อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 115 ความวุ่นวายครั้งใหม่
มีหลายอย่างเกิดขึ้นในจังหวะเดียวกัน
ทั้งเรื่องที่หญิงสาวซึ่งถูกพวกเราช่วยเอาไว้อย่างโมโมโกะ คาเสะอุระที่กลายเป็นมนุษย์พลังจิตหรืออะไรสักอย่าง และการหายตัวไปของไฮรุ โคโนฮานะเพื่อนร่วมชั้นของฉัน
อย่างแรกน่าเป็นห่วงก็จริง แต่อย่างหลังนี่ร้ายแรงสุดๆ
พวกเราเรียนอยู่ในโรงเรียนและชั้นเรียนเดียวกัน เธอคนนั้นถูกลบออกจากความทรงจำของทุกคนรวมถึงฉันไปเสียแล้ว
ฉันรู้ดีว่าความสามารถแบบของอัลฟ่านั้นมันน่ากลัวขนาดไหน พอมาโดนกับตัวเองแล้วรู้สึกสยองชะมัด
「คิราระไหวไหม?」
「อ้า ยังรู้สึกสับสนนิดหน่อยน่ะ」
ฉันพยักหน้าให้กับอากาเนะที่ถามอย่างห่วงใย
เมื่อฉันได้ยินเรื่องนี้หลังเลิกเรียน ฉันก็รู้สึกกลัวทันทีว่าชีวิตประจำวันของฉันจากนี้ ผู้คนรอบตัว ทุกอย่างมันจะเปลี่ยนไปไหม
ตอนนี้พวกฉันกำลังนั่งรออยู่ห้องตรงข้ามของห้องที่กำลังตรวจอาการของ โมโมโกะ คาเสะอุระ พร้อมกับพวกอากาเนะและอาโออิ
「คัตสึมิคุง……」
คัตสึมิคุงเหมือนจะอาการหนักกว่าฉันอีก
คาเสะอุระซังกำลังนอนสแกนร่างด้วยเครื่องตรวจพิเศษ สายตาของเขาที่จ้องมองเธอนั้นจริงจังสุดๆ จนฉันไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรกับเขาดี
ตอนนี้คงมีทั้งเรื่องของคาเสะอุระซังและไฮรุ โคโนฮานะที่เป็นเพื่อนของเขา
「เธอจะเป็นยังไงบ้างนะ……」
สถานการณ์ของคาเสะอุระซังยังไม่แน่ชัด
เครื่องจักรได้ยึดร่างของเธอติดเตียงเอาไว้ดังนั้นร่างของเธอไม่น่าจะลอยได้อีกแล้วเหมือนตอนอยู่โรงพยาบาล
อันที่จริงเส้นผมและเสื้อผ้าที่เธอสวมอยู่ก็พลิ้วไหวเหมือนกับอยู่ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง
「ประธานเป็นยังไงบ้างคะสรุปแล้ว?」
ฉันถามประธานที่กำลังสแกนร่างของอีกฝ่ายพร้อมพนักงานคนอื่นๆ
ประธานหันมาขณะกอดอกด้วยความหงุดหงิด
「…ตอนนี้ฉันไม่สามารถบอกได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของโมโมโกะ คาเสะอุระ」
ไม่สามารถบอกได้……?
ทั้งที่อาการของเธอมันแสดงออกมาชัดขนาดนี้เนี่ยนะ?
「ทาเรียขอข้อมูล」
『รับทราบค่ะ』
หลังจากที่ประธานสั่ง ทาเรียที่เป็นแกนพลังงานซึ่งทำหน้าที่ควบคุมฐานทั้งหมด ก็ฉายภาพโฮโกลแกรมขึ้นไปในอากาศ ซึ่งเป็นภาพของภายในร่างมนุษย์คนหนึ่งที่มีพลังงานบางอย่างหมุนวนไปมาเป็นสีรุ้ง
「ประธานนี่มันอะไรกันคะ?」
「พลังแห่งดวงดารา มันคือพลังที่พวกเซไคเซ็นไตใช้กันน่ะ」
「「「!?」」」
พลังที่พวกสองหลักลำดับต้นๆ ใช้กันเหมือนกับฮิลด้าที่สิ่งร่างของคาเสะอุระซัง
เธอกำลังถูกพลังนี้เข้าคุมร่างเหรอ?
ฉันรู้สึกประหลาดใจสุดๆ ก่อนที่ทาเรียจะอธิบายต่อ
『ปัจจุบันพลังแห่งดวงดารากำลังถูกสร้างขึ้นภายในร่างกายของท่าโมโมกะ คาเสะอุระ ซึ่งพลังงานดังกล่าวเป็นพลังปริศนาที่มาจากมิติอื่นค่ะ เพราะจากฐานข้อมูลที่ฉันมีไม่เคยพบมาก่อนเลยว่ามีสิ่งมีชีวิตที่สามารถผลิตพลังงานดังกล่าวขึ้นมาได้เอง』
「แต่พวกเซไคเซ็นไตก็ใช้งานมันนี่นา」
『ในกรณีของพวกเขาไม่สามารถสร้างพลังงานดังกล่าวขึ้นมาด้วยตัวเองได้ค่ะ พวกเขาน่าจะใช้บางอยางที่เหมือนกับแกนพลังงานเป็นตัวเชื่อมในการดึงพลังงานมาจากอีกมิติหนึ่ง———ซึ่งฉันเชื่อว่าปัจจุบันฮิลด้าได้ครอบครองแกนพลังงานทั้ง 5 ของเหล่าเซไคเซ็นไตเรียบร้อยแล้วค่ะ』
สรุปก็คือคาเสะอุระซังไม่ได้ดึงพลังงานเข้ามาในร่างจากแกนพลังงานพวกนั้น แต่กำลังสร้างสิ่งที่เรียกว่าพลังแห่งดวงดาราขึ้นมาเองสินะ?
