อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 52 การต่อสู้ในแต่ละวัน และ ไรเดอร์สีน้ำเงิน
- Home
- All Mangas
- อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต
- ตอนที่ 52 การต่อสู้ในแต่ละวัน และ ไรเดอร์สีน้ำเงิน
การโจมตีของพวกเอเลี่ยนมักจะมากะทันหันเสมอ
พวกมันไม่ได้สนใจเลยว่าพวกเราจะทำอะไรกันอยู่
มันสามารถมาได้ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน
คราวนี้เองก็เหมือนกัน พวกมันได้บุกมากลางดึก ช่วงเวลาที่ผู้คนหลับใหลไปแล้ว
「「「อัศวินขาว!!」」」
ลำดับแห่งดวงดาราที่ 71 ตรีศูล อัล มุล การ์
มันปรากฏตัวขึ้นมาในเมืองด้วย และสามารถแยกร่างเป็นสีแดง ขาว ดำซึ่งแต่ละร่างก็มีความคิดเป็นของตัวเองและเริ่มต่อสู้กับฉัน
『BREAK ARROW!!』
มือข้างหนึ่งของฉันถือธนูจากร่าง Break ส่วนอีกข้างเป็น Lupus Dagger ก่อนจะใช้มันพุ่งฟันร่างสีแดงของอีกฝ่ายในจังหวะที่พุ่งตัดผ่านกัน
การโจมตีของฉันควรจะผ่าร่างสีแดงได้อย่างแน่นอน ทว่าร่างของมันกลับเป็นเหมือนสไลม์ที่สามารถต่อติดกันใหม่ได้ทันทีหลังถูกตัด
「นูฟุฟุ!! การโจมตีของแกใช้กับข้าไม่ได้ผลหรอกอัล」
「มีช่องว่างนะมุล!」
คราวนี้เป็นตัวสีขาวยืดหนวดออกมาจากร่าง
ฉันทำการตัดมันด้วยมีดและยิงลูกธนูพลังงานออกไปใส่อีกฝ่าย
ทว่าเมื่อลูกธนูกระทบเข้ากับหนวดของมัน พลังงานกลับสลายตัวก่อนถูกเบี่ยงวิถี
「สะท้อนเหรอ……!? 」
「ช่างเป็นของที่น่ารำคาญมุล……!! การ์!!」
「การ์การ์การ์!!」
ตัวสีดำพุ่งเข้ามาเป็นคนสุดท้าย
การเคลื่อนไหวของมันดุดันราวกับสัตว์ป่า พร้อมกับเขี้ยวที่ใหญ่โต
ฉันพยายามหลบการกัดของอีกฝ่าย ก่อนจะเตะอัดเข้าไปที่ท้องให้เพื่อกระเด็นออกไป
「การ์!!」
「ไม่เป็นอะไรเลยเหรอฟะ……!」
การโจมตีไม่ได้ผล
แค่ 3 รุม 1 ก็ลำบากมากพออยู่แล้ว แต่ที่เป็นปัญหาสุดคือไอ้ของที่อยู่เหนือหัวฉัน
「จงกังวลให้มากกว่านี้ซะอัล!」
「จงสิ้นหวังเสียมุล!!」
「การ์การ์การ์การ์การ์การ์!! ดิ้นรนซะสิ!!」
「「「เมืองนี้จะต้องถูกทำลาย!!」」」
ยักษ์ที่รูปร่างคล้ายกับมนุษย์กำลังร่วงมาจากฟากฟ้า
จากที่ตาเห็นความยาวของมันน่าจะมากกว่า 100 เมตรและกำลังค่อยๆ ใกล้เมืองมาเรื่อยๆ จนรู้สึกกังวล
「ลำดับแห่งดวงดาราที่ 88 ยักษาบาร์กัล อัล」
「หุ่นยนต์ยักษ์ไร้คนขับ มุล!!」
「การ์การ์การ์การ์การ์การ์!! เราเลยใช้มันเป็นอาวุธทิ้งลงเมือง!!」
「อัล มุล การ์ อะไรของพวกแกกันฟะ?!」
ถึงมันจะง่ายที่แยกว่าตัวไหนเป็นตัวไหน แต่การพูดชื่อต่อท้ายตัวเองนี่มันน่ารำคาญชะมัด
———ยังไงก็ต้องรีบเอาชนะพวกมันให้ได้เร็วที่สุดไม่งั้นแย่แน่!!
