อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 158 อัศวินดำช็อปปิ้ง
พี่สาวชวนคัตสึมิซังออกเดตได้สำเร็จ
ความจริงที่เกิดขึ้นช่างเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับ
แต่ที่น่าแปลกกว่านั้นก็คือพี่สาวคนนั้นดันชวนฉันเข้าไปร่วมด้วยนี่แหละ
「นี่คุณพี่สาว」
「มีอะไรหรือคุณน้องสาว」
「ทำไมหนูถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ」
ว่ากันตามตรงถึงพี่สาวจะไม่ได้ชวนฉัน ฉันก็วางแผนไว้แล้วว่าจะแอบตามไปหากพวกเขาออกไปเที่ยวกัน….แต่สุดท้ายฉันก็มาอยู่กับพวกเขาที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองโตเกียวจนได้
「โห ใหญ่สุดๆ เลยวุ้ย เป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาห้างใหญ่เบอร์นี้」
ใกล้ๆ ฉันมีคัตสึมิซังที่สวมชุดลำลองทั่วไปกำลังมองไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น
ในขณะที่ฉันมองดูเขาเสียงกระซิบจากพี่สาว ผู้ยืนอยู่ในท่ากอดอกเหมือนรูปปั้นผู้พิทักษ์ก็พูดขึ้น
「น้องสาวเอ๋ย ในฐานะพี่สาวแล้วการแบ่งปันความสุขให้ก็ถือว่าเป็นหน้าที่ไม่ใช่หรือ?」
「แต่หน้าพี่แดงไปหมดแล้วนะ」
「ฉันไม่เคยแสดงใบหน้าแบบนั้นสักหน่อย」
「จะแถว่าวันนี้แดดมันแรงหรือไง」
「……ประมาณนั้น」
พี่สาวตัวดีคนนี้มันชวนทำให้คนอื่นหัวเสียกับคำพูดและการกระทำแปลกๆ ของเธอได้เสมอ แต่ในทางกลับกันพอโดนอีกฝ่ายรุกเข้าจริงๆ ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน
แม้คัตสึมิซังจะไม่คิดว่านี่คือการออกเดต แต่สำหรับพี่แล้วมันคนละเรื่องกันเลย สภาพของเธอที่เดินเป็นวงกลมไปมารอบบ้านตลอดทั้งคืนยังติดตาฉันไม่หาย
『ฮารุจัง』
『นี่ ฮารุจัง』
『พรุ่งนี้ช่วยมาด้วยกันหน่อยสิ』
พี่สาวของฉันได้เอามือมาข่วนอยู่ที่หน้าประตูเพื่อเรียกฉันซึ่งอยู่ในห้อง ว่ากันตามตรงเหมือนโชคหล่นทับแปลกๆ ———แต่ก็ลืมไปว่านอกจากคัตสึมิซังแล้วก็มียัยพี่ตัวดีคนนี้ที่ต้องมาด้วยกันนี่หว่า และนั่นทำให้ฉันกังวลสุดๆ
สุดท้ายก็เลยพากันเดินไปมารอบบ้านจนเหมือนเป็นการทำพิธีกรรมประหลาดทั้งคืน แต่อย่างน้อยพอได้ออกไปพร้อมกันก็ไม่ต้องกลัวเรื่องสายแหละนะ
「ฮารุจังเอ๋ย จงคิดให้ดีๆ」
「หือ?」
ในขณะที่ฉันกำลังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน พี่สาวที่สวมชุดลำลองออกมาเหมือนกันก็เรียกฉัน
「หากฉันกับฮารุจังร่วมมือกัน พวกเราสองพี่น้องแข็งแกร่งที่สุด」
「พากันเรือหายสิไม่ว่า?」
「ฮารุจัง ดูเหมือนวันนี้เธอจะพูดรุนแรงกว่าปกติไปหน่อยไหม?」
แค่คิดว่าจะต้องคอยมาช่วยเหลือพี่สาวคนนี้จิตใจของฉันมันก็ย่ำแย่สุดๆ แล้ว
「อีกอย่างดูตรงนั้นสิ」
「คะ?」
ฉันหันไปมองยังทิศที่นิ้วของพี่สาวชี้ไป
ก่อนจะพบว่ามีสายตาสองคู่กำลังจ้องมองพวกฉันมาจากมุมมืดของตรอกแห่งหนึ่ง
อากาเนะซังกับคิราระซัง
『『……』』
「เชี้ย!?」
「คิดซะว่ามีเพื่อนตามมาดูแลแล้วกันเนอะ?」
「ไอ้แบบนั้นมันไม่ได้ช่วยให้สบายใจเลยเถอะ สภาพดูไม่ต่างอะไรกับตำรวจรอรวบคนร้ายเลยสักนิด!!」
แค่เห็นร่างของพวกเธอฉันก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัวแล้ว เหมือนกำลังจะถูกขบวนร้อยอสูรลากลงหลุมเลย
ฉันหันหน้าไปมองพี่สาวที่อยู่ดีๆ ก็เอามือมาคว้าไหล่ของฉันเอาไว้
「ฮารุจังรู้ตัวหรือยังว่าตัวเองก็ตกเป็นเป้าด้วย?」
「หนูตกเป็นเป้า?!」
「ฟุมุมุมุ」
ยัยพี่บ้านี่สุดท้ายก็แค่ลากฉันมาหารนี่หว่า?!
