อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 118 ศัตรูคือเรด
ชีวิตช่วงมอปลายของฉันใกล้จะจบลงแล้ว
ตอนนี้คือเดือนธันวา ก็หมายความว่าช่วงเวลาที่ฉันจะใช้ในโรงเรียนนี้ได้เหลืออีกประมาณ 1 เดือน
ฉันกับคิราระต่างก็ตัดสินใจว่าหลังเรียนจบจะเข้าทำงานที่บริษัทKANEZAKIทันที ส่วนอาโออิที่ยังอยู่ ม.5 ก็ต้องรอไปอีก 1 ปี
「อ้า เมื่อยามปีใหม่ได้เริ่มต้น สัญญาณแห่งการสิ้นสุดของวัยเรียนก็จะมาเยือน」
「มันก็ใช่อยู่หรอก」
เพื่อนร่วมชั้นของฉันมาริพูดขึ้นในช่วงพักระหว่างคาบ
เธอคนนี้อยู่ในชมรมวิจัยเรื่องลึกลับหรืออะไรทำนองนั้นนี่แหละ เป็นคนแปลกๆ ผมสีดำสวมแว่นตาที่ให้บรรยากาศแตกต่างจากอาโออินิดหน่อย
「ลองดูหนังสือพิมพ์เรื่องลึกลับล่าสุดนี้สิ」
「หือ?」
ในครั้งนี้เราจะมาทำการสำรวจสัตว์ประหลาดที่พ่ายแพ้ให้กับจัสติสครูเซเดอร์ (JC) ที่รู้จักกันในชื่อของสัตว์ประหลาดกลับหัว ซึ่งพลังของมันก็คือการพลิกกลับสลับทุกสิ่งตามชื่อของมัน ทว่าสุดท้ายมันก็ได้พ่ายแพ้ให้กับจัสติสบลูที่มีความสามารถในการปรับตัวได้ดีกว่า
ความสามารถโด่ดเด่นของมันคือการพลิกกลับตำแหน่ง การมองเห็น การรับรู้ เปลี่ยนจากซ้ายไปขวา ข้างหน้าไปข้างหลัง ข้างบนลงข้างล่าง จนทำให้จัสติสเรดและเยลโล่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากเมื่อมุมมองที่เห็นเปลี่ยนไป ทว่าความสามารถทางกายภาพของมันกลับไม่ได้แข็งแกร่งอะไรเป็นพิเศษ
ในตอนจบมันถูกการโจมตีด้วยระเบิดของบลูแบบนัดเดียวจอด เชื่อกันว่าในแง่ของพลังแล้วน่ากลัวสุดๆ แต่ความสามารถทางกายภาพกลับต่ำสุดๆ เช่นเดียวกัน
คำถามที่น่าสนใจก็คือมันจะสามารถรับมือกับอัศวินดำได้อย่างไร แต่สุดท้ายจัสติสครูเซเดอร์ก็เป็นผู้สังหารมันลงได้ พวกเราจึงไม่มีวันจะได้รู้เรื่องนี้
ฉันอ่านบทความภายในของที่น่าจะเรียกว่าหนังสือพิมพ์
สัตว์ประหลาดกลับหัวงั้นเหรอ…น่าคิดถึงเหมือนกันแฮะ เพราะมันเป็นสัตว์ประหลาดที่พวกเราเจอตอนที่เริ่มสู้ช่วงแรกๆ
จำได้ว่าตอนนั้นฉันกับคิราระไม่สามารถรับมือกับมันได้เลย
เฮ้อ……。
「ธอนี่คลั่งสัตว์ประหลาดจริงๆ เลยนะ」
「โหย หยาบคาย」
โอตาคุสัตว์ประหลาด
เธอเป็นผู้หญิงที่แปลกเพราะประกาศเลยว่าไม่ได้ชอบพวกสัตว์ประหลาด แต่สนใจในระบบนิเวศของพวกมัน
ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นสายนักวิชาการหรือแค่พวกประหลาดคนหนึ่ง
「ไม่ใช่สัตว์ประหลาด แต่เป็นสัตว์ประหลาดที่ตายไปแล้วต่างหากที่ฉันชอบ」
「ฉันว่ามันแปลกๆ นะ……」
มันให้ความรู้สึกเหมือนสัตว์ประหลาดที่ตายไปแล้วคือสัตว์ประหลาดที่ดีแปลกๆ
「ว่าแต่จบไปแล้วเธอจะยังกลับมาชมรมไหมเนี้ย?」
「ถ้าฉันเรียนจบไปสมาชิกก็จะเหลือแค่ 3 ดังนั้นหากมีเวลาฉันไปแน่นอน」
น่าแปลกใจจริงๆ ที่ในชมรมยังมีพวกประหลาดอยู่อีกตั้ง 3 คน
「ฉันสงสัยว่าในชมรมเธอมีเด็กที่ชื่อฮินาตะไหม」
「อื้อ」
「เอาจริงดิ อย่าบอกนะว่าชื่อเต็มคืออาโออิ ฮินาตะ?」
「อ้าว เธอก็รู้จักอาโออิจิเหรอ?」
อาโออิจิ?ไหงเรียกเหมือนพวกทามาก็อตจิอะไรทำนองนั้นเลยล่ะ?
