อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) - ตอนที่ 349
CF-บทที่ 349 การฟื้นตัวของซูเถา
ภายในห้องทดลอง อู่ฮาวเหรินได้ใส่ดอกหวายกําจัดน้ําเสียที่ปลูกไว้ลงในบ่อน้ําเสียที่ได้เตรียมไว้
ตามทฤษฎีของแปดหนวด พืชชนิดนี้จะบานสะพรั่งหลังจากดูดซับสารมลพิษเพียงพอและปลดปล่อยสารบริสุทธ ซึ่งมันเป็นพืชที่แปลกมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ดอกหวายกําจัดมลภาวะชนิดนี้ยังมีสารอาหารบางชนิดในมลภาวะอีกด้วยเขาไม่รู้จักมลพิษและความสามารถในการดูดซับของพืชนี้ที่มีต่อมนุษย์
สถานการณ์ของถังบําบัดน้ําเสียหลายแห่งนั้นแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีหินดูดซับบางอย่างในถังเหล่านั้น เขาต้องการดูว่าการบําบัดน้ําเสียทั้งสองวิธีนั้นทํางานอย่างไร
หลังจากทําสิ่งนี้เสร็จสิ้น อู่ฮาวเหรินไม่จําเป็นต้องทําการบันทึกข้อมูลรายวัน แต่หุ่นยนต์ผู้ช่วยจะช่วยให้เขาแก้ปัญหานี้ได้
เขาโทรหาซูเถา และขอให้เขาไปที่ห้องพยาบาล การบําบัดเส้นประสาทที่ขาของชายคนนี้เกือบจะเสร็จสิ้นแล้ว
“เจ้านาย”
ดีนี ไม่ต้องใช้ไม้คําแล้ว
“ฮ่าฮ่า ต้องขอบคุณสําหรับทักษะการรักษาที่ยอดเยี่ยมของคุณครับ ผมรู้สึกว่ามันไม่มีปัญหาอะไรเลย” ซูเถาสัมผัสที่ต้นขาของเขา เขาไม่คิดว่ามันจะสามารถรักษาได้
“เทคโนโลยีทางการแพทย์ของคุณอู่นี่ทันสมัยที่สุดในโลกแล้ว ผมไม่เคยได้ยินว่าจะมีใครที่สามารถซ่อมแซมเส้นประสาทที่ถูกทําลายไปแล้วได้เลย” พ่อบ้านดีแลนกล่าว
อู่ฮาวเหรินมองดูพ่อบ้านดีแลน การฟื้นตัวของซูเถาทําให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น ทําให้เขารู้ว่าที่เขาเคยพูดว่าเขาสามารถที่จะรักษาอาการปวยของแดฟเน่ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องหลอกลวง
“ลองไปตรวจดูกันเถอะ ถึงแม้ว่ามันจะถูกซ่อมแซมแล้ว แต่คุณต้องไม่ออกกําลังกายหนักจนเกินไปนะช่วงนี้ ในตอนนี้เส้นประสาทที่ถูกทําลายไปได้ถูกซ่อมแซมแล้วแต่ยังค่อนข้างเปราะบางและอาจต้องใช้เวลาในการรักษาด้วยตัวมันเอง”
ซูเถาพยักหน้า แต่เขาต้องการที่จะออกกําลังกายอย่างฮึกเหิม ซึ่งถ้าพ่อแม่ที่บ้านเห็นเข้าพวกท่านก็จะต้องบ่นและอบรมเขา
ในวันนี้เขาสามารถที่จะมาที่นี่ได้โดยไม่ต้องใช้รถเข็นเป็นเพราะการชักชวนของพ่อบ้านดีแลนและพ่อแม่ของเขาก็เห็นด้วยทันที
ภายในห้องพยาบาล ดีแลนมองดูหญิงสาวที่อยู่ในห้องสารอาหารและรู้สึกดีใจมาก
อู่ฮาวเหรินอ่านดูข้อมูลของแดฟเน่และพยักหน้า ผลของสารละลายสารอาหารดีกว่าที่เขาได้นตนาการไว้ มันอาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าทําไมคุณภาพร่างกายของมนุษย์สมัยนี้ถึงได้อ่อนแอและฟังก์ชั่นการฟื้นตัวของสารละลายสารอาหารนั้นสําคัญยิ่งกว่า
ยิ่งเป็นคนมีพลังมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากต่อการรักษาอาการบาดเจ็บ อย่างเช่นร่างกายปัจจุบันของเขา เพราะมันถูกเสริมการป้องกัน มันมีความต้องการสารอาหารมากกว่าคนธรรมดาทําให้การ รักษาหลังการบาดเจ็บจะมีปัญหามากขึ้น