อันที่จริงฉันก็ไม่รู้หรอกว่ามันน่าทึ่งหรืออะไรยังไง แต่ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับคาเสะอุระซังแน่นอน
「แล้วจะเป็นอันตรายต่อร่างกายเธอไหม?」
「ไม่มีอะไรแปลกเลยสักนิด ปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้หากให้ฉันเดาน่าจะเป็นเพราะพลังงานมันรั่วไหลแล้วหลุดการควบคุมเฉยๆ สัญญาณที่จะสื่อว่าเกิดอันตรายอะไรกับร่างกายของเธอก็ไม่มี ไม่สิ ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ…..」
「……ประธาน?」
「เอาเป็นว่าฉันยังไม่มั่นใจอะไรเลยสักอย่างละกัน」
ประธานปัดคำถามของฉันทิ้งไปซะงั้น
ตอนนี้พวกฉันคงไม่สามารถทำอะไรกับโมโมโกะ คาเสะอุระซังที่อยู่อีกฟากได้
และแล้วเธอก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะมองไปรอบๆ จากนั้นก็เริ่มตระหนกขึ้นมาทันทีเพราะเห็นว่าร่างกายของตัวเองถูกล็อคเอาไว้กับเตียง
『ทะ ที่นี่มันที่ไหนกัน แล้วนี่มันอะไร?!』
「ใจเย็นก่อนสาวน้อย! พวกฉันไม่ใช่องค์กรชั่วร้ายผลิตมนุษย์ดัดแปลงเสียหน่อย!」
「แต่จากสภาพของฉันว่ามันก็เหมือนไม่น้อยนะ….」
จริงๆ มันก็เหมือนอยู่นะ
「หากให้คนที่ไม่คุ้นหน้าแบบพวกฉันเข้าไปคงจะลำบากกว่าเดิม….คัตสึมิคุง ช่วยหน่อยได้ไหม?」
「อ้า เดี๋ยวฉันจัดการเอง」
คัตสึมิคุงพยักหน้าให้กับคำพูดของประธานก่อนจะเดินเข้าไปห้องตรงข้าม
ดวงตาสีชมพูส่องแสงออกมาราวกับตอบสนองอารมณ์ของเธอ จนแอบรู้สึกน่ากลัวนิดหน่อยเหมือนกัน
『ขออนุญาตนะ』
『คะ ใครกัน!?』
คาเสะอุระซังแสดงปฏิกิริยาตกใจกลัวออกมาทันทีที่เห็นประตูห้องเปิดออก
พลังงานบางอย่างได้รั่วไหลออกมาจากร่างของเธอจนทำให้ร่างของคัตสึมิคุงเกือบลอยขึ้นจากพื้น
『ชิโระ』
『โฮก!』
สูทสีขาวถูกสร้างขึ้นบริเวณขาทั้งสองของเขาและทำหน้าที่เป็นตัวยึดกับพื้นเหมือนแม่เหล็ก
พอรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคัตสึมิคุง พลังของเธอก็เหมือนจะเริ่มสงบลง ใบหน้าของเธอก็เริ่มซีด
คัตสึมิคุงค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เธอที่นอนอยู่ติดกับเตียง ก่อนจะคุกเข่าลงเพื่อสบตากับเธอ
『ทะ ทำไมฉันถึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลังประหลาดนี่ล่ะคะ….』
『อ้า ตอนนี้พวกเรากำลังตรวจสอบถึงสาเหตุนั้นอยู่ ที่ใส่ตัวล็อคนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของเธอเอง พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะกักขังอะไรเธอไม่หรอก』
『พอมองดูแล้วมันก็มีตัวปลดด้วยนี่นา……』
เธอเริ่มสงบสติลงได้
ปรากฏการณ์รอบตัวเธอก็เบาบางลง จากที่ฉันเห็นความรุนแรงของพลังน่าจะขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของเธอ
『ถึงจะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ แต่ฉันขอยืนยันว่ามันไม่ทำอันตรายอะไรกับเธอแน่นอน』
『แล้วฉันต้องอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหนกันคะ?』
「……เรื่องนั้นฉันก็บอกไม่ได้」
คาเสะอุระซังถามอย่างคาดหวัง แต่ทางคัตสึมิคุงก็ไม่รู้จริงๆ นั่นแหละ
หลังจากเงียบไปสักพักเธอก็ถามกับเขาต่อ
『แต่คุณจะอยู่ช่วยฉันใช่ไหมคะ?』
『……อึก』
สีหน้าของคัตสึมิคุงเริ่มปั้นยากขึ้นมาทันที
คาเสะอุระซังถามแบบนั้นเพราะ คัตสึมิคุงน่าจะเป็นคนเดียวที่เธอไว้ใจในสถานการณ์ที่ตัวเองต้องมาเผชิญกับเรื่องราวเกินคำอธิบาย จึงเป็นเรื่องปกติหากเธอจะขอให้เขาอยู่ด้วย
แต่คัตสึมิคุงในตอนนี้…..
