อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 144 โลกคู่ขนาน 21 (บทจบ)
ผ่านไป 3 วันนับตั้งแต่ฉันฟื้นขึ้นมา
ในช่วงเวลานี้ก็มีงานเลี้ยงฉลองงานเลี้ยงขอบคุณอะไรต่างๆ มากมาย
ไหนจะเรื่องที่อาโออิแอบขึ้นเตียงฉันตอนดึกๆ ดื่นๆ
ไหนจะเรื่องที่ เร็กซ์ อากาเนะ และฉันถูกทุกคนในฐานยอมรับว่าเป็นพี่น้องกันจริงๆ ไปแล้ว
ฮารุกับคิราระก็กลายมาเป็นพิธีกรออกอากาศในสถานีวิทยุของฐานทัพโดยลากฉันไปเป็นแขกประจำรายการ
———มีแต่เรื่องที่น่าตกใจซึ่งไม่มีทางเจอได้ในโลกของฉันก็จริงแต่ฉันก็อยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว นอกจากนี้ฉันก็บอกวิธีกลับให้เรมะรู้แล้วด้วย
ก็ง่ายๆ เพียกแค่เรียกชื่อของรูอิน
ก็จริงว่ามันรู้สึกแปลกๆ แต่เพื่อจะกลับโลกเดิมของฉัน ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยืมพลังยัยนั่น
อันที่จริงหากเป็นร่างที่ฉันใช้อยู่ตอนนี้มันก็น่าจะทำได้เหมือนกันแหละ แต่ฉันอยากจะหลีกเลี่ยงการแปลงเป็นร่างเจ้าปัญหานี้แปลกๆ
「คงจะลากันตรงนี้แหละ」
ดาดฟ้าที่ประจำ
พวกเราตัดสินใจจะอำลากันที่นี่ สถานที่ที่มักจะมาอยู่เป็นประจำ
ทางนั้นมีอากาเนะ คิราระ อาโออิ เรมะ ฮารุ
ส่วนทางฉันก็ ฮิลด้า กับเร็กซ์
「คัตสิมิคุงแน่ใจแล้วสินะ?」
「ก็ น่าจะแหละ」
ดาดฟ้าที่ไร้ซึ่งสิ่งใด ฉันก้าวไปข้างหน้าแล้วสูดหายใจก่อนจะเรียกชื่อนั้นออกมา
「รูอิน ฝากด้วย」
ทันใดนั้นเองประตูมิติสีขาวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเรา
มันเหมือนกับกระแสน้ำวนที่ดูบิดเบี้ยวไปมาก็จะแปรเปลี่ยนเป็นภาพของเมืองที่ผู้คนพลุกพล่าน ภาพที่ฉันไม่มีทางได้เห็นบนโลกนี้
「โลกของนายรออยู่ตรงหน้าแล้ว」
「เรมะ」
「อ้า ฉันรู้ ตอนนี้กำลังบันทึกข้อมูลไว้อยู่」
ถึงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเลียนแบบพลังของรูอินด้วยวิทยาศาสตร์แต่อย่างน้อยก็คงเป็นเบาะแสในการเชื่อมมิติได้
「……เป็นอะไรที่แปลกสุดๆ」
เรมะพูดขึ้นหลังเห็นประตูมิติที่สร้างขึ้นโดยรูอิน
「จนถึงเดือนก่อน พวกเราควรจะตกอยู่ภายใต้ความสิ้นหวังแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับมาความหวังมากมายเหลือเกิน」
「เรมะ……」
「ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณนาย เป็นเพราะนายที่เปลี่ยนโชคชะตาและกอบกู้โลกของพวกเราเอาไว้」