「อย่างน้อยก็ได้รู้จุดแข็งของพวกแกแต่ละตัวแล้ววะ!!」
สีแดง อัล ต้านการเฉือนฟัน
สีขาว มุล ต้านทานการยิง
สีดำ การ์ ต้านทานการทุบตี
ในเมื่อรู้แล้วว่าพวกมันมีจุดแข็งตรงไหน ก็แค่ใช้การโจมตีแบบอื่นกับพวกมันเท่านั้นเอง!!
ฉันฟันการ์ ที่กระโดดเข้ามาหาด้วยBreak Arrow
「ตัวต่อไป!!」
「น่าเสียดาย แต่แกพลาดแล้วอัล!!!!」
「การ์!!」
「อะไรกัน!? 」
กรงเล็บของมันเหวี่ยงใส่ฉันจากด้านหลัง แรงปะทะสร้างประกายไฟขึ้นที่ไหล่ของฉัน
อะไรกัน การโจมตีด้วยการฟันก็ไม่ได้ผลอย่างงั้นเหรอ!!
「สับสนล่ะสิอัล!」
「มุลมุลมุล!!」
「กัลกัลกัล!!」
「รับมือยากชิบ……!!」
การโจมตีของพวกมันไม่สามารถทะลวงเกราะป้องกันของBreak Formได้แต่ฉันก็ไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้เหมือนกัน
แต่จะให้ใช้ Another Form ก็เปลืองแรงอีกแถมไม่รับประกันว่าจะจัดการพวกมันได้ทัน!!
『คัตสึกิคุง ฉันตรวจสอบพวกมันเสร็จแล้ว!』
「ครับ!」
เสียงของเรมะดังขึ้นภายในหน้ากากฉัน
ตอนนี้ฉันสามารถติดต่อกับสำนักงานใหญ่ได้เหมือนพวกจัสติสครูเซเดอร์
ก็ได้แต่หวังว่าเรมะจะพบจุดอ่อนของพวกมัน
『เป็นไปอย่างที่นายคิดเลย!!』
「แต่ว่าการโจมตีของผมมันไม่ได้ผลนะครับ!!」
『จริงอยู่!! เพราะว่าพวกมันน่ะ――』
สีที่ฉันเห็นผ่านหน้ากากเปลี่ยนไป
ภาพที่แสดงออกมาคือภาพสีเขียวล้วนที่เหมือนกล้องตรวจจับภาพความร้อน และสีที่ส่องออกมาจากร่างของพวกเอเลี่ยนก็เปลี่ยนไป
『พวกมันต่อสู้พลางเปลี่ยนรูปร่างของพวกมันไปด้วย และใช้สีกับคำพูดลงท้ายของพวกมันในการหลอกล่อศัตรูน่ะ!!』
「อะไรกัน!? 」
นี่ฉันโดนกลหลอกเด็กแบบนี้เล่นงานเหรอ?!
หากคิดตามที่เรมะบอก มันก็ดูสมเหตุสมผล
『ดังนั้นที่ฉันส่งไปคือเซนเซอร์ตรวจสอบร่างจริงของพวกมัน!! เอาละ ลุยเลยอัศวินขาว!!』
「รับทราบ!!」
『DEADLY!! TYPE LUPUS!!』
ฉันกดหัวเข็มขัดเพื่อใช้ท่าพิเศษ
พลังงานสีทองไหลจากหัวเข็มขัดไปที่เท้า
「การเตะใช้ไม่ได้ผลหรอก อัล!!」
อัลตัวสีแดง เปลี่ยนแขนของมันให้เป็นเคียวละพุ่งมาโจมตีฉัน
ทว่าสิ่งที่ฉันเห็น สีของมันคือสีดำดังนั้น ร่างดังกล่าวจะทำให้การทุบตีไร้ผล
ฉันใช้มือปัดเคียวของอัล ก่อนจะเตะมันด้วยขาที่ไม่ได้เสริมพลังอีกข้าง จากนั้นก็กระโดดไปหามุลที่ยื่นหนวดออกมา
「มุล!? 」
「แกเป็นร่างที่ทนการฟันได้นี่หว่า!!」
「ดะ ได้ยังไงกัน!? 」
『BREAK! POWER!!』
『BITING! CRASH!!』
การเตะได้ทะลวงร่างของมุลตัวสีขาว….ไม่สิ อัลตัวสีแดงเข้าเต็มๆ ก่อนที่มันจะกลิ้งไปตามพื้นแล้วระเบิด
ภาพตรงหน้าของฉันถูกกลืนกินไปด้วยเปลวเพลิง แต่ยังไม่ใช่เวลาพัก!