บ้าที่สุดดดดด อากาเนะซังกับคิราระซังตอนนี้ทำตัวเป็นวิญญาณอาฆาตใส่ฉันด้วยแล้วเหรอ?!
ในขณะที่ฉันบีบแก้มของพี่ด้วยมือทั้งสอง คัตสึมิซังก็เหมือนจะเห็นความผิดปกติเลยเข้ามาถาม
「มีอะไรกันน่ะฮารุ…ว่าแต่เมื่อกี้มองไปตรงไหนกัน?」
「อ่ะ เอ่อ คือ…」
เมื่อคัตสึมิซังมองไปยังตรอกที่ทั้งสองอยู่ก่อนหน้านี้ ก็ไม่พบร่องรอยของใครแล้ว
เป็นมือสังหารหรือยังไงกันพวกเธอสองคน?!
「……」
「คะ คัตสึมิซัง———」
ในขณะที่ฉันกำลังพยายามเรียกคัตสึมิซังที่จ้องมองไปยังตรอกมืด เขาก็รีบหันมาหยุดฉันเอาไว้ก่อน
「ฮารุ ตอนอยู่ข้างนอกให้เรียกฉันว่าคัตสึกิเถอะ เพราะชื่อจริงอาจจะดึงดูดคนอื่นได้」
「อ่ะ จริงด้วยสิ แล้วคัตสึกิซัง ไม่ปลอมตัวมาให้มากกว่านี้สักหน่อยจะดีเหรอคะ?」
พอฉันถามไปคัตสึมิซังก็พยักหน้าแล้วอ๋อราวกับเข้าใจที่ฉันอยากจะถาม
ฉันกับพี่ไม่จำเป็นต้องปลอมตัวก็จริง แต่คัตสึมิซังมีคนรู้จักทั้งญี่ปุ่น ไม่สิทั้งโลก ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องปลอมตัวเมื่อออกมาข้างนอก
แต่พอเห็นว่าสิ่งที่เขาสวมมาวันนี้มีเพียงแว่นตาดำกับหมวกอันหนึ่ง จึงแอบสงสัยว่ามันเพียงพอจริงเหรอ
「ไม่เป็นไรหรอก คนปกติเขาก็ไม่คิดจะมาจ้องหน้าดึงแว่นตาชาวบ้านออกหรอก แค่นี้ก็พอแล้วแหละ」
「บะ แบบนี้นี่เอง」
「อีกอย่างในกรณีฉุกเฉิน โปรโตกับชิโระก็สามารถจัดการพลางตัวฉันด้วยแสงได้ด้วย」
โปรโตจังตอนนี้กลายร่างกลับเป็นนาฬิกาสีดำติดอยู่ตรงข้อมือของคัตสึมิซัง ส่วนชิโระจังในร่างหมาป่าสีขาวก็โผล่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา
ว่ากันตามตรงฉันว่าพวกเธอนี่แหละคือบอดี้การ์ดที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้
「การขอออกไปเที่ยวข้างนอกก็ง่ายจนน่าประหลาดใจจริงๆ」
「นั่นสินะคะ ง่ายจนน่าตกใจ……」
「ประธานบอกว่า นักรบก็ต้องการการพักผ่อน」
ประธานเป็นคนใจกว้างจริงๆ ด้วย
