อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 136 โลกคู่ขนาน 13
ทิวทัศน์ที่แตกต่างไปจากความทรงจำ
ความรู้สึกที่แปลกไปจากเดิม แต่เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ในปัจจุบันมันก็ถือว่าถูกต้องแล้ว
ฐานทัพใหม่ที่คัตสึมิเปลี่ยนให้กลายเป็นสถานที่สุดสมบูรณ์แบบสำหรับมนุษย์ ฐานที่ต่างไปจากที่พวกฉันเคยอาศัยอยู่ในความทรงจำ
「……เห้อ」
ก่อนหน้านี้ฉันได้ไปหาคัตสึมิที่ห้องของเขาเพื่อพูดคุยแผนการอนาคตอีกรอบ
สุดท้ายก็สรุปกันได้ว่าพวกเราน่าจะต้องกำจัดสัตว์ประหลาดของโลกให้หมดเสียก่อน ค่อยหาทางกลับไปโลกเดิมอีกที
「ท่าทางของเขาไม่ได้กังวลเลยสักนิด」
การพูดว่ามีวิธีกลับโลกเดิมมันอาจจะง่าย แต่ในทางการกระทำแล้วความสามารถท่องมิติไม่ใช่ของที่หาได้ง่ายสักหน่อย
ต่อให้ค้นไปทั่วจักรวาลก็ใช่ว่าจะเจอด้วยซ้ำถึงแบบนั้นเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีกังวลออกมาเลย
「…เอาเป็นว่าไปหาเรมะ คาเนะซากิต่อละกัน」
ได้ยินว่าคัตสึมิทำการรักษาเขาเรียบร้อยแล้ว ฉันก็เลยอยากไปเห็นสภาพจริงๆ ของเขาสักหน่อย
หากร่างกายของเขากลับมาอยู่ในช่วงที่สมบูรณ์ที่สุด อุปกรณ์และสูทขับเคลื่อนของฉันในโลกนี้คงพัฒนาไปไกลกว่าเดิม
ในขณะที่เดินแล้วคิดเรื่องพวกนี้ ร่างที่แสนคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นตรงหัวมุมทางเดิน
「……」
「……」
อากาเนะ อาราซากะ
ฉันคิ้วขมวดทันทีที่เห็น ตัวฉันอีกคนซึ่งอาศัยอยู่บนโลกนี้
แถมอีกฝ่ายยังแสดงสีหน้าแหยงไม่ต่างกับฉัน ฉันก็เลยเมินเธอแล้วเดินต่อ แต่ไม่รู้ทำไมทางที่พวกเราตรงไปดันเป็นทางเดียวกันซะงั้น
「เธอจะตามฉันมาทำไม」
「ก็แค่ไปทางเดียวกันหรอกย่ะ」
「เห้อ」
แปลว่ายัยนี่ก็มีธุระกับเรมะ คาเนะซากิสินะ
「คงไม่ได้คิดจะมาเสมอให้เสริมแกร่งอุปกรณ์อะไรแปลกๆ หรอกใช่ไหม?」
「อึก」
แม้ไม่อยากจะยอมรับ
แต่นั่นก็เป็นตัวฉันอีกคน ความคิดความอ่านคงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก
「พอเห็นแบบนี้รู้สึกแย่ชะมัด เธอช่วยใช้ชีวิตโดยนึกถึงตัวเองบ้างเธอ」
「……พูดเหมือนเธอทำงั้นแหละ?」
「ก็ไม่ปฏิเสธหรอก」
แทนที่จะบอกว่าไม่คิด ของฉันเลวร้ายกว่าฝั่งเธอมากหลายเท่าด้วยซ้ำ
「อันที่จริงฉันอายุเกิน 100 ปีแล้วด้วยซ้ำ」
「หา!? ตะ แต่ใบหน้ารูปร่างของเธอมัน……」
อายุทางกายภาพของฉันหยุดในช่วงประมาณ 20 กลางๆ
นั่นน่าจะเป็นจุดที่ร่างกายของฉันคิดว่าเซลล์ทั้งหมดอยู่ในจุดที่ดีที่สุด
อันที่จริงฉันเองก็ไม่เคยตรวจสอบหรอกว่าเพราะอะไร
「ฉันบอกเธอไปแล้วใช่ไหมว่าโลกของฉันมันจบยังไง ทั้งคิราระที่ระเบิดตัวตาย อาโออิที่ผลาญพลังชีวิตจนหมดสิ้น」
「……อ้า」
「เพราะเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น ฉันก็เลยตัดสินใจใช้เซลล์ของโอเมก้า ที่เรมะ คาเนะซากิแอบสร้างขึ้นมาใช้งานและเลิกเป็นมนุษย์ไป」
「อะไรกัน……นี่เธอ」
「ฉันไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว」
กลุ่มต่อต้านล่มสลาย อาโออิก็เหลือเวลาอีกไม่มาก กองกำลังศัตรูที่นำโดยโอเมก้าก็แข็งแกร่งเกินไป
ความหวังสำหรับมนุษยชาติไม่เหลืออยู่เลย ทางเลือกเดียวของฉันคือการยอมจำนนต่อพวกสัตว์ประหลาดแล้วตาย หรือไม่ก็สู้ขาดใจก่อนตายเหมือนหมาข้างถนน
「ฉันได้เดินในเส้นทางที่ผิด ใช้ชีวิตอย่างไร้ความหมาย สุดท้ายฉันก็กลับมายังโลกในฐานะศัตรูของคัตสึมิ แถมยังตั้งใจจะฆ่าเขาอีก」
「ชักจะตามเรื่องที่เธอพูดไม่ทันแล้วสิ」
「ไม่เป็นไรหรอก…เธอไม่จำเป็นต้องเข้าใจเรื่องพวกนี้เลย」
ฉันไม่ได้ต้องการความเห็นใจจากตัวเองอีกคน และอากาเนะ อาราซากะที่อยู่ตรงหน้าฉันก็กำลังจะได้เดินในเส้นทางที่ต่างไปจากตัวฉัน
ไม่ว่าโลกนี้จะมีฉากจบเช่นไร เธอก็จะไม่กลายเป็นสัตว์ประหลาดแบบฉันแน่นอน
「เอ่อ คือ」
「หือ」
「อัศวินดำ…..ไม่สิตัวฉันในโลกนั้นเป็นยังไงเหรอ?มันแตกต่างจากโลกของพวกเราใช่ไหมล่ะ?」
「……อ้า」
อากาเนะ อาราซากะในโลกของคัตสึมิ
นักดาบที่มีฝีมือทัดเทียมกับตัวฉันที่ฝึกฝนมานับร้อยปี แถมเจตนาฆ่าที่เธอมีอยู่ก็โหดสุดๆ
ความแข็งแกร่งของเธอแม้จะไร้ซึ่งสูทแปลงร่างก็สามารถแสดงออกมาให้เห็นได้
「ความสามารถในการฆ่าพวกสัตว์ประหลาดเหมือนจะถูกขัดเกลามาให้ดีกว่าฉัน แถมไม่รู้ทำไมเธอถึงสามารถใช้เทคนิคแปลกๆ ที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนในการฆ่าพวกมันลงได้」
「ทั้งที่ใส่สูทและโพสต์ท่าแปลกๆ แบบนั้นน่ะเหรอ……」
「ถึงมันจะดูพิลึก แต่ความสามารถของสูทที่เรมะ คาเนะซากิสร้างขึ้นก็เป็นของจริง พลังและความสามารถของสูทนั่นเหนือจากสูทขับเคลื่อนที่พวกเธอใช้หลายเท่า」
ในมุมนี้จะบอกว่าสมองของเรมะ คาเนะซากิน่ากลัวสุดๆ เลยก็ได้
หากเขามีเวลาอีกสักหน่อย เขาก็จะสามารถสร้างสูทที่ทำให้มนุษย์สามารถต่อสู้กับพวกสัตว์ประหลาดได้อย่างง่ายดาย
「นอกจากนี้……」
ในขณะที่ฉันกำลังจะเล่าเรื่องอากาเนะ อาราซากะในโลกนั้นต่อ อยู่ดีๆ ฉันก็นึกถึงเรื่องน่าตกใจที่คัตสึมิเล่าให้ฉันฟังตอนคุยกันที่สวนสาธารณะขึ้นมาได้
「อะไรเหรอ?」
อากาเนะถามฉันที่อยู่ดีๆ ก็เงียบไป
「…ข้ามไปน่าจะดีกว่า」
「ทะ ทำไมล่ะ?คะ คงไม่ใช่ว่าตัวฉันในโลกนั้นมันทำเรื่องน่าอายกว่าที่เห็นหรอกนะ?!」
「ไม่หรอก แต่มันค่อนข้างจะอืม….」
「แต่สีหน้าและท่าทางของเธอมันสุดๆ ไปเลยนะ นี่บอกมาเถอะฉันอยากจะรู้จริงๆ!?」
ฉันจะพูดได้จริงๆ เหรอ ส่วนตัวฉันก็ไม่ค่อยอยากเลยแฮะ
หากเล่าให้เธอฟังไปอาจจะตกใจก็ได้
「แน่ใจนะว่ารับไหว?」
「……อื้อ ยังไงก็เป็นเรื่องของตัวฉันนี่นา」
