อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 624 อำนาจมีประโยชน์ที่สุด
ตอนที่ 624 อำนาจมีประโยชน์ที่สุด
บ่ายวันรุ่งขึ้น ข้อมูลการทำผิดกฎหมายของพวกหลินหาวซุ่นก็มาอยู่ตรงหน้ามู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนทั้งหมดแล้ว
สายการผลิตทั้งสิบสาย มีเพียงเหล้าราคาปกติชนิดเดียวที่ถูกต้อง เอาไว้สำหรับบังหน้า ส่วนชนิดอื่นเป็นเหล้าปลอมทั้งหมด
พวกเขาซื้อวัตถุดิบคุณภาพแย่มาผลิตเหล้า รับซื้อขวดเหล้าของแท้ จากนั้นก็ใช้เครื่องจักรบรรจุลงขวด ผนึกฝา ติดฉลากข้างกล่องว่าเป็นเหล้าชนิดไหน เมื่อบรรจุลงลังทั้งหมดแล้วก็ขายให้ผับบาร์ร้านเหล้าทั่วประเทศ
ผลิตขายเหล้าปลอมคุณภาพแย่แบบนี้ทำกำไรได้มากถึงหลายร้อยล้าน!
แม้เหล้าปลอมจะไม่มีพิษภัย แต่ความผิดนี้ก็เพียงพอให้พวกเขาติดคุกได้นานแล้ว!
ตี้อู๋เปียนใช้สถานะตัวเองให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างเร่งด่วน สืบทั้งหมดอย่างละเอียด จัดการทั้งขบวนการ สั่งปิดโรงงานและบาร์เหล้า รวบแก๊งผลิตและค้าเหล้าปลอมได้สำเร็จ จับผู้ต้องสงสัยได้เป็นจำนวนมาก
ส่วนหลินหาวซุ่นที่เป็นตัวการอยู่เมืองเยียนอวิ๋นเป็นเจ้าของโรงงานผลิตและค้าเหล้าปลอม ว่านจ้งผิง ซึ่งเป็นคนรับผิดชอบหาเจ้าของร้านเหล้าทั่วประเทศมารับซื้อเหล้าปลอม ก็ถูกคุมตัวกลับเมืองบ้านเกิดเช่นกัน
ตี้อู๋เปียนยังได้ใช้อำนาจพิเศษในการให้ศาลไต่สวนโดยเร็วที่สุด มู่เถาเยาจะได้จัดการเรื่องของเจียงเหอให้จบก่อน
ขณะเดียวกันเส้นสายที่หลินหาวซุ่นเคยใช้เงินซื้อไว้ยังไม่ทันจะได้ขยับตัวทำอะไรก็ถูกจัดการไปพร้อมกัน
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ใช้เวลาแค่สัปดาห์เดียว เร็วจนหลายคนตั้งตัวไม่ทัน แม้แต่มู่เถาเยาก็ยังอดถอนหายใจไม่ได้
เป็นอย่างที่คิด ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน อำนาจมีประโยชน์ที่สุดเสมอ
อำนาจหากใช้ในทางที่ดีก็เพื่อประชาชน แต่ถ้าอยู่ในมือคนที่คิดไม่ซื่อก็อาจทำร้ายทั้งตัวเองและคนอื่น
