อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 617 ผู้กล้าหาญ
ตอนที่ 617 ผู้กล้าหาญ
มู่เถาเยาตบบ่าผู้หญิงรูปร่างผอมที่ร้องไห้จนควบคุมตัวเองไม่ได้ พูดเสียงเบา “ฉันเป็นทนายค่ะ ช่วยเรื่องหย่าได้นะคะ” ผู้ชายที่คิดขายเมียเพื่อรักษาหน้าตัวเอง ลูกเต้าไม่เลี้ยงดู ไม่คู่ควรที่จะมีเมีย
ผู้หญิงร้องไห้จนเกือบหมดสติ
ถ้าเขาไม่มายังไม่เท่าไร เธอจะคิดเสียว่าสามีตายไปแล้ว แต่ทำไมเขาถึงยังกลับมาอีก!
เวลานี้ฝ่ายหญิงเกิดความแค้นแบบไร้ขีดจำกัดขึ้นมาในหัวใจ
ถ้าในมือมีมีด เธอคงพร้อมตายไปกับเขา! อย่างน้อยวันหน้าพ่อแม่กับลูกๆ ของเธอก็ไม่ต้องอยู่อย่างอกสั่นขวัญแขวน
เธอไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะยอมตัดใจทั้งที่เป้าหมายยังไม่สำเร็จ ความตายคือการจบเรื่องราว! หากเธอต้องเสียสละตัวเองเธอก็ไม่เสียดาย!
มู่เถาเยาก็ไม่รู้ว่าจะปลอบใจผู้ใหญ่ที่สติแตกอย่างไร
ผู้หญิงคนนั้นพูดกับมู่เถาเยาอย่างสิ้นหวัง “ไม่ค่ะ ฉันหย่าไม่ได้ เขาเป็นพวกตอแย ต้องมารังควานกับทำร้ายพ่อแม่ฉันแล้วก็ลูกๆ แน่”
“ขอแค่คุณยอม ฉันมีหนทางทำให้ต่อไปเขามารังควานพวกคุณไม่ได้อีก”
ผู้ชายคนนั้นด่า “ไอ้XX…”
ตี้อู๋เปียนกำหมัดต่อยผู้ชายที่ด่าหยาบคายกระเด็นลอยออกไปชนกับโต๊ะเก้าอี้ด้านข้าง
สองสามีภรรยาเจ้าของร้านไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างแขกสองคนนั้น แต่ได้ยินเสียงผู้ชายด่าทอไม่ขาดสาย พวกเขาก็โมโหเหมือนกัน จึงไม่บ่นอะไรที่ตี้อู๋