อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 135 โลกคู่ขนาน 12
หลังจากคุยกับ คัตสึมิ โฮมุระ กับอากาเนะ อาราซากะหรือเร็กซ์ที่มาจากอีกโลกหนึ่งเสร็จ ฉันก็ให้พวกเธอกลับไปพักผ่อน ตอนนี้ฉันจำเป็นต้องคุยส่วนตัวกับเขาอีกสักหน่อย
อย่างไรก็ตาม แม้จะบอกเป็นการคุยส่วนตัว แต่ไม่รู้ทำไมฮิลด้าถึงยังอยู่ในห้องนี้และขั่งแกว่งขาไปมาเหมือนกับเด็กนั่งเบื่อที่รอพ่อแม่มารับกลับบ้าน
….พอเห็นแบบนี้ก็ยากจะเชื่อว่าโลกเดิมพวกเขาเป็นศัตรูกัน แถมที่น่าแปลกกว่าก็คือเธอไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นแกนพลังงานที่สร้างร่างกายของตัวเองขึ้นมาได้
แถมยังบอกว่าตัวเองที่ข้ามมาโลกใบนี้อ่อนแอลงกว่าปกติมาก ไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ ว่าตัวเธอโลกนั้นจะโหดขนาดไหน
พอมานั่งฟังเรื่องราวของเขา ก็คงพูดได้เพียงว่าเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ ที่โลกของเขายังสงบสุขได้ แม้จะต้องเจออะไรมากมาย
「ฉันถามหน่อยสินายกับฉันมีความสัมพันธ์กันแบบไหนเหรอ?」
ฟังแล้วมันอาจจะแปลกนิดหน่อย แต่ฉันถามถึงตัวฉันในอีกโลกหนึ่ง
คัตสึมิ โฮมุระดูเหมือนจะกังวลนิดหน่อยก่อนจะยิ้มออกมาแล้วตอบ
「ผู้มีพระคุณ…แล้วก็เพื่อนของฉัน」
「เพื่อนสินะ」
「เพราะฉันไม่มีพ่อแม่ ก็เลยได้นายดูแลหลายๆ อย่างน่ะ นอกจากนี้พวกเราก็คุยกันเรื่องหนังบ่อยด้วย」
น่าแปลกใจกว่าที่คิดแฮะ ทำไมฉันถึงได้รับการประเมินซะสูงเลยล่ะ
ตอนแรกก็ทำใจไว้แล้วว่าจะถูกบอกว่าเป็นคนบ้าที่มาเกาะติดเขา
「ฉันรู้ดีว่าอาจจะทำให้นายไม่ค่อยสบายใจ…แต่ก่อนหน้านี้ฉันได้ค้นข้อมูลเกี่ยวกับนายมาด้วยน่ะ」
「? ……ข้อมูลของฉันบนโลกนี้น่ะเหรอ」
「อ้า」
ไม่ใช่ว่าฉันไม่ไว้ใจอะไรเขาหรอกนะ แต่ฉันอยากจะรู้เฉยๆ น่ะว่าคนที่ชื่อคัตสึมิ โฮมุระแท้จริงแล้วมีตัวตนอยู่ในโลกของฉันหรือเปล่า
「แล้วฉันก็พบว่าโลกใบนี้ก็มีคนที่ชื่อคัตสึมิ โฮมุระอยู่จริงๆ」
「มีตัวฉันในโลกนี้ด้วยเหรอ?」
「ทว่าเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อแปดปีที่แล้ว…ฉันก็ไม่รู้หรอกว่านั่นคือนายจริงๆ ไหม แต่ว่า….」
「……แบบนี้นี่เอง」
ใบหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา ใบหน้าที่แสดงออกเหมือนกับโล่งใจและเศร้าโศกในเวลาเดียวกันนี่อะไรกัน
「ฉันพอจะเข้าใจเรื่องราวของโลกนี้บ้างแล้วแหละ」
「……หรือว่านาย……」
ไม่สิ ฉันไม่ควรจะคิดอะไรต่ออีก
แต่จากหนีหน้าของเขามัน…..ให้ตายสิ อย่าบอกนะว่าจุดพลิกผันทางประวัติศาสตร์มันเริ่มตั้งแต่ตอนที่เขาตายเพราะอุบัติเหตุเครื่องบินตกน่ะ
….สุดท้ายถึงฉันจะคิดไปก็คงช่วยอะไรไม่ได้ เพราะมันไม่มีใครมาเฉลยคำตอบนี้หรอก
ให้มันจบเพียงแค่นี้ละกัน ฉันแก้ไขอะไรไม่ได้ด้วยสิ
「เอาเป็นว่าขอโทษที่ยื้อเอาไว้ซะนานเลยละกัน นายก็กลับไปพักผ่อนเถอะ」