ฉันสับคันโยกด้านข้างหนึ่งทีเพื่อเปลี่ยนร่าง
『NEXT!! BREAK RED!! → OK? 』
「แกคือรายถัดไป เจ้าตัวดำ!!!!」
『CHANGE!! BREAK RED!!』
เพียงแค่แตะที่หัวเข็มขัดเบาๆ ชุดเกราะของฉันก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม
มันทำการดูดซับเปลวไฟที่ลุกโชนรอบๆ เข้ามาภายในตัว นี่แหละคือ BREAK RED
ขอบเกราะสีทองได้ประดับตั้งแต่ส่วนไหล่ขวาไปจนถึงแขนด้วยลวดลายอันประณีต ส่วนไหล่ซ้ายปรากฏเป็นผ้าคลุมส่องประกายสีแดงออกมา
『FLARE CALIBER Ⅱ!!』
ดาบคมเดียวปรากฏขึ้นที่มือของฉัน
ก่อนที่ชี้มันไปยังการ์ตัวสีดำ ที่มีความต้านทานการทุบตี
「คิดว่าจะทำอะไรข้าได้!!」
「เดี๋ยวแกก็รู้!!」
「การ์!!」
ฉันแบ็คแฮนด์ใส่ตัวสีแดงที่อยู่ด้านหลังจนกระเด็นออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันไปมอง
มันยุ่งยากที่จะต้องจัดการไปทีละตัว ดังนั้นต้องรีบจัดการให้มันจบๆ โดยที่อีกฝ่ายไม่มีเวลาพักหายใจ
「อ๊ากกกกกก!」
「พูดแบบปกติก็เป็นไม่ใช่เหรอฟะ แกน่ะ!!」
การ์สีดำ ตรงหน้าตั้งท่ายืน 4 ขา ก่อนจะพ่นหนามแหลมออกมาจากร่าง ฉันใช้ดาบเหวี่ยงเป็นแนวขวาง เปลวเพลิงได้ทำการแผดเผาการโจมตีของมันจนไม่เหลือ
ก่อนที่ฉันจะเปิดการใช้งานท่าพิเศษทันที
『DEADLY!! BREAK RED!!』
「อั๊ก……!!」
ฉันถือดาบไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง
เปลวเพลิงลุกโชนสูงไปถึงฟ้าจนกลายเป็นดาบขนาดยักษ์
『BREAK POWER!!』
『BURNING!! SLASH!!』
「หนี——」
「ม่ายยย!!」
ฉันเหวี่ยงดาลงไป ฟันร่างของการ์ตัวสีดำที่ห่างออกไป 10 เมตรจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
เมื่อเห็นว่าการ์ถูกสังหารไปแล้ว อัลตัวสีแดงก็ได้เปลี่ยนร่างกลับไปเป็นตัวสีขาว ก่อนจะยืนตัวสั่น
「ขะ ข้าขอยอมแพ้!! ดะ ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย!!」
「หึ!! งั้นก็หยุดเจ้าตัวบ้านั่นซะ!!」
ถึงอีกฝ่ายจะอ้อนวอนเอาตามตัวเองสะดวก แต่ฉันก็ยอมให้และชี้ดาบไปตรงหุ่นยักษ์บนฟ้า ก่อนจะบอกให้มันหยุดเสีย
ทว่าสิ่งที่อีกฝ่ายตอบกลับมา ทำให้ฉันผิดหวัง
「อ-เอ่อ คือ ในนั้นไม่มีใครควบคุมอยู่อย่างที่บอก ดังนั้นวิธีที่จะหยุดมันได้ก็คือทำลายมัน…..」
「ไอ้ตัวไร้ประโยชน์เอ้ย!! ประธาน ดูเหมือนว่าพวกเราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้แผนนั้นครับ!!」
『โฮ่ยๆ อย่ามาล้อกันเล่นสิฟะพวกเธอ!! เหลือจะเชื่อยังไม่ได้คิดแผนสำรองเผื่อไว้อีก!! เอาเถอะ นี่คัตสึกิคุง เห็นทีว่ามันจะถึงเวลาแล้ว――』
เรมะเงียบไปก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อ
『ฉันอนุญาตให้นายใช้Another Form!!』