「ไม่ใช่แค่เพราะฉันหรอก แต่เป็นเพราะพวกนายไม่ยอมแพ้จนฉันมาถึงต่างหาก」
อากาเนะ คิราระ อาโออิ เรมะ กลุ่มต่อต้าน
เพราะพวกเขายังต่อสู้ ฉันจึงมาได้ทันเวลา
หากขาดองค์ประกอบพวกนี้ไปแม้สักนิด สถานการณ์อาจจะเปลี่ยนไปเลยก็ได้
「ฉันคิดว่าเริ่มเข้าใจแล้ว ว่าทำไมตัวฉันในโลกของนายถึงเรียกนายว่าเพื่อน」
「ตอนนี้พวกเราก็ไม่ต่างกับเขาหรอกน่า」
「อ้า」
ฉันยื่นมือไปจับกับเรมะ
จากนี้มันคงจะลำบากไปบ้าง แต่ตราบใดที่เขาอยู่เคียงข้างโลกใบนี้ ทุกอย่างคงจะออกมาโอเค
「พวกเธอเองก็พยายามได้ดีมาก」
หลังจากเรมะก็เป็นพวกอากาเนะ
อากาเนะกับคนอื่นๆ ก็ทำตัวไม่ถูกหลังฉันพูดออกไป
ทางฮารุก็ร้องไห้
「ฮารุ」
「คะ」
「จากนี้ไปผู้คนคงต้องการคนแบบเธอ คนที่ทำให้คนอื่นยิ้มออกมาได้ พยายามเข้าล่ะ」
แม้โอเมก้าจะตายไปแล้ว แต่ภัยคุกคามก็ยังไม่หมดลง
สำหรับคนบนโลกนี้พวกเขาจะต้องสู้ต่อไปอีกในอนาคต และฮารุคือตัวตนที่ขาดไม่ได้ในการสร้างขวัญกำลังใจ
ฮารุพยักหน้าให้ก่อนจะเช็ดน้ำตา ฉันที่เห็นก็ยิ้มแล้วมองไปทางอาโออิ
「อาโออิ เธอก็อย่าไปกวนฮารุให้มากล่ะเข้าใจไหม?จากนี้ก็พยายามใส่ใจสิ่งที่อยู่รอบตัวเสมอล่ะ แล้วอย่าได้เสียตัวตนของตัวเองไปอีกเป็นตัวของตัวเองน่ะดีที่สุดแล้ว」
「หมายความว่านายชอบฉันที่เป็นแบบนี้เหรอ?」
「หือ?อ้า ก็ชอบนะ」
「!!??!!」
「พ-พี่สาวจะเป็นลมไปแล้ว!!?」
ใบหน้าของอาโออิเปลี่ยนเป็นสีแดงสดในทันที ก่อนจะเซไปหาฮารุ
「……เป็นอะไรไปน่ะ?」
「ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่เขาเป็นพวกอัพดาเมจเพียว เกราะป้องกันก็เลยต่ำ….」
มันหมายความว่ายังไงฟะ?
แต่ เอาเถอะคงไม่น่ามีอะไรต้องเป็นห่วง
「คิราระ…ตอนนี้เธอไม่เป็นไรแล้วสินะ?」
「ค่ะ ไม่มีอะไรให้คัตสึมิซังต้องเป็นห่วงอีก เพราะยังไงทุกคนที่นี่ก็คือครอบครัวของฉัน อันที่จริง…ฉะ..ฉันก็อยากให้คุณมาเป็นหนึ่งในนั้นนะคะ」
「พวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้วนี่」
「!!??!!」
「ยะ เยลโล่วววววว!?ร่วงไปอีกหนึ่งเหรอ?!」
เหมือนกับอาโออิ คราวนี้เป็นเรมะที่เข้าไปช่วยพยุงคิราระเอาไว้
อะ อีกแล้วเหรอ?
「เอ่อ……」
「ไม่ต้องคิดมากหรอก นายต่อได้เลย」
「โอะ-โอ้」
แค่บอกว่าครอบครัวนี่มันต้องขนาดนี้เลยเหรอ
ว่าแต่ ทางนั้นบอกก่อนเองด้วยไม่ใช่หรือไง…..