「แล้วเรมะล่ะ?」
「ฉันตั้งใจจะใช้ข้อมูลที่นายให้มาเป็นแหล่งอ้างอิงในการเสริมแกร่งให้กับสูทขับเคลื่อนของฉัน ถึงจะเหลือเวลาไม่มากนักแต่ก็จะพยายามเท่าที่จะไหว」
หากสิ่งที่เร็กซ์พูดเป็นจริง ระยะเวลาของโลกเราก็เหลืออยู่ประมาณสัปดาห์เดียว
ฉันจำเป็นต้องเพิ่มความเป็นไปได้ที่ชัยชนะจะตกเป็นของฝ่ายเราให้ได้มากที่สุด แม้ร่างกายนี้จะสูญสิ้นไปก็ตาม
「เรมะ」
「หือ?」
ในขณะที่ฉันกำลังจะกลับไปทำงาน คัตสึมิคุงก็เรียกฉันซะก่อน
เขามองไปทางฮิลด้าที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะหันกลับมามองฉันอีกที
「บางทีเธอน่าจะช่วยรักษานายได้นะ」
「หา!?」
ฉันเบิกตากว้างขึ้นทันทีหลังได้ยินคำพูดของคัตสึมิคุง
ร่างกายของฉันที่หมดสภาพไปเพราะโปรโตสูทจนทำให้ไม่สามารถขยับได้หากปราศจากรถเข็น จะบอกว่าฉันสามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้งั้นเหรอ?
「ฮิลด้า เธอไหวสินะ?」
「อื้ม ก็น่าจะไหวแหละมั้ง」
「งั้นก็มาลองกันดู」
เป็นไปได้ด้วยงั้นเหรอ บาดแผลเรื้อรังขนาดนี้เนี่ยนะ?!
แต่ว่าหากมันมีความเป็นไปได้อยู่ฉันก็อยากจะลองดู
แม้จะยังสับสนไปบ้าง แต่ฉันก็ตอบตกลงก่อนที่คัตสึมิคุงจะหันไปหาฮิลด้า
「ฮิลด้าช่วยแปลงร่างเป็นเข็มขัดที」
「จะยอมให้แค่ครั้งนี้เป็นพิเศษนะ」
เขาเอื้อมมือไปจับฮิลด้าจากนั้นแสงก็ส่องจ้าไปทั่วห้องก่อนที่เส้นด้ายปริศนาจะโผล่ออกมาจากแขนซ้ายของเขา
เคียวที่สร้างมาจากเส้นด้ายสีเงินก่อตัวขึ้นแล้วพุ่งไปที่คอของฮิลด้า ทว่ามันก็ถูกมือของคัตสึมิคุงกันเอาไว้ซะก่อน
「อึก」
ฮิลด้าถึงกับส่งเสียงร้องออกมาเมื่อเห็นคัตสึมิคุงแสดงสีหน้าอันเจ็บปวดเพราะถูกใบมีดโจมตีใส่
「หยุดนะ」
『———!!!!?』
「หากไม่ใช่เพราะเธอ ฉันคงไม่มีทางมาถึงตรงนี้ได้หรอก」
อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นเรื่องวุ่นวายเฉยเลย
แต่แบบนี้จะโอเคไหมนะ….ชักสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีเลยวุ้ย
「อ้า ฉันเข้าใจดีว่ายัยนี่คือศัตรู ทั้งน่ารำคาญ นิสัยเสีย ชอบมากวนใจกันไม่เลิก」
「หือ เอ๋?เอ่อ ทำไมฉันถึงรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้กันนะ ทั้งที่ไม่มีบาดแผลอะไรสักหน่อย….?」
「ขอร้องเถอะ」
เขาเมินคำพูดของฮิลด้าที่แก้มกระตุกไปมา แล้วพูดกับโปรโต X ต่อ
「เมื่อถึงเวลาฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง แต่มันไม่ใช่ตอนนี้ เอาไว้จบเรื่องนี้แล้วกลับโลกก่อนเข้าใจไหม?」
『———……』
ราวกับเริ่มสงบสติลงได้ เคียวนั้นได้ถูกดึงออกมาจากมือของเขาก่อนที่เส้นด้ายสีเงินจะค่อยๆ คลายออกแล้วตรงไปพันบริเวณบาดแผลของเขา
ไม่นานนักบาดแผลที่เกิดขึ้นก็เริ่มสมานตัวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มันมีความสามารถในการรักษาร่างกายของผู้ใช้ด้วยเส้นด้ายเหรอ?