ทั้งการจัดการความเสี่ยงพื้นฐานและดูแลคนในองค์กรไม่ว่าจะอันไหนก็สุดยอด
「ถึงจะบอกแบบนั้นพวกเรมะก็คงคอยจับตาดูฉันเพราะเป็นห่วงจากที่ไกลๆ อยู่ดีแหละ เอาล่ะ เข้าไปข้างในห้างกันเถอะ」
「อื้อ」
「ค่ะ」
เป้าหมายคราวนี้ก็คือค้นหางานอดิเรกของคัตสึมิซัง
ถึงแรงกดดันจากอากาเนะซังกับคิราระซังจะน่ากลัวไปบ้าง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า
***
葵に誘われ、モールと呼ばれる都内のデカい建物に遊びに行くことになった。
หลังถูกอาโออิชวนมาเที่ยว พวกฉันก็ตัดสินใจเดินทางกันมาที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่กลางโตเกียว
พูดกันตามตรงห้างที่ใหญ่ขนาดนี้น่าจะเคยมาแค่ตอนกำลังเด็ก แถมความทรงจำก็เลือนลางสุดๆ
สำหรับฉันนั่นคือความทรงจำที่ดี ความทรงจำที่ได้ใช้เวลาร่วมกับพ่อแม่ แต่ก็เอาเถอะเรื่องมันผ่านมาแล้วตอนนี้ก็ขอสนุกกับการเที่ยวเล่นละกัน
「ว่าแต่ที่นี่มีพวกวิดีโอหนังขายไหมนะ?」
「มันก็มีอยู่หรอก แต่คัตสึ….กิคุง ทำไมนายไม่จ่ายแบบซับบนแอพเอาล่ะ?」
「ซับ?」
มันเป็นชื่ออาหารเสริมเหรอ?
อาโออิพูดเสริมเมื่อเห็นฉันทำท่าสงสัย
「สมัครสมาชิกแอพน่ะ….มันย่อมาจากSubscription」
「ถ้าเธอใช้คำใหม่ๆ ฉันตามไม่ทันนะเออ ว่าแต่สมัครแล้วมันได้อะไรเหรอ?」
มันเป็นการบริจาคเงินเพื่อให้เขาสร้างหนังอะไรทำนองนั้นไหมหว่า หรือมันจะเหมือนสมัครเอาหนังสือพิมพ์?
「มันคือการจ่ายเงินให้กับเว็บหรือแอพที่เป็นตัวแทนฉายหนังน่ะ โดยนายสามารถดูหนังภายในนั้นได้มากเท่าที่ต้องการเลย」
「…….เอาจริงดิ แต่มันสะดวกขนาดนั้นเลยเหรอ แบบนี้ค่าสมัครต่อเดือนมันจะไม่ปาไปหลายหมื่นเลยหรือไง」
สามารถดูหนังได้เท่าที่ต้องการเนี่ยนะ
การซื้อแผ่นหนังสักเครื่องก็หลายพันเยนแล้ว
การจะดูแบบไม่อั้นได้ยังไงราคาสมัครสมาชิกมันก็ต้องเกินหมื่นแหง
「เปล่าเลย ไม่ถึงพันเยนด้วยซ้ำ」
「อ้อ มันเป็นแบบต่อวันสินะ」
「เดือนละพันเยน」
「เดือนละพันเยน!?」
ไม่จริงน่า
นี่มันผิดปกติสุดๆ เลยไม่ใช่หรือไง?!