「รับทราบ!!」
『GRAVITY!!』
ฉันมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วเปิดการใช้งานกราวิตี้ไดรฟ์ที่ปรากฏในมือแล้วเสียบมันเข้ากับหัวเข็มขัด
สนามพลังงานปรากฏขึ้นรอบตัวฉัน เป็นสัญญาณการเปลี่ยนร่างสู่ Another Form
『BLACK & WHITE!!』
『EVIL OR JUSTICE!!』
ชุดเกราะสีขาวดำได้ปรากฏขึ้นบนร่างขอองฉัน
ตอนนี้การอพยพของคนช่วงกลางดึกก็เสร็จสิ้นไปแล้ว ดังนั้นฉันจึงสามารถใช้พลังได้อย่างเต็มที่
『ANOTHER FORM!! COMPLETE……』
「เอาล่ะ ได้เวลาพร้อมลุย!!」
เมื่อยืนยันว่า มุลตัวสีขาวยังอยู่ที่เดิม ฉันก็มองไปยังจุดหนึ่งที่ไม่ใช่ท้องฟ้า แต่มันคือบนหลังคาของอาคารขนาดใหญ่ที่ติดตั้งป้อมปืนใหญ่สีน้ำเงินเอาไว้
『จัสติสครูเซเดอร์! อนุญาตให้ใช้อาวุธไม้ตายของยาน!! จัดการเจ้าตัวเบิ้มนั่นซะ!』
『『『รับทราบ!!』』』
มันคือการรวมร่างกันของยานที่มีบลูเป็นศูนย์กลาง รูปร่างของมันไม่ได้เหมือนมนุษย์ แต่เป็นปืนใหญ่
ฉันจินตนาการถึงพลังทำลายล้างของมันไม่ออกเลยเพราะมันคือการรวมพลังของเรดและเยลโล่เข้ามาด้วย แต่ยังไงฉันก็เชื่อว่าพวกเธอจะต้องทำได้อย่างแน่นอน!!
『จะจัดการมันให้เหี้ยนเลย!!』
『ระเบิดไปเด้!!』
『ทำการเล็งเป้า』
『『『ชู้ต!!!』』』
กระสุนพลังงานขนาดใหญ่ถูกยิงออกจากปืนที่ทั้งสามคนผสานกัน
มันทะลวงทะลุเมฆและโจมตีหุ่นที่กำลังร่วงลงมาในเมืองก่อนจะระเบิด
ไม่กี่วินาทีต่อมาเสียงระเบิดและคลื่นกระแทกก็กระจายมาถึงพื้นโลก
「สำเร็จแล้วสินะ!」
『อื้อ เรียบร้อยแล้ว!! ที่เหลือก็กำจัดเศษซากที่หล่นลงมา!!』
「รับทราบ!!」
『GRAVITY BUSTER!!』
ฉันมองดูเศษซากของหุ่นที่ร่วงลงมา
ร่างของมันถูกทำลายไปแล้วแน่นอน แต่เศษซากพวกนี้สามารถสร้างความเสียหายได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ฉันที่ต้องทำลายทิ้ง
「โย้ช!」
ฉันใช้Gravity Buster สาดใส่พวกเศษซากที่ร่วงลงมาทีละส่วน ทว่าแบบนี้คงไม่จบง่ายๆ แน่
ถึงเรดคนอื่นๆ จะเข้มาช่วยแต่ก็ไม่น่าจะจัดการได้หมด ฉันจึงทิ้งGravity Busterแล้วเปิดใช้งาน โหมดพิเศษของกราวิตี้ไดรฟ์
『COMPLETE! TIME! HAZARD!!』
「แค่สิบวิก็เหลือแล้วเฟ้ย!!」
ฉันกดปุ่มเพื่อเริ่มนับเวลาถอยหลัง
『COUNT START!!』
『10テン!!』
HAZARD ที่สามารถใช้ได้เพียง 10 วิ
พาร์ทส่วนสีขาวของร่างกายถูกลบให้หายไปจนเหลือเพียงสีดำ ฉันเปิดวาร์ปไปบนฟ้าและพยายามรวบพวกเศษซากให้มันอยู่ในจุดเดียวกันทั้งหมด
『3!!』
「ต้องทันสิวะ!!」
『2!!』
เศษซากทั้งหมดได้ถูกรวมเอาไว้ในที่เดียวกันเรียบร้อยแล้ว
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนจะใช้ท่าพิเศษของโหมดนี้