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทําไมเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ปถึงได้ถูกพัฒนาและก็จะมีผู้คนที่ไม่สามารถจะรักษาได้หลังการได้รับบาดเจ็บเพราะว่าเทคโนโลยีไม่อาจจะรักษาได้ด้วยร่างกายที่ ทรงพลังของพวกเขา มันสามารถที่จะซ่อมแซมได้ด้วยสมบัติที่ทรงพลังบางอย่าง
พูดอย่างตรงไปตรงมามันก็คือพลังงาน ถ้าพลังงานของคนธรรมดาเท่ากับหนึ่ง เขาก็อยู่ระหว่างสามหรือสี่แล้วในตอนนี้ และในอนาคตก็จะอยู่ระหว่างแปดหรือเก้า สําหรับคนที่มีร่างกายแข็งแรงพวกเขาอาจจะต้องถึงประมาณสิบสองหรือยี่สิบเลยทีเดียว
เพื่อที่จะซ่อมแซมร่างกายที่ถูกทําลาย ความแข็งแรงต้องการบางอย่างจากพลังงานเดียวกัน
เมื่อดูที่เส้นประสาทขาของซูเถา อูฮ่าวเหรินก็พยักหน้า ความเร็วในการฟื้นตัวของชายคนนี้เร็วกว่าที่เขาคํานวนไว้หลายวันเลยทีเดียว
“เอาล่ะ มันจะไม่มีการรักษาอีกต่อไปในอนาคต เสร็จสิ้นขั้นตอนทางการแพทย์
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าเขาปกติดี เขาก็ยังคงตื่นเต้นเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินการยืนยันจากอู่ฮ่าวเหริน
“เจ้านายครับ ถ้าผมจะเชิญเพื่อนๆ สนิทของผมให้มาเข้ารับการรักษาจะได้ไหมครับ? เขาก็มีปัญหาระบบเส้นประสาทเหมือนกัน อย่างไรก็ตามเขาได้รับความเจ็บปวดจากเส้นประสาทถูกทําลายมาหลายปีแล้ว
“ได้สิ แต่อย่ามากเกินไปนะ เพราะที่นี่มียาไม่มากนักสําหรับการรักษาเส้นประสาท”
เมื่อได้ยินว่ายามีจํานวนไม่มากนัก พ่อบ้านดีแลนจึงถามว่า “คุณอู่ต้องการจํานวนเท่าไรครับ?ผมจะได้ไปจัดหามาให้คุณ”
“ฉันปลูกตัวยาเองนะ สภาพแวดล้อมในการปลูกค่อนข้างจะซับซ้อน คุณคงจะหาไม่ได้ หรอก”
“ถ้างั้น ซูเถาถ้าคุณมีเพื่อนที่อยู่ในกองทัพที่ได้รับความเจ็บปวดจากที่ร่างกายถูกทําลายและยินดีที่จะรับการทดลองรักษาจากผม คุณก็สามารถที่จะแนะนํามาได้นะ อย่างไรก็ตามช่วยอธิบายเขาด้วยว่าในตอนนี้การวิจัยของผมยังไม่สมบูรณ์สักเท่าไร”
เทคนิคการฟื้นฟูแขนขานั้นยังไม่สมบูรณ์ ระหว่างการรักษาหนูทดลองในห้องทดลอง พบความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับแขนขาของมัน
หลักๆ แล้วเกี่ยวข้องกับการควบคุมการเจริญเติบโตของเซลส์ อย่างน้อยที่สุดเขาก็ได้แก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับความผิดปกติหลังจากที่เขาได้ใช้วิธีการรักษาแบบเรียงชั้นด้วยไอคิวและผลการทดลองเมื่อเร็วๆ นี้พบว่ามันออกมาค่อนข้างดี
แน่นอนว่า เมื่อทําการรักษาหนูทดลอง เขาได้เร่งกระบวนการรักษา มิฉะนั้นก็คงจะต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อให้ได้ทราบผลลัพธ์
เมื่อดีแลนและซูเถาได้ยินดังนั้น พวกเขาต่างพากันมองดูอี้ฮ่าวเหรินด้วยความประหลาดใจ
“เจ้านาย นี่คุณมีเทคโนโลยีการสร้างแขนขาจริงๆ หรือคับ?”
“มันได้รับแรงบันดาลใจจากการรักษาโรคมะเร็งน่ะ แล้วมันก็ยังเป็นการใช้ประโยชน์จากเซลส์มะเร็ง แต่มันก็มีการรบกวนเล็กน้อยและมันก็กําลังจะเป็นมะเร็งและระบบประสาท”
ในเวลานี้ พ่อบ้านดีแลนรู้สึกอัศจรรย์ใจต่ออู่ฮาวเหริน มันเป็นเทคโนโลยีที่ผู้คนใฝ่ฝันถึงบางคนก็สามารถแม้แต่จะเปลี่ยนสมองของพวกเขาเพื่อให้มีชีวิตอยู่
“ท่านครับ ผมขอถามว่าถ้าเทคโนโลยีนี้สามารถที่จะทําให้ทุกส่วนของร่างกายงอกขึ้นมาใหม่ ได้ตราบใดที่สมองยังไม่ตายใช่ไหมครับ?”
