อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) - ตอนที่ 335

CE:บทที่ 335 ทีมวิศวกรรมหุ่นยนต์

เมื่อกลับมาที่ห้องทดลอง อู๋รู้สึกว่ารถคันนี้มันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ อย่างน้อยก็ในแง่ของสมรรถนะ ซึ่งเทคโนโลยีของโลกนี้ไม่สามารถเทียบได้

“ดูเหมือนว่าพวกเราจะต้องทดสอบความสามารถด้านการบินกันสักทีนะ”

อย่างไรก็ตาม อู๋ฮ่าวเหรินเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าเขาต้องการที่จะทดสอบความสามารถในการบินของเขา เขาต้องหาสถานที่ที่ปลอดภัย มิฉะนั้นแล้ว ถ้าการที่เขาครอบครองรถบินได้ ก็อาจจะไปถึงหูของคนในรัฐบาลเข้า

“หลังจากที่อุปกรณ์บนเกาะถูกสร้างขึ้น คุณก็สามารถที่จะทําการทดลองในทะเลได้ และก็จะไม่มีใครเจอ” จี้กล่าวขึ้น

“ทะเลนั้นหรือ?”

“ใช่ครับ ในทะเลย ตราบใดที่มันบินไม่สูงนัก ก็จะไม่มีใครเจอ แน่นอนว่าดาวเทียมของคุณที่อยู่บนท้องฟ้าพวกมันก็จะถูกถ่ายภาพไว้ด้วยดาวเทียมซึ่งยิ่งเป็นไปไม่ได้”

“ดาวเทียมงั้นหรือ ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลยตอนนี้ และฉันก็ยังไม่รู้อีกว่าฉันได้ไปทําวิจัยอะไรที่นั่น”

หลังจากที่อู๋ฮ่าวเหรินได้มอบเทคโนโลยีให้แก่จื่อหยง เขาก็ไม่ได้รับผิดชอบเกี่ยวกับกิจการดาวเทียม เพาะเขารู้ว่าถึงแม้ว่าพวกเขาจะพัฒนาเทคโนลีและต้องการที่จะส่งดาวเทียมขึ้นสู่ท้องฟ้า พวกเขาก็ยังต้องมีจรวดอีกด้วย

และดาวเทียมแบบที่เขาต้องการก็ยังต้องการการผลิตจากพวกเขาซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลาเตรียมการพอสมควร

“งั้นก็ไปดูการผลิตหุ่นยนต์กันเถอะ สถาบันวิจัยอาวุธจะต้องถูกสร้างให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นแล้ว อาวุธปืนที่ฉันศึกษาไว้ก็จะได้เพียงแค่มองดูและไม่ได้ถูกนําไปใช้ ซึ่งมันทําให้พูดไม่ออกมาก”

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูข้อมูลที่ถูกจัดเก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์ทั้งหมดนั้นคือปืนที่ถูกออกแบบโดยเขาและจี้

ในนั้นมีปืนพลังงานหลากหลายแบบที่ใช้พลังงานผลึกคริสตัล อย่างไรก็ตามปืนชนิดนี้ก็เป็นเพียงของเล่นสําหรับเขา

คนอื่นๆ ยังไม่ต้องการที่จะเป็นปืนนี้ในตอนนี้

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของชุดเกราะโครงกระดูก ซึ่งปัจจุบันนี้การวิจัยด้านอาวุธได้สําเร็จแล้วและขั้นต่อไปคือการวิจัยโดยรวม

ตามการตั้งค่าของเขาและขี้นั้น เมื่อรวมชุดเกราะโครงกระดูกนี้เข้ากับพลังของปืนพกก็จะสามารถทํางานร่วมกับรถถังและเครื่องบินที่บินในระดับต่ำได้

ในแง่ของพลังงาน อย่างน้อยมันก็สามารถคว่ำรถบรรทุกขนาดเล็กเช่นนั้นได้ในแง่ของความเร็ว อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้เน้นมากนัก

ส่วนใหญ่เป็นเพราะถ้าความเร็วนั้นเร็วจนเกินไป สมองมนุษย์ก็ตอบสนองไม่ได้และมีแนวโน้ม ที่จะชนโดนอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตามหากใช้การควบคุมระบบปัญญาประดิษฐ์ก็จะไม่เกิดปัญหานี้

จากห้องทดลองมาที่ไลน์การผลิตหุ่นยนต์อีกทางด้านหนึ่ง ชิ้นส่วนของหุ่นยนต์ได้ถูกผลิตขึ้นและจากนั้นหุ่นยนต์วิศวกรรมที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็ประกอบชิ้นส่วนเหล่านี้เข้าด้วยกัน

หุ่นยนต์ขนาดเล็กสามารถสร้างเสร็จได้ในเวลาประมาณ 20 นาที แต่สิ่งที่เขาต้องการคือหุ่นยนต์ขนาดใหญ่สําหรับขุดภูเขา หินและหุ่นยนต์ตัวใหญ่สําหรับขนส่งวัสดุ

“หุ่นยนต์แมงมุมขนาดใหญ่ชนิดนี้นํามาใช้ในการขนส่งวัสดุได้ไหม?”