แม้ฉันจะไม่ได้รู้จักโลกภาพยนตร์ดีนัก แต่เข้าไปดูหนังสักเรื่องอย่างน้อยในกระเป๋าก็ต้องมีสัก 1500 เยนแล้วนะ
「อันนี้เป็นแอพที่ฉันสมัครไว้」
อาโออิเปิดรายการหนังบางส่วนภายในโทรศัพท์ของเธอให้ฉันดู
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจทำไมมันมีแต่หนังแนวฉลามก็เถอะ แต่บางเรื่องฉันรู้จักเพราะพวกพนักงานเคยแนะนำให้ดู
「ว่าแต่ ฮารุที่พี่สาวเธอบอกนั่นจริงเหรอ?!เราสามารถดูหนังทั้งเดือนได้แบบไม่จำกัดด้วยเงินไม่ถึงพันเยนเนี่ยนะ?!แล้วพวกเขาจะหากำไรจากที่ไหนกัน เป็นโรงงานนรกหรือไง?!」
「……」
「ฮารุจัง ยิ้มจนปากจะฉีกแล้วนะ ไหวไหมนั่น?」
「เอ๋ เปล่าสักหน่อย」
「ชักจะเริ่มกังวลเกี่ยวกับอนาคตของฮารุจังจริงๆ」
การกดสมัครสมาชิกนี่มันจะเกิดไปหน่อยไหม
คงต้องไปบอกให้ฮาคัวกับอัลฟ่ารู้แล้วสิ
「เอาเป็นว่าเลิกเคยกันเรื่องสมัครสมาชิกแล้วไปที่ร้านหนังสือกันดีกว่า」
「ร้านนั้นก็แล้วกัน」
ฉันเช็ดหน้าผากและชวนให้พวกเธอไปร้านหนังสือ อาโออิก็เลยชี้ไปยังร้านหนังสือแห่งหนึ่ง
「ทั้งสองคนมาที่นี่กันบ่อยเหรอ?」
「ก็ไม่ได้บ่อยขนาดนั้น」
「ของฉันมักจะไปร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อดูอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับPCมากกว่าค่ะ」
จะว่าไปตอนที่เข้าห้องของฮารุไปคราวก่อนเพราะแผนของอาโออิก็จำได้ว่ารอบห้องเธอมีแต่อุปกรณ์แปลกๆ เยอะเลยนี่เนอะ
แม้จะไม่เข้าใจว่ามันทำอะไรบ้างก็เถอะ
「ร้านหนังสือ ถึงแล้ว」
「ใหญ่เหมือนกันวุ้ย」
อาจจะเป็นเพราะวันนี้คือวันหยุด คนก็เลยอยู่กันแน่นร้านไปหมด
แต่อย่างน้อยก็ไม่มีใครสังเกตเห็นฉัน ฉันจึงเดินไปหาหนังสือดีๆ สักเล่มจากชั้นวาง
「คัตสึกิคุง…จำได้ว่าชอบแนวลี้ลับ」
「อ้อ…มันก็ใช่อยู่หรอก แต่เอาจริงๆ ฉันก็ไม่ได้มีแนวที่ชอบเฉพาะหรอก จะเป็นแนวอื่นก็ได้ถ้ามันน่าสนใจ….ยกเว้นพวกสยองขวัญ」
「รับทราบ」
แน่นอนว่าฉันก็ไม่คิดจะฝากทุกอย่างไว้กับอาโออิแล้วก็หาเองด้วย
การได้มาดูหนังสืออ่านเองแบบนี้ครั้งล่าสุดก็คงเป็นตอนหายืมหนังสือมาจากห้องสมุดโรงเรียนละมั้ง
「……หื้ม」
จะมีพวกหนังสือแนวแบบทดสอบสมองอะไรทำนองนั้นไหมนะ?
หากได้ของอย่างพวกซูโดกุสักเล่มน่าจะช่วยฆ่าเวลาได้ดี
「คัตสึมิน คัตสึมิน」
「ถึงจะไม่ใช่คัตสึมิ แต่เรียกคัตสึกิเถอะ」
อาโออิวิ่งเข้ามาหาฉันพร้อมกับหนังสือในมือ
「นิยายแนวสอบสวนซึ่งคนร้ายคือผู้พิพากษาที่สวมแว่น」
「นี่หล่อนเอาจริงใช่ไหม……?」
เป็นการแนะนำหนังสือที่โหดร้านเกินไปหรือเปล่า?
คนปกติที่ไหนเขาจะมาแนะนำหนังสือแนวสืบสวนโดยบอกตัวคนร้ายให้ตั้งแต่แรกเลยล่ะเห้ย?