「ฉันไม่ได้โกรธอะไรเธอหรอกไม่ต้องเป็นห่วง ตลอดเวลาที่ผ่านมาคงเหงามากเลยสินะ?ฉันเข้าใจ」
『———……』
สะ สื่อสารถึงการได้อย่างสมบูรณ์แบบ!!!
นี่เขาสามารถพูดคุยกับโปรโต X ที่ตัวฉันไม่สามารถรับมือได้เพราะบุคลิกที่แสนยุ่งยาก
「เอ่อ เป็นอะไรหรือเปล่า?」
「หือ?ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่เจ็บไม่คันแล้วด้วย แต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันไม่ได้คิดจะช่วยเธอ」
「อุหุหุ…」
「ที่ทำลงไปทั้งหมดก็เพราะเคยติดหนี้เธอก่อนหน้านี้ แล้วนี่ก็เป็นวิธีในการชดใช้เท่านั้นเอง….ย้ำอีกที…อย่าได้เข้าใจผิดเด็ดขาด」
「อาร่าๆ!! ซึนเดเระแหละ!!」
「หา?ซึนอะไรของหล่อนฟะ」
สรุปแล้วพวกเขาเป็นศัตรูกันจริงไหมเนี้ย
หากมองจากมุมคนนอกฮิลด้าก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่เรียกร้องความสนใจจากเจ้าของเลย
「เอ่อ…เรมะ ฉันทำพื้นเปื้อนเลือดซะแล้วสิ ไว้เดี๋ยวจะมาทำความสะอาดให้นะ」
「อะ อ้า」
เมื่อเห็นฮิลด้ายิ้มอย่างมีความสุขกับสิ่งที่เขาทำแล้วหันกลับไปหาคัตสึมิคุงที่ถอนหายใจออกมา ฉันก็เริ่มจะเข้าใจสิ่งที่คัตสึมิคุงบ่นออกมาก่อนหน้านี้แล้วสิ
***
ด้วยเหตุผลบางอย่าง อยู่ดีๆ พี่สาวของฉันก็เริ่มเปลี่ยนไปหลังเรื่องสัตว์ประหลาดแม็กม่าจบลง
จะว่ายังไงดีล่ะ…เธอเริ่มทำตัวแปลกๆ มีท่าทีลุกลี้ลุกลนอย่างกับบุคลิกของเธอกำลังเริ่มกลับไปเป็นเหมือนก่อนที่พวกสัตว์ประหลาดจะปรากฏตัว
ฉันชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วเหมือนกันว่ามันเรียกว่าดีหรือร้าย
แต่ยังไงมันก็ดีกว่าการเห็นพี่สาวต้องเจ็บปวดกับเรื่องราวที่เผชิญมาในอดีต
「นี่คุณพี่สาว」
「หือ?」
พอจบเรื่องพี่สาวของฉันก็กลับมายังฐาน
ตัวฉันที่เฝ้ามองการต่อสู้อยู่ที่ฐายยังสัมผัสได้ถึงความรุนแรงนั้นเลย
มันเหมือนกับโลกใบนี้กำลังจะล่มสลาย ห่าฝนลาวาร่วงลงมาจากฟ้าพายุสีแดงฉานฟุ้งไปทั่วบริเวณ
นั่นคือทั้งหมดที่ฉันพอจะสังเกตได้
สุดท้ายสัตว์ประหลาดแม็กม่าก็ถูกปราบลง พวกพี่กลับมายังฐานโดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
「เป็นอะไรไปหรือเปล่าเนี้ย?」
「……ก็เปล่านี่」
โกหก
ฉันส่งสายตามองพี่สาวของฉันด้วยความสงสัย ในขณะที่เธอพยายามหลบสายตาของฉันและมองลงเฉียงไปที่พื้นเล็กน้อย แถมไม่ใช่แค่เธอทุกคนที่กลับมาที่ฐานก็มีอาการแปลกๆ เหมือนกับไม่สบายใจอะไรสักอย่าง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับพวกสัตว์ประหลาดซะด้วย
……。
……อย่าบอกนะว่าที่จริงแล้วสัตว์ประหลาดแม็กม่าถูกกำจัดไปโดยเขาคนนั้น……。
「หรือว่าอัศวินดำซังจะอยู่ที่นี่เหรอคะ?」
「รู้ได้ยังไงกัน……!?」
「หน้าตาพี่มันบอกหมดแล้วเถอะ!」
「เอ๋!?」
ไม่จำเป็นต้องใช้เล่ห์อะไรเลยสักนิด พี่สาวของฉันในตอนนี้อ่านง่ายสุดๆ
แต่อัศวินดำซังอยู่ที่นี่จริงดิ?!หากพิจารณาถึงความแข็งแกร่งที่ฉันเห็นแล้วยังไงคงที่ฆ่าสัตว์ประหลาดแม็กม่าได้ก็ต้องเขานี่แหละ
ฉันมั่นใจสุดๆ
「แต่ฉันจะไม่ถามอะไรมากหรอกค่ะ เพราะมันคงมีเหตุผลที่พี่ต้องปิดบัง———」
「หากเป็นฮารุน่าจะไม่เป็นไร ว่าแต่อยากจะเจอเขาเหรอ?」
「อยากค่ะ」
มันก็ต้องอยากอยู่แล้วไหมพี่จ๋า
ความสามารถในการคิดของพี่ตอนนี้กำลังต่ำถึงขีดสุด ขอแค่พูดให้พอเป็นพิธีก็น่าจะคล้อยตามฉันได้ไม่ยาก
จากนั้นพี่ก็พาฉันเดินออกจากห้องแล้วตรงไปยังที่ที่เขาอยู่
「จะบอกหนูได้จริงเหรอ?」
「อันที่จริงก็ถามเรื่องนี้กับผู้บัญชาการมาก่อนแล้ว ซึ่งเขาก็อนุญาตเป็นพิเศษเพราะฮารุคือคนที่เจอเขาเป็นคนแรก」
นั่นก็เรื่องจริง……。
เดี๋ยวจะได้เจอเขาแล้ว คงต้องไปขอบคุณให้เหมาะสมด้วย
「อัศวินดำซังเป็นคนแบบไหนเหรอคะ?」
「ลึกลับสุดๆ」
พี่ไม่ได้กำลังพูดถึงตัวเองใช่ไหม? … แต่ฉันไม่พูดมันออกมาหรอกนะเออ
แต่เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะคำว่าลึกลับที่อธิบายตัวตนของพี่กับลึกลับที่อธิบายตัวตนของอัศวินดำซังมันต้องคนละทางอยู่แล้ว
「เขาเดินทางมาจากอีกโลกหนึ่ง」
「……เอ๋?」
「บอกไว้ก่อนว่าไม่ได้โกหก」
จากนั้นพี่สาวของฉันก็เริ่มเล่าเรื่องที่แสนจะเหลือเชื่อให้ฟัง
อัศวินดำซังคือคนที่ถูกส่งมาจากอีกโลกหนึ่ง ซึ่งในโลกใบนั้นเขาคือคนที่ต่อสู้กับพวกสัตว์ประหลาดเหมือนกับพวกพี่
อากาเนะซังจากอีกโลกหนึ่งก็โผล่มาพร้อมกับเขา แถมยังมีเอเลี่ยนมาเกี่ยวอีก จากนั้นฉันก็เริ่มได้ยินเรื่องราวเหมือนกับหนังไซไฟสุดบันเทิง แต่เอาจริงๆ สิ่งที่ฉันเจอมาจนถึงตอนนี้มันก็แปลกสุดๆ อยู่แล้ว หากมันจะแปลกไปกว่านี้อีกสักหน่อยก็คงไม่ใช่เรื่องเหลือจะเชื่อหรอก
「เขาเป็นคนดี จากนี้พวกเราจะต่อสู้เคียงข้างกัน」
「ต่อสู้เคียงข้างกัน……」
เมื่อได้ยินคำนี้ฉันก็รู้สึกเหมือนอนาคตของพวกเรามีความหวังเหลืออยู่
ไม่ใช่แค่เพราะความแข็งแกร่งของเขา แต่ฉันสัมผัสได้ว่าเขาคือสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยสำหรับการกำเนิดขึ้นของความหวัง
「นอกจากนี้เขาก็ช่วยฮารุเอาไว้…ฉันเชื่อเขา」
「……พี่สาว」
หากไม่ใช่เพราะเขา เจ้าสไมล์ลี่คงจะทำให้ฉันกลายเป็นสัตว์ประหลาดจนตายไปแล้วก็ได้
แค่คิดก็ขนลุกแล้วสิ แถมหากฉันกลายเป็นสัตว์ประหลาดแล้วต้องเข้าไปสู้กับพี่ละก็…..
「……หยุดคิดดีกว่าเรา」
ไม่มีเหตุผลให้ต้องคิดเรื่องน่าสยองพวกนี้อีก
「แล้วก็นี่เป็นความลับระหว่างพวกเรานะ」
「หือ?」
「ฉันว่าเขาชอบฉันแหละ」
「เอ่อ….」
นี่พี่ของฉันพูดอะไรออกมากัน
เรื่องราวมันกระโดดมาถึงตรงนี้ได้ยังไง…ฉันที่ได้ยินถึงกับหยุดนิ่งไปสองสามวิได้ จากนั้นพี่สาวของฉันก็เริ่มพูดขึ้นต่อเหมือนกับจะอธิบายเสริม
「เขาเรียกชื่อของฉันอย่างอ่อนโยน ตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรก」
「เอ่อ ขอโทษนะคะพี่ แต่ตอนที่ฉันเจอกับเขาเป็นครั้งแรกก่อนพี่ฉันก็ถูกเรียกชื่อเหมือนกันค่ะ」
「ฮารุก็ด้วยเหรอ?」
เสียของพี่สาวเหมือนจะผิดหวังสุดๆ
ช่วยหลุดออกมาจากห้วงฝันทีเถอะพี่เอ๋ย….จากนั้นพี่สาวก็เริ่มเอามือปิดปากแล้วพูดต่อ
「อย่าบอกนะว่าเขาตั้งใจจะเหมาเราทั้งบ้าน?!」
ยัยนี่มันจะเอาให้ได้เลยใช่ไหม….
แถมไอ้ที่พูดออกมานั่นมันใช่เรื่องที่มนุษย์ปกติเขาจะคิดกันหรือไง?
ถึงแม้ตัวฉันแอบรู้สึกดีอยู่นิดหน่อยจากคำพูดนั้นก็เถอะ
「อุ มาถึงแล้ว」
「อยู่ใกล้กับห้องทดลองของผู้บัญชาการซะด้วย….. 」
พวกเรามาหยุดอยู่ตรงที่หน้าประตูสีเทาบานหนึ่ง
พี่ทำการเดินเข้าไปเคาะประตูที่ไร้ซึ่งคนคุ้มกันหรืออะไรใดๆ ที่ช่วยรักษาความปลอดภัย
『อ้า』
หลังสิ้นเสียงนั้น ประตูก็เปิดออกพร้อมกับร่างของหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏขึ้น
้เดี๋ยวนะ อัศวินดำซังเป็นผู้หญิงเหรอ?!ฉันตกใจสุดๆ แต่เมื่อมองใบหน้าของเธอชัดๆ ฉันก็ตกใจยิ่งกว่าเก่าอีก
「นี่เธอ……」
「หรือว่า อากาเนะซัง?」
ไม่จริงน่า
เธอหน้าตาคล้ายกับอากาเนะซังสุดๆ แต่ช่วงอายุและส่วนสูงค่อนข้างต่างไปนิดหน่อย
หรือจะเป็นพี่สาวของเธอกันนะ?แต่นี่มันห้องของอัศวินดำซังนี่นา
「เธอคือฮารุ น้องสาวของอาโออิใช่ไหม….」
「ชะ ใช่แล้วค่ะ……」
เธอเบิกตากว้างขึ้นทันทีเมื่อเห็นฉัน ก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเห็นไปหาพี่สาวของฉันด้วยสายตาอันคมกริบ
「….บลูเธอมาน้องสาวมาที่นี่ทำไม?」
「เพราะได้รับอนุญาตจากผู้บัญชาการแล้ว ว่าแต่ทำไมเธอมาอยู่นี่ได้ล่ะเร็กซ์?」
「พอดีมาคุยอะไรกับเขานิดหน่อยน่ะ….แถมเสร็จแล้วด้วย พวกเธอเชิญตามสบายละกัน」
พอพูดจบ หญิงสาวที่ชื่อเร็กซ์ก็เปิดทางให้พวกเรา
พอมองเข้าไปในห้องก็พบว่ามีชายหนุ่มผมสีดำคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้
「คัตสึมิ มีแขกมาน่ะ」
「หือ ใครเหรอ?」
เขาหันไปมองตามเสียงของเร็กซ์ซัง
「ฮารุ?」
ทั้งท่าทางและน้ำเสียงที่คุ้นเคยนี้ ใช่แน่ เขาคนนี้คืออัศวินดำซัง
—จบ—
จุดพลิกผันเกิดจากเครื่องบินตก…..สรุปแล้วอาโออิที่ประหลาดคือร่างจริงสินะกะเหมาทั้งบ้าน!!
ส่วนโปรโตก็หวงของสุดๆ
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code