「สุดท้ายก็อากาเนะ เธอ…อุ้ก」
ก่อนจะได้พูดอะไรต่อ อากาเนะก็กระโดดเข้ามาซบอกของฉัน
ส่วนของของเธออยู่ประมาณคางของฉัน เธอเอาแก้ก้มหน้าไม่พูดอะไรสักคำ
「……」
ฉันเองก็รู้ดีว่าถึงจะเป็นเธอก็คงมีช่วงเวลาลำบากเหมือนกัน ฉันจึงลูบหัวอากาเนะเบาๆ
「อื้อ ประมาณนี้ละกัน!!」
「ดีขึ้นแล้วใช่ไหม?」
หลังผ่านไปประมาณหนึ่งนาที อากาเนะก็ถอยออกมาแล้วยิ้มอย่างเขินๆ ให้กับฉัน
「เต็มปอดเลยค่ะ!!」
「เอ๋……?」
「หุหุหุหุ!!」
….เอ่อ เอาเถอะ ถ้าพอใจก็แล้วไป
『โฮก (ได้บันทึกไว้ไหม?) 』
『เรียบร้อย….ว่าแต่อากาเนะโลกนี้รุกหนักกว่าโลกนั้นอีก….…』
ความรู้สึกของการมีน้องสาวมันเป็นประมาณนี้นี่เอง
เพราะโลกของฉันพวกเราอายุพอๆ กัน แต่พอเธออายุน้อยกว่าแล้วความรู้สึกมันก็เปลี่ยนไปด้วยสิ
「ถึงฉันจะอยากไปโลกของคัตสึมิซังทันทีเลย แต่ยังไงก็คงต้องพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อโลกใบนี้ก่อนค่ะ」
「อย่าคิดจะแบกรับอะไรไว้เพียงลำพังเชียวล่ะ….เชื่อมั่นและพึ่งพาพวกพ้องซะ นั่นคือสิ่งที่เธอในโลกของฉันสอนมา」
「ตัวฉัน……ในโลกนั้น」
ฉันวางมือไว้บนหัวของอากาเนะและพยักหน้าให้เธอ
———แอบกลัวเหมือนกันวุ้ยว่าถ้ากลับโลกเดิมไปจะเผลอทำอะไรแบบนี้กับพวกเธอ
…เอาล่ะ ในเมื่อบอกลากันเสร็จแล้ว ตอนนี้ก็———
「คัตสึมิ」
「เร็กซ์?」
ก่อนที่ฉันจะกลับเข้าไปในประตูมิติ เร็กซ์ก็เรียกฉันเสียก่อน
อันที่จริงฉันก็พอเดาได้แล้วแหละว่าเร็กซ์จะทำอะไร เธอค่อยๆ เดินออกไปจากตรงหน้าประตูมิติ แล้วไปยืนอยู่ข้างๆ พวกอากาเนะ
「ฉันว่าฉันจะอยู่โลกนี้ต่อ」
「คิดไว้นานแล้วล่ะสิ」
「จากท่าทางนั่น…คงรู้แต่แรกแล้วสินะ อ้า ว่ากันตามตรงพลังของฉันไม่จำเป็นในโลกของนายหรอก แถมจะสร้างปัญหาตามมีอีกเยอะด้วยซ้ำ」
ฉันก็คิดไว้นานแล้วว่าหากเป็นเธออาจจะเลือกเส้นทางนี้
พอมองย้อนกลับไปเร็กซ์อยู่ในลำดับแห่งดวงดาราเสียด้วย
ถึงจะย้ายฝั่งแล้วแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย เธอกลายเป็นคนทรยศที่อาจจะถูกล่า ดังนั้นให้อยู่ดูแลพวกอากาเนะที่โลกนี้คงจะดีกว่า
「เหนือสิ่งอื่นใดคือฉันกังวลเกี่ยวกับแกนพลังงานแห่งดวงดาราที่เรมะ คาเนะซากิดูแลด้วย」
「นะ นี่ไม่เชื่อใจกันขนาดนั้นเลยเหรอ?」
「ในฐานะผู้เฝ้ามองแล้ว การที่ร่างกายที่ไม่มีวันแก่ตายก็เป็นประโยชน์นะ…..นอกจากนี้จะช่วยฝึกลูกเจี๊ยบพวกนี้ด้วย」
….ตอนนี้เร็กซ์คงจะเจอเป้าหมายใหม่ในชีวิตของตัวเองแล้ว
「ถ้าเธอพูดมาขนาดนี้ฉันก็ไม่คิดจะขัดหรอก…จริงสิ อย่าคิดจะสูบบุหรี่หรือดื่มอีกเชียวล่ะ」