กว่าจะจัดการเรื่องนี้เสร็จเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่กลางเดือนมีนาคม พวกเขาจะเดินทางกลับแบบเอ้อระเหยไม่ได้แล้ว มู่เถาเยาจึงพูดขึ้นว่า “ตี้อู๋เปียน พรุ่งนี้พวกเราไปเที่ยวในหุบเขาสองวันแล้วกลับเมืองเย่ว์ตูเถอะ เดี๋ยวกินอาหารเช้าเสร็จไปบ้านครอบครัวเจียงสั่งยาให้เจียงลั่วไฉ่แล้วถือโอกาสร่ำลาไปด้วยเลย”
“อืม”
มู่เถาเยาโทรหาเจียงเหอก่อนแล้วลงไปกินอาหารเช้า
ซื้อผลไม้นิดหน่อยตอนผ่านตลาดสด
ครอบครัวเจียงเหอ รวมถึงครอบครัวเจียงลั่วไฉ่และครอบครัวลุงรองมารวมตัวกันอยู่ที่บ้านของเจียงเหอกันหมด
พอเห็นมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนลงจากรถก็พากันเข้าไปต้อนรับอย่างอบอุ่นมากเสียจนทั้งสองคนรับมือไม่ทัน
แม่เจียงยิ้มกว้างจูงมู่เถาเยาเข้าบ้าน “ทนายมู่ เมื่อวานพวกเราหารือกันแล้วว่าอยากเลี้ยงข้าวพวกทนายมู่จ้ะ”
เมื่อวานหลังจากเรื่องราวจบลงสมดังใจ เจียงเหอถึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ญาติๆ ฟัง
ทั้งสองครอบครัวโมโหมาก
ขณะเดียวกันก็นึกตำหนิตัวเองที่เลี้ยงดูหลานสาวคนเดียวของรุ่นนี้ให้ไร้เดียงสาเกินไป ถึงได้เกิดผลลัพธ์ที่รุนแรงแบบนี้
โชคดีที่ตอนนี้ปัญหาคลี่คลายแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงได้โมโหสารเลวหลินหาวซุ่นจนอกแตกตาย อยากฆ่าเสียให้รู้แล้วรู้รอด!
มู่เถาเยายิ้มพูด “ทุกคนไม่ต้องเกรงใจค่ะ”
แม้ครอบครัวเจียงจะไม่รู้ว่าทำไมศาลถึงเรียกตัวไปเร็วขนาดนี้ แถมเรื่องยังจบไว แต่พวกเขาก็รู้ว่าเรื่องบางอย่างห้ามถาม โดยเฉพาะหลังจากเห็นใบหน้าที่แท้จริงของมู่เถาเยา
มู่เถาเยาขึ้นศาลในฐานะทนายโดยใช้ใบหน้าจริงเพื่อเป็นการเคารพกฎหมาย ครอบครัวเจียงเหอ เจียงเหวินกับภรรยาต่างก็ไปศาลกันหมด
พวกเขาซื่อ แต่ไม่ได้โง่ ย่อมรู้ว่าอะไรควรถาม อะไรไม่ควรถาม
คุยกันสักพักมู่เถาเยาก็เรียกให้เจียงลั่วไฉ่มาหา จับชีพจรเสร็จก็เขียนใบสั่งยาให้เจียงเหวิน
“กระดาษที่ฉันเขียนสั่งยาเป็นของอาจารย์โดยเฉพาะ หมอของสำนักแพทย์โบราณรู้จักหมด พวกคุณไปโรงพยาบาลผิงคังเอาให้ศิษย์พี่แปดของฉันคุณหมอโอวหยางซวี่รื่อดู เขาจะจัดหมอที่ฝังเข็มเก่งที่สุดให้เสี่ยวไฉ่ค่ะ”
เจียงเหวินยิ้มกว้างใช้สองมือรับไป “ขอบคุณครับลูกสาว”
มู่เถาเยา “…เรียกฉันว่าหมอมู่ดีกว่าค่ะ พวกเราแปลงโฉมออกมาเพราะไม่อยากให้สะดุดตาเกินไป” เป็นคนดังก็แบบนี้!
