อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 116 พลังแห่งดวงดารา
「ฉัน!!」
「รอดแล้วค่ะ!!」
「ฮ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ!!」
พอฉันได้เห็นวิดีโอที่ถูกอัพลงก่อนหน้านี้ฉันก็อดปรบมือพร้อมกับหัวเราะออกมาไม่ได้
คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าเรื่องราวจะดำเนินไปเช่นนี้
ก็จริงว่าฉันไม่สามารถพาตัว ไฮรุ โคโนฮานะมาได้ แต่แบบนี้ก็น่าสนุกไม่น้อย
「ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าจะทำยังไง ฝีมือซันนี่สินะ?」
อัพวิดีโอเพื่อเป็นการบอกให้คัตสึมิรู้ว่าไฮรุปลอดภัยโดยที่พลังของฉันไม่สามารถเข้าไปยุ่งด้วยได้
วิดีโอจะคงอยู่ไม่หายไปไหน คัตสึมิเองก็ไม่ต้องเข้ามาลงมือด้วยตัวเอง
「ถึงแผนหลักจะล้มเหลว แต่อย่างน้อยก็สามารถดึงเธอเข้ามาในโลกฝั่งนี้ได้สำเร็จ」
ตัวฉันคุ้นชินกับเรื่องที่หลายอย่างไม่เป็นไปตามแผนอยู่แล้ว เพราะตัวฉันเกิดมาพร้อมกับชะตากรรมแบบนั้น
「….แต่ถึงจะบอกแบบนั้นใจจริงก็อยากจะจับไฮรุ โคโนฮานะให้ได้แท้ๆน้า….ให้ตายสิเจ้าซันนี่ นิสัยที่ชอบทำอะไรตามใจอยากแถมยังอ่านไม่ออกอีกนี่รับมือยากจริงๆ」
หากฉันสามารถจับเธอได้ คงทำให้คัตสึมิเคลื่อนไหวทันทีเลยแท้ๆ
แล้วแผนของฉันก็จะสมบูรณ์แบบ
แต่สุดท้ายก็ถูกขวางโดยซันนี่และลำดับที่ 7 กับ 8
「ลำดับที่ 7 กับ 8 ไม่ใช่ภัยคุกคามสำหรับฉันก็จริง…แต่การรับมือพวกมันพร้อมกันเป็นเรื่องยาก」
เพราะหากต้องต่อสู้กับพวกเธอ ผลกระทบคงเกิดเป็นวงกว้างและนั่นจะทำให้จัสติสครูเซเดอร์กับอัศวินดำเคลื่อนไหว
「….รูอินอาจจะเข้ามายุ่งด้วยก็ได้ ต้องเคลื่อนไหวระวังตัวกว่านี้」
หากไปทำให้ยัยจอมบงการที่พลังเหลือล้นซึ่งปล่อยให้ฉันทำอะไรตามใจชอบเพราะอยากให้คัตสึมิพัฒนาขึ้นหัวเสียเข้า โลก…ไม่สิจักรวาลนี้คงถูกทำลายแน่นอน
ใช่แล้วหากเป็นยัยนั่นต้องทำได้สบายๆแน่
「……หืม?」
ฉันสังเกตเห็นร่างเล็กๆกำลังเดินเข้ามา
เด็กผมสีดำอายุประมาณ 7 ขวบตามมาตรฐานของมนุษย์…
「นอนไม่หลับเหรอ?」
「……」
ร่างที่ห่อหุ้มไปด้วยความมืด และเข็มขัดที่ถูกพันปิดดวงตาทั้ง 2 ของเขา
「หรือฉันพูดเสียงดังจนทำให้ตื่นเหรอ?」
「……」
「เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เพราะฉันไม่ได้กังวลเรื่องนั้นเลยสักนิด ยังไงเธอก็แค่เครื่องมือของฉัน」
ว่าแล้วฉันก็ลุกขึ้นยืนแล้วอุ้มเด็กคนนั้น
จากนั้นก็พูดกับเขาโดยสัมผัสได้ถึงน้ำหนักที่ถ่ายเทมายังแขน
「แต่จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ก็ไม่ได้ เธอจำเป็นต้องพักผ่อนมากกว่านี้」
สถานที่แห่งนี้อยู่บริเวณส่วนลึกของผืนดิน
รังของสัตว์ประหลาด ถ้ำใต้ดินที่แสนกว้างใหญ่
ฉันพูดกับเด็กน้อยในอ้อมแขนขณะเดินผ่านสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นโดยพลังของพวกสัตว์ประหลาด
「เพราะฉันจะใช้พลังชีวิตของเธอหลังจากนี้อีกมาก ต้องให้ความสำคัญกว่านี้หน่อยสิ」
「……」
เด็กไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
แม้ว่าจะมีความสามารถในการพูด แต่ก็ไม่คิดจะพูดออกมา
บางทีฉันคงไม่ได้สั่งสอนเด็กคนนี้ให้ดีเองนั่นแหละ
ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องสนใจ แถมยังน่ารำคาญอีกด้วย
『อ๊ากกกก!!』
มีบางอย่างชนกับกระจกระหว่างทางที่ฉันเดินผ่าน
สัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนสิงโต กำลังใช้มือของมันกระแทกกับกระจกอยู่อีกฟาก โดยส่งสายตาไปยังเด็กในอ้อมแขนของฉันด้วยความโกรธ
「ยังไม่ได้จัดการเหรอ…..? ช่วยไม่ได้สินะ」
「……」
「จัดการมันซะ เดี๋ยวนี้เลย」
พอพูดจบฉันก็ถอดผ้าปิดตาของเด็กคนนั้นออก
ดวงตาของเขาส่องแสงออกมา และจ้องมองไปยังสัตว์ประหลาดที่อยู่อีกฝั่ง
『กว๊ากกกกก!?』
สัตว์ประหลาดเริ่มแสดงอาการทรมานออกมาขณะที่เนื้อของมันทะลักออกมาจากร่าง
รูปร่างของมันก่อตัวเป็นก้อนเนื้อ ก่อนจะกลายเป็นสิ่งอื่น
เป็นพลังที่ร้ายกาจเสียจริง
「พ่อของเธอเองก็ทำแบบนี้ได้โดยไม่ต้องพูดจาอะไรเลย ช่างน่ากลัวจริงๆ」
「……อุ……อุ」
『อ้าาาาา……』
จากนั้นสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์แต่มีหน้าเป็นปลาก็ปรากฏขึ้น
นอกจากนี้ก็มีหางปลาโปร่งแสงอีกด้วย
「ไม่ใช่สัตว์ประหลาดธรรมดา แต่เป็นสัตว์ประหลาดกลืนเสียงเหรอ ใช้ได้เลยนี่นา!!」
「……」
ฉันลูบผมของเด็กในอ้อมแขน
มันเคยถูกสังหารไปเพราะพลังที่ท่วมท้นของจัสติสครูเซเดอร์ ก็จริงแต่หากให้นึกถึงในแง่การรับมือลำดับที่ 8 ละก็เข้าทางสุดๆ!!
แม้จะไม่แข็งแกร่งพอในการเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายตรงๆแต่ก็สามารถเก็บเป็นไพ่ตายได้
หากให้คิดก็คงประมาณเปิดกาชาได้ตัว SR สินะ
「ฟุฟุ」
หากโอเมก้าคือสัตว์ประหลาดที่บิดเบือนวิถีแห่งสิ่งมีชีวิตทั้งปวด เด็กคนนี้ก็คงจะเป็นสัตว์ประหลาดที่สามารถปรับปรุงสายพันธ์ุของสิ่งมีชีวิตก็ว่าได้ หรือจะเรียกว่าเป็นมินิโอเมก้าดีนะ
สามารถทำได้แค่ปรับปรุงสัตว์ประหลาดหาใช่ให้กำเนิด นอกจากนี้ก็ยังทำได้กำจัดครั้งต่อวันด้วย
ทว่าสิ่งที่ได้รับหลังการปรับปรุงก็มีโอกาสที่จะได้ตัวหายากแถมยังผลิตออกมาได้เป็นจำนวนมากซะด้วย
「เอาล่ะ มาถึงห้องของเธอแล้ว」
ฉันเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง
เป็นห้องสำหรับเด็กที่มีทั้งลองเล่นและเตียงนอนน่ารัก
ฉันวางเขาเอาไว้บนเตียงแล้วลูบผมสีดำของเขา
「ไม่ค่อยเหมือนพ่อเลยสินะ」
พ่อของเด็กคนนี้คือสัตว์ประหลาดของจริง
สัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่งจนยากจะเชื่อว่าในอดีตคือมนุษย์
ใครจะคิดว่าสิ่งนั้นสามารถให้กำเนิดเด็กที่น่ารักขนาดนี้ออกมาได้
「นิว เธอคือความล้มเหลวที่ยอดเยี่ยมจริงๆ」
เพราะเป็นสิ่งที่ล้มเหลว ฉันจึงสามารถรับมือกับอีกฝ่ายได้
พลังของผู้เป็นพ่อเมื่อก่อนแข็งแกร่งเกินไปจนคุมไม่อยู่ด้วยสิ
「หลับให้สบายล่ะ」
「……」
หลังยืนยันว่านิวหลับไปแล้ว ฉันก็เดินจากมา
「ถึงจะต้องใช้เวลาอีกมาก แต่ก็หวังว่าสักวันหนึ่งจะใช้งานได้เหมือนเด็กคนนั้นนะ」
ตัวฉันอีกคนที่อยู่เคียงข้างคัตสึมิ——— อัลฟ่า แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของร่างฉันที่แยกออกไป แต่เธอก็มีอัตตาเป็นของตัวเองมากกว่าจะบอกว่าคือฉันอีกคน
ฉันทอดทิ้งเธอและปล่อยให้เธอเติบโตขึ้นด้วยตัวเอง
「เอาละ จากนี้ก็มาดูวิดีโอของลำดับที่ 7 เพื่อหา….หือ?」
พอฉันเปิดเทอร์มินัลขึ้นมา ฉันก็สังเกตเห็นถึงวังวนมิติสีดำปรากฏขึ้น
…หื้ม เป็นลูกค้าที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
「———หื้มๆ ว่าแต่สิ่งมีชีวิตต่างมิติต้องการอะไรจากฉันเหรอ?」
ตัวตนแห่งห้วงดารา เซเลสเทีย
สิ่งมีชีวิตที่ไร้รูปร่างซึ่งอาศัยอยู่ในอีกมิติหนึ่ง
บางคนก็เรียกมันว่าผู้พิทักษ์แห่งจักรวาลหรือเนบูล่า แต่สำหรับฉันพวกมันก็แค่สิ่งที่น่าปวดหัว
「เซกัลสบายดีไหม?」
『เขา จากไปแล้ว』
「หมายถึงถูกจองจำสินะ? ว่าแต่ใช้คำอะไรแบบนี้ก็เป็นด้วยเหรอ พวกปรสิตต่างมิติเนี่ย?」
เซเลสเทีย เซกัล
ทั้งที่ควรจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งในการปกป้องความสงบสุขของจักรวาล แต่บัดนี้กลับกลายเป็นตัวตนที่บิดเบี้ยว ตอนนี้น่าจะถูกกักขังอยู่ในแกนกลางที่ไหนสักแห่ง
『มาทำข้อตกลงกัน อัลฟ่า』
「อย่าเรียกฉันด้วยชื่อนั้น ไม่งั้นฉันจะขยี้แกให้เหมือนเนบิวล่านั่น」
กระแสน้ำวนสีขาวก่อตัวขึ้นในมือของฉัน ก่อนที่มันจะพุ่งตรงไปยังเงาสีดำหน้าหน้า ก่อนที่ความมืดมิดนั้นจะบิดเบี้ยวไปมา
『———อึ———คึ』
「หาเรื่องฉันไปก็รู้แท้ๆว่าไม่มีเรื่องอะไรดี ปรสิตอย่างพวกแกควรจะรู้นะว่าเส้นที่ฉันขีดเอาไว้อยู่ตรงไหน อย่าได้คิดข้ามมาอีก」
ฉันไม่ได้สนใจเสียงกรีดร้องของมัน
น่ารำคาญจริงๆที่ต้องมารับมือกับพวกที่ไม่มีสมองในการเรียนรู้
「แล้ว ข้อตกลงสินะ? จะว่าไปพวกเซไคเซ็นไตที่เป็นเบี้ยของแกก็ถูกทำลายไปแล้วด้วยนี่เนอะ?」
『นั่นคือสิ่งที่เซกัลปรารถนาเลือกมาหาใช่ข้า』
「ก็ดันเลือกพวกกระจอกอ่อนแอมานี่นะช่วยไม่ได้ นอกจากนี้แกนแห่งดวงดาราถูกขโมยไปด้วยนี่ แกเลยจำเป็นต้องมาติดต่อกับฉัน」
แถมแกนพลังงานนั้นยังถูกเด็กสาวที่ชื่อฮิลด้าขโมยไปซะด้วย
อันที่จริงเด็กคนนั้นก็น่าสนใจไม่น้อย
『สิ่งมีชีวิตที่ให้กำเนิดพลังแห่งดวงดารา———จิตวิญญาณแห่งดวงดาราได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว』
「!โห แบบนี้นี่เอง…ว่าแต่ดาวเคราะห์ดวงไหนกันล่ะที่ให้กำเนิดสิ่งนั้น?」
『ดาวโลก』
….ดาวโลก….อย่างที่คิด!!
ฉันพยายามระงับอาการไม่ให้แสดงออกมาชัด ก่อนปั้นหน้านิ่งถาม
『สิ่งมีชีวิตแห่งปาฏิหาริย์ซึ่งสร้างพลังแห่งดวงดาวขึ้นมาได้ สิ่งที่พวกเรารอคอยมาโดยตลอด』
「คิดจะกลืนกินเหรอ? อ้อ นั่นสินะ พวกปรสิตแบบแกจะรอดได้ก็ต้องไปเกาะคนอื่นนี่นา」
ถึงจะพูดอะไรเกี่ยวกับพลังแห่งดวงดาราซะเยอะ แต่พวกมันไม่ได้ถือกำเนิดมาจากพลังแห่งดวงดาราเลย
พวกมันก็แค่สัตว์ประหลาดที่กลืนกินพลังแห่งดวงดารา
เป็นปรสิตที่น่ารังเกียจ
『ข้าไม่คิดจะยอมแพ้ นอกจากนี้พลังของพวกข้าน่าจะช่วยเจ้าได้』
「……。นั่นก็จริง」
อันที่จริงสัตว์ประหลาดที่ฉันมีอยู่ตอนนี้มันก็ค่อนข้างขาดในด้านของพลังไปสักหน่อย
ข้อเสนอนี้ก็ไม่เลว รับเอาไว้ไม่น่าเสียหายอะไร
「เอาสิ มาร่วมมือกัน」
หลังสิ้นเสียงของฉัน วัตถุทรงกลมที่ส่องแสงทั้ง 5 ก็หล่นออกมาจากกลุ่มควันสีดำมาที่มือของฉัน
「แกนพลังงานแห่งดวงดาราเหรอ…ถึงจะเล็กไปสักหน่อยแต่ก็เอาเถอะ」
『อย่าได้ผิดสัญญา』
「รู้แล้วน่า หุบปากแล้วไปยืนดูเฉยๆซะ」
ว่าแล้วควันสีดำก็หายไปในประตูมิติ
「การถือกำเนิดของวิญญาณแห่งดวงดาราเหรอ….จักรวาลนี้ช่างน่าฉงนเสียจริง」
มนุษย์โลกที่สร้างพลังงานแห่งดวงดาราขึ้นมาได้เอง
หาตัวได้ไม่ยากเลยสักนิดเพราะเธอคนนั้นถูกจัสติสครูเซเดอร์เจอตัวแล้ว
「ฟุฟุฟุ มีอะไรน่าสนุกให้เล่นแล้วสิ」
ฉันมองดูแกนพลังงานแห่งดวงดาราที่ส่องแสงจ้าไปทั่วถ้ำใต้ดินพร้อมกับยิ้มออกมา
หากมีสิ่งนี้คงจะได้ทำอะไรได้อีกเยอะ
「เหตุการณ์สัตว์ประหลาดจะได้หวนคืนกลับมาอีกครั้ง」
ถึงเวลาแล้วที่ชาวโลกผู้หลงลืมเรื่องราวของสัตว์ประหลาดจะกลับมาจดจำมันได้
คราวนี้จงจำไปให้ถึงขั้วกระดูกดำเสีย
「แต่ก่อนหน้านั้น」
ฉันต้องเพิ่มเหตุผลในการต่อสู้ให้กับเขาเสียก่อน
ความพยายามในการลักพาตัวไฮรุ โคโนฮานะก็ล้มเหลว แผนหลายอย่างก็พังไม่เป็นท่า แต่ความล้มเหลวพวกนี้มันก็ทำให้ฉันได้แผนใหม่กลับมาเสมอ
「———」
ฉันดีดนิ้วของตัวเองจนเสียงดังก้องไปในอากาศ ก่อนที่มันจะปรากฏภาพของอัลฟ่า ตัวตนของฉันอีกคนที่กำลังอยู่เคียงข้างคัตสึมิ
「นับจากนี้ไป จะไม่มีพลังในการเปลี่ยนแปลงการรับรู้อีก」
พลังในการเปลี่ยนแปลงการรับรู้ของเธอจะถูกผนึกไปนับตั้งแต่บัดนี้เพื่อไม่ให้แผนของฉันต้องล้มเหลวอีก เธอจะไม่สามารถใช้พลังในการฟื้นฟูความทรงจำของผู้คนให้กลับมาได้ ไฮรุ โคโนฮานะจะกลายเป็นคนไร้ตัวตนเช่นเดิม การที่จะเอาความทรงจำของเธอกลับมาได้มีเพียงทางเดียวคือการเอาชนะฉัน
「แต่ตัวฉันที่ทำมากขนาดนี้ก็ต้องรับผิดชอบกับผมที่ตามมาเหมือนกันสิน้า」
ตัวฉันในตอนนี้ทำได้สามารถเปลี่ยนแปลงการรับรู้ได้เพียงเล็กน้อยแล้วเท่านั้น
แต่อย่างน้อยมันก็คุ้มค่าหากทำให้เด็กคนนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการรับรู้ใดๆได้อีก
「ฟุฟุฟุ」
ฉันไม่สนหรอกว่าตัวเองจะตายหรือสูญเสียอะไรไปบ้าง
หากสิ่งที่ฉันทำมันกลายเป็นการสร้างโอกาสที่สักวันหนึ่งจะฆ่าสิ่งที่มีชื่อว่ารูอินได้ฉันก็พอใจแล้ว
***
ฉันละรู้สึกประหลาดใจสุดๆที่ ไฮรุ โคโนฮานะสามารถเข้ากันกับพี่สาวจอมทำลายล้างของฉันได้
ตอนที่ท่านซันนี่บอกให้ฉันเอาวิดีโอที่ไฮรุ โคโนฮานะเล่นเกมกับเรลลี่ไปลงก็สงสัยถึงสภาพสมองของเขาหรอก แต่พอได้ทำจริงๆผลที่ได้น่าประหลาดใจสุดๆ
พี่สาวของฉันที่คิดว่าเป็นทั้งยัยโง่ตัวขี้เกียจไม่คิดจะฟังใครเลย กลับสามารถสื่อสารแบบสันติได้
「ท่าทางสนุกกันชะมัด」
พี่สาวของฉันที่สามารถสัมผัสถึงความหมายของคำว่าชีวิตได้ด้วยการเพียงแค่ทำลายล้างทุกสิ่ง ตอนนี้กลับสนุกโดยไม่จำเป็นต้องทำลายอะไร
พี่สาวของฉันรู้สึกชอบในตัวของไฮรุ โคโนฮานะเป็นอย่างมาก
ในฐานะน้องชายแล้วจะเรียกว่าเป็นพรได้หรือเปล่านะที่ส่งคนซึ่งสามารถดูแลพี่สาวฉันได้แทนตัวฉัน
「ท่านเจ็ม ชาค่ะ」
「ขอบใจ MEI」
MEI ที่แต่งตัวด้วยชุดเมดเสิร์ฟชามาให้ฉัน
ในขณะที่กำลังจับมันนเข้าปาก ก็มองไปทางไฮรุ โคโนฮานะที่นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟา
「อยู่ในสภาพนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ」
「ก็ตั้งแต่ที่ตะโกนลั่นห้องออกวิดีโอให้คนทั้งประเทศดูนั่นแหละค่ะ……」
ดูตอนแรกอาจจะเหมือนเธอหมดแรงในการเล่นเกมกับพี่สาวฉัน แต่เหมือนจะเป็นเพราะสิ่งที่เธอทำลงไปในวิดีโอมากกว่า
ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่หว่า ยังไงคนที่จำเธอได้ก็มีแค่คัตสึมิ โฮมุระอยู่แล้ว
「คนเดียวที่สังเกตเห็นเรื่องนี้ก็มีแค่คัตสึมิ โฮมุระน่า จะไปคิดมากทำไม」
「ก็เพราะเป็นโฮมุระคุงนั่นแหละค่ะเลยต้องมาอยู่ในสภาพนี้」
「……จะไปสนทำไมกัน แค่นี้เขาไม่อะไรหรอกน่า」
「คุณไม่มีเลือดหรือน้ำตาเลยหรือไงคะ!?」
เอ่อ ไอ้ฉันมันก็ไม่มีจริงๆนั่นแหละ
ถ้าจะออกมาจากร่างได้ก็มีแต่น้ำมันละมั้ง
พอฉันหันไปหาMEIที่อยู่ข้างๆเธอก็ส่ายหัวไปมา
「ท่านผิดเต็มๆค่ะ」
ไหงสาวใช้ฉันถึงได้จ้องฉันเหมือนเป็นศัตรูล่ะเห้ย……?