『DEADLY!! HAZARD! TIME OVER』
พลังงานสีดำถูกรวมเอาไว้ที่แขนทั้งสองข้าง
แม้พลังทำลายล้างจะไม่รุนแรงเหมือนคราวก่อน แต่มันก็มากพอจะทำลายเศษซากที่ร่วงลงมาได้
『10 COUNT!!』
『ENERGY! FEVER!!』
กระสุนพลังงานขนาดเท่าลูกวอลเลย์ถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วกระทบเข้ากับเศษซากพวกนั้น
ก่อนจะทำการระเบิดกลายเป็นควันสีดำจนและทำให้เศษซากพวกนั้นสลายหายไปในอากาศ
「สำเร็จ!」
จากนั้นฉันก็เปิดวาร์ปกลับมาที่พื้นก่อนกลับเป็นร่างปกติ
ความเหนื่อยล้าได้ถาโถมเข้ามาหาฉันทันที จนแทบไม่มีแรงจะทำอะไรต่อ
『CHANGE BREAK MODE』
「……แฮกๆ ……」
ฉันถึงกับหอบหายใจ
『ทำได้ดีมากคัตสึกิคุง!』
「ต้องขอบคุณเรดกับคนอื่นๆ ด้วยครับ」
『ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะนายนี่แหละที่สามารถรับมือกับสถานการณ์พวกนี้ได้』
หุ่นยนต์ยักษ์ที่อยู่ดีๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นจากท้องฟ้า ในที่สุดก็จบสักที
แต่มันก็เร็วเกินไปที่จะโล่งใจ
ฉันใช้ Lupus Dagger ป้องกันการโจมตีของ มุลตัวสีขาวที่พุ่งเข้ามาจากด้านหลังก่อนจะเตะสวนกลับไป
「อั๊ค!!」
「……ยังคิดจะสู้ต่อหรือไงฟะ? 」
「สภาพแกในตอนนี้เหนื่อยล้า!! ข้าในตอนนี้ทำได้แน่…!!」
ก็ไม่ใช่ว่าเผื่อใจไว้แล้วหรอกว่าจะโดนลอบโจมตี
แต่พอมาโดนเข้าจริงๆ มันก็อดหงุดหงิดไม่ได้
「เอาสิวะ งั้นก็มาทำให้มันจบ」
「……โอ้ววววว!!」
อีกฝ่ายไม่มีทางเอาชนะฉันได้แท้ๆ ….แล้วทำไมกันล่ะ หรือมันจะมีเหตุผลให้ต้องสู้จนตัวตาย
ไม่มีเวลามาคิดมากแล้ว
ฉันยกมีดขึ้นมาเพื่อป้องกันการโจมตีของอีกฝ่ายที่ทุ่มสุดตัว
ทว่าก่อนที่การโจมตีของมันจะมาถึงตัวฉัน กลับมีบางอย่างพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงจากด้านข้างจนทำให้ร่างของมุลตัวสีขาวกระเด็นไป
「อั๊ค!? 」
「!? ใครกัน!!」
ไรเดอร์สีน้ำเงิน ยืนอยู่แทนที่จุดที่มุลเคยอยู่
สูทที่เธอใส่นั้นแตกต่างจากสูทของบลู เพราะข้างในของอีกฝ่ายเป็นเกราะสีดำที่ถูกคลุมทับเอาไว้ด้วยเกราะสีน้ำเงินอีกที ร่างของมุลที่กระเด็นออกไปก็เป็นเพราะลูกเตะเธอนี่แหละ
「เลิกทำเรื่องที่น่าละอายใจได้แล้ว」
「ท-ทำไมกัน อย่ามายุ่งการต่อสู้ของพวกข้าสิ!!」
「ผู้ชนะได้ถูกตัดสินไปแล้ว」
พวกเขาพูดเป็นภาษาต่างดาว
ในระหว่างที่ฉันกำลังฟังคำแปลผ่านหน้ากาก ฉันก็ตั้งท่าระวังไรเดอร์สีน้ำเงินไปด้วย
『โกหกน่า สูทตัวนั้นมัน…?!』
「ครับ……? 」
『VERSION:REGULUS!? มีคนสามารถเข้ากันได้อีกเหรอ!? 』
「เรกูลัส……? 」
ฉันได้ยินเสียงประหลาดใจมาจากประธาน จากนั้นไรเดอร์สีน้ำเงินก็ค่อยๆ เอื้อมมือไปบริเวณหัวเข็มขัดก็ก่อนสับปุ่มที่ยื่นออกมาจากหัวเข็มขัดเป็นมุมทแยง