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูหุ่นยาวขนาดยาวกว่าสี่เมตรที่มีขากลจํานวนมากและมีกล่องใส่ของอยู่บนหลัง

“ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มีถนน เราสามารถใช้หุ่นยนต์ชนิดนี้เพื่อขนส่งวัสดุเข้ามาเท่านั้น”

เขามองไปรอบๆ หุ่นยนต์และพบว่ามันเหมือนแมงมุมมาก หุ่นยนต์ชนิดนี้สามารถขนย้ายวัสดุที่จําเป็นสําหรับการก่อสร้างโครงการแรกได้เท่านั้น ต่อมาเมื่อถนนเปิดใช้ พวกเขาสามารถขนส่งได้โดยรถยนต์

นอกจากนี้ยังมีหุ่นยนต์ขุดภูเขามืออาชีพที่มีดอกสว่านขนาดใหญ่ ซึ่งใหญ่กว่าเครื่องขุดแร่ที่ผลิตโดยรัฐ

มันไม่จําเป็นต้องใช้การควบคุมโดยมนุษย์เลย หุ่นยนต์นี้สามารถที่จะขุดได้ด้วยตัวเอง และมันก็มีหุ่นยนต์พิเศษคอยเป็นผู้ช่วยอยู่ทางด้านหลังเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ

อีกทางด้านหนึ่ง มีหุ่นยนต์ตัวสูงมากกว่าสองเมตร นี่คือหุ่นยนต์ก่อสร้าง

วัสดุก่อสร้างที่อู๋ฮ่าวเหรินใช้ในครั้งนี้ล้วนเป็นสูตรพิเศษ

เขากําลังจะสร้างป้อมปราการทางทหารในภูเขานั้นซึ่งเป็นฐานที่สร้างขึ้นเพื่อตัวเขาเองในประเทศจีน

“จี้เดินเครื่องหุ่นยนต์พวกนี้ และเริ่มขุดภูเขานั่นตามแผนของเรา นอกจากนี้หุ่นยนต์การขนส่งก็เริ่มที่จะขนส่งวัสดุที่จําเป็นสําหรับการก่อสร้างในช่วงต้นเข้าไปด้านในได้เลย”

จี้เริ่มต้นโปรแกรมควบคุมของหุ่นยนต์ทันที และประตูที่นั่นก็เริ่มเปิดออก

เมื่อเสียงคํารามดังกระหึมขึ้น หุ่นยนต์ทุกตัวก็เริ่มเคลื่อนไหวเหมือนการเดินขบวนของกองทัพซึ่งดูงดงามมาก

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยซึ่งยังคงคิดถึงรถทดลองของอู๋ฮ่าวเหริน เพิ่งได้ยินเสียงคํารามเสียงดัง และคิดว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ทั้งหมดจึงวิ่งมาทางด้านนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงครึ่งทาง พวกเขาก็ทราบเหตุผล เมื่อมองเห็นหุ่นยนต์ที่กําลังออกมาจากคลังสินค้า

หุ่นยนต์ตัวยักษ์ทยอยออกมาทีละตัว เหมือนกับปีศาจตัวยักษ์ พวกมันพากันออกมาจากคลังสินค้าและจัดแถวอย่างเรียบร้อยบนจัตุรัสตรงหน้าพวกเขาอย่างกับกองกําลังรอการตรวจแถว

อู๋ฮ่าวเหรินกลับไปยังห้องทดลอง และขับรถออกไปยังจตุรัสแห่งนั้น

หุ่นยนต์ทั้งหลายที่อยู่ที่นั่นก็เช่นกัน พวกมันเริ่มเคลื่อนขบวนตรงไปยังหุบเขา

เสียงที่ดังทําให้ผู้คนมารวมตัวกันที่นี่มากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนที่มาที่นี่ เมื่อพวกเขาเห็นหุ่นยนต์ตัวใหญ่พวกนั้น พวกเขาพากันชะงักอยู่ที่จุดนั้น บางคนถึงกับอ้าปากกว้างราวกับว่าพวกเขานั้นกําลังตื่นตระหนก

ในกรณีนี้ทีมวิศวกรรมหุ่นยนต์ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน

แม้ว่าเหล่าพนักงานจะรู้ว่าเจ้านายสามารถสร้างหุ่นยนต์ได้ แต่พวกเขาก็ไม่ทราบว่าเจ้านายได้สร้างหุ่นยนต์มากมายถึงเพียงนี้

“น่าทึ่งอะไรอย่างนี้”

“มันทรงพลังมาก! ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาร่วมงานกับบริษัทนี้”

“หุ่นยนต์พวกนั้นถูกพัฒนาขึ้นโดยเจ้านาย เจ้านายกําลังจะทําอะไรกันนะ?”