เมื่อมองดูที่ตาของดีแลน อู่ฮาวเหรินก็เข้าใจว่าเขาคิดอะไร เขาจึงยิ้มและพูดว่า “โดยทฤษฎีแล้วนี่เป็นเพียงแค่กรณี แต่ฉันคิดว่าคงไม่มีใครยินดีที่จะยอมรับการรักษาเป็นแน่”
“อ้าว ทําไมล่ะครับ?”
ดีแลนรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาสามารถที่จะเปลี่ยนร่างกายของเขาได้ซึ่งมันเป็นฝันของคนทั้งหลาย
“ถ้าคนเรามีแค่หัวเดียว มันอาจต้องใช้เวลาหลายสิบปีในการสร้างเนื้อเยื่อร่างกายใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่มีในปัจจุบัน หากมีสิ่งใดผิดพลาดกลางทาง ผลของบุคคลนั้นก็คือความตายยิ่งกว่านั้นในวันที่ชายผู้นี้ได้รับการรักษาเขาก็อาจจะต้องเผชิญความตายที่แท้จริงอีกครั้ง”
อู่ฮาวเหรินชี้ไปที่หัวของเขา หากวิญญาณเสียชีวิตนั่นก็คือสมองตายซึ่งไม่มีทางรักษาให้หาย
วิญญาณนั้นคือสิ่งลึกลับและไม่มีใครสามารถแก้ปัญหานี้ได้จนกว่าเขาจะได้รับการแก้ไข
ดีแลนเข้าใจความหมายของ อู่อ่าวเหรินแต่เขาก็ยังคิดว่าหากเทคโนโลยีนี้ได้ถูกพัฒนาไปถึงขั้นสุดยอด มันก็ควรที่จะสามารถทําการรักษาได้อย่างที่เขาได้กล่าวไว้
อู่อ่าวเหรินไม่ได้บอกเขาว่าชะตากรรมของผู้ที่ต้องการจะทําเช่นนั้นในอนาคตนั้นไม่ดีนัก
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง มีเพียงไม่กี่คนที่ต้องทําเช่นนั้นจริงๆ และ พวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะตายก่อนหน้านี้
“เจ้านาย ผมจะลองถามให้ครับ มีเพื่อนๆ หลายคนที่มีบาดแผลมากมายเช่นเดียวกันกับผมอย่างไรก็ตาม ผมก็ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะมารับการรักษาหรือไม่”
“ไม่เป็นไร”
เมื่อออกมาจากห้องพยาบาล ซูเถามถามน้องสาวของเขาเกี่ยวกับการสมัครเข้าทํางานในบริษัทเพลง ซึ่งอู่ฮาวเหรินได้ของให้เขารอไปก่อน
เมื่อเขากลับมายังที่พัก ซูเถากรายงานสถานการณ์ของเขา แน่นอนว่าเขาได้ถามอู่อ่าวเหรินเกี่ยวกับรายงานนี้ซึ่งดําเนินการโดยได้รับความยินยอมจากเขาก่อน
จื่อหยงรู้ว่าซูเถาได้หายแล้ว แม้ว่าเขาจะคิดว่ามันจะเป็นผลลัพธ์เช่นนี้มาตั้งนานแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่น่าเชื่ออยู่เล็กน้อย
จากนั้นเป็นครั้งแรกที่จะแจ้งให้เบื้องบนทราบ เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าข่าวนี้จะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาสําหรับคนจํานวนมาก
เมื่อเลขานุการได้รับข่าวนี้ เขาก็รีบไปที่ห้องประชุมซึ่งกําลังมีการประชุมทางทหาร
“เข้ามาสิ”
“ท่านผู้นํา”
“มีอะไรหรือ?”
เลขานุการวางเอกสารลงบนโต๊ะและพูดว่า
“ข่าวจากฟิวเจอร์กรุ๊ปเกี่ยวกับซูเถาที่กําลังรักษาปัญหาทางด้านระบบประสาท ได้หายจากอาการปวยแล้วค่ะ”
ทุกคนฟังข่าวนั้นอย่างระมัดระวัง พวกเขาเคยได้ยินเกี่ยวการซ่อมแซมระบบประสาทมานานแล้วแต่พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีใครที่จะรักษาได้