『PUNISH → L・E・O』
ไรเดอร์สีน้ำเงิน ได้ตั้งท่ากางแขนแล้วง้างไปทางด้านหลัง ก่อนจะเสริมพลังไปตรงขาของตัวเองจนทำให้พื้นที่ยืนแตกกระจาย ก่อนจะกระโดดปิดระยะเข้าหาร่างของมุลทันที แล้วใช้มือของเธอทะลวงร่างของอีกฝ่ายจนทะลุ
「ได้เวลาชำระล้าง」
『REGULUS EXECUTION……』
「อะ หา……? 」
『GAME OVER……』
เขาดึงแขนออกมาจากร่างของอีกฝ่ายพร้อมกับเลือดที่ไหลไปตามแขน
วินาทีถัดมาสายตาของอีกฝ่ายก็หันมาหาฉัน โดยไม่สนใจมุลที่ล้มลงกับพื้นก่อนสลายหายไปเป็นอนุภาค
…แม้จะคล้ายกับสูทของพวกจัสติสครูเซเดอร์ แต่ก็มีความต่างออกไปนิดหน่อย
ไม่สิน่าจะคล้ายกับของฉันเสียมากกว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือชุดสูทดังกล่าวมันดันถูกคนที่เหมือนเป็นเอเลี่ยนรุกรานโลกใช้งานอยู่
「ลำดับแห่งดวงดาราที่ 67 คอสโม่」
「……」
「ฉันไม่มีทางยอมรับ ตัวตนของนายหรอก」
เขาชี้นิ้วมาหาฉันก่อนประกาศออกมา เสียงของอีกฝ่ายผ่านหน้ากากนั้นบอกได้ยากจริงๆ ว่าอีกฝ่ายคือหญิงหรือชาย
ฉันพยายามระวังตัวมากกว่าเดิม จากนั้นคอสโม่ก็ทำการปาดเลือดสีน้ำเงินที่ติดอยู่ตรงแขนทิ้ง
ก่อนจะเคลื่อนที่จากไปด้วยความเร็วสูงจนฉันมองตามแทบไม่ทัน
「ประธาน เราต้องตาม……」
『น่าเสียดาย แต่นายไม่สามารถตามได้ทันหรอก….ให้ตายสิ ใครจะไปคิดกันว่าผลงานที่เคยสร้างดองคลังจะถูกเอาไปใช้ น่าจะทำลายทิ้งไปซะก็ดี เวรเอ้ย….โถ่เว้ย…..เอาเป็นว่าเดี๋ยวค่อยคุยกันต่อ รีบออกจากพื้นที่แล้วกลับมาสำนักงานใหญ่ซะ』
「รับทราบ」
『คงต้องให้สิ่งนั้นกับนายแล้วสิ….』
หลังเรมะตัดสัญญาณไป ฉันก็ถอนหายใจ
นั่นคือสิ่งที่เรมะเคยสร้างไว้ในอดีตสินะ แต่ตอนนี้สิ่งนั้นมันได้เล็งเป้ามาหาฉันแล้ว….คงต้องระวังตัวมากกว่าเดิม
――อย่าได้ประมาทเสียล่ะ คัตสึกิ
「ครับ……」
――แต่ก็นะ ฉันว่าอย่างแกคงไม่เป็นไรหรอก
「ฮ่าๆๆ ถึงจะพูดให้ผมสบายใจ แต่ผมก็ดีใจที่ได้ยินนะครับ」
――แค่พูดให้สบายใจงั้นเหรอ แกน่ะทำได้ดีเสมออยู่แล้ว
ฉันตอบกลับเสียงที่อยู่ภายในหัวราวกับเป็นเรื่องปกติ
「จงแกร่งกว่านี้เสีย」
มีเสียงกระซิบดังข้างหูของฉัน
แต่เมื่อหันกลับไป ก็ไม่พบใครอยู่
สิ่งที่เหลือมีเพียงความว่างเปล่าและเงียบสงบ
「……กลับกันเถอะ ชิโระ」
『……โฮก』
ฉันขี่Lupus Strikerออกจากพื้นที่ต่อสู้ทันที
นี่แหละชีวิตประจำวันของฉันที่ต้องคอยรับมือกับเหล่าเอเลี่ยนที่รุกรานโลก
แม้จะรู้สึกอยากหนี อยากจะเลิก แต่ฉันก็ต้องสู้ต่อไปเท่านั้น
————-
Note 1 : เซ็ทไรเดอร์ราศีก็มา สาวใหม่ของพระเอกแหง
Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code