…ถ้าเธอไหวฉันก็จะเล่า
「คัตสึมิบอกว่า อากาเนะ อาราซากะในโลกนั้นเป็น….」
「เป็น……」
「ปีศาจที่ถูกเรียกว่าฮิโตคิริสีเลือด」
「……」
「ตะกละ」
「……」
「เห็นแก่ตัว」
「……」
「มีนิสัยชอบทำตัวเหมือนเด็กขวบเขียว」
「ฟังแล้วปวดหัวใจชะมัด ยัยนั่นมันตัวฉันจริงเหรอ มันต่างจากที่คิดไว้เกินไปหน่อยไหม」
ขาของเธอสั่นเหมือนกับลูกกวางเมื่อได้ยินเรื่องที่น่าตกใจสุดๆ
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเธอที่เดินในเส้นเวลาที่ต่างกันได้
「นอกจากนี้เธอยังเป็นพี่สาวบุญธรรมของคัตสึมิอีกด้วย」
「พี่สาวบุญธรรม!? กะกะกะ โกหกใช่ไหม!?」
「เขาเป็นคนบอกกับฉันเอง」
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
ตัวตนของเราในโลกนั้นมันต่างกับพวกเราสุดๆ
ฉันที่รู้เรื่องนี้ก็รู้สึกหัวเสียไม่น้อยกับความต่างนี้ มันเหมือนกับตัวเราในโลกนั้นได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าใครเพื่อน
「……ก็ประมาณนั้น」
「น้องชาย…คัตสึมิซังคือน้องชายของฉัน….」
คิดถูกไหมที่เล่าให้เธอฟัง….
เพราะอายุของอากาเนะในโลกนี้มันห่างจากอายุของอากาเนะอีกโลกถึง 2 ปี องค์ประกอบแปลกๆ อย่างการที่พี่สาวอายุน้อยกว่าน้องชายของตัวเองเลยถือกำเนิดขึ้น
———ในขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้พวกเราก็เดินทางมาถึงห้องที่เรมะ คาเนะซากิอยู่
ฉันไม่สนใจอากาเนะที่ยังคิดอะไรอยู่กับตัวเอง แล้วเปิดประตูห้องเข้าไป———、
「ฮ่าๆๆๆๆ โว้วววววว!! นักวิทยาศาสตร์สุดอัจฉริยะ!! เรมะ คาเนะซากิผู้นี้กลับมาแล้วว้อยยยยย!!」
———ภาพที่ฉันเห็นก็คือเรมะ คาเนะซากิที่กำลังกระโดดโลดเต้นไปมาพร้อมกับเสียงหัวเราะ
ภาพของเรมะ คาเนะซากิที่ฉันเคยรู้จักมันได้ตายลงไปแล้ว ไอ้โรคจิตนี่มันใครกัน
แต่สภาพร่างกายของเขาตอนนี้ก็เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
ผ้าพันแผลที่เคยพันอยู่ทั่วร่างของเขาราวกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายได้หายไป ถึงแบบนั้นมันก็ถูกแทนที่ด้วยอาการที่ดูน่าขนลุกเหมือนพวกป่วยระยะสุดท้ายแทน
「ว่ะ ฮ่าๆๆๆๆ!!! หากร่างกายสามารถกลับมาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ประสิทธิภาพในการคิดก็จะสูงขึ้นตาม!! เอาละเว้ย ได้เวลาพัฒนาของใหม่ให้มันไฉไลกว่าเดิม จัดมาเด้!!!」
ฉันมองเรมะ คาเนะซากิด้วยสายตาสมเพช เขาไม่รู้เลยสักนิดว่าฉันเข้ามาภายในห้องเขาแล้ว จากนั้นฉันก็เปิดประตูกลับไปหาอากาเนะที่อยู่ข้างนอก
「กะ เกิดอะไรขึ้นในนั้นกัน?ทำไมเสียงที่ลอดออกมามันดังสุดๆ ……」
「อย่าเข้าไปจะดีกว่า เสียสายตาเปล่า」
「เดี๋ยวมันเกิดอะไรขึ้นกัน!?」
ได้มาเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นไปแล้วสิ