「ล้อเล่น เรื่องนี้ไม่มีผู้พิพากษา」
「บางทีฉันก็ขำไม่ออกกับเธอนะ」
「แต่เป็นอัยการแทน」
「หา……?」
ไอ้แบบนี้ถ้าฉันอ่านหนังสือเล่มนี้ ทุกฉากที่มีอัยการโผล่มามันจะไม่ทำให้ฉันหลอนเลยเหรอว่าหมอนี่อาจจะเป็นคนร้าย?
จากนั้นฉันก็หยิบหนังสือดังกล่าวมาดู พอให้เห็นชื่อเรื่องตรงหน้าปกแก้มของฉันถึงกับกระตุก———
「ไซบีเรียนฮัสกี้….?」
……。
「นี่เธอใช้หลักอะไรในการเลือก!?」
「เห็นว่าหน้าเหมือนกัน」
「จะไปว่าหล่อนก็เคยบอกสินะว่าหน้าของฉันมันเหมือนหมาพันธุ์นี้…..」
การเรียกคนว่าหน้าเหมือนหมามันไม่หยาบคายไปหน่อยหรือไง?
อย่างไรก็ตามหนังสือเล่มนี้ก็น่าสนใจระดับหนึ่งเพราะมันติดป้ายหนังสือแนะนำเอาไว้ด้วย ดังนั้นซื้อไปละกัน
「ที่เหลือก็เล่มนั้นสินะ…」
「หือ?」
「วิธีเลี้ยงน้องหมา」
「นี่เธอตั้งใจจะให้ฉันเลี้ยงหมาหรือไง?」
「ฉันมั่นใจว่านายจะเป็นคนเลี้ยงที่ดี」
แล้วหล่อนไปเอาความมั่นใจมาจากไหนฟะ
「ก่อนอื่นฉันไม่มีหมาสักหน่อย」
『ก็พวกเราไง』
『โฮก……』
「คงนับพวกเธอไม่ได้หรอก นอกจากนี้ฉันก็มีคิโนโกะอยู่แล้วด้วยสิ」
『『!?』』
「แต่คิโนโกะมันเป็นหมาของอากาเนะไม่ใช่เหรอ?」
ช่วงนี้ฉันพาคิโนโกะไปเดินบ่อยๆ ด้วยสิ
ก็จริงว่าพาไปเดินข้างนอกได้ไม่บ่อยนัก แต่ถ้าเป็นภายในสำนักงานใหญ่ที่กว้างขวางก็เรียกได้ว่าประจำ
「คัตสึกิซัง」
「ฮารุเองก็หามาเหรอ?」
「ค่ะ เล่มนี้!」
หนังสือที่ฮารุนำมาให้ฉันเป็นนิยายเล่มใหญ่กว่าฝ่ามือนิดหน่อย และมีรูปตัวละครแนวอนิเมะอยู่ตรงหน้าปก
「มันคือไลท์โนเวลค่ะ! ฉันคิดว่าคัตสึกิซังไม่น่าจะเคยอ่านเรื่องทำนองนี้มาก่อน」
「เข้าใจแล้ว….ขอบคุณมาก ฉันจะลองซื้อมาอ่านดู」
ไลท์โนเวลงั้นเหรอ?