โบราณว่าไว้ฝนตกขี้หมูไหล คนประหลาดย่อมมาพบกันมันเป็นแบบนี้นี่เอง
「อันที่จริงเธอก็ไม่ค่อยได้มาที่ชมรมบ่อยนักหรอก แต่พอมาทีไรพวกเราก็มีเรื่องสนุกๆ คุยกันตลอดเลย」
「สนุก」
「อื้อ สนุก」
ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้วแฮะ ที่มีคนคุยกับอาโออิอย่างสนุกสนานได้
「อ๊ะ อาจารย์จะเข้ามาแล้ว」
「อ้า แยกย้ายๆ」
มาริมองดูนาฬิกาแล้วเห็นว่าคาบต่อไปกำลังจะเริ่ม เธอก็กลับไปนั่งที่ตัวเอง
ทุกคนในห้องเองก็ไม่ต่างกัน
….ใกล้จะจบมอปลายจริงๆ แล้วสินะ
ในจังหวะที่กำลังจะหยิบดินสอกดออกมาจากกล่องนั้นเอง
「———อึก」
ความหนาวเย็นยะเยือกได้แผ่ไปทั่วร่างของฉัน
เมื่อสัมผัสถึงมันได้ฉันก็รีบมองออกไปนอกหน้าต่าง
「……」
「อากาเนะ? เป็นอะไรไปน่ะ?」
ฉันรีบลุกขึ้นยืนโดยไม่พูดอะไร จนทำให้สายตาคนทั้งชั้นเรียนจ้องมองฉันอย่างสงสัย
มาริที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็กระซิบถาม แต่ฉันไม่มีเวลามาตอบอีกแล้ว
ัทันใดนั้นเองก็มีวัตถุบางอย่างพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง
「กรี๊ดดดดด!!」
เสียงกระจกแตกพร้อมกับวัตถุทรงประหลาดพุ่งเข้ามาในห้องเรียน
สิ่งมีชีวิตปริศนาพุ่งไปเกาะกับเพดาน ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ ชั้นเรียน ร่างของมันคล้ายกับแมลง มีแขนเหมือนปูที่มี 6แขน
「เจอแล้ว——」
ใช่แล้วมันคือสัตว์ประหลาดที่ฉันเคยสู้มาก่อน และมันกำลังจะปล่อยฟองสบู่ออกมาโจมตีฉัน ฉันไม่รอช้าใช้ดินสอในมือปาใส่ลูกตาของมันเพื่อไม่ให้มันได้โจมตี
「อ๊ากกก!?」
มันส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จากนั้นฉันก็เตะมือไปที่อุปกรณ์แปลงร่างแล้วให้มันทำการสร้างดาบขึ้นมา ฉันใช้มันในการตัดแขนและขาทั้ง 6 ของมันออกไปไม่เหลือแม้แต่ส่วนเดียว
「ม่ายยยยยย!?」
จากนั้นก็ทำการใช้ดาบนั้นแทงผ่านช่องว่างของเปลือกบริเวณหน้าอกและเย็บร่างของมันติดไว้กับพื้นด้วยดาบ
เสียงโต๊ะและเก้าอี้ล้มดังไปทั่วห้อง เลือดสีเขียวของสัตว์ประหลาดนองเต็มพื้น
「กรี๊ดดดดด!?」
「มะ ไม่จริงน่า!?」
「สะ สัตว์ประหลาด……!?」
เสียงกรีดร้องรอบตัวฉันดังขึ้น แต่ฉันไม่ได้สนใจแล้วสร้างดาบอีกเล่มขึ้นมาจากอุปกรณ์แปลงร่าง
———มันไม่ใช่ดาบที่ฉันใช้ตอนแปลงร่าง แต่มันก็เพียงพอสำหรับตอนนี้แล้ว
ฉันจับดาบที่อยู่ในมือตรงไปหาร่างของสัตว์ประหลาดที่ถึงยึดไว้กับพื้นด้วยดาบอีกเล่มทันที
「ทั้ง ที่ ไม่แปลง ร่าง ทำไม……?」
「……」
「———อั๊ค」
หัวของมันขาดออกจากตัว
มันคือเทคนิคที่ฉันเรียนรู้มาจากท่านอาซาฮีแม้ไม่ต้องแปลงร่างก็สามารถใช้มันได้
สำหรับสัตว์ประหลาดระดับนี้ หากฝึกฝนมามากพอก็น่าจะรับมือกับมันได้ไม่ยาก แต่ว่าตอนนี้…..
「สะ สัตว์ประหลาดมัน……?」
「ตะ ตายไปแล้ว……」
「อาราซากะซัง……?」
———จบสิ้นแล้วตัวฉัน
ทั้งที่คิดว่าใกล้จะเรียนจบแล้วคงต้องทิ้งความทรงจำอะไรไว้สักหน่อย แต่แบบนี้มันเกินไปแล้ว
แถมทำไมมันต้องพุ่งเข้ามาในห้องเรียนฉันห้องเดียวด้วยล่ะ
อาโออิกับคิราระต้องสัมผัสได้เหมือนกันแน่นอน หวังว่าจะไม่เป็นไรนะ
「อากาเนะ หรือว่าเธอจะเป็นผู้สืบทอดวิชาดาบสังหารที่สืบทอดกันมาในตระกูล?」
「ถ้าไอ้นั่นละก็ไม่ใช่แน่นอน…ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันมีสิ่งที่ปิดบังไม่ให้พวกเธอรู้มาโดยตลอด」
เหมือนมาริจะปลอดภัยดีสินะ
การโจมตีคราวนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน ดังนั้นต้องรีบหาทางรับมือก่อนที่มันจะวุ่นวายไปมากกว่านี้
『มีอะไรเหรอเรด』
เสียงของประธานดังขึ้นมาจากอุปกรณ์แปลงร่างจนทำให้คนทั้งชั้นเรียนตกใจ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ
「พวกเราถูกโจมตีที่โรงเรียนค่ะ」
『ว่ายังไงนะ?!แล้วปลอดภัยดีหรือเปล่า?!』
「ตอนนี้ฉันจัดการมันไปแล้วค่ะ แต่ว่า……」
ฉันมองไปที่บริเวณหน้าต่าง
ราวกับว่าเรื่องที่ฉันคิดเป็นจริง
มีใครบางคนกำลังส่งเจตนาฆ่ามาหาฉัน
「……」