อย่างไรก็ตาม หากเรมะ คาเนะซากิอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ สิ่งต่างๆ ก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน
ถึงจะแอบกังวลเกี่ยวกับนิสัยที่เปลี่ยนไปของเขาก็เถอะ
***
อาโออิกับฮารุได้มาหาฉันหลังเร็กซ์จากไป
แอบกังวลเรื่องสภาพจิตใจของฮารุที่ถูกสัตว์ประหลาดจับไปนิดหน่อย แต่จากที่เห็นเหมือนจะไม่เป็นไรแล้วฉันก็โล่งใจ
「……ได้ยินเรื่องฉันมาจากอาโออิแล้วสินะ」
「ค่ะ ต้องขอบคุณที่ช่วยฉันเอาไว้ตอนนั้นนะคะ」
「ไม่ต้องคิดมากหรอก ฉันเองก็ดีใจที่ช่วยเธอไว้ได้ทัน」
อันที่จริงฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮารุถูกจับตัวเอาไว้ที่นั่น ตอนเจอเลยแปลกใจสุดๆ
ในอีกมุมหนึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ช่วยย้ำเตือนฉันว่ามันคือโลกอีกใบหนึ่ง
「แต่น่าตกใจเหมือนกันนะ ฮารุนี่เหมือนจะมีสายสัมพันธ์กับเจ้าตัวยิ้มแปลกๆ」
「ตัวฉันในโลกนั้นก็โดนเหมือนกันเหรอคะ?」
「อ้า」
แม้แต่ในโลกของฉัน ฮารุก็ยังตกเป็นเหยื่อของฉัน
โชคชะตาที่เหมือนถูกเขียนมาไว้ให้ต้องเผชิญ ว่ากันตามตรงฉันไม่ได้รู้สึกน่ายินดีหรอกหากต้องเจอโชคชะตาแบบนี้
「จริงสิ….ตัวฉันในโลกนั้น….เป็นยังไงเหรอคะ?」
อาโออิที่อยู่ข้างๆ ก็เหมือนอยากจะถามแบบเดียวกับฮารุ
เอาเถอะก็ไม่ใช่เรื่องที่จะบอกไม่ได้
「จะว่ายังไงดีล่ะ…หลังฉันช่วยชีวิตเธอเอาไว้ ตัวเธอในโลกนั้นก็กลายเป็นวีทูปเบอร์ภายใต้บริษัทของเรมะ และทำการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่พวกอาโออิและคนอื่นๆ ทำน่ะ」
「วะวะวะวะ Vtuber!?」
ความสามารถในด้านนี้ของเธอดีสุดๆ
ก็ไม่เข้าใจหรอกนะว่ามาเป็นวีได้ยังไง แต่จากที่เห็นเธอก็สนุกกับสิ่งที่ทำไมน้อย
「แต่…ก็คงไม่แปลกหรอกค่ะ เพราะก่อนที่สัตว์ประหลาดจะปรากฏตัวขึ้นฉันเองก็สนใจงานด้านนี้อยู่สักพักแล้ว」
「หะ จริงเหรอ?」
「อื้อ」
อาโออิมองดูฮารุด้วยความแปลกใจ ราวกับเป็นเรื่องที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน
「….อันที่จริงหนูก็กำลังคิดอยู่พอดีว่าตัวเองจะทำอะไรได้บ้าง การที่หนูหลบอยู่ในที่ปลอดภัยในขณะที่พวกพี่ออกไปต่อสู้มันจะดีแล้วจริงไหมนะ」
「เธอไม่จำเป็นต้องคิด……」
「ไม่ค่ะ หนูกังวลจริงๆ นะ ตัวหนูที่ไม่มีทั้งพลังและความรู้เฉพาะด้านในการสนับสนุนพี่เหมือนกับคนอื่นๆ …..แต่ว่า….หลังได้ยินเรื่องที่คัตสึมิซังเล่า หนูก็เริ่มคิดถึงสิ่งที่หนูพอจะทำได้แล้วค่ะ」
ฉันพยักหน้าให้กับคำพูดของเธอ
「ฉันจะเอาใจช่วยนะ」
「เอ๋ ไม่ถามเหรอคะว่าฉันจะทำอะไร?」
「ฉันรู้ดีว่าเธอเป็นคนที่มีความสามารถขนาดไหน ดังนั้นฉันไม่กังวลในสิ่งที่เธอเลือกจะทำหรอก」
หลังฮารุได้ยินแบบนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น