「……หือ?」
ระหว่างนั้นสายตาของฉันก็สังเกตเห็นหนังสือเล่มหนึ่งบนชั้นวาง
หนังสือปกดำ ที่ติดตัวหนังสือขนาดใหญ่ว่า 【ความลับของอัศวินดำ?!】 แค่ชื่อเรื่องมันก็สะกดสายตาของฉันเอาไว้แล้ว
「อิหยังวะเนี่ย」
【อัศวินดำคือเจตจำนงแห่งดาวโลก】
เพื่อจะเริ่มคุยกันถึงเรื่องนี้พวกเราคงต้องกลับไปพูดเรื่องของสัตว์ประหลาดเสียก่อน
สัตว์ประหลาดคืออะไรกัน
เมื่อทีมงามของพวกเราได้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เป็นไปได้ว่าพวกสัตว์ประหลาดคือผู้รุกรานที่กำเนิดมาจากนอกโลก
หรือก็คือพวกเอเลี่ยนในอวกาศคือสัตว์ประหลาดนั่นเอง
แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของมันจะเป็นเหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาบนโลก แต่ระบบนิเวศของมันนั้นผิดเพี้ยนเกินไปและเป้าหมายของพวกมันที่ต้องการฆ่าล้างมนุษย์โลกก็แปลกเกินไป
มนุษย์โลกคือเผ่าพันธุ์ที่ได้รับการปรับแต่งพันธุกรรมโดยสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว
มนุษย์โลกคือตัวตนที่ได้รับการปกป้องจากสิ่งมีชีวิตต่างดาว
ความจริงแล้วสิ่งมีชีวิตต่างดาว หาได้มีสติปัญญาสูงกว่ามนุษย์โลก
สิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในสมมติฐานมากมายที่กล่าวถึงสิ่งมีชีวิตต่างดาว แต่เป้าหมายที่ต้องการจะบอกก็คือ สิ่งมีชีวิตที่ผิดปกติทั้งหลายล้วนกำเนิดมาจากนอกโลกของเรา
ทีนี้กลับมาเข้าประเด็นก่อน
อัศวินดำคือนักรบแห่งดาวโลกที่กำเนิดมาเพื่อกำจัดสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่เราเรียกกันว่าสัตว์ประหลาดซึ่งหมายจะกลืนกินดาวโลก
เหตุผลที่เขาถือกำเนิดมาเพราะดาวโลกเห็นว่าประสิทธิภาพของอาวุธที่พวกเรามีในปัจจุบันไม่สามารถทำอะไรกับสัตว์ประหลาดได้
มีความเป็นไปได้สูงว่าอัศวินดำผู้สามารถต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาดได้อย่างง่ายดาย จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างออกไปจากชาวโลกปกติ ไหนจะสูทที่เขาใช้งานซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เกินความวิทยาศาสตร์ของดาวโลกในปัจจุบันจะอธิบายได้
「นี่มันบ้าอะไรฟะ」
ทำไมหนังสือเล่นนี้มันถึงได้เขียนเหมือนชักแม่น้ำทั้ง 5 มารวมกันให้ดูน่าเชื่อถือ แต่มันเป็นข้อมูลปลอมหมดเลยละเห้ย…..
แล้วฉันก็กลับมาดูหน้าปกอีกรอบ ไม่ว่าจะมองมุมไหนมันก็เหมือนหนังสือล่อเป้าชัดๆ
「โอ้ เล่มนี้ฉันตามเก็บอยู่นะ」
อาโออิพูดขึ้นหลังเห็นหนังสือที่อยู่ในมือฉัน
「ไอ้นี่มัน……」
「หนังสือแนวให้ความบันเทิงเกี่ยวกับการไล่ตามความลับของอัศวินดำ」
「ความลับของฉัน……? ถามจริง……?」
แต่ไอ้ที่เขียนในนั้นมันไม่ใช่ความลับสักอย่างของฉันเลยนะเห้ย
เจตจำนงแห่งดาวโลกบ้านใครฟะ
「นี่คนอื่นคิดกับฉันแบบนี้จริงดิ……」
「หนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ไว้นานแล้ว ดังนั้นข้อมูลก็เลยอาจจะเก่าไปสักหน่อยน่ะ」
「ใช่แล้วค่ะ สำหรับคนที่หลงใหลในอัศวินดำตอนนั้นฉันเดาว่าคงจะเชื่อเรื่องที่ในหนังสือเขียนแน่ๆ」
ฉันเริ่มเข้าใจแล้วว่าคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับฉันไปมากแค่ไหน
ฉันวางหนังสือกลับไปที่ชั้นวางพลางทำใจว่ามันไม่ใช่เรื่องของฉัน———ก่อนที่ฉันจะเหลือบไปเห็นบางสิ่งใกล้ๆ
『ความจริงเกี่ยวกับอัศวินดำ!』
『ใกล้ชิดกับอัศวินดำⅡ!!』
『วิเคราะห์! สารานุกรมอัศวินดำ!!』
「……」
เอาเป็นว่าฉันไม่เห็นมันก็แล้วกัน
ฉันเดินจากชั้นวางหนังสือตรงนั้นออกมาพร้อมกับอาการขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
—จบ—
อาโออิต้องการคนหารหลังจบเรื่อง ซึ่งน้องสาวคือตัวเลือกที่ดี
อาโออิชอบชาร์คนาโดแหง
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code