“ใครจะไปรู้ แต่พวกมันต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่ๆ”

ทีมวิศวกรรมหุ่นยนต์เกือบสร้างความหวาดกลัวให้กับสายลับทั้งหลายที่ปะปนอยู่ในทีมรักษาความปลอดภัยเกือบตาย พวกเขารายงานเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้

มีหน่วยสืบราชการลับได้รับทราบข้อมูลนี้ พวกเขาคิดว่าคนพวกนี้จะมีเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะเมื่อพิจารณาแล้วพวกเขาก็ตกใจ พวเขาไม่เคยทราบข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งนี้เลย

สาเหตุหลักมาจากสถานการณ์พิเศษของฟิวเจอร์กรุ๊ป ทําให้พวกเขาไม่กล้าที่จะสุ่มตรวจสอบ

เมื่อหัวหน้าได้รับทราบข้อมูลแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเห็นภาพถ่ายของทีมวิศวกรรมหุ่นยนต์ เขาถึงกับตะลึงไปชั่วขณะ

“พวกเราประเมินเด็กคนนี้ต่ำเกินไป ไม่คาดคิดว่าเขาจะผลิตหุ่นยนต์มากมายพวกนี้โดยไม่รู้ตัวผู้คนเหล่านั้นต่างพากันกังวลเกี่ยวกับความอันตรายในการศึกษาด้านอาวุธของเขา

มันจะไม่มีอันตรายสําหรับอัจฉริยะเช่นนี้โดยปราศจากการศึกษาอาวุธหรือไม่?”

“หัวหน้าครับ อัจฉริยะคนนี้ ข้อจํากัดนี้ไม่มีประโยชน์กับเขาเลย ถ้าต้องการที่จะทําลายล้าง เขาก็สามารถที่ทําให้โลกทั้งใบนี้พังไปได้โดยไม่ต้องใช้กําลังเลย จากมุมมองของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์”

คําพูดของเลขาทําให้หัวหน้ายิ้มออกมา แม้ว่าเขาจะลืมไปว่าจุดแข็งที่แท้จริงของเด็กหนุ่มคนนี้คือเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์

ในยุคอินเตอร์เน็ตเช่นนี้ ถ้าคนแบบนี้ต้องการที่จะทําลายล้าง มันก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด

“แต่ชายคนนี้คิดจะทําอะไรโดยการใช้หุ่นยนต์พวกนี้”

“หัวหน้าครับ จากมุมมองของหน่วยสืบราชการลับ ดูเหมือนว่าเขามีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างสถาบันวิจัยอาวุธ

“ดูเหมือนว่า เด็กคนนี้ได้วางแผนที่จะสร้างสถาบันวิจัยในภูเขามาตั้งนานแล้ว แต่รอให้พวกเรา ไปบอกว่าอย่าได้ทําเอะอะไป และช่วยเขาแต่ในเรื่องที่จําเป็น

“ยังไงก็เถอะ เราไปที่สถาบันหุ่นยนต์และเรียนรู้เทคโนโลยีบางอย่างจากคนอื่น ทีมวิศวกรรมหุ่นยนต์นี้ดูดีมาก มาดูกันว่าถ้าหุ่นยนต์ของเราจะสามารถพัฒนาไปในทิศทางนี้ได้หรือไม่”

เมื่อเหล่านายพลรู้ว่า หุ่นยนต์เหล่านี้ถูกใช้เพื่อสร้างภูเขาและถนน สีหน้าของพวกเขาก็แปลก

ที่สถาบันวิจัยหุ่นยนต์ชีตาร์แห่งชาติ พวกเขาได้เห็นพลังการต่อสู้อันทรงพลังของหุ่นยนต์ชนิดนั้น ในปัจจุบันดูเหมือนว่าเรายังคงทํางานกับหุ่นยนต์ป้องกัน ฉันไม่คิดว่าเทคโนโลยีหุ่นยนต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปจะดีกว่าของสถาบันวิจัยหุ่นยนต์แห่งชาติ

พวกเขาคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ ดูเหมือนว่าเทคโนโลยีของสถาบันวิจัยหุ่นยนต์ที่จัดทําโดยฟิวเจอร์กรุ๊ป แม้แต่หุ่นยนต์อัจฉริยะตัวแรกก็ถูกผลิตโดยคนอื่น ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะมีหุ่นยนต์ที่ทรงพลังมากมายเช่นนี้

อย่างไรก็ตามเมื่อเหตุการณ์นี้แพร่กระจายไปยังต่างประเทศก็ทําให้เกิดการสะท้อนกลับอย่างมาก