ครอบครัวเจียงพูดเป็นเสียงเดียวกัน “ได้เลยหมอมู่”
พ่อเจียง “หมอมู่ครับ ค่าทนายกับค่าฝังเข็มอาไฉ่คิดเท่าไรครับ พวกเราจะได้จ่ายเลย”
“ครอบครัวฉันมีฐานะ ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ไว้พวกคุณว่างๆ ก็ซื้อของไปบริจาคสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือสถานสงเคราะห์คนชรานะคะ ใครๆ ต่างรู้ว่าอาจารย์ของฉันทุ่มเทให้กับการแพทย์ ไม่ได้แต่งงานมีลูก มีแค่พวกเราที่เป็นลูกศิษย์…”
ทุกคนพยักหน้าด้วยความเข้าใจ รู้สึกเลื่อมใสมู่เถาเยาที่เป็นคนกตัญญูและจิตใจดี
มู่เถาเยา “พรุ่งนี้พวกเราจะไปเที่ยวในหุบเขาสักสองสามวัน เสร็จแล้วจะกลับเมืองเย่ว์ตูเลยค่ะ เลยมาบอกทุกคนก่อน”
เจียงเหอพูดด้วยความเสียดาย “หมอมู่ คุณลู่คะ อยู่เที่ยวต่ออีกสักหน่อยสิคะ พี่จะพาเที่ยวเยียนอวิ๋นกับที่เที่ยวรอบๆ เวลานี้ดอกไม้บานเต็มภูเขาสวยมากเลยค่ะ”
แม่ของเจียงลั่วไฉ่พยักหน้า “ใช่ค่ะ ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่เมืองเยียนอวิ๋นของเราสวยที่สุด”
มู่เถาเยายิ้มพลางส่ายหน้า “อาจารย์สามของฉันใกล้คลอดลูกแล้ว ฉันต้องรีบกลับไปเฝ้าค่ะ วันหน้ามีโอกาสจะพาพวกอาจารย์มาเที่ยวนะคะ ขอบคุณทุกคนค่ะ”
พอได้ยินมู่เถาเยาพูดแบบนี้ ครอบครัวเจียงก็เลยต้องตัดใจ รอคอยการมาของพวกเขาครั้งหน้า “ไว้ถึงตอนนั้นต้องมากินข้าวที่บ้านพวกเรานะคะ”
“ได้ค่ะ มาแน่นอนค่ะ”
เจียงคั่วพี่ชายที่เป็นญาติของเจียงเหอถาม “หมอมู่คุณลู่ครับ อีกสองวันกลับกันกี่โมงครับ ช่วงสองวันนี้พวกเราจะได้เตรียมของฝากให้พวกคุณเอากลับไปฝากคนแก่กับเด็กๆ กินกันครับ”
ภรรยาของเจียงคั่วพูดต่อจากสามี “ใช่ค่ะ ทุ่งหญ้าทางแถบพวกเราดีนะคะ ผลิตภัณฑ์ทำจากนมหรือนมผงมีชื่อเสียงมาก แตกต่างจากทางที่ราบทุ่งหญ้าอยู่บ้าง อาจารย์สามของหมอมู่กำลังจะคลอดลูกไม่ใช่เหรอคะ ก็พอดีเอานมผงกลับไปเยอะหน่อย”
“งั้นก็รบกวนด้วยค่ะ เดี๋ยวฉันโอนเงินให้พี่เจียงเหอ ของฝากอย่างอื่นรับไว้ได้ แต่นมผงต้องให้เงินค่ะ เพราะกินหมดแล้วยังต้องรบกวนให้พี่เจียงเหอซื้อส่งไปอีก”
เดิมทีพวกเขาก็กะว่าตอนบ่ายจะไปซื้อของฝากกับนมผง ตอนนี้มีครอบครัวเจียงช่วยรับหน้าที่แทนแล้ว ทุ่นแรงพวกเขาไปได้เยอะ
ครอบครัวเจียงจนปัญญา
มู่เถาเยาถามพ่อเจียง “ลุงเจียงคะ พื้นที่โล่งข้างบ้านเอาไว้ทำอะไรเหรอคะ เอาอะไรมาจอดได้ไหมคะ”
พ่อเจียงยิ้มตอบ “เมื่อก่อนเป็นสวนผลไม้ แต่โค่นต้นทิ้งไปเมื่อสองปีก่อน อยากทำสนามเด็กเล่นให้พวกเด็กๆ น่ะ หมอมู่จะเอาอะไรมาจอดเหรอ”
“เฮลิคอปเตอร์ค่ะ อีกสามวันฉันจะให้คนมารับ เที่ยงวันนั้นพวกเราขอฝากท้องไว้อีกมื้อก่อนกลับ ดังนั้นพอทุกคนช่วยซื้อของฝากกับนมผงเสร็จแล้วก็มาวางไว้ที่บ้านนี้ก่อน พอถึงตอนนั้นจะได้เอาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ค่ะ”
แม่เจียงพยักหน้า “ตามสบายเลยจ้ะ”
มู่เถาเยาเอ่ยขอบคุณ