพลงเป็นเวลา 5 เดือนหลังจากนี้, แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายของคุณทั้งหมดทางฟิวเจอร์กรุ๊ปจะเป็นคนออกให้ทั้งหมดครับ”

ชาวนาเริ่มลังเล, ถ้าเขาต้องอยู่ที่นี่เป็นเวลา 5 เดือน, ไร่นาของครอบครัวของเขาก็จะต้องถูกทิ้งร้างแน่

“พ่อคะ, อย่าได้กังวลเลยค่ะ, เดี๋ยวหนูจะไปหาคนมาช่วยหนูจัดการเรื่องไร่นาที่บ้านให้เองนะคะ, คุณพ่ออยู่ เรียนการร้องเพลงที่นี่เถอะนะคะ”

ไม่ต้องกังวลนะครับ ท่านผู้เฒ่า, ถ้าคุณเซ็นสัญญากับบริษัทเรา, คุณจะสามารถทําเงินได้มากกว่าการทําไร่ทํานาที่บ้านอีกครับ

หลังจากที่โดนเกลี้ยกล่อมโดยสต๊าฟและลูกสาว ในที่สุดเขาก็ยอมอยู่ต่อและฝึกร้อง

ในตอนค่ํา, ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของสต๊าฟคนไหน, ซึ่งได้เอาเสียงร้องของคนเหล่านี้ออกมาเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ท

มีหลายคนที่อยากรู้เรื่องนี้ จึงได้ลองฟังเพลงของพวกคนที่ถูกคัดเลือกเหล่านี้

“ใครมันบอกให้ข้ามาลองฟังเพลงนี้ฟระ ออกมาเลยนะ, ข้าสัญญาว่าจะไม่ฆ่าเอ็งหรอก”

“หูช้านนน! แต่ละคนไม่มีใครดีเลย, เสียงแบบนี้จะร้องได้จริงๆเหรอ ฟิวเจอร์กรุ๊ปจะต้องเป็นอะไรไปแล้วแน่?”

“บ้าจริง, นี่มันเสียงทําลายโสตชัดๆ, มันดีกว่าเสียงในหนังวิทยายุทธนิดเดียวเอง, ผมตัดสินใจละส่งพวกนี้ไปให้พวกคนกลุ่มเพื่อนผมดีกว่า”

“คนข้างบนน่ะ, อย่าทําแบบนั้นเชียวนะ! ข้าก็อยู่ในกลุ่มเพื่อนแกด้วยนะเฟรัย, เมื่อซักครู่ ข้าเห็นบางคนได้โพสท์มาข้าก็สงสัยแล้วกดเข้าไปดู,ข้าฟังวนไปตั้งสามรอบจนรู้สึกว่ามันธรรมดาไปละ”

มรอบ, ผมว่าคุณไม่ใช่คนธรรมดาแล้วล่ะ”

ทั้งเว็บบอร์ดที่เดิมที่กําลังคุยกันถึงเรื่องของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ของสหรัฐอยู่นั้น, ทันทีที่เพลงพวกนี้ออกมา, คนจํานวนมากต่างก็ไปฟังเพลงนี้กันอย่างสงสัย และพบว่าเสียงแต่ละคนนั้นฟังไม่ได้เอาเสียเลย

“ใครก็ได้บอกฉันที, ว่าจะมีใครที่อยากฟังเสียงร้องแบบนี้จริงๆเหรอ?”

ถ้าขนาดแค่เสียง ยังไม่มีใครฟัง, มิเช่นนั้นแล้ว ถ้าได้ยินซ้ําแล้วซ้ําอีกเรื่อยคงได้มีคนตายแน่ๆ”

“มีข่าวออกมาล่าสุดว่ามีแค่ 2 คนเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบรอบ 2 ของฟิวเจอร์กรุ๊ปล่ะ, ผมสงสัยจังว่า,ในบรรดาเพลงพวกนี้, 2 เพลงไหนที่ร้องโดย 2 คนนั้นนะ?”

มีบางคนได้ตอบกลับมา “ไม่สําคัญหรอกว่าสองเพลงไหน, ฉันกังวลมากว่าการคัดเลือกนักร้องออนไลน์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น, ท้ายที่สุดจะสามารถสําเร็จได้ตามเป้าหมายรึเปล่ามากกว่า”

“ผมไม่คิดอย่างงั้นหรอก, ทั้งสองคนนั้นจําเป็นที่จะต้องได้รับการฝึกฝนให้เป็นมืออาชีพจากฟิวเจอร์กรุ๊ป,นอกจากนี้ผมยังได้ยินข่าวมาว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปกําลังจะสร้างสถานที่จัดคอนเสิร์ตที่ราวกับออกมาจากหนังไซไฟโดยใช้เทคโนโลยีเครื่องฉายภาพจําลอง, ผมจะรอดูในอีก 5 เดือนให้หลังเลยล่ะ, นักร้องสองคนนั้นและเวทีคอนเสิร์ตฉายภาพจําลองของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะเป็นยังไงนะ?”