「ระ เรื่องเมื่อตอนนั้นมันเป็นเพราะฉันสิ้นหวังต่างหาก….แถมถึงจะพยายามแล้วมันก็ล้มเหลวทั้งคู่เลยเถอะ….เฮ้อ….พอมองย้อนกลับไปแล้ว ฉันดีใจจริงๆ ที่ได้เจอกับนายตอนนั้น นี่คือความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจเลย」
เรื่องราวในตอนที่คิโนโกะลากฉันหาไปเธอสินะ
ฉันเองก็คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมาอยู่จุดนี้ได้ แต่ก็ดีใจที่มันจบลงด้วยดี
「อ้า จริงสิ」
「?」
ราวกับนึกอะไรขึ้นได้ เร็กซ์ได้หยิบอุปกรณ์บางอย่างออกมาจากกระเป๋าแล้วเปิดการใช้งานด้วยมือข้างเดียวของเธอ
「ฉันจะส่งพิกัดนี้ให้กับนาย หากนายกลับไปถึงแล้วฉันอยากจะให้นายไปจัดการของที่ซ่อนอยู่หน่อยน่ะ」
「ของที่ซ่อนอยู่?」
พอถามแบบนั้นไปเร็กซ์ก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออกมา
แต่มันก็เป็นรอยยิ้มที่ดูจริงใจและอ่อนโยนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นเธอแสดงออกมา
「เจ้าตัวพูดมากน่ารำคาญ……และเพื่อนของฉัน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้นายช่วยเก็บเขาไปดูแลทีน่ะ」
「อ้า ได้สิ」
หลังยืนยันพิกัดได้แล้ว ฉันก็หันกลับไปมองทุกคนที่อยู่รอบๆ
「ฉันไม่คิดว่านี่คือการร่ำลาครั้งสุดท้ายหรอกนะ เอาไว้เจอกันใหม่ในวันที่สามารถเชื่อมจักรวาลของพวกเราได้ก็แล้วกัน」
「ค่ะ! แล้วพบกันใหม่นะคะ!! คัตสึมิซัง!!」
「อ้า สัญญาเลย」
หลังกล่าวลาเสร็จฉันก็หันไปหาฮิลด้าและพยักหน้าให้กัน
เพราะกลัวว่าจะลังเลหากอยู่ต่อนานกว่านี้ ฉันจึงรีบก้าวเข้าไปภายในประตูมิติทันที
***
ทันทีที่ฉันก้าวผ่านประตูมิตินั้นไป ฉันก็กลับมายังโลกของตัวเองทันที
ภาพที่เห็นคือสี่แยกกลางเมืองที่คุ้นตา
แถมประตูมิติดังกล่าวยังดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินไปมามากซะด้วย พวกเราก็เลยหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายกันยกใหญ่
「นี่เป็นโลกที่ฉันรู้จักสินะ?」
ถึงจะไม่ได้สงสัยในพลังของรูอิน แต่ก็แอบกังวลนิดหน่อย
ในขณะที่ฉันกำลังจะตรวจสอบเรื่องนี้กับโปรโต ฮิลด้าก็พูดขึ้นมาเสียก่อนราวกับสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
「คัตสึมิคุง เหมือนพวกเราจะกลับมาโลกเดิมจริงๆ แล้ว ดูนั่นสิ」
「หือ?」
ฮิลด้าชี้ไปตรงจุดหนึ่ง
พอหันไปตามที่เธอชี้ก็พบว่าภาพของฉันกำลังฉายอยู่บนจอขนาดใหญ่ที่ติดกับอาคารแห่งหนึ่ง
『ผ่านไปเป็นเวลา 10 วันแล้วตั้งแต่อัศวินดำหายตัวไป!! เขาหายไปไหนกัน?!』
ดูเหมือนจะเป็นข่าวการหายตัวไปของฉัน
ก็แปลว่า….