ร่างสองร่างที่กำลังยืนอยู่บริเวณใกล้ทงาเข้าโรงเรียน
ตัวหนึ่งเป็นสัตว์ประหลาด 4 แขนร่างผอมกำลังลอยอยู่ในอากาศในท่านั่งคล้ายทำสมาธิ
ส่วนอีกตัวเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างคล้ายกับปลาที่มาพร้อมกับหางรูปทรงประหลาด
ฉันรู้จักพวกมันสองตัวดี
「อีกฝ่ายคือสัตว์ประหลาดกินเสียงและสัตว์ประหลาดบาเรียค่ะ」
『เธอแน่ใจเหรอ?』
「ค่ะ มันเป็นตัวเดียวกันกับที่อัศวินดำเคยสู้แน่นอน」
สัตว์ประหลาดกินเสียงเป็นตัวน่ารำคาญเพราะมันทำการกลืนกินเสียงรอบๆ มาใช้โจมตีเป็นวงกว้าง คงต้องระวังการเคลื่อนไหวของมันพอสมควร
ส่วนสัตว์ประหลาดบาเรีย…..อัศวินดำน่าจะสามารถรับมือได้ไม่ยาก แถมตอนนี้เหมือนมันจะสร้างบาเรียล้อมโรงเรียนของฉันเอาไว้ซะแล้ว
「รีบเรียกอัศวินดำมาโดยด่วนเลยค่ะ ทางเยลโล่กับบลูน่าจะไม่สามารถมาช่วยเหลือได้ในตอนนี้」
『…เข้าใจแล้ว ฉันอนุมัติให้ได้โกลด์โหมดได้』
「รับทราบค่ะ」
ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวจริงของคิราระกับอาโออิไปด้วย
แม้ว่าจะลำบากไปบ้าง แต่อย่างน้อยฉันก็คิดว่าเอาอยู่
จากนั้นฉันก็มองไปที่อาจารย์ตรงหน้าชั้นเรียน
「อาจารย์คะ ขอสรุปสั้นๆ เลยนะคะ ตอนนี้สัตว์ประหลาดมันขังพวกเราไว้ค่ะ」
「อ่ะ? เอ๋?」
「รีบอพยพทุกคนไปที่โรงยิมด่วนเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะจัดการตรงนี้เอง」
「ดะ เดี๋ยวก่อนสิ อาราซากะซัง?!เธอกำลังพูด———」
ฉันเข้าใจดีว่าเขาตกใจขนาดไหน แต่ไม่มีเวลาแล้ว
ไม่มีอะไรรับประกันว่าพวกมันจะรออยู่เฉยๆ ต่อ
ฉันหยิบอุปกรณ์แปลงร่างขึ้นมาทันที
「ฉันคือเรด ผู้นำของจัสติสครูเซเดอร์ค่ะ」
「เปรตน่ะเหรอ……คืออากาเนะ…?」
เดี๋ยวเถอะ ฉันยินได้นะยะ ใครกันมันกล้าเรียกฉันว่าเปรต!!!
ว่าแล้วฉันก็กระโดดออกจากหน้าต่างไปด้วยความหัวเสียเพราะเพื่อนร่วมชั้นคนไหนสักคนพูดอะไรบ้าๆ ออกมา
จากนั้นฉันก็หยิบเอาจัสติสโฟนออกมาเพื่อใช้งานต่อทันที
『Authentication:Code RED…』
『CHANGE! MODE:GOLD!!!』
ฉันเปลี่ยนเป็นร่างที่สุดยอดที่สุดของฉัน เพื่อเข้าไปเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดสองตัว
เข้าใจได้แหละว่าทุกคนตกใจกันสุดๆ
ใครจะไปคิดล่ะว่าเพื่อนร่วมชั้นของตัวเองจะเป็นจัสติสเรด
「หือ เหมือนคราวนี้จะไม่มากัน 3 คนนะ?」
「……」
「อุฟุฟุ น่าเสียดายจริงๆ ทั้งที่อยากจะได้เสียงน่ารักพวกนั้นแท้ๆ」
สัตว์ประหลาดกินเสียง ชาร์คเทล
สัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนปลาซึ่งปรากฏตัวในตอนที่พวกเรายังเป็นจัสติสครูเซเดอร์ได้ไม่นาน
พลังของมันคือการกินเสียง
แถมเสียงที่มันกินเข้าไปยังสามารถนำมาใช้โจมตีได้อีกด้วย
「ถึงคราวก่อนจะฆ่าฉันได้ แต่คราวนี้คงไม่คิดว่าจะง่ายเหมือนตอนนั้นใช่ไหม?」
「……」
「ตอนนี้ฉันคือชาร์คทิส ร่างกายใหม่ซึ่งได้รับการปรับปรุงมาไม่มีทางแพ้ง่ายๆ หรอก」
ฉันไม่รู้ว่าทำไมมันถึงกลับมามีชีวิตได้ แต่พวกมันแกร่งกว่าเดิมอย่างแน่นอนจากรูปร่างที่เปลี่ยนไปของมันบางส่วน
เกราะที่มีเพิ่มขึ้นมาบนร่างก็ด้วย ทางความสามารถก็อาจจะมีอะไรมากกว่าเดิม
「บอกมาซะว่าพวกแกซ่อนจิตวิญญาณแห่งดวงดาราเอาไว้ที่ไหน」
「……?」
ในใจฉันส่งเสียงว่า เอ๋ ออกมาดังลั่น
อะไรนะ…จิตวิญญาณ?
ทำไมมีแต่คำที่ฉันไม่เข้าใจโผล่มาจากปากของมันได้ล่ะ
「นายเหนือหัวของพวกเราต้องการมัน พวกเรารู้ว่าแกซ่อนมันเอาไว้ ดังนั้นส่งมันมาให้พวกฉันแต่โดยดีเสีย」
สำหรับตอนนี้หยุดฟังเรื่องไร้สาระของมันแล้วฟันทิ้งเลยดีกว่า
ยังไงฉันก็ไม่คิดจะทำอะไรตามที่มันขออยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
จังหวะที่สัตว์ประหลาดกินเสียงกำลังประมาท ฉันก็ทำการฟันเข้าไปหนึ่งทีทว่าดาบของฉันก็ถูกกระแทกกลับมาพร้อมกับสีหน้าของมันที่เหมือนปลาซึ่งแสดงความตกใจออกมา
「นี่แก……!!」
…ชุดเกราะที่มันใส่มาด้วยไม่ธรรมดาเลย
บรรยากาศที่สัมผัสได้มันเหมือนกับการป้องกันของพวกเซไคเซ็นไต
หรือว่าจะเป็นฝีมือของฮิลด้ากัน?!
เจตนาฆ่าส่งตรงมาหาฉันรุนแรงกว่าเดิม สัตว์ประหลาดกินเสียงขยับเกราะของมันไปมา จากนั้นสัตว์ประหลาดอีกตัวที่เงียบมาจนถึงตอนนี้ก็พูดขึ้น
「อย่ารีบร้อน นายเหนือหัวบอกให้นำจิตวิญญาณแห่งดวงดารากลับไปด้วย」
「ฆ่าไปสักคนไม่เป็นไรหรอกน่า!! จะทรมานยัยนี่ให้ถึงที่สุดก่อนฆ่าทิ้งให้ดู!!」
ดูเหมือนว่าจะยังหัวร้อนง่ายไม่ต่างจากเดิมนัก
แต่แค่นี้ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจของฉันเปลี่ยนไปหรอก
ฉันพุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายทันทีเพื่อปิดระยะแล้วฟันลงไปบนร่างของมัน ฉันมั่นใจว่าจุดที่ฟันลงไปเป็นส่วนที่ไร้การป้องกัน ทว่าการฟันของฉันกลับถูกบางอย่างเบี่ยงออกไปซะอย่างงั้น
「!」
「ก็บอกว่ามันไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนไงเล่า!! ฮ๊า!!」
เธอส่งเสียงโจมตีกลับมา
ฉันทำการผ่าคลื่นเสียงที่โจมตีมา ก่อนจะพุ่งเข้าไปสวนมันอีกรอบ
「ระวังไว้บ้างก็ดีนะ!!」
「……」
หลังสิ้นเสียงนั้น ชุดเกราะของสัตว์ประหลาดกินเสียงก็แยกตัวออกมาแล้วลอยไปในอากาศ ก่อนที่มันจะเปลี่ยนร่างเป็นของคล้ายโทรโข่ง ฉันจึงตัดสินใจเตรียมป้องกันแทน
「วู้ม」
คลื่นเสียงอันทรงพลังได้ส่งออกมาจากชุดเกราะของมัน
พลังทำลายล้างรุนแรงราวกับขีปนาวุธ จนทำให้พื้นตรงหน้าฉันระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
การโจมตีนี้คงส่งผลไปถึงอาคารเรียนที่อยู่ข้างหลังฉันอย่างแน่นอน
———แต่ว่า
———หั่นมันให้เป็นชิ้นๆ จัสติสบิท
เมื่อฉันส่งความคิดในหัวไปยังอุปกรณ์ มันก็เริ่มทำงานทันที
แสงด้านหลังของฉันได้ส่องออกมาแล้วก็ปรากฏใบมีดจำนวนมากขึ้นมาป้องกันการโจมตีของสัตว์ประหลาดกินเสียง
「หา!? 」
จัสติสบิทเรดนั้นเรียบง่ายกว่าบลูและเยลโล่ก็จริง แต่ในขณะเดียวกันประสิทธิภาพในการสังหารนั้นสูงที่สุด
『ไหนๆ ตอนนี้เธอก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดสีเลือดไปแล้ว จัสติสบิทที่ฉันสร้างขึ้นมาก็เลยเป็นของที่มีไว้สำหรับทำให้เธอรับมือได้กับทุกสถานการณ์ด้วยคบดาบสีเลือดนั่น ฮ่าๆๆๆๆ ฉันนี่มันอัจฉริยะจริงๆ ว้อย!!』
พอนึกถึงคำพูดของอิตาประธานนั่นแล้วก็รู้สึกน่ารำคาญชิบ จากนั้นฉันก็สั่งให้จัสติสบิทที่เป็นดงคมมีด บินไปมาเป็นวงกลมรอบตัวฉัน
「……」
ต้องสู้โดยปกป้องอาคารเรียนไปด้วย
ถึงตอนนี้จะยังสามารถป้องกันเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่ควรจะปล่อยให้ยืดเยื้อ
ยังไงมันก็เป็นสัตว์ประหลาดที่ฉันเคยเอาชนะมาแล้ว
วิธีการคงไม่ต่างจากเดิมมากหรอก
「……」
「วู้มๆๆ!!」
มันทำการปล่อยคลื่นเสียงออกมาโจมตีอีกครั้ง แต่ฉันไม่ปล่อยให้เล่นฝ่ายเดียวหรอก
「ฮ่าๆๆ ก็บอกว่าไม่ได้ผลยังไงล่ะ!」
มันทำการป้องกันร่างของตัวเองด้วยเกราะปริศนาอีกครั้ง แต่คราวนี้ฉันกุมดาบในมือให้แน่นขึ้นพร้อมกับเจตนาฆ่าเต็มพิกัด
ดาบสีแดงในมือเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มกว่าเดิม ตัวดาบเริ่มมีประกายไฟออกมาก่อนจะเฉือดร่างของมันได้สำเร็จ
「อะไรกัน!? อั๊ก!」
ใจจริงก็อยากจะตัดหัวทิ้งไปให้จบๆ แต่เกราะป้องกันของมันหนาเกินไป ก็เลยทำได้แค่ตัดแขนของมันทิ้งไปข้างหนึ่ง
「หึ!!」
สัตว์ประหลาดกินเสียงยิ้มให้กับฉันทั้งที่แขนของมันปลิวไปข้างหนึ่ง
「เป็นยังไงล่ะ ฮ่าๆๆ ฉันรับการโจมตีของแกเอาไว้ได้!! ไม่มีทางที่จะฆ่าฉันได้ง่ายๆ หรอก!!」
「เหมือนเดิมไม่มีผิด สมองไม่เติบโตเลยสักนิดเจ้านี่」
หลังจากเห็นสภาพของมันแล้ว ฉันก็สั่งให้จัสติสบิทมาติดตรงหลังมือตัวเองแล้วเปลี่ยนให้มันเป็นกรงเล็บ
ความสามารถของจัสติสบิทเรดคือการเปลี่ยนรูปร่างนาโนแมชชีน
กรงเล็บยาวพร้อมกับเปลวเพลิงปรากฏขึ้น ด้วยสิ่งนี้น่าจะกระชากคอของอีกฝ่ายให้หลุดได้ง่ายกว่าเดิม
「หา?」
ในจังหวะที่มันส่งเสียงตกใจออกมาเพียงครู่เดียว เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดของมันก็ตามมาทันที
「ได้ยังไง……!?」
「สุดท้ายแกก็เป็นแค่สัตว์ประหลาดที่ฉันเคยเอาชนะมาได้แล้วครั้งหนึ่ง」
คอที่ทำการควบคุมเสียงคือจุดอ่อนของมัน
มันจึงป้องกันจุดนั้นเอาไว้ให้หนาที่สุด แต่หากทำลายมันลงได้ชัยชนะก็จะตกเป็นของฉัน
「แกคิดว่าตัวเองแกร่งขึ้นคนเดียวหรือไง?」
「ไม่นะ……ม่ายยยย!?」
ในขณะที่สัตว์ประหลาดกินเสียงเอื้อมมือมาหาฉันพร้อมกับกุมคอของตัวเองเอาไว้ จัสติสบิทก็เริ่มแผดเผาร่างของมันด้วยความร้อนสูง
เมื่อคอของมันถูกหลอมละลายก็ไม่น่าจะขโมยเสียงของคนอื่นได้อีก
ที่เหลือก็แค่ปิดงาน
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะจนมุมสักแค่ไหนมันก็เป็นสัตว์ประหลาด
ฉันต้องไม่ลดความระวังลงเด็ดขาดจนกว่าพวกมันจะตาย
「ปะ บุ อะ……」
「อย่างที่คิดเสียงน่าเกลียดแบบนี้เหมาะกับแกกว่าแฮะ」
ฉันนำจัสติสบิทเปลี่ยนให้เป็นขวานสีแดงฉาน
ก่อนจะจ้องมองไปยังสัตว์ประหลาดกินเสียงที่แสดงความสิ้นหวังออกมาพร้อมกับร่างที่ท่วมด้วยเปลวไฟ
ฉันทำการบั่นหัวของมันทิ้งเพื่อปิดงานทันที จากนั้น……
「……แกคือรายถัดไป」
ฉันเปลี่ยนขวานให้กลายเป็นดาบและชี้ไปยังสัตว์ประหลาดบาเรีย
สัตว์ประหลาดตัวนี้มันสามารถสร้างบาเรียขึ้นมาได้
หากอัศวินดำคุงสามารถใช้หมัดของตัวเองในการทะลวงบาเรียได้ ฉันก็น่าจะทำได้เหมือนกัน
เมื่อรู้ตัวแล้วว่าเป้าหมายต่อไปคือมัน สัตว์ประหลาดบาเรียก็เริ่มกางแขนออก———
「ช่วยไม่ได้สินะ เพื่อนายเหนือหัว ข้าคงต้องสังหาร———อ๊ะ」
———ในจังหวะเดียวกันนั้นเองใบมีดสีดำก็พุ่งทะลุผ่านหน้าผากของสัตว์ประหลาดไป
พอรู้สึกตัวอีกทีสัตว์ประหลาดบาเรียก็อยู่ในสภาพที่หัวเป็นรูโหว่ไปซะแล้ว
「อะไรกัน?」
จากนั้นร่างของสัตว์ประหลาดบาเรียก็ถูกผ่าออกเป็นสองท่อน พร้อมกับการปรากฏตัวของร่างร่างหนึ่งที่มีกระแสไฟฟ้าล้อมรอบ
ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะใช้โหมดพรางตัวอยู่ก่อนหน้านี้สินะ
ร่างนั้นทำการสะบัดเลือดที่ติดอยู่ตรงใบดาบในมือทิ้งออกไป
「ใครกัน?」
ชุดเกราะสีแดงดำทั้งตัว แถมยังเหมือนว่าส่วนที่ดำจะเป็นเพราะสีมันลอกออก
ทั้งที่เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย ฉันกลับสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังอย่างรุนแรงที่พุ่งเข้าใส่
「ลำดับแห่งดวงดาราที่ 10 『Code——RED “X” 』」
ลำดับที่ 10
ทันทีที่ฉันรู้ถึงตัวของสิ่งนี้ฉันก็รีบพุ่งเข้าไปโจมตีทันทีโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายเป็นหญิงหรือชาย
ดาบสีแดงของฉันถูกดาบของอีกฝ่ายกันเอาไว้ได้
เสียงปะทะกันของโลหะดังขึ้นจนก้องไปทั่วบริเวณ จากหน้าใบหน้าที่สวมหน้ากากเอาไว้ของอีกฝ่ายก็ยื่นเขามาใกล้ฉัน
『อากาเนะ อาราซากะ ฉันจะฆ่าแก』
「แกต่างหากที่ต้องตาย」
ต้องฆ่ามันให้ได้
ส่วนหนึ่งในจิตใจของฉันส่งเสียงร้องแบบนั้นออกมา
****
ฉันรู้อยู่แล้วว่าสักวันมันต้องมาถึง
สัตว์ประหลาดที่เข้ามาโจมตีชีวิตประจำวันของฉันจนไม่เหลือชิ้นดี
สุดท้ายก็จบลงที่ฉันเผยตัวจริงให้โลกได้รู้ ทั้งที่คิดว่าจะปิดบังได้นานกว่านี้สักหน่อยแท้ๆ
บางทีฉันอาจจะต้องใช้ชีวิตจากนี้ไปเหมือนกับคัตสึมิคุงก็ได้
แต่ในเมื่อตัดสินใจไปแล้วก็ไม่คิดจะมาเสียใจทีหลังหรอก
ประธานน่าจะปกป้องครอบครัวของฉันได้ ที่เหลือก็แค่ไปซ่อนตัวอยู่กับคัตสึมิคุง
「รับมือยากชะมัด!!」
ศัตรูคือนักรบสวมชุดเกราะแดงดำ ซึ่งปรากฏขึ้นหลังจัดการกับสัตว์ประหลาดไป
ตอนนี้ฉันกำลังปะทะดาบอยู่กับคนที่เรียกตัวเองว่า เอ็กซ์ ซึ่งอยู่ลำดับที่ 10
「……ชิ!」
『……ชิ!』
อีกฝ่ายแข็งแกร่ง
แต่ไม่ได้มีความพิเศษอะไรในอาวุธที่ใช้
ดาบสีดำที่ส่วนคมส่องแสงสีเหลืองออกมาจนดูโด่ดเด่น นั่นคือทั้งหมดของดาบเล่มนี้ แต่การที่มันใช้ของแค่นี้ในการรับมือกับฉันได้ก็บอกชัดแล้วว่าไม่ธรรมดา
「โถ่เว้ย!」
เสียงแหลมสูงถูกส่งออกมาจากอีกฝ่าย ก่อนที่แรงปะทะจะแยกพวกเราออกจากกัน จังหวะนี้เองฉันได้เปลี่ยนจัสติสบิทให้กลายเป็นหอก
ฉันทำการใช้มันฟาดเข้าไปในระยะที่ดาบไม่สามารถไปถึงได้เพื่อตัดกำลังอีกฝ่าย
———ก่อนอื่นต้องทำให้มันบาดเจ็บเพื่อลดการเคลื่อนไหว
ทว่าสิ่งที่ฉันเห็นในจังหวะสุดท้ายก็คือปืนในมือซ้ายของลำดับที่ 10
แสงวูบวาบกำลังจะวิ่งออกมาจากปากกระบอกปืนและยิ่งใส่ร่างฉันในระยะใกล้
「อึก」
『……ชิ』
ฉันทำการตัดกระสุนพลังงานนั้นทิ้งได้ทันก่อนจะถอยกลับไป
จากนั้นกระสุนพลังงานที่เหลือก็ถูกยิงตามออกมา
「บัดซบ」
『บัดซบ』
ในขณะที่ฉันตกใจเพราะอีกฝ่ายดันพูดแบบเดียวกันออกมา ข้อความจากอาโออิก็ส่งเข้ามาในหน้ากาก
ฉันทำการตอบกลับไปโดยยังตั้งท่าระวังลำดับ 10
『อากาเนะ!! ปลอดภัยดีไหม?!』
「ยังปลอดภัยดี แต่ตอนนี้ลำดับ 10 ปรากฏตัวขึ้นแล้ว」
『ฉันว่านั่นไม่น่าเรียกปลอดภัยนะ!!』
คิราระตบมุกตามได้สวย
「ทางพวกเธอล่ะ?」
『ตอนนี้เหมือนจะไม่มีสัญญาณของสัตว์ประหลาดแล้ว ทุกคนปลอดภัยดี』
「อย่าได้ลดการระวังตัวลง พวกมันอาจจะรอจังหวะอยู่ก็ได้」
ฉันรู้ดีว่าพวกสัตว์ประหลาดมันเหลี่ยมแค่ไหน
ต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ที่พวกมันจะใช้วิธีขี้ขลาดอย่างการลอบโจมตีเอาไว้ด้วย
『เปรตฉันรู้ว่าเธอกำลังตื่นเต้นที่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตัวเองซึ่งเป็นพลังในเงามืดซ่อนตัวแล้วอยู่ดีๆ โรงเรียนก็ถูกโจมตี แต่ก็อย่าให้มันหลุดจนเกินไปซะล่ะ』
「พูดอะไรไร้สาระกันยะยัยนี่……!」
หรือนั่นจะเป็นความปรารถนาของอาโออิ?
「ยังไงก็เถอะ หากทนได้อีกสักหน่อยเดี๋ยวอัศวินดำคุงก็——」
『เรด!!』
ในขณะที่ฉันกำลังพูดอยู่ดีๆ เสียงของประธานก็ดังขึ้น
『คัตสึมิคุงที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ถูกฮิลด้าขัดขวางเอาไว้!!』
「ยัยบ้านั่นอีกแล้ว……」
ยัยคนน่ารำคาญที่ตามติดคัตสึมิคุงไม่เลิก
แต่คัตสึมิคุงคงเมินยัยนั่นไม่ได้แน่
…ก็หมายความว่าเขาคงมาที่นี่ได้ยากแล้ว
『คุยกันเสร็จแล้วเหรอ?』
「มีน้ำใจเหลือเกินนะ ทั้งที่สามารถโจมตีฉันได้แท้ๆ」
ฉันกุมดาบไว้ในมือให้แน่นระหว่างพูด
อีกฝ่ายมีฝีมือและแข็งแกร่งกว่าพวกสัตว์ประหลาดที่ฉันเจอหลายเท่า
ไม่ใช่พวกที่ฉันจะเอาชนะได้ง่ายๆ ด้วยพลังเพียวๆ
จะต้องมีสติและสมาธิกว่านี้
「『———!』」
พวกเราพุ่งเข้าหาในจังหวะเดียวกัน
ดาบของพวกเราปะทะกันจนเกิดประกายไฟ
เสียงของโลหะดังไปทั่ว แต่พวกฉันก็ไม่หยุดที่จะโจมตี
「อึก อีกแล้ว!!」
ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นทุกครั้งหลังปะทะกัน
ไม่ใช่ว่าประสิทธิภาพสูทมันลดลงหรือฉันประมาท
แต่อีกฝ่ายเหมือนจะทำนายการเคลื่อนไหวของฉันได้หมด แถมที่แปลกกว่าก็คือฉันดันสามารถทำนายการเคลื่อนไหวทั้งหมดของอีกฝ่ายได้เหมือนกัน
ฉันเลยรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก
「เหมือนส่องกระจกเลยวุ้ย น่าขนลุกชะมัด!!」
『……』
หรือว่าพลังของมันคือการเลียนแบบการเคลื่อนไหว?
หากการเคลื่อนไหวปกติมันใช้ไม่ได้งั้นก็ต้องลองของยากสักหน่อย
ใช้ทักษะนั้นเลยละกัน!!
「ท่านอาซาฮี ขอยืมใช้ท่าหน่อยนะคะ!!」
อีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าพวกเซไคเซ็นไตแน่นอน!! ดังนั้นไม่มีเหตุผลให้ต้องยั้งมือ!!
ฉันถือดาบยาวเอาไว้ในมือก่อนจะตั้งมันเอาไว้เหนือไหล่แล้วโน้มไปข้างหลังเล็กน้อย จากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งจังหวะแล้วปลดปล่อยการฟันด้วยความเร็วสูงออกไป
『———ขิ』
การโจมตีต่อเนื่องถูกฟาดฟันใส่ศัตรู
ลำดับที่ 10 ที่เห็นก็ทำการป้องกันด้วยโล่ขนาดใหญ่ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจแล้วโถมการโจมตีเข้าไปต่อ
เสียงปะทะกันดังก้องไปทั่ว การโจมตีถึง 7 ครั้งติดที่ความเร็วเพิ่มขึ้นทุกครั้งค่อยๆ ทะลวงโล่ของอีกฝ่าย
『……!』
โล่ของอีกฝ่ายแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
เกราะป้องกันถูกทำลายจนเผยให้เห็นร่างข้างใน
———ทีนี้ก็ได้จังหวะแล้ว!!
บริเวณคอที่ไม่เหลืออะไรป้องกันนี่แหละ
ดาบของฉันมีปลายทางคือหัวของศัตรู ทว่าก่อนที่ดาบจะไปถึงลำดับที่ 10 ก็ได้ใช้แขนของตัวเองข้างหนึ่งมาปกป้องดาบที่กำลังตรงไปยังหัวของมัน
「หา!?」
คมดาบทำการตัดแขนซ้ายของลำดับ 10 จนทำให้โมเมนตัมการฟันหยุดลง
หยุดการโจมตีด้วยแขนเนี่ยนะ?!
แต่ความรู้สึกนี้มัน….แขนเทียม!! บ้าเอ้ย โดนมันล่อซื้อแล้วสิ!!
『อยากจะฟันหัวให้ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ?』
เสียงเย้ยหยันออกมาจากปากของลำดับ 10 จากนั้นมันก็หยิบขวานกลขนาดใหญ่ออกมาจากกล่องข้างหลังแล้วเหวี่ยงมันไปมา
ฉันรีบปล่อยดาบออกจากมือเพื่อหลบการโจมตี จากนั้นอีกฝ่ายก็ปลดแขนซ้ายที่มีดาบฝังเอาไว้ออก ก่อนจะเอาแขนใหม่เข้าไปใส่
แขนเทียมอันใหม่ที่ถูกต่อเข้ามานั้นส่องแสงสีน้ำเงินออกมาและแสงนั้นก็พุ่งตรงมาหาฉัน นี่มันเลเซอร์นี่หว่า
「ชิบ!!」
ฉันใช้จัสติสบิทพุ่งเข้ามาฟันการโจมตีของอีกฝ่ายทิ้งทันที
ในขณะที่ฉันกำลังจะเตรียมรับมือกับการโจมตีถัดไป การเคลื่อนไหวของลำดับที่10ก็หยุดลง
『……ชิ』
「?」
อะไรกัน?อยู่ดีๆ สายตาของอีกฝ่ายก็เหมือนจะมองไปที่ข้างหลังฉันซึ่งเป็นอาคารเรียน แล้วก็หยุดโจมตีไปซะเฉยๆ
คำถามมากมายเกินขึ้นในใจของฉัน แต่ความคิดก็ถูกขัดเอาไว้ด้วยการโจมตีถัดไปของลำดับที่ 10 ซึ่งเปลี่ยนปืนในมือให้กลายเป็นขวานเพื่อโจมตีระยะประชิด
「ใช้อาวุธหนักได้ด้วยซะงั้น!!」
ขวานที่ฟาดฟันแต่ละครั้งจนเกิดประกายไฟไปทั่ว
ทั้งการยิงที่เหมือนกับอาโออิก็ดี ชักสงสัยแล้วสิว่าอีกฝ่ายใช้วิเคราะห์ข้อมูลของพวกเรามาหรือเปล่า
『หึ!!』
ท่ามกลางฝุ่นที่ฟุ้งเพราะถูกขวานฟาดใส่ ร่างของลำดับที่10 ก็ถูกกระแสไฟฟ้าห้อมล้อมเอาไว้ ก่อนจะทุ่มมันลงมาใส่ฉัน
「จะสวนกลับไปให้ดู!!」
ฉันทำการเชื่อมดาบสองเล่มเข้าด้วยกันจนมันกลายเป็นนากินาตะสองคม
จากนั้นก็เหวี่ยงมันด้วยแรงสูงสุดเพื่อรับการโจมตีที่เข้ามาหา
「คึ!!」
『คึ!!』
ทันทีที่อาวุธทั้งสองปะทะกัน คลื่นกระแทกก็แผ่กระจายออกมาจนทำให้หน้าต่างอาคารเรียนแตกกระจาย
พวกเราทั้งคู่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีนั้นจนกระเด็นและล้มลงกับพื้น ก่อนจะหันมามองหน้ากัน
『เรด ยังไหวไหม?!』
「ถ้าตอนนี้ก็ยังไหว….แต่มันแข็งแกร่งกว่าที่คิด พอจะมีข้อมูลไหมประธาน?」
『ไม่เลยสักนิด!! ตอนแรกก็คิดว่ามันเลียนแบบการเคลื่อนไหวของเธอได้ แต่ไม่ใช่เลย!!』
「หมายความว่ายังไงกัน?」
『มันไม่ใช่การเลียนแบบ!! แต่อีกฝ่ายต่อสู้สไตล์เดียวกับเธอต่างหาก!!』
『…แกแข็งแกร่งจริงๆ แต่ก็อย่างที่คิดไว้ ไม่งั้นก็คงไม่สามารถปกป้องโลกได้』
「เหมือนแกจะมีแรงเหลือพูดนะ」
ตอนนี้ฉันยังมีแรงสู้ต่อ อีกฝ่ายก็คงไม่ต่างกัน
แม้จะต่อสู้กันมาขนาดนี้แล้วก็ยังไม่เห็นฉากจบเลย เป็นศัตรูที่ฉันรับมือได้ยากสุดๆ
「แต่พวกฉันไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่ปกป้องโลกไว้สักหน่อย เพราะพวกเรามีอัศวินดำคุงด้วยยังไงล่ะ」
『……หมายถึงอะไร』
「ก็อัศวินดำไง?」
ไม่รู้จักเหรอ?นี่องค์กรของทางนั้นมันกระจายข้อมูลกันอิท่าไหนเนี้ย?
「อัศวินดำคุงก็คืออัศวินดำคุงไง」
『หมายถึงเรมะ คาเนะซากิที่สวมชุดเกราะอัศวินดำเข้าต่อสู้ช่วงสัตว์ประหลาดบุกเหรอ』
『ถ้าฉันสวมโปรโตสูทจริงป่านนี้ฉันนอนเป็นผักไปแล้วเว้ย!!』
อยู่ดีๆ ประธานก็บ่นออกมา แต่ฉันไม่เข้าใจคำพูดของลำดับ 10 เลยสักนิด
คัตสึมิคุงต่างหากที่เป็นคนสวมชุดเกราะอัศวินดำแล้วเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดแมงมุมในเหตุการณ์สัตว์ประหลาดบุก
ไม่มีทางเป็นอิตาประธานไปได้หรอก
『แล้วเธอต่อสู้เพื่ออะไรกัน?』
「อยู่ดีๆ ก็ช่างพูดเฉย คิดจะซื้อเวลาเหรอ?」
กำลังรอกำลังเสริมหรือเปล่านะ?