เมื่อเห็นการหารือกันในเว็บบอร์ด, ผู้คนในแผนกดนตรีของฟิวเจอร์กรุ๊ปต่างก็รู้สึกพูดอะไรไม่ออก

ในเวลานี้, อู่ฮาวเหรินกําลังคิดถึงเพลงที่เหลือ, ถ้าเขาไม่สามารถหาคนที่ใช่จริงๆได้, เขาคงจะต้องเปลี่ยนมุมมองและเลือกเอาคนที่จะร้องได้มาแทน

หลังจากที่คิดอยู่สักพัก, ในที่สุดเขาก็เอาเพลงที่หลิงเมิ่งเสี่ยร้องไม่นานมานี้อัพขึ้นบนเว็บไซต์

เมื่อเห็นเพลงใหม่ปรากฏขึ้นมาในที่เก็บเพลง, ในตอนแรกทุกคนก็ลังเลอยู่ชั่วขณะ เพราะเมื่อซักครู่พวกเขาเพิ่งเจอเสียงทําลายโสดไป, พวกเขาจึงกังวลว่าเสียงของเพลงนี้ก็น่าจะเหมือนกับเพลงพวกนั้น

“ว้าว, เสียงคาวาอี้มาก, เพลงคราวนี้ดีมากเลย, มันช่างรู้สึกเยียวยาจิตใจแบบสุดๆ!”

“บ้าจริง, นี่มันไม่ใช่เสียงทําลายโสดนี่นา, ฟังดูแล้ว, เสียงแบบนี้มันทําให้รู้สึกถึงความสนุกสนานในวัยเด็กเลยแฮะ”

“ผมอยากจะรู้จังเลยว่ามันร้องโดยAI. หรือคนกันแน่นะ, แต่มันดีมากเลย”

“พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่า, มันฟังดูคล้ายๆกับเพลงแรกๆมากเลยนะ?”

ยิ่งมีคนพูดถึงเพลงใหม่นี้มากขึ้นเรื่อยๆ คนมากมายต่างก็รู้สึกที่ง, เพราะเสียงนั้นอบอุ่นมาก, ยิ่งไปกว่านั้นเริ่มมีคนรู้สึกแล้วว่าเสียงนี้เป็นเสียงเช่นเดียวกับในเพลงแรก

การปรากฏของเพลงนี้ทําให้พวกคนที่โพสท์สงสัยว่าการแข่งคัดเลือกนักร้องของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะล้มเหลวนั้นไม่นานนั้นต่างพากันลบโพสท์ของตัวเอง

ในเมื่อฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นสามารถสร้างเพลงเช่นนี้ขึ้นมาได้, ก็คงจะไม่ทําอะไรผิดผลาดง่ายๆแบบนั้นแน่ๆ,ซึ่งทําให้คิดว่าคนที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปคัดเลือกไปนั้นจะต้องสามารถร้องเพลงได้ในท้ายที่สุดแน่

ขณะที่ ฮ่าวเหรินกําลังจะเข้าระบบซองแดงเพื่อคยกับคนพวกนั้น, หลิวหมิงเยว่ก็ได้เรียกเขา

“หัวหน้าคะ, ฉันเพิ่งได้รับอีเมล์เข้ามาค่ะ, ทางสมาพันธ์คณิตศาสตร์ระหว่างประเทศตั้งใจที่จะมอบรางวัลFields Medalให้กับฟิวเจอร์กรุ๊ปค่ะ, แล้วก็สถาบันKarolinskaกับRoyal Swedish Academy of Sciencesได้ส่งอีเมล์มาว่า,จะเสนอคุณเข้ารับรางวัลโนเบลค่ะ”

หลิวหมิงเยว่พูดขึ้นด้วยน้ําเสียงตื่นเต้น, ในขณะที่อู่ฮาวเหรินนั้นยังคงสงบนิ่งอยู่เมื่อเขาได้ยินข่าวนี้,เพราะเขานั้นไม่ได้สนใจเรื่องของรางวัลเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย