อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 127 โลกคู่ขนาน 4
ฐานทัพใหญ่ของกลุ่มต่อต้าน ถึงจะใช้คำพูดที่สวยหรูแต่สุดท้ายมันก็เป็นที่หลบภัยซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่สามารถต่อสู้ได้
หากจะให้พูดก็มีเพียงพวกเรา 3 คนเท่านั้นที่ต่อสู้ได้ ส่วนเรมะ คาเนะซากิก็รับหน้าที่เป็นผู้บัญชาการของฐานทัพซึ่งคอยทำหน้าที่สนับสนุนพวกเราในการต่อสู้
อย่างไรก็ตามมันก็คือฐานที่มั่นสุดท้ายของมนุษยชาติ
องค์กรเดียวที่สามารถต่อสู้กับพวกสัตว์ประหลาดได้
「คราวนี้ฉันจะมาพูดถึงกลยุทธ์ในการยึดอาณานิคมของสัตว์ประหลาดกัน」
ภายในห้องใต้ดินที่มีแสงสลัวไม่สมกับกากรเรียกว่าฐานทัพใหญ่
เรมะ คาเนะซากิชายที่พันผ้าพันแผลทั่วร่างกำลังนั่งคุยกับพวกเราอยู่บนรถเข็น
「สัตว์ประหลาดกำลังขยายพื้นที่ของพวกมันอย่างต่อเนื่อง หากพวกเราไม่สามารถทำลายหนึ่งในอาณานิคมของมันได้ในตอนนี้ พวกเราคงได้จบสิ้นแน่」
หากฐานของพวกเราถูกโจมตีทุกอย่างก็จบ
ก็จริงว่าฉันอาจจะเอาชีวิตรอดได้ด้วยสูทขับเคลื่อน แต่คนที่ไม่สามารถต่อสู้ได้จะตายกันหมด
ส่วนพวกเราก็คงจะตายตามไปไม่นานนักเพราะไม่สามารถหาเสบียงอาหารได้
「นั่นจึงเป็นสาเหตุที่พวกเราต้องทำลายอาณานิคมที่ 1 ของพวกมัน ทว่าตอนนี้ก็มีอุปสรรคบางที่น่าเป็นห่วง」
ผู้บัญชาการมีลูกน้องของเขายืนอยู่ข้างๆ ———หญิงสาวคนดังกล่าวมีชื่อว่าโอโมริ และทำลังทำหน้าที่ในการเขียนสิ่งที่ผู้บัญชาการพูดลงกระดานดำ
「ก็จริงว่าหากเป็นสัตว์ประหลาดทั่วไป พวกเธออาจจะเอาชนะมันด้วยสูทของฉันได้ แต่หากพวกเธอพลาดเพียงนิดเดียว โอกาสแก้ตัวคงไม่มีอีก」
พอพักหายใจเสร็จเขาก็เริ่มพูดต่อ
「ที่แย่กว่านั้นก็คือตอนนี้พวกสัตว์ประหลาดมันกำลังทดลองเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นสัตว์ประหลาด」
「……อึก」
เปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นสัตว์ประหลาด
แต่จะบอกว่ากลายเป็นสัตว์ประหลาดโดยสมบูรณ์ก็คงไม่ใช่ พวกมันใช้งานมนุษย์พวกนี้เหมือนเป็นมดงานหรือเครื่องมือใช้แล้วทิ้ง
「คนที่กลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้วจะไม่มีวันกลับมาเป็นปกติได้อีก」
「……แม้จะเป็นมันสมองของผู้บัญชาการเหรอ?」
「…..ถ้าฉันมีอุปกรณ์และทรัพยากรมากกว่านี้ฉันก็คงสามารถหาทางเปลี่ยนพวกเขาให้กลับมาเป็นปกติได้หรอก….แต่ก็อย่างที่เห็นตอนนี้มันไม่มีอะไรเลย」
แม้น้ำเสียงของเขาจะดูเย็นชาไปบ้าง แต่พวกเราสัมผัสได้ว่าผู้บัญชาการกำลังโทษตัวเองอยู่
「ส่วนอย่างต่อไปที่น่ากังวลก็คือ…..เรื่องของสัตว์ประหลาดระดับผู้บริหารที่ปกครองอาณานิคมนั้น」
「ระดับผู้บริหาร……」
มันคือสัตว์ประหลาดที่มีพลังเหนือกฎของเหตุและผล
พวกเราเคยเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดแม็กม่าซึ่งเป็นระดับผู้บริหารของอาณานิคมที่ 3 มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ต้องตัดสินใจหนีออกมาเพราะพลังที่โกงสุดๆ ของมัน
「คู่ต่อสู้ของพวกเราคราวนี้สามารถโจมตีทางจิตใจได้ เมื่อพิจารณาจากความสามารถที่ยุ่งยากของมัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีค่าภัยคุกคามที่สูงกว่าระดับ A」
「เราต้องเผชิญหน้ากับตัวบ้าบอเหมือนสัตว์ประหลาดแม็กม่าเหรอ?」
「ฉันก็อยากจะภาวนาให้มันกระจอกอยู่หรอก แต่อย่างที่พวกเธอรู้ นั่นคือสัตว์ประหลาด แถมสิ่งที่พวกเรารู้อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดของมันก็ได้」
ข้อมูลที่มีน้อยเกินไป
นอกจากการเตรียมรับมือหน้างานพวกเราก็ไม่มีตัวเลือกอื่นในการหาข้อมูลของมันเลย
ตอนนี้ทรัพยากรแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว
「อันที่จริงการต่อสู้ครั้งนี้มันเรียกว่าแผนหรือกลยุทธ์อะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ ข้อมูล ทรัพยากร เสบียงอะไรก็แทบจะไม่เหลือแล้ว…จะบอกว่าเป็นคำสั่งของฉันที่ให้พวกเธอไปตายเอาดาบหน้าก็ได้」
「……」
ไหล่ของผู้บัญชาการสั่นราวกับรู้สึกผิด
ฉันตระหนักได้ดีว่าชายคนนี้อยากจะไปลุยแนวหน้าขนาดไหน
แต่ก็ต้องขอบคุณเขาจริงๆ ที่ทำให้พวกเรารอดกันมาถึงตอนนี้ได้
「ฉันรู้ว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิดสำหรับพวกเธอ แต่ว่า―――」
「ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว」
「นั่นคือเรื่องที่ฉันเตรียมใจไว้ตั้งแต่แรก」
ไม่มีเหตุผลที่ฉันจะต้องโกรธแค้นเขา
เขาทำให้พวกฉันมีพลังในการต่อสู้
ให้โอกาสในการแก้แค้น
เพียงแค่นี้มันก็มากพอแล้ว แม้ฉันเตรียมใจที่จะตายแต่ก็ไม่คิดจะตายอย่างเปล่าประโยชน์หรอก
「เอาล่ะ ถ้าพวกเธอเห็นด้วย ฉันก็จะทำในสิ่งที่ควรทำต่อ」
ผู้บัญชาการพยักหน้าให้กับคำพูดของพวกเรา
หลังจากนั้นเขาก็อธิบายถึงข้อมูลทั่วไปที่ตรวจสอบได้และอาวุธใหม่ที่ทำการติดตั้งไว้ในสำหรับการจู่โจมคราวนี้ ตอนแรกก็คิดว่าจะมีเพียงเท่านี้ แต่เหมือนเขาจะมีเรื่องอื่นเพิ่มเติมอีก
「แล้วก็เกี่ยวกับร่องรอยที่พวกเธอตรวจสอบในการลาดตระเวนวันนี้น่ะ….」
「เจออะไรบ้างไหมคะ?」
ร่องรอยลึกลับของพวกสัตว์ประหลาด
ตอนแรกก็คิดว่าคงไม่ต้องเอามาใส่ใจนัก แต่ใบหน้าของผู้บัญชาการที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลกลับแสดงท่าทีสงสัยออกมา
「ฉันตรวจพบปฏิกิริยาทางชีวภาพอยู่บริเวณนั้น 4 ชีวิต」
「ก็หมายความว่ามีสัตว์ประหลาด 2 ตัวจัดการกับอีก 2 ตัวสินะคะ?」
「……ถ้าเป็นเรื่องนั้น」
ผู้บัญชาการเหมือนจะลำบากใจที่จะพูดขึ้นซะงั้น
「หลังการวิเคราะห์ปฏิกิริยาอีก 2 ที่ตรวจสอบได้คือมนุษย์น่ะ」
「「「!!」」」
มนุษย์……?
เดี๋ยวก่อนนะ แล้วไอ้เศษซากที่ตายตรงนั้นทำไมถึงเป็นของสัตว์ประหลาดแทนที่จะเป็นมนุษย์ล่ะ
มันไม่ใช่ตัวโง่เง่าเลยนะ ไอ้พวกนั้นมันสัตว์ประหลาดที่มีค่าภัยคุกคามระดับ B
「จะบอกว่ามีคนอื่นที่ไม่ใช่พวกเราเอาชนะมันได้เหรอคะ…?」
「….ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เท่าที่รู้ไม่มีอาวุธชนิดไหนบนโลกนี้สามารถต่อกรพวกมันได้หรอก ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์ประหลาดที่ต้องรับมือคือสัตว์ประหลาดที่มีพลังอำนาจในการสั่นสะเทือนทำลายทุกสิ่งและสัตว์ประหลาดที่ปล่อยเลเซอร์ออกมาได้นะ…ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะรับมือได้แน่นอน」
เรื่องพวกนี้เรารู้ดีอยู่แล้ว
จากนั้นผู้บัญชาการก็เริ่มพูดต่อทั้งที่สับสน
「นอกจากนี้การมองว่าสองสิ่งนั้นคือพวกเราออกจะหวังสูงไปหน่อย การที่พวกเขาไม่ปรากฏตัวมาจนถึงตอนนี้ เป็นไปได้ว่านั่นจะเป็นกับดักของพวกสัตว์ประหลาด」
「….แต่ถ้ามีใครสักคนที่สามารถต่อสู้เคียงข้างพวกเราได้จริง…..」
「บลู」
ผู้บัญชาการมองไปยังอาโออิก่อนจะตัดบทเธอ
「การมีความหวังมันก็เป็นเรื่องดีหรอก แต่ที่สำคัญตอนนี้คือการคำนึงถึงความเป็นไปได้ที่เลวร้ายสุดเอาไว้ก่อน」
「……เข้าใจดีค่ะ」
ฉันเองก็เข้าใจความรู้สึกของอาโออินะ
มันจะดีแค่ไหนกันนะหากมีคนอื่นที่สามารถต่อสู้กับสัตว์ประหลาดได้อีก
ฉันกับคิราระเดินเข้าไปปลอบอาโออิด้วยการวางมือไว้บนหลังของเธอที่ดูจะหดหู่สุดๆ
「……….สรุปทั้งหมดในคราวนี้ก็ประมาณนี้แหละ พวกเราจะเริ่มบุกโจมตีเพื่อยึดอาณานิคมที่ 1 ในวันพรุ่งนี้ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น」
「「「ค่ะ」」」
「ระหว่างนี้พวกเธอก็ไปพักผ่อนกันเถอะ」
การต่อสู้จะเริ่มขึ้นพรุ่งนี้ตอนเช้า
ถึงไม่คิดจะตายในศึกพรุ่งนี้ แต่ก็ต้องเตรียมใจเอาไว้ก่อนกับความเป็นไปได้มากมาย
***
นี่คือช่วงก่อนที่การบุกโจมตีอาณานิคมที่ 1 จะเริ่ม
ข้างนอกยังมืดอยู่ คงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าพระอาทิตย์จะขึ้น ตอนนี้พวกเรากำลังพักอยู่ภายในห้องเก็บสูทขับเคลื่อนเพื่อเตรียมตัวออกลุย
「คิราระ หลับสบายดีไหม?」
「พอใช้ยานอนหลับมันก็พอช่วยได้แหละ อากาเนะล่ะ?」
คิราระที่มีรอยคล้ำใต้ตาจนเห็นได้ชัด ถามกลับฉันที่กำลังยิ้มแห้งๆ ให้เธอ
「ตัดสินใจว่าจะลองดื่มดูน่ะ ยังไงวันนี้ฉันก็อาจจะตายได้นี่นา」
「แล้วผลคือ」
「ไม่ไหวอ่ะ」
「ไม่ไหวสินะ」
ถึงฉันจะยังเป็นผู้เยาว์อยู่แต่ไหนๆ พรุ่งนี้อาจจะตายแล้วก็เลยตัดสินใจลองดู แต่ไม่ไหว
ลิ้นของฉันมันไม่รับของพวกนี้เลยสักนิด….
「อาโออิล่ะ?」
「……」
「เหมือนจะหลับอยู่สินะ」
ฉันหันไปมองอาโออิที่หลับอยู่ภายในสูทขับเคลื่อน
เด็กคนนี้อายุน้อยกว่าพวกเรา 1 ปี
「ถึงอาโออิจะแปลกไปนิดหน่อย แต่ก็รู้สึกเหมือนตัวเองมีน้องสาวเลยแฮะ」
「ฟุฟุฟุ นั่นสินะ」
「……เอ่อ ขอโทษ」
พอนึกขึ้นได้ว่าคิราระเองก็มีน้องสาวกับน้องชายอยู่ฉันก็รู้สึกผิดที่พูดเรื่องนี้ออกมา
「ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกอากาเนะ ยังไงพวกเราทุกคนก็ต่างสูญเสียคนที่สำคัญไปกันทั้งนั้น อีกอย่าง…..」
「งื้มๆ」
「น้องสาวของฉันก็คือน้องสาวของฉัน เด็กคนนี้ก็คือเด็กคนนี้จะเอาไปเปรียบกันไม่ได้หรอก」
คิราระวางมือไว้บนหัวของอาโออิก่อนจะลูบไปมาแล้วยิ้ม
『ดูเหมือนพวกเธอจะพร้อมกันแล้วสินะ ก่อนจะเริ่มปฏิบัติการ ช่วยเข้าไปในสูทเพื่อตรวจสอบขั้นสุดท้ายก่อนละกัน』
พอผ่านไปสักพักเสียงของผู้บัญชาการก็ดังมาจากลำโพงเหนือหัวพวกเรา
พวกเราพยักหน้าแล้วเข้าไปในสูทก่อนรายงานตามลำดับ
「เรด 1 ติดตั้งเตรียมร้อย」
「บลู 2 ติดตั้ง」
「เยลโล่ 3 ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว」
ฉันสวมหมวกกันน็อคก่อนจะเปิดการทำงานของระบบสูท
ข้อต่อและกลไกของชุดเริ่มทำงานด้วยการเข้ามาประกอบกับร่างของมันตามลำดับ
จากนั้นผลการตรวจสอบความเรียบร้อยภายในสูทก็รายงานขึ้นตรงหน้าฉันโดยมีคำว่า 【CLEAR】พอเห็นแบบนี้ฉันก็สูดหายใจเข้าออก
「สงบสติไว้ตัวฉัน」
จากนี้ไปฉันจะต้องออกไปต่อสู้กับสัตว์ประหลาดอีกมากมาย
หากครั้งนี้พลาดไปไม่ใช่แค่ฉันที่จะตาย แต่รวมไปถึงคิราระกับอาโออิด้วย
ทว่าหากเราได้รับชัยชนะกองกำลังของพวกสัตว์ประหลาดก็จะลดลงและทรัพยากรที่ได้ก็จะเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้พวกเราอาจจะได้อาณานิคมที่ 1 เป็นฐานใหม่แทนก็ได้
『ได้ยินเสียงฉันชัดไหม?』
「ไม่มีปัญหา」
「สมบูรณ์แบบ」
「เรียบร้อยดี」
ฉันพยักหน้าให้กับเสียงของผู้บัญชาการที่ติดต่อมาจากอินเตอร์คอมซึ่งติดอยู่ในหมวกกันน็อคของฉัน
ถึงมันจะเก็บเสียงได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังได้ยินเสียงของเขาสะท้อนมาจากลำโพงภายในห้องนั้นด้วย
『จากนี้ฉันจะทำการเปิดใช้งานโดรนที่เก็บอยู่เอาไว้ทั้งหมดเพื่อสอดส่องพื้นที่และรายงานสถานการณ์ที่จำเป็นให้กับพวกเธอ』
「ถ้ามีของดีแบบนี้ก็น่าจะงัดเอามาใช้ก่อนหน้านี้สิคะ」
『เห้อ ถ้ามันทำแบบนั้นได้ก็ดีน่ะสิ พวกสัตว์ประหลาดคงได้ระเบิดทิ้งหมดแหง อาจจะบอกได้ว่านี่เป็นหนึ่งในไพ่ตายที่สามารถใช้ได้ทีเดียวก็ได้』
ถ้ารู้ว่ามีศัตรูอยู่ตรงไหนบ้างพวกเราก็จะสู้ง่ายขึ้น
นี่เป็นไพ่ตายที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว จะปล่อยให้สูญเปล่าไม่ได้
『งั้นก็เปิดการทำงานได้』
โดรนถูกเปิดการใช้งานแล้ว
แต่ยังไม่มีภาพอะไรส่งมาภายในสูทขับเคลื่อน น่าจะเป็นเพราะเขายังไม่ได้เชื่อมต่อข้อมูลจากห้องบัญชาการมายังสูท แต่เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น―――
『นี่มันหมายความว่ายังไงกัน!?』
『ปฏิกิริยาของสัตว์ประหลาดเหลือเพียงหนึ่งในสิบจากที่ฉันคาด?』
『เดี๋ยว นี่มันไม่ใช่แล้ว! พวกมันกำลังลดลงเรื่อยๆ!!』
『หรือมันเกิดการสังหารหมู่ขึ้น?』
『แถมปฏิกิริยาพวกนี้….คนที่โดนจับตัวไปเหลือรอดกันเยอะชะมัด!!』
『บ้าน่า จะบอกว่าไอ้พวกที่ตายคือสัตว์ประหลาดเท่านั้นเหรอ?!』
「วะ ว่าไงนะคะ……?」
เสียงที่ส่งมาจากห้องบัญชาการวุ่นวายไปหมด
สิ่งที่พวกเรามั่นใจเลยก็คือมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นภายในนั้น
『ไอ้นี่มันบ้าอะไรกัน……』
「ผู้บัญชาการ! เกิดอะไรขึ้นกันคะ?!」
『ต่อภาพให้ดูน่าจะเข้าใจง่ายกว่า!!』
ฉันตะโกนถามผู้บัญชาการที่กำลังตะลึงอยู่ภายในห้องบัญชาการ จากนั้นเขาก็รีบส่งภาพที่ได้จากโดรนมายังสูทของฉัน
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าไม่ใช่เรื่องที่พวกเราคาดคิดเลยสักนิด
「นี่มันอะไรกัน……」
ภาพของซากศพสัตว์ประหลาดนอนตายเกลื่อนอยู่ในอาณานิคมที่ 1
หัวที่ถูกฟันทิ้ง ร่างที่ถูกบดขยี้กองอยู่เต็มพื้นไปหมด
ในขณะที่ภาพของการฆ่าล้างบางเพียงฝั่งเดียวเกิดขึ้น ผู้รอดชีวิตมากมายภายในนั้นก็จับจ้องไปยังสิ่งนั้นสิ่งเดียว
『นี่มัน…พวกลำดับแห่งดวงดาราเหรอ?ไม่สิ…เป็นไปไม่ได้』
ร่างของนักรบในชุดเกราะสีชมพูที่น่าจะเป็นมนุษย์กำลังยืนอยู่ตรงนั้น โดยที่ตัวเกราะมีรอยแตกร้าวเต็มไปหมด
แต่ชุดเกราะที่ดูแตกร้าวของเขาเหมือนจะไม่ได้มาจากการบาดเจ็บเพราะพวกสัตว์ประหลาด แม้จะเห็นผ่านจอภาพเขาคนนั้นก็แสดงความโกรธและเกลียดชังใส่พวกสัตว์ประหลาดก่อนจะฆ่าพวกมันทิ้งอย่างง่ายดาย โดยตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดที่สวมชุดตัวตลกราวกับจะปกป้องเด็กสาวผมสีน้ำเงินอมดำคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง
「เดี๋ยว…นั่นมัน…..โกหกน่า」
อาโออิส่งเสียงอันแผ่วเบาออกมาขณะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
นักรบคนนั้นกำลังถูกสัตว์ประหลาดที่น่าจะเคยเป็นมนุษย์มาก่อนเข้าโจมตี
การที่ฉันบอกได้ว่าเป็นแบบนั้นเพราะร่างของมันเหมือนเป็นการผสมกันไปมาของสัตว์ประหลาดหลายชนิดซึ่งผิดไปจากที่สัตว์ประหลาดทั่วไปเป็น
ในมือซ้ายของนักรบคนนั้นมีดาบเล่มหนึ่งอยู่
เขาทำการพุ่งใส่สัตว์ประหลาดตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
ประกายแสงที่สวยงามได้ปรากฏขึ้น
ร่างของสัตว์ประหลาดถูกฟันเป็นชิ้นๆ พร้อมกับแสงสีชมพูที่พวยพุ่ง
「ถึงในอดีตพวกเขาจะเคยเป็นมนุษย์….อึก」
เป็นการฟันที่สวยงามจริงๆ แต่มันก็ไม่ได้มีความลังเลที่จะสังหาร…หือ?
ควันสีดำถูกปล่อยออกมาจากสัตว์ประหลาดที่ถูกฟัน พอมันหายไปก็พบว่าร่างของมนุษย์คนหนึ่งกำลังนอนสลบอยู่ตรงนั้นแทน
『ทำให้สัตว์ประหลาดกลับมาเป็นมนุษย์ได้งั้นเหรอ?!!』
นี่มันบ้าอะไรกัน
นักรบปริศนาที่มีพลังท่วมท้นได้จัดการอุปสรรคตรงหน้าจนหมด ก่อนจะหันไปหาสัตว์ประหลาดระดับผู้บริหารที่เหลืออยู่เป็นตัวสุดท้าย
ผู้ปกครองอาณานิคมที่ 1 ใบหน้าของมันตอนนี้กำลังบิดเบี้ยวไปด้วยความกลัว ก่อนจะหันฝ่ามือของมันไปใส่นักรบตรงหน้า แต่มันก็ไม่เกิดผลอะไรขึ้นเลยสักนิด
『ฮิ๊ อ๊ากกกกกกกก!!?』
มันกำลังหวาดกลัว
เหมือนมันกำลังพยายามดิ้นรนทำอะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายก็ทำอะไรเขาไม่ได้เลย
ในจังหวะที่มันกำลังจะพยายามหนี ร่างของนักรบคนนั้นก็ได้หายไปจากกล้องของโดรน
『———、———』
วินาทีต่อมา ก็มีรูที่เกิดจากหมัดอยู่บนร่างของสัตว์ประหลาด
สายลมได้พัดไปมารอบๆ อย่างรุนแรง ก่อนที่ร่างของสัตว์ประหลาดระดับผู้บริหารนั่นจะเกิดการระเบิด
「「「……」」」
สัตว์ประหลาดระดับผู้บริหารถูกฆ่าตายอย่างง่ายดาย ความเงียบเข้ามาปกคลุมทั่วห้อง
จากนั้นเขาก็สะบัดเลือดที่ติดอยู่ตรงหมัดของเขาออก ชุดเกราะที่เขาสวมอยู่แตกร้าวจนชิ้นส่วนของมันหล่นลงกับพื้นเผยให้เห็นร่างสีดำที่น่าจะเป็นเกราะส่วนข้างใน
「……」
ท่าทีที่แสนสง่างาม
ตัวตนที่สังหารสัตว์ประหลาดโดยปราศจากความเมตตา
ปากของฉันเริ่มขยับแล้วพูดออกมาโดยที่ฉันไม่รู้ตัว
「อัศวินดำ……」
ความแข็งแกร่งที่เกือบจะคิดว่าเป็นสัตว์ประหลาดหรือเปล่า
ตอนนี้รูปลักษณ์และพลังของเขาที่แสดงออกมามันได้สลักเข้าลงไปในจิตใจของฉันเสียแล้ว
***
อธิบายท้ายตอน
สาเหตุที่ชุดเกราะของคัตสึมิอยู่ในสภาพแตกร้าวขนาดนั้นเป็นเพราะเขาทำการเคลื่อนไหวเหมือนกับตอนที่ใช้โปรโตวันจึงทำให้ฮิลด้าไม่สามารถทนรับพลังนั้นไหว
—จบ—
โลกที่ดูสิ้นหวังสุดๆ สำหรับมนุษย์ได้รับความหวังครั้งใหม่จากDecade เด็กสาวผมสีน้ำเงินปนดำนั่นดูยังไงก็ฮารุแหงดูจะมีดวงชะตากับตัวตลกไม่ว่าจะเป็นจักรวาลไหน
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code