แต่หากทำแบบนั้นก็ยิ่งทำให้อัศวินดำคุงมีโอกาสที่ช่วยทางฉันเหมือนกัน
พอเงียบไปสักพัก ลำดับที่ 10 ก็พูดต่อ
『ก็แค่อยากรู้ แต่ถ้าจะให้ฆ่ากันต่อเลยก็ไม่มีปัญหา』
…ตอบมาง่ายๆ เลยซะงั้น
นั่นสินะ หากคิดถึงเหตุผล ในตอนแรกก็แค่ไม่อยากให้ใครต้องมาเผชิญความกลัวของสัตว์ประหลาดเหมือนฉันอีก
แต่ตอนนี้มันต่างออกไป….
「ฉันต่อสู้เพื่อไม่ให้คนที่สำคัญของฉันต้องสู้อีก」
「……」
「หือ?」
ไม่รู้ทำไหมลำดับ 10 ถึงได้เงียบไปหลังได้ยินคำตอบ
ในขณะที่ฉันสงสัย อีกฝ่ายก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ต่ำกว่าเดิม
『แก』
「แก?」
『แกมีคนรักหรือยัง?』
……。
……、……。
「……ก็ต้องมีสิ」
นี่คือการแสดงจุดยืนเพื่อข่มขวัญอีกฝ่าย
ดังนั้นฉันจึงต้องพูดออกมาด้วยความมั่นใจสุดๆ
ในขณะฉันพูดจบ คิราระกับอาโออิก็ได้ตามมาสมทบ ดูเหมือนว่าจะทำการอพยพคนอื่นออกไปจนหมดแล้วสินะ
แต่แทนที่จะส่งจิตสังหารใส่ลำดับที่ 10 ตรงหน้าพวกเธอกลับส่งมาหาฉันแทน
「เรดนี่เหมือนอยากจะบันจี้แบบไม่มีเชือกเนอะ」
「เปรต เธอติดอยู่ในเรเควียมหรือไง?」
「พวกเธอไม่รู้หรือไงว่าพูดก่อนเท่ากับชนะ!!」
แม้ว่าจะต้องมีอะไรคุยกันหลังจากนี้
แต่ในที่สุดทั้งสองคนก็มาถึงแล้ว
「เรื่องบทลงโทษเรดเอาไว้ที่หลัง…ตอนนี้พวกเราต้องเตรียมรับมือกับลำดับที่10ก่อน!!」
「ไม่ยอมให้มาวุ่นวายกับโลกของเราหรอก」
『……』
คิราระและอาโออิชี้อาวุธไปทางอีกฝ่าย ทว่าอีกฝ่ายกลับนิ่งเฉยแล้วเก็บอาวุธกลับเข้าไป
『……วันนี้พอก่อนละกัน』
「คิดว่าจะยอมเหรอ?」
『ที่พูดเพราะฉันทำได้ต่างหาก』
หลังพูดจบ ร่างของลำดับที่10ก็หายไปราวกับเป็นอากาศ
พวกเราทุกคนพร้อมใจกันโจมตีไปยังจุดที่ลำดับ10เคยอยู่แต่ก็ไม่เจอกับสิ่งใด
「……ประธาน」
『ปฏิกิริยาได้หายไปอย่างสมบูรณ์ ดูเหมือนจะไม่ใช่การพรางตัวแบบธรรมดา อาจจะมีลูกเล่นอะไรมากกว่านั้นก็ได้』
หลบหนีไปด้วยเหรอ ชิ
เป็นศัตรูที่ชวนให้ปวดหัวจริงๆ
———เจ้าได้เผชิญหน้ากับคนน่าสนใจเข้าเสียแล้วสิ
「……ท่านอาซาฮี?」
อยู่ดีๆ เสียงของท่านอาซาฮีก็ดังขึ้นมาในหัวของฉัน ทั้งที่ปกติไม่เคยจะพูดจาอะไรเลยแท้ๆ
หากมันออกมาจากปากของยัยSนักล่าหัวละก็มันไม่ใช่เรื่องดีแหง
———นี่ก็เป็นหนึ่งในความเป็นไปได้ที่บังเกิดขึ้นหรือ
———ช่างเป็นจุดจบที่น่าสมเพชสำหรับนักรบเสียนี่กระไร
「หมายความว่ายังไงกันคะ……?」
พอถามกลับไปก็ไม่ได้คำตอบอะไรกลับมา
ถึงอยากจะบ่นให้ตายสักแค่ไหน แต่ถ้าขืนทำจริงขึ้นมาตอนฝันคงถูกเล่นงานยับแหง
「ยิ่งไปกว่านั้นปัญหาตอนนี้……」
「เรด จากนี้ไปจะรอดไหมเนี้ย?」
「ไม่ต้องห่วง การถูกเผยตัวตนก็เป็นอีกหนึ่งในเส้นทางของฮีโร่ที่ต้องเดินผ่าน?」
ไม่ได้ช่วยทำให้ฉันรู้สึกสบายใจกันขึ้นมาเลยพวกหล่อนเนี้ย!!
จะบ่นไปก็ไม่ช่วยอะไรเพราะมันคือสิ่งที่ฉันตัดสินใจทำในตอนนั้นเอง แต่ก็แอบกลัวไม่น้อยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังเรื่องนี้
****
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เอ็กซ์ที่เห็นคิราระกับอาโออิปรากฏตัวจึงตัดสินใจถอย
–จบ—
และแล้วฮิโตคิริสีเลือดก็ถูกรู้ตัวจริงว่าเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง มั่นใจเลยว่าฐานแฟนคลับสาวๆได้เพิ่มขึ้นอีกเยอะจากบัพของครอบครัวอาราซากะแถมชีวิตจากนี้คงไม่ง่าย
อาสึที่ส่งสัตว์ประหลาดมาก็ตายฟรีเพราะผิดแผนตามเคย
ส่วนXถ้าให้ดูก็น่าจะยังเหลือความรู้สึกกับดาวโลกไม่น้อย แถมน่าจะโจมตีคิราระกับอาโออิไม่ลงแหงทรงนี้
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code