นี่คือโลกที่ฉันอยู่จริงๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
「เอาละ งั้นคงต้องติดต่อเรมะ———」
「คัตสึมิคุง」
「หือ? มีอะไรเหรอ?」
ฮิลด้าค่อยๆ เดินห่างออกไปจากตัวฉัน
ภายในมือของเธอตอนนี้มีเข็มขัดอยู่ การกระทำแบบนี้———ฉันรู้ได้ทันทีว่าเธอต้องการอะไร
「เอามันตอนนี้เลยเหรอ?」
「แน่นอนสิ หลังจากนายรุกฉันขนาดนั้นใครจะทนไหว」
「ก็บอกว่าไม่ได้รุกไม่ได้จีบอะไรสักหน่อยเห้ย」
「สำหรับฉัน สถานที่ที่มีผู้ชมอยู่เยอะ ———จะเหมาะสบกันฉันมากกว่าน่ะ」
แย่สุดๆ ยัยนี่
มาสู้กันกลางเมืองที่มีคนเดินไปมามันจะไปดีได้ยังไงฟะ
แต่ท่าทางฮิลด้าไม่คิดจะฟังฉันเลย
『SCREAM DRIVER』
เข็มขัดสีชมพูพันรอบเอวของเธอ
『BE STEEPED IN VISE……』
『SCREAM……SCREAM……SCREAM!!』
『POLLUTION……』
ร่างสีชมพูแบบดั้งเดิม ร่างที่สูญเสียแกนพลังงานแห่งดวงดาราไป
เมื่อเห็นร่างของเธอที่เป็นแบบนั้น ฉันก็เตรียมจะใช้ชิโระในร่างLupus Driver
「ชิโระ มาลุยกันเลย」
『โฮก!!』
『LUPUS DRIV……จี้ จี้ แซก』
———มีเสียงรบกวนดังออกมาจากเข็มขัดฉัน
「……อะไรกัน?」
ในขณะที่ฉันรู้สึกถึงความผิดปกติ แสงสีทองก็ส่องออกมาจาก Lupus Driver
ไม่ใช่แค่Lupus Driverและอุปกรณ์แปลงร่างที่มือของฉันก็เปล่งแสงสีแดงออกมาด้วย?!!
『โฮก!?』
『เดี๋ยวก่อนสิทำไมถึง!!』
ชิโระที่กลายเป็นหัวเข็มขัดได้ถูกปลดออกจากมือของฉันแล้วพุ่งเข้าไปรวมร่างกับโปรโตที่อยู่ตรงแขนของฉัน
จากนั้นหัวเข็มขัดของฉันก็เปลี่ยนไปเป็นสีแดงดำที่แสนคุ้นเคย ก่อนมันจะลอยมาอยู่ตรงหน้าฉัน
「เดี๋ยวสิเห้ย ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้สักหน่อย!!」
「คะ คัตสึมิคุง!?」
PRTO 1 X TRUTH
『GEMINI>X<DRIVER』
「โถ่เว้ยยยยย!?」
บัดซบต้านมันไม่ได้เลย!!
หัวเข็มขัดถูกบังคับติดตั้งที่เอวของฉัน จากสั้นแสงสีแดงก็แผ่กระจายไปรอบตัวของฉัน
จะบอกว่ามันคือราคาที่ต้องจ่ายสำหรับร่างนี้เหรอ?!
****
อธิบายท้ายตอน
【Gemini X : ข้อเสียของการแปลงร่าง】
เนื่องจากความเข้ากันได้ที่สูงจนเกินไป คัตสึมิจึงไม่สามารถใช้โปรโตกับชิโระแบบแยกจากกันได้อีกแล้ว ทุกครั้งที่เขาจะแปลงร่างระบบจะทำการบังคับให้เขาใช้Gemini X
—จบ—
จบกันไปแล้วกับบทโลกคู่ขนานครับ 21 ตอน น่าจะเป็นบทที่ผมรู้สึกอ่านแล้วสนุกที่สุดละพลังลงตอนใหม่เลยเยอะ
รอวันที่ทั้งสองโลกจะมาเจอกันไม่ไหวแล้วคงบันเทิงน่าดูแถมสาวๆ โลกนั้นแอบน่ากลัวกว่าด้วยสิ
ทว่าพอกลับมาถึงโลกนี้ปัญหาใหม่ก็ตามมาทันที คัตสึมิจะทำยังไงกับร่างOhma Zioกันนะ
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code