ทำในสิ่งที่ตัวเองสามารถทำได้….มันไม่ต่างอะไรกับตัวเธอในโลกนั้นเลย
บางทีโชคชะตาของเธอนอกจากเรื่องสัตว์ประหลาดนั่นแล้ว ก็คงจะเป็นเรื่องนี้แหละ
***
หลังอาโออิกับฮารุจากไปแล้ว ฉันก็เหลือตัวคนเดียวในห้อง
ฉันค่อยๆ นอนลงบนเตียงแล้วจ้องมองไปบนเพดาน
ภายในห้องที่มีเพียงฉันและโปรโตในข้อมือ
「———ต่างโลก」
ฉันคิดถึงเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมา
ตัวฉันในโลกนี้ตายไปตั้งแต่อุบัติเหตุเครื่องบินตก
ตัวฉันที่เอาชีวิตรอดมาได้และมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้
ทำไมมันถึงได้แตกต่างกันนะ
แล้วโลกไหนคือโลกที่ถูกต้องกันแน่
คำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบมันวนเวียนไปมา
「ตัวฉันโลกนี้…สามารถตายไปพร้อมกับพวกเขาได้…..」
ในมุมนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับฉันไหม
อากาเนะกับคนอื่นอาจจะโกรธที่ฉันคิดแบบนี้ก็ได้ แต่พอได้ยินเรื่องนี้จากเรมะ ฉันกลับรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
……。
「เห้อออออ」
ฉันถอนหายใจแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง
ตั้งแต่มาที่นี่ ฉันก็อดรู้สึกหงุดหงิกกับสายตาที่จับต้องฉันตลอดเวลาไม่ได้จริงๆ
「…โฮ้ย แกสนุกมากเลยหรือไงที่มาจ้องคนอื่นแบบนี้น่ะ」
ฉันพูดอยู่คนเดียวภายในห้อง
แม้ว่าจะไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมา แต่ยัยนั่นได้ยินเสียงของฉันแน่นอน
เธอกำลังจับตาดูฉันอยู่
แม้จะเป็นในอีกมิติหนึ่ง
「ฉันกับคนในโลกใบนี้ไม่ใช่ของเล่นไว้ดูฆ่าเวลาสำหรับแกนะเห้ย รูอิน」
ฉันรู้ดีว่าไม่ใช่ฝีมือของรูอินเพราะการกระทำมันอ้อมค้อมเกินไป
หากยัยนั่นต้องการคงบอกเป้าหมายกับฉันตรงๆ แล้วส่งฉันมาที่โลกนี้ทันที
แต่ความเป็นจริงที่ยัยนั่นกำลังเพลิดเพลินกับการเฝ้ามองฉัน มันทำให้ฉันหัวเสียสุดๆ
「….ถึงจะไม่ชอบที่แกทำอะไรตามใจชอบ แต่คราวนี้ฉันจะยอมให้ไปก่อน」
ฉันไม่คิดจะทอดทิ้งพวกอากาเนะหรือคนบนโลกนี้แน่นอน
พูดจบฉันก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
「แล้วก็ช่วยหยุดตามส่องตลอดทีได้ไหม มันน่ารำคาญ」
พอฉันพูดจบ ก็สัมผัสได้ว่าสายตาที่จับจ้องมันหายไป
น่าแปลกที่ยัยนั่นฟังคำพูดของชาวบ้านด้วย แต่ฉันก็ไม่สนใจแล้วหลับตาลงเพื่อพักผ่อน
——— (อ้า เอาเถอะ)
——— (แบบนี้แหละดีแล้ว)
——— (คัตสึมิ หากเป็นแกละก็ฉันมั่นใจว่า……)
—จบ—
ความเข้าใจผิดในวันนั้นได้ส่งผลแล้วในวันนี้ พี่สาวที่อายุน้อยกว่าน้องชายกำลังเป็นเทรนแหละ
เรมะที่กลับมาในสภาพสมบูรณ์ก็กลายเป็นไอ้โรคจิตเหมือนโลกก่อนเรียบร้อยแล้ว
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code