แต่ในอีกมุมหนึ่งAIตัวนี้ก็พัฒนามาไกลจนคิดกบฏกับผู้สร้างได้แล้วสิน้า
「โฮ้ย ไฮรุ」
「มีอะไรเหรอคะ เวอร์โก้ซัง」
บางทีอาจจะเพราะเห็นสถานการณ์วุ่นวาย เวอร์โก้ซึ่งเป็นอุปกรณ์แปลงร่างของท่านซันนี่ที่มีสามัญสำนึกจึงบินมาเกาะไหล่ของเธอ
「ก่อนอื่นเลย การที่เอ็งบอกคัตสึมิว่าปลอดภัยดีได้ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว」
「แต่ว่า……」
「มันไม่รังเกียจเอ็งเพราะแค่โวยวายเสียงดังหรอกน่า หรือเอ็งคิดว่ามันเป็นพวกใจแคบที่ทำอะไรแค่นี้ก็จะรังเกียจเหรอ?」
「……」
「ใช่ไหมล่ะ?」
「……ค่ะ」
มีสามัญสำนึกสุดๆ….
ถึงคำพูดคำจาจะหยาบคาย แต่ก็โน้มน้าวอีกฝ่ายได้จริงๆ
โกลดี้มันสร้างของแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไงกันฟะ?
「ถ้างั้นเอ็งก็ใจเย็นๆแล้วอย่ามานอนหมดสภาพแบบนี้ หากมัวแต่คิดอะไรมากอีก จะนานแค่ไหนก็เข้าใกล้มันกว่าเดิมไม่ได้หรอก」
「……เข้าใจแล้วค่ะ」
「ก็ดี」
ไฮรุ โคโนฮานะพยักหน้าให้เวอร์โก้ที่ใช้ปีกของมันในการแตะหัวเธอราวกับให้กำลังใจ
ว่ากันตามตรงฉันนึกว่ามันเป็นคนธรรมดามากกว่านกจักรกลอีก
「แล้งฉันควรจะทำอะไรต่อดีล่ะคะ หรือจะให้รอเฉยๆต่อไป?」
「อ้า เอ็งตกเป็นเป้าของลำดับที่ 6 อยู่ดังนั้นการอยู่เฉยๆจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เอ็งก็ได้ยินมาแล้วนี่?」
อาสึแห่งความเกลียดชัง
ตอนนี้เพื่อนจอมปัญหาของท่านซันนี่กำลังเล็งเป้ามาที่มนุษย์โลกธรรมดา หากการมีอยู่ของไฮรุ โคโนฮานะเป็นทุ่นระเบิดของคัตสึมิ โฮมุระจริงก็คงจะแย่สุดๆ
นึกภาพไม่ออกเลยว่าการสูญเสียเธอไปจะส่งผลยังไงกับเขา
สัตว์ประหลาดที่พวกหลักเดียวยังสู้แทบไม่ได้ แถมตอนนี้แกร่งกว่าเดิมอีก หากมีความโกรธแค้นเข้ามาผสมด้วย คงน่าสยองสุดๆ
「เอางี้สิ มาเริ่มเรียนรู้อะไรสักหน่อยดีไหม」
「เรียนรู้?」
「ก็อย่างพวกสถานการณ์ปัจจุบันของคัตสึมิ โฮมุระหรือศัตรูของพวกฉันอย่างจัสติสครูเซเดอร์」
ถ้าให้ว่ากันตามตรงพวกฉันก็เป็นศัตรูกับ 3 สาวนั่น…แต่อย่างน้อยตอนนี้ฉัน MEI ก็หลุดมาแล้วอ่านะ
「อัศวินดำคนนี้จะสอนเธอเอง」
ท่านไอรีนซึ่งอยู่ลำดับที่ 8 โผล่ออกมาพร้อมกับโอบไหล่ของไฮรุ โคโนฮานะ
การเคลื่อนไหวที่อยู่ดีๆก็โผล่มาของพวกหลักเดียวนี่น่ากลัวชิบ
「ทะ ท่านไอรีน? ผมว่าการจะให้ท่านมาสอนเรื่องพวกนี้มันออกจะ…..」
「ฉันเคยมีน้องสาว」
「แล้วมันเกี่ยวอะไรกันเหรอครับ……?」
「แล้วก็มีพี่สาวด้วย」
「……。เอ่อ เข้าใจแล้วครับ」
ถึงจะไม่เข้าใจเลยสักนิดก็เถอะว่าเธอหมายถึงอะไร แต่ฉันก็ต้องยอมรับแต่โดยดี
สุดท้ายไฮรุ โคโนฮานะก็ตกอยู่ในการดูแลของท่านไอรีน
ฉันแสดงสีหน้ายอมแพ้ออกมาก่อนจะมองไปทางไฮรุ โคโนฮานะ แต่เธอเหมือนจะไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรเลยแถมยังหันไปมองท่านไอรีนที่โอบไหล่เธอไว้อยู่
「ไอรีนจัง」
ไอรีนจัง!!??
เดี๋ยว นั่นลำดับหลักเดียวเลยนะเออ?!
พวกเธอไปทำอิท่าไหนถึงออกมาแบบนี้ได้ระหว่างที่ฉันตัดต่อวิดีโอฟะ?!
「ก็ดีใจหรอกนะที่จะสอน แต่ทำไมเหรอ?」
「คัตสึมิ สนิทกับไฮรุ」
「ค่ะ」
「ถ้าฉันเข้ากับไฮรุได้ดี ค่าความประทับใจจะเพิ่ม」
「เหมือนทำดีหวังผลแปลกๆนะ……」
แม้จะไม่ได้แสดงออกมาชัด แต่คัตสึมิ โฮมุระคุงจะไปทำอะไรถูกใจท่านไอรีนสุดๆ
ทั้งที่ต่อสู้กันเอาเป็นเอาตายแท้ๆไหงมาจบแบบนี้เฉยเลยฟะ
เอาเป็นว่าคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมั้งถ้าจะฝากฝังไว้กับเธอ
แต่ก่อนอื่น…..
「ไฮรุ โคโนฮานะ คงต้องขอยึดโทรศัพท์ของเธอก่อนนะ」
「เอ๋ หมายความว่ายังไงคะ?」
「ต้องจัดการเรื่องร่องรอย」
「แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่คะ……?」
จนถึงตอนนี้ไฮรุ โคโนฮานะก็ยังใช้โทรศัพท์ของเธอเหมือนปกติ
ก็จริงว่าอยู่ที่นี่คงจะปลอดภัย แต่ฉันก็อยากจะลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด
「ฉันไม่รู้ว่าอาสึที่คุมสัตว์ประหลาดของดาวโลกได้จะมีพลังในการต่อคลื่นโทรศัพท์ไหม ต้องหาทางจัดการก่อน」
「อึก……」
「ฉันไม่ทำลายมันหรอกน่า แค่จะปิดการทำงานแล้วเก็บไว้ในที่เฉพาะ นอกจากนี้จะเตรียมอุปกรณ์ติดต่อใหม่มาทดแทนให้ ใช้อันนั้นแทนละกัน」
「……ค่ะ」
ไฮรุ โคโนฮานะที่รู้จักถึงความโหดร้ายของสัตว์ประหลาดบนดาวโลกดีก็เข้าใจถึงความเป็นไปได้นี้และยื่นโทรศัพท์มาให้กับฉัน แม้จะแสดงอาการลังเลนิดหน่อย
ฉันหยิบมันออกมาแล้วใส่ไปในกล่องทรงเหลี่ยมที่เตรียมไว้
「ถ้าโฮมุระคุงมีโทรศัพท์ก็คงจะดี……」
「หมอนั่นไม่พกเหรอ?」
「เครื่องจักรที่อยู่รอบตัวเขาก็คงมีแค่ตู้เย็นกับพัดลมเท่านั้นแหละค่ะ……」
「……อ่อ」
เขาโตมาในสภาพแวดล้อมแบบไหนกันฟะ….
ไฮรุ โคโนฮานะมองโทรศัพท์ของตัวเองที่อยู่ภายในกล่องนั้นแบบเหงาๆ
อย่างที่ฉันบอกไปนี่เป็นเพียงการป้องกันไม่ให้พวกสัตว์ประหลาดตามรอยได้ ไม่มีข้อมูลใดๆในนั้นที่ฉันจะไปยุ่งแน่นอน
「…เอ๋ เดี๋ยวนะคะ เหมือนโทรศัพท์มันจะเด้งว่าข้อความเข้า」
「ข้อความสแปมแหละอย่าไปสนใจเลย」
「แต่ว่านี่มัน……」
ไฮรุ ก้มไปมองข้อความอย่างรวดเร็ว
< คิราระ อามัตสึกะ
คิราระ : ไฮรุ หากเห็นข้อความนี้ติดต่อฉันกลับที
「———เอ๋?」
「ปิดการทำงานเลยละกัน」
ว่าแล้วฉันก็ปิดการทำงานของโทรศัพท์โดยไม่ได้สนใจเสียงของไฮรุ โคโนฮานะ
จากนั้นกล่องทรงเหลี่ยมก็ทำงานและปิดกั้นการรบกวนจากภายนอก
「แต่ว่า! ข้อความที่ส่งมามันมาจากเพื่อนของฉันนะคะ!!」
「อะไรของเธอ นอกจากคัตสึมิ โฮมุระไม่มีทางที่มนุษย์โลกจะจำเรื่องของเธอได้หรอก」
「ก็ควรจะเป็นแบบนั้นแหละค่ะ แต่ข้อความนั่น!!」
「บ้าบอน่า……」
เธอเข้าใจผิดแหง
พอฉันมองเธอด้วยสายตาสงสัย MEI ที่อยู่ข้างๆฉันก็พูดขึ้น
「มาสเตอร์ มีข้อความส่งเข้ามาที่เครื่องของท่านไฮรุจริงค่ะ」
「……ถามจริง」
จะบอกว่าMEI มองผิดไปก็คงไม่ใช่ด้วยสิ
แล้วใครจะส่งข้อความมาหาเธอได้กันล่ะ จะบอกว่ามีมนุษย์โลกคนอื่นนอกจากคัตสึมิ โฮมุระที่จำเรื่องราวของเธอที่ถูกลำดับที่ 6 เปลี่ยนความทรงจำได้เหรอ?
「……เพื่อนคนนั้นชื่ออะไร?」
「คิราระ อามัตสึกะค่ะ แต่ว่า……」
「「……」」
ฉันกับMEI พูดอะไรไม่ออก
น่าแปลกใจจริงๆ เหมือนระบบประมวลผลในสมองกลฉันมันหยุดทำงานไปพักหนึ่งเลยวุ้ย
「ถึงจะฟังดูเป็นไปไม่ได้ แต่ฉัน……」
ตัวตนที่แท้จริงของจัสติสครูเซเดอร์ถูกค้นพบหลังฉันมายังโลกได้สักพัก
พวกเธอคือเด็กนักเรียน 3 คนซึ่งเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันกับคัตสึมิ โฮมุระ
เมื่อฉันได้รู้ถึงตัวจริงของพวกเธอ ฉันก็ขนลุกจนตัวสั่นกับความธรรมดาในช่วงปกติของพวกเธอ
นักรบที่โหดเหี้ยมซึ่งสามารถสังหารลำดับแห่งดวงดาราได้สบายๆ กำลังใช้ชีวิตเหมือนเด็กสาวธรรมดา เหลือจะเชื่อสุดๆ
「ฟังให้ดีนะ ไฮรุ โคโนฮานะ」
「คะ ค่ะ มีอะไรเหรอคะ?」
「อันที่จริง คิราระ อามัตสึกะ คือเยลโล่แห่งจัสติสครูเซเดอร์น่ะ」
「……、……เอ๋?」
เธอผงะไปทันทีหลังได้ยินคำพูดของฉัน
จากนั้นเธอก็ตัวสั่นแล้วเริ่มพูดอย่างกระวนกระวายใจ
「เยลโล่คนนั้นน่ะเหรอคะ?」
「อ้า」
「ที่ถูกเรียกว่ายักษาบ้าพลัง」
「อ้า」
「กอลิล่าบัสเตอร์?!」
「อ้า」
「……」
ไฮรุ โคโนฮานะกำลังสับสนสุดๆ
「เพราะงั้นสินะที่โรงเรียนเลยถามถึงเรื่องของโฮมุระคุงรัวๆ……ทั้งที่คิดว่าอาจะเป็นแฟนคลับของอัศวินดำเฉยๆเลยอยากรู้นั่นนี่เยอะ…..ที่แท้คิราระก็ได้อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ชิดกับโฮมุระคุงสุดๆนี่เอง……หึหึหึ」
เธอเริ่มพูดอะไรสักอย่างออกมาจนฉันแอบขนลุก
เอาเป็นว่าไม่ไปยุ่งด้วยจะดีกว่า
คัตสึมิ โฮมุระ ฉันว่าในอนาคตนายได้เจอเรื่องลำบากอีกเรื่องแล้วแหละ
***
นิวคุงคือสิ่งมีชีวิตที่แยกตัวออกมาจากโอเมก้า ซึ่งมีพลังอ่อนกว่าโอเมก้าและนั่นทำให้อาสึควบคุมได้ง่ายขึ้น
ไฮรุได้รู้ถึงภัยคุกคาม?จากศัตรูที่แท้จริงแล้วว่าอยู่ใกล้ตัวขนาดไหน
–จบ—
เรื่องของโมโมโกะยังไม่จบง่ายๆ อาสึได้โอเมก้ามินิมาพร้อมกับแกนพลังงานดวงดาราคงได้ป่วนกว่าเดิมแหง แถมได้สัตว์ประหลาดแก้ทางไอรีนเต็มๆมาอีก
ส่วนฝั่งของไฮรุ ไอรีนกลายเป็นพี่สาวของไฮรุไปแล้วสินะ ส่วนคิราระ we need to talk….
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code