『คือ ตอนที่ฉันถูกฮิลด้ายึดร่าง ฉันถูกบังคับให้เห็นทั้งเรื่องของพลังแห่งดวงดารา สัตว์ประหลาดสีดำตัวใหญ่คล้ายผีเสื้อ แล้วก็อะไรอีกเยอะเลยค่ะ…..』
เนื่องจากคาเสะอุระถูกฮิลด้ายึดร่างมาหลายเดือนจึงไม่น่าแปลกใจที่สภาพจิตใจของเธอจะบอบช้ำสุดๆ บาดแผลในจิตใจคงต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูอีกนานจนไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นเป็นของจริงหรือภาพหลอน
『เพราะงั้น…ฉันช่วยให้ข้อมูลได้นะคะ ดังนั้นได้โปรดอย่าทิ้ง———』
ทันใดนั้นเอง คัตสึมิคุงก็เอามือตบหน้าผากของตัวเองจนเสียงดังลั่น ไม่ใช่แค่พวกเรา แต่คาเสะอุระก็ตกใจไม่น้อย
『ปะ เป็นอะไรไหมคะ!?』
『ไม่ต้องห่วง』
『ทั้งที่แรงขนาดนั้น!?』
หน้าผากของเขาแดงแจ๋เลย จากนั้นเขาก็สบตากับคาเสะอุระซังที่กำลังตกใจอยู่
『ฉันจะไม่มีวันทอดทิ้งเธอแน่นอน ทั้งฉันและผู้คนที่นี่』
『อัศวินดำคุง……』
『ดังนั้นตั้งสติเอาไว้ให้ดีนะ เพราะขนาดตอนเธอถูกฮิลด้าสิงร่างก็ยังสามารถส่งเสียงมาถึงฉันได้เลยนี่นา———ตัวเธอน่ะแข็งแกร่ง』
『ขะ……เข้าใจแล้วค่ะ』
หลังจากพูดคุยกับคาเสะอุระซังอีกนิดหน่อยจนสงบลง เขาก็เดินออกมาจากห้องนั้น
หน้าผากของเขาแดงและบวมจนฮาคัวเป็นกังวลแล้วรีบวิ่งเข้าไปดูแลอาการ
「คัตซึน หน้าผากเป็นอะไรมากไหม?」
「ไม่เป็นไรหรอก ฉันแค่ดึงสติตัวเองน่ะ」
「แต่มันแดงและบวดสุดเลยนะ……」
「……」
จากนั้นฮาคัวก็ทำการประคบหน้าผากของเขา
เล่นตีแรงซะนั้นขนาดไม่บวมก็แปลกแล้ว
「เรมะ เหมือคาเสะอุระซังจะไม่เป็นไรนะ」
「อ้า ที่เหลือก็คือต้องหาวิธีในการควบคุมไม่ให้พลังแห่งดวงดารารั่วไหลสินะ….ทางนายเองก็เหมือนจะตั้งสติได้แล้วด้วย」
「อ้า」
สีหน้าของคัตสึมิคุงเหมือนจะตั้งสติได้แล้ว
เขาจึงผ่อนคลายตัวเองแล้วไปนั่งที่เก้าอี้
「ถึงฉันจะโมโหตอนนี้ไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร บางทีอาจจะทำอะไรให้มันแย่กว่าเดิมก็ได้」
หลังจากพูดจบ คัตสึมิคุงก็ยิ้มออกมานิดหน่อย
「ต้องบอกว่าให้คนที่เก่งด้านนี้รับมือดีไหนนะ?ยังไงพวกพ้องของฉันก็ทำในสิ่งที่ฉันซึ่งเก่งแต่เรื่องต่อยดีทำไม่ได้ด้วยสิ」
「จิตใจของนายจะบริสุทธิ์เกินไปไหม!?」
「เรมะ!?」
ประธานถึงกับตกจากเก้าอี้แล้วนอนดิ้นไปมาเหมือนปลาขาดน้ำ แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะสิ่งที่คัตสึมิคุงพูดออกมานั้นแสดงให้เห็นว่าเขาเติบโตขึ้นกว่าเดิมแล้วจริงๆ แถมนั่นยังทำให้ฉันหลงยิ่งกว่าเก่าอีกบ้าจริง
「เข้าใจแล้ว ถึงเวลาที่พลังแห่งวิทยาศาสตร์ของฉันจะทำงานแล้วสินะ」
「หยุดสิ่งที่คิดเลย」
「หล่อนน่ะนั่งลงเฉยๆ ซะ」
อาโออิพุ่งออกไปอยู่ตรงหน้าของคัตสึมิคุงโดยไม่ได้สนใจฉันกับอากาเนะแล้วดึงเอาโลหะรูปตัว L สองชิ้นออกมาจากไหนก็ไม่รู้
ไอ้นี่มันดาวซิ่งนี่หว่า
「……ไอ้นี่ช่วยได้จริงเหรอ」
「ฉันเดาตำแหน่งของนายที่หนีไปจากสิ่งนี้ได้ในพริบตา」
「ถามจริง……จะสุดยอดเกินไปไหมเนี้ย……!」
หา?!นี่คัตสึมิคุงก็เชื่อกับเขาด้วยเหรอ?!
แต่ถึงสิ่งที่เธอทำมันจะแปลกสุดๆ จนไม่สามารถหาเหตุและผลได้ แต่ตอนนั้นเธอก็ดันทำได้จริงซะด้วยสิ
จากนั้นอาโออิก็เปิดภาพแผนที่ขึ้นแล้วเริ่มทำงานของเธอ
คัตสึมิคุงก็นั่งรอราวกับคาดหวังจริงจัง
「คัตสึมิ」
「อัลฟ่า มีอะไรเหรอ?ตอนนี้อาโออิกำลังใช้หลักวิทยาศาสตร์ในการหาคนอยู่นะ」
「มูรูรูรู」
「พูดอะไรของหล่อนน่ะ……?」
หลังมองไปยังอาโออิที่กำลังทำอะไรแปลกๆ กว่าเดิม อัลฟ่าก็ตัดสินใจหันกลับไปคุยกับคัตสึมิคุงแทน
สีหน้าของเธอดูจริงจังสุดๆ
「นายรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าไม่ได้มีแค่ฉันที่เปลี่ยนแปลงการรับรู้ได้?」
「! เรื่องนั้น……」
———หา คัตสึมิคุงรู้อยู่แล้ว?!
หน้าผากของเขาแดงแจ๋เลย จากนั้นเขาก็สบตากับคาเสะอุระซังที่กำลังตกใจอยู่
『ฉันจะไม่มีวันทอดทิ้งเธอแน่นอน ทั้งฉันและผู้คนที่นี่』
『อัศวินดำคุง……』
『ดังนั้นตั้งสติเอาไว้ให้ดีนะ เพราะขนาดตอนเธอถูกฮิลด้าสิงร่างก็ยังสามารถส่งเสียงมาถึงฉันได้เลยนี่นา———ตัวเธอน่ะแข็งแกร่ง』
『ขะ……เข้าใจแล้วค่ะ』
หลังจากพูดคุยกับคาเสะอุระซังอีกนิดหน่อยจนสงบลง เขาก็เดินออกมาจากห้องนั้น
หน้าผากของเขาแดงและบวมจนฮาคัวเป็นกังวลแล้วรีบวิ่งเข้าไปดูแลอาการ
「คัตซึน หน้าผากเป็นอะไรมากไหม?」
「ไม่เป็นไรหรอก ฉันแค่ดึงสติตัวเองน่ะ」
「แต่มันแดงและบวดสุดเลยนะ……」
「……」
จากนั้นฮาคัวก็ทำการประคบหน้าผากของเขา
เล่นตีแรงซะนั้นขนาดไม่บวมก็แปลกแล้ว
「เรมะ เหมือนคาเสะอุระซังจะไม่เป็นไรนะ」
「อ้า ที่เหลือก็คือต้องหาวิธีในการควบคุมไม่ให้พลังแห่งดวงดารารั่วไหลสินะ….ทางนายเองก็เหมือนจะตั้งสติได้แล้วด้วย」
「อ้า」
สีหน้าของคัตสึมิคุงเหมือนจะตั้งสติได้แล้ว
เขาจึงผ่อนคลายตัวเองแล้วไปนั่งที่เก้าอี้
「ถึงฉันจะโมโหตอนนี้ไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร บางทีอาจจะทำอะไรให้มันแย่กว่าเดิมก็ได้」
หลังจากพูดจบ คัตสึมิคุงก็ยิ้มออกมานิดหน่อย
「ต้องบอกว่าให้คนที่เก่งด้านนี้รับมือดีไหนนะ?ยังไงพวกพ้องของฉันก็ทำในสิ่งที่ฉันซึ่งเก่งแต่เรื่องต่อยดีทำไม่ได้ด้วยสิ」
「จิตใจของนายจะบริสุทธิ์เกินไปไหม!?」
「เรมะ!?」
ประธานถึงกับตกจากเก้าอี้แล้วนอนดิ้นไปมาเหมือนปลาขาดน้ำ แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะสิ่งที่คัตสึมิคุงพูดออกมานั้นแสดงให้เห็นว่าเขาเติบโตขึ้นกว่าเดิมแล้วจริงๆ แถมนั่นยังทำให้ฉันหลงยิ่งกว่าเก่าอีกบ้าจริง
「เข้าใจแล้ว ถึงเวลาที่พลังแห่งวิทยาศาสตร์ของฉันจะทำงานแล้วสินะ」
「หยุดสิ่งที่คิดเลย」
「หล่อนน่ะนั่งลงเฉยๆ ซะ」
อาโออิพุ่งออกไปอยู่ตรงหน้าของคัตสึมิคุงโดยไม่ได้สนใจฉันกับอากาเนะแล้วดึงเอาโลหะรูปตัว L สองชิ้นออกมาจากไหนก็ไม่รู้
ไอ้นี่มันดาวซิ่งนี่หว่า
「……ไอ้นี่ช่วยได้จริงเหรอ」
「ฉันเดาตำแหน่งของนายที่หนีไปจากสิ่งนี้ได้ในพริบตา」
「ถามจริง……จะสุดยอดเกินไปไหมเนี้ย……!」
หา?!นี่คัตสึมิคุงก็เชื่อกับเขาด้วยเหรอ?!
แต่ถึงสิ่งที่เธอทำมันจะแปลกสุดๆ จนไม่สามารถหาเหตุและผลได้ แต่ตอนนั้นเธอก็ดันทำได้จริงซะด้วยสิ
จากนั้นอาโออิก็เปิดภาพแผนที่ขึ้นแล้วเริ่มทำงานของเธอ
คัตสึมิคุงก็นั่งรอราวกับคาดหวังจริงจัง
「คัตสึมิ」
「อัลฟ่า มีอะไรเหรอ?ตอนนี้อาโออิกำลังใช้หลักวิทยาศาสตร์ในการหาคนอยู่นะ」
「มูรูรูรู」
「พูดอะไรของหล่อนน่ะ……?」
หลังมองไปยังอาโออิที่กำลังทำอะไรแปลกๆ กว่าเดิม อัลฟ่าก็ตัดสินใจหันกลับไปคุยกับคัตสึมิคุงแทน
สีหน้าของเธอดูจริงจังสุดๆ
「นายรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าไม่ได้มีแค่ฉันที่เปลี่ยนแปลงการรับรู้ได้?」
「! เรื่องนั้น……」
———หา คัตสึมิคุงรู้อยู่แล้ว?!
พวกเราประหลาดใจกับคำพูดของอัลฟ่า แต่ทางประธานไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ คงจะรู้อยู่ก่อนแล้วเหมือนกัน
หรือก็คือประธานกับคัตสึมิคุงได้คุยกันเรื่องนี้ก่อนแล้ว
จากนั้นอัลฟ่าก็ยิ้มให้กับคัตสึมิที่แสดงสีหน้าปั้นยาก
「ฉันไม่โกรธหรอก เพราะรู้อยู่แล้วว่าคัตสึมิกำลังปิดบังอะไรเอาไว้อยู่ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาแค่ไม่อยากถามเฉยๆ」
「……แต่มันก็แย่อยู่ดีนี่นา」
「นายไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดหรอก เป็นเรื่องของฉันใช่ไหมล่ะ」
คัตสึมิคุงไม่มีทางจะปิดบังอะไรโดยไม่มีเหตุผลอยู่เบื้องหลังหรอก
「……เรมะ」
「ตอนนี้หลายๆ อย่างก็คืบหน้าไปไกลแล้ว ไม่เป็นไรหรอก」
หลังถามประธานเสร็จเขาก็พยักหน้าแล้วเริ่มพูดถึงเรื่องสาเหตุที่ความทรงจำเกี่ยวกับไฮรุ โคโนฮานะของทุกคนหายไป
———และนั่นก็สร้างความตกใจให้กับพวกเราไม่น้อย
ตัวตนดังกล่าวคืออาสึ ซึ่งมีพลังแบบเดียวกับอัลฟ่าและยังเป็นลำดับที่ 6 อีกด้วย
เธอบอกว่าตัวเองคือแม่ของอัลฟ่าและเหมือนจะมีเป้าหมายอะไรสักอย่างที่คัตสึมิคุงก็ไม่รู้
เขาเชื่อว่าการที่ทุกคนลืมเรื่องราวของไฮรุก็เป็นฝีมือเธอคนนี้นี่แหละ
「เรื่องมันก็ประมาณนี้แหละ」
พอเขาพูดจบก็หันไปมองอัลฟ่า
ฉันคิดว่าอัลฟ่าเองก็คงตกใจไม่น้อยที่รู้เกี่ยวกับเรื่องแม่ของตัวเอง
「ฉันเป็นมนุษย์ต่างดาวหรอกเหรอ……」
「เดี๋ยว ตรงนั้นมันสำคัญหรือไง」
「แต่มันก็แค่นั้นแหละความรู้สึกที่มีต่อพวกเขา」
เย็นชาชะมัด……。
จากที่ฉันได้ยินมาก็คือเธอคนนั้นพยายามจะเข้ามาแทนที่อัลฟ่าเสียด้วยสิ
「หากเป็นศัตรูของคัตสึมิ ไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็นพ่อแม่ของฉันหรือใคร ฉันไม่คิดจะสงสารอะไรเลยด้วย เพราะสุดท้ายคนในครอบครัวของฉันจริงๆ ก็มีแค่คัตสึมิกับฮาคัว」
「พี่……」
「ฉันเองก็รู้สึกขอบคุณเธอเหมือนกันที่ทำให้ฉันเป็นตัวฉันในทุกวันนี้ได้」
พอเห็นแบบนี้ก็ได้รู้มุมในการขีดเส้นแบ่งระหว่างคนแปลกหน้ากับครอบครัวของอัลฟ่าชัดดี
สำหรับเธอคนอื่นนอกจากครอบครัวคือคนแปลกหน้า ตอนแรกก็ยังใช้พลังกับอากาเนะโดยไม่ลังเลเลยนี่นะ แต่ไอ้ที่น่าแปลกใจก็คือากาเนะดันสามารถต้านพลังของอัลฟ่าเอาไว้ได้แล้วสวนกลับไปอีก น่ากลัวชิบ
「งั้นให้ฉันเปลี่ยนการรับรู้เกี่ยวกับไฮรุ โคโนฮานะใหม่….」
「อย่าทำแบบนั้นจะดีกว่า」
ประธานห้ามอัลฟ่า
「ตอนนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าไฮรุ โคโนฮานะถูกอาสึจับเอาไว้เป็นตัวประกันเรียบร้อยแล้ว หากไปปลุกความทรงจำของผู้คนเข้าเรื่องได้วุ่นวายกว่าเก่าแน่」
「จะบอกว่าหากจะฟื้นความจำก็ต้องช่วยไฮรุให้ได้ก่อนสินะ?」
「นั่นก็ใช้ เพราะงั้นตอนนี้ก็ต้องหาร่องร———」
「อุมุมุมุ……!!」
อาโออิที่กำลังใช้หลักทางวิทยาศาสตร์ได้ทรุดตัวลงกับพื้น
ยัยนี่ทำบ้าอะไรเนี่ย…จังหวะนั้นเองคัตสึมิคุงก็เข้าไปถามเธอด้วยความเป็นห่วง
「ปะ เป็นอะไรหรือเปล่า?」
「ฉันหาไม่เจอ……」
「บะ แบบนี้นี่เอง…ยังไงมันก็ดูเป็นเรื่องลึกลับนี่เนอะ จะไปคาดหวังให้———」
「ดูเหมือนว่าหลักการนี้มันจะชี้ไปหาคัตสึมิคุงโดยอัตโนมัติตลอด….」
「….พุ่งมาหาแต่ฉัน?มันแปลกๆ นะเห้ย」
คัตสึมิคุงทำสีหน้าแบบเหลือจะเชื่อออกมาทันที
สรุปมันเป็นหลักการแบบไหนกันแน่เนี่ย
เป็นไปได้ก็อยากจะเรียนรู้พลังแบบนี้เอาไว้ซะจริง
「———หือ!」
เอ๋?เป็นอะไรไปอีกน่ะ
อยู่ดีๆ อาโออิก็ตัวสั่นอยู่พักหนึ่งแล้วยืนขึ้นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
「ไม่ไหวกันเสียจริง」
ิวิธีพูดเปลี่ยนไป……。
ถ้ามองดูให้ดีๆ แล้วดวงตาของอาโออิก็เปลี่ยนไปเป็นสีแดงเสียด้วย
「พอถูกรบกวนโดยสิ่งที่เรียกว่าเปลี่ยนแปลงการรับรู้มันก็ทำให้เราหัวเสีย」
「อาโออิ……? 」
「คิราระ เห็นถึงขั้นนี้แล้วเจ้ายังคิดมิได้อีกหรือ เห็นทีคงจะมีแค่หน้าอกกับก้นสินะที่มันเติบโต」
「ง่ะ!? 」
กะ การพูดจาล่วงเกินกันตรงๆ แบบนี้…ท่านอาซาฮี?!
ในขณะที่กำลังสับสนกับคำพูดของอาโออิ อากาเนะก็ส่งเสียงประหลาดใจออกมา
「ท่านอาซาฮี ทำไมอยู่ดีๆ ก็ออกมาล่ะ?!」
「เห้อ」
「กุอั๊ค!? 」
ดาบปริศนาพุ่งเข้ากระแทกกับหัวของอากาเนะเต็มๆ จนทำให้เธอล้มลงกับพื้น
จากนั้นท่านอาซาฮีก็ขึ้นไปนั่งบนหลังของอากาเนะด้วยร่างของอาโออิแล้วจ้องมองมายังคัตสึมิคุงด้วยรอยยิ้มอันสดใส
「คัตสึมิ ท่าทางจะสบายดีนะ」
「อะ เอ่อ แต่ อากาเนะ…..」
「นางสบายดี อย่าได้กังวล」
สุดท้ายก็ใจดีกับแค่คัตสึมิคุงนี่หว่า?!
ความแตกต่างในการปฏิบัตินี่มันอะไรกัน!!
ท่านอาซาฮีนั่งไขว่ห้างแล้วมองดูอากาเนะที่กลายร่างเป็นเก้าอี้มนุษย์ไปแล้ว
อาโออิที่ปกติจะทำตัวนิ่งๆ คาดเดาไม่ได้ ได้กลายเป็นสาวสวยที่มีบรรยากาศหล่อเท่ไปแทนซะแล้ว
「อาซาฮี แกนพลังงานของจัสติสสูทเหรอ….ทำไมถึงปรากฏตัวในเวลาแบบนี้ล่ะ? 」
「เพราะสิ่งที่เรียกว่าการเปลี่ยนแปลงการรับรู้มันสร้างความรำคาญให้เราอยู่น่ะสิ เราก็เลยต้องออกมาจัดการกับเรื่องดังกล่าว」
「หมายความว่ายังไงกัน……? 」
「จงนึกกันให้ออกเสีย นามของสาวน้อยที่เรียกว่าไฮรุ โคโนฮานะ」
หลังฉันได้ยินเสียงนั้น ฉันก็จดจำเรื่องราวของไฮรุ โคโนฮานะ…ไม่สิเพื่อนของฉันไฮรุ ได้อย่างชัดเจนแล้ว
ทั้งเสียง รูปร่างหน้าตาและนิสัยที่สัมผัสไม่ได้เลยว่าเคยเจอกันมาก่อนจนถึงตอนนี้ มันกลับมาทั้งหมดแล้ว!!
「ท่านอาซาฮีนี่มัน……」
「เป็นอย่างไรบ้าง?เจ้าคงจะจำเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว นอกจากนี้เราก็สร้างพลังป้องกันในส่วนนี้ให้แล้วด้วย มิไหวกันเสียจริงพวกเจ้า สุดท้ายก็ต้องให้เราออกมาจัดการให้ด้วยความเมตตาอยู่ทุกครา」
การที่ฉันกลับมาจำไฮรุได้เป็นฝีมือของเธอ
นอกจากนี้ก็หมายความว่าพวกฉัน 3 คนจะไม่โดนผลกระทบของพลังแล้วสินะ?
「เป็นไปได้ด้วยเหรอเรื่องแบบนี้」
「แม้จะเป็นแกนพลังงานด้วยกันเอง แต่อัลฟ่าทุกตนก็มีระดับและอำนาจของตัวเองที่แตกต่างกันออกไปในการต่อต้านพลังของอีกฝ่าย」
เธอกำลังจะบอกว่าอัลฟ่าแต่ละคนก็เก่งไม่เท่ากันสินะ
ก็หมายความว่าพวกเราอ่อนแอและดึงพลังออกมาต่อต้านไม่ได้จนเธอต้องออกมาจัดการเอง รู้สึกเจ็บใจหน่อยๆ เลยแฮะ
「จัดการเสร็จสิ้นแล้ว เราขอตัวกลับไปข้างในก่อน」
「เดี๋ยวสิ ฉันยังมีเรื่อง……」
「มิใช่เรื่องของเรา」
ท่านอาซาฮีตัดบทประธานแล้วหายตัวกลับไปข้างใน
เมื่ออาโออิลืมตาขึ้นมาอีกครั้งสีตาของเธอก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม———กลายเป็นหญิงสาวที่ประหลาด
แอบคาดหวังให้เธอกลับมาแล้วเปลี่ยนนิสัยแปลกๆ นี้เหมือนกันแฮะ
「ลุกไปได้หรือยังยะ!? 」
「อุ ขอโทษที ไม่ทันสังเกต」
อาโออิลุกขึ้นหลังจากได้ยินเสียงบ่นของอากาเนะที่ถูกใช้เป็นเก้าอี้
แต่สถานการณ์ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ดีขึ้นนัก
เพราะพวกเราจำเป็นต้องตาหาร่องรอยของไฮรุต่อ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะหาเจอไหม
「……หือ? 」
ทำนองเสียงริงโทนที่ไม่คุ้นดังขึ้น
ไม่ใช่เสียงของทางฉันหรืออากาเนะด้วยสิ….
「……ของใครน่ะ? 」
「ของฉันเอง」
「ของคัตสึมิคุง!? 」
จะ จริงด้วยสิคัตสึมิคุงก็ใช้โทรศัพท์แล้วนี่นา!!
เห็นกี่ที่ก็ไม่ชินตาเสียทีที่คัตสึมิคุงใช้งานโทรศัพท์
「ทำไมพวกเธอถึงทำหน้าตกใจขนาดนั้นล่ะ……? 」
「คัตสึมิคุงมีคนนอกจากพวกเราให้ติดต่อด้วยเหรอ? 」
「พวกเธอหยาบคายเกินไปหรือเปล่าเห้ย ฉันคุยกับฮารุ นานากะ โคตะแล้วก็พ่อแม่ของพวกเธอด้วยหรอก」
「「「……หา? 」」」
กลับไปถึงบ้านคงต้องจัดประชุมครอบครัวครั้งใหญ่แล้วสิ
ทำไมฉันเพิ่งเคยได้ยินเรื่องนี้กัน
พ่อกับแม่ของฉันก็คุยกับเขาเหรอ?
คงไม่ได้พูดอะไรไร้สาระให้คัตสึมิคุงฟังใช่ไหม?
พวกเราทั้งสามคนจ้องหน้ากันราวกับรู้ว่าอีกฝ่ายคิดเหมือนกันแน่นอน
สายตาของคัตสึมิคุงเบิกกว้างขึ้นทันทีเมื่อเปิดดูข้อความที่ส่งมา
「……LINEจากซันนี่เหรอ」
「LINEจากลำดับที่3!?หมายความว่ายังไงกัน!? 」
「พอดีก่อนหน้านี้พวกฉันแลกข้อมูลติดต่อกันน่ะ….แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะติดต่อมาตอนนี้」
ฉันตกใจสุดๆ ที่คัตสึมิคุงได้รับข้อความจาก คนที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในบอสของศัตรู
หมายความว่ายังไงกัน?!
「ขะ ข้อความที่ส่งมาบอกว่าอะไรเหรอ!? 」
「กำลังจะอ่าน」
『คัตสึมิ ให้ฉันแชร์หน้าจอให้ทุกคนดูไหม? 』
「อ้า ฝากด้วย」
โปรโตทำการเชื่อมภาพแล้วฉายออกมาให้พวกเราเห็นด้วยทันที
< ซันนี่
/l、
(゚、 。`フ
」 “ヽ
() ιし (~) ~
คัตสึมิจัง อันนี้น่ารักดีเนอะ
คัตสึมิ : อะไรเนี่ย
-ข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน-
ซันนี่ : เผื่อเธอกำลังตามหาอยู่ https://www.whotube.com
「เผื่อฉันกำลังตามหา……!? 」
「รอเดี๋ยวนะ ประธาน ช่วยตรวจสอบให้ทีสิว่าเป็นลิงค์ดักอะไรไหม」
「อ้า จากที่เห็นเหมือนจะเป็นเว็บปกตินะ วิดีโอความยาวประมาณ 3 นาที」
「วิดีโอ?แล้วเปิดเผยต่อสาธารณะไหมคะ? 」
ประธานพยักหน้าให้กับคำถามของฉัน
…..คงไม่ใช่วิดีโอที่ไฮรุกำลังถูกจับเป็นตัวประกันแล้วทำอะไรโหดร้ายใส่หรอกนะ
มันไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ด้วยสิ
「ก็คงมีแต่ต้องเข้าไปดูแหละนะ แต่ถ้าเป็นซันนี่ส่งมา อย่างน้อยฉันว่าก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรอก」
คัตสึมิคุงกด URL เพื่อเปิดวิดีโอดังกล่าว
สิ่งที่ปรากฏก็เป็นเว็บที่แสนคุ้นเคย
หลังโหลดสักพักภาพในวิดีโอก็ฉายบนจอ
『……ทำไมเอาแน่นั่งนิ่งล่ะ?เธอต้องทักทายคนดูหน่อยสิ』
『อะ เอ่อ สวัสดีค่ะ ฉันชื่อไฮรุค่ะ…..』
【สรุปใน 3 นาที】ไฮไลท์การสตรีมเกมของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ใดๆ
JEMJEM แชแนล
คำอธิบาย
สาวน้อยคนใหม่ปรากฏตัว นับตั้งแต่วันนี้เธอจะเป็นสมาชิกใหม่ของแชแนล
「「「「หา? 」」」」
ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ส่งเสียงประหลาดใจออกมาพร้อมกันทันที
ในหัวฉันมันมีแต่เรื่องร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเธอ แต่พอมาเห็นว่าเพื่อนตัวเองกำลังเล่นเกมอยู่กับสาวสวยผมบลอนด์มันก็อดที่จะสับสนไม่ได้
「ด้วยเหตุผลบางอย่าง เหมือนฉันจะถูกขอให้ช่วยบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเกมค่ะ……」
「คะ โคโนฮานะ…? 」
「ทะ ทำไมถึงมาเล่นเกมได้ล่ะ? 」
「วิดีโอถูกโพสต์เมื่อกี้นี้เอง…..」
「สาวผมบลอนด์ข้างๆ เป็นวูทูปเบอร์ที่กำลังดังในช่วงนี้」
จะว่าไปผู้หญิงที่อยู้ข้างๆ ก็ขึ้นมาในวิดีโอแนะนำบ่อยๆ นี่หว่า!!
เธอคือพวกนีทไร้ประโยชน์ที่ดังขึ้นมาได้เพราะหน้าตาอันสวยสุดๆ ของเธอ———แต่การที่เธอมาอยู่กับไฮรุได้ก็แปลว่าเธอไม่ใช่คนปกติแน่นอน
「ถึงไม่รู้ว่าจะไหวหรือเปล่าแต่ก็จะลองทำดูนะคะ……」
「ไฮรุ」
「……อะไรเหรอคะ? 」
「หยิบของหวานมาให้ที」
「เอ๋? 」
วิดีโอเล่นต่อไปโดยทิ้งพวกเราให้งุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
มันเป็นวิดีโอสรุปไลฟ์ภายใน 3 นาที ภาพภายในนั้นจึงมีการตัดไปตัดมาเพื่อให้คนที่ไม่ได้ดูตัวเต็มเข้าใจได้ง่าย แต่มันไม่เข้าหัวฉันเลยสักนิด
ไฮรุ
ทำไมถึงเล่นเกมล่ะ?
ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?
ไม่เข้าใจสุดๆ
—-
โซมากิ วาคาบะ : ….นี่ นายคิดยังไงกับฉันเหรอ?
กรุณาเลือก :
『ฉันรักเธอ』<<<<
『เราเป็นเพื่อนกัน』
『……』
「หือ?คำตอบมันก็ต้องฉันรักเธออยู่แล้วไหม ถามได้ดูถูกกันเกินไปแล้ว」
「ไม่สิคะ มันต้องตอบว่าพวกเราเป็นเพื่อนกันหรือเปล่า คนที่เจอกันได้แค่ไม่กี่วันการจะมาบอกอะไรแบบนี้ไปเลยมันค่อนข้างแปลกนะคะ」
「……งั้นเหรอ? 」
「นอกจากนี้หากถูกคนมาบอกรักทันทีโดยยังไม่ได้สานสัมพันธ์อะไรกันให้มากกว่านี้มันค่อนข้างแปลกค่ะ ดังนั้นคำตอบที่ถูกคือ เราเป็นเพื่อนกันค่ะ」
โซมากิ วาคาบะ : นายไม่ได้ชอบฉันหรอกเหรอ!! นายไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าฉันรู้สึกยังไงกับนาย!!
ปัง!!!!
「ถ้าหล่อนไม่พูดแล้วคนบ้าที่ไหนจะไปรู้ยะ!!」
「เธอนี่มันไร้ประโยชน์จริงๆ ไฮรุ รีเซพๆ」
ไฮรุทุบโต๊ะขณะบ่นออกมา
สาวผมบลอนด์ที่อยู่ข้างๆ ก็เลยหยิบเอาคอนโทรลเลอร์มาโหลดเซพแล้วเลือกใหม่
โซมากิ วาคาบะ : …..เหือ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรเหรอ พอดีลมมันแรงจนฉันไม่ได้ยินเลยน่ะ ช่วยพูดใหม่ได้ไหม?
ปัง!!!!
「จะให้ฉันตะโกนอัดหูหล่อนเลยไหมยะ!! วาคาบะ!!!」
「หล่อนหูพิการหรือไงเห้ย!? 」
บางทีเธออาจจะกำลังเครียดอยู่ ไฮรุก็เลยปลดปล่อยออกมาด้วยการเล่นเกมแน่ๆ จากนั้นภาพก็ตัดไปไฮไลท์อื่นแทน
「ไฮรุนี่ไม่มีประสบการณ์ด้านความรักเลยสินะ ถึงว่าเล่นเกมนี้ได้ห่วยสุดๆ」
「หมายความว่ายังไงกันคะ?!นี่จะหาเรื่องกันใช่ไหม?!」
「ดูตัวเลือกที่เธอเลือกสิยะ มันผิดไปหมดเลยเนี้ย บ้าหรือเปล่า?!」
「หุบปากกกกก!! หนวกหูว้อยยย!!」
「อะไรของเธอไปเนี่ยไฮรุ….ทำบ้าอะไรของเธอ!!? 」
「อย่ามาสั่งให้ฉันทำนั่นนี่จะได้ไหมคะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง!!」
「หล่อนสติหลุดไปแล้วเหรอยะ!!」
「โอ้วววววววว!? 」
「โว้ยยยยยยย!? 」
ไฮรุกับสาวผมบลอนด์ส่งเสียงสาปแช่งและกรีดร้องออกมาทุกครั้งที่เลือกตัวเลือกผิด
และความวุ่นวายภายในนั้นก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนช่วง 10 วิสุดท้ายหน้าของไฮรุก็ปรากฏขึ้นมาแทนภาพของเกม
ใบหน้าของเธอเหมือนจะอัดอั้นอะไรสักอย่างก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วพูด
「ฉัน!!」
「รอดแล้วค่ะ!!」
———จากนั้นวิดีโอก็ตัดไปพร้อมกับเสียงปิดท้ายนั้น
หากจะให้สื่อถึงความหมายในตอนสุดท้ายน่าจะเป็นการบอกกับพวกเราว่าเธอปลอดภัยดี
「นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี้ย…? 」
คัตสึมิคุงพูดออกมาด้วยความสับสน
ฉันเองก็อยากจะถามเหมือนกันนั่นแหละ เพราะทุกคนในที่นี้ก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน
****
ต้องขอบคุณการตัดต่อของเจ็มเลยทำให้ไฮรุเปิดตัวได้อย่างอลังสุดๆ
หลังผ่านประสบการณ์เป็นตายด้วยกันมา เหมือนว่าไฮรุจะเริ่มสนิทกับเร็มมากขึ้นโดยไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวอีกฝ่ายซะแล้ว
–จบ—
โมโมโกะกลายพันธุ์ของจริง จากนี้คงได้เป็นกำลังให้JCในฐานะพิงค์แหง
อาซาฮีปรากฏตัวขึ้นมาช่วยสาวๆ?อีกแล้ว
ส่วนไฮรุ…..ปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ได้อย่างง่ายดาย การตะโกนออกมาครั้งสุดท้ายนั้นอาจจะบอกถึงรอดจากสถานการณ์อันตรายและรอดจากเกมบัดซบนี่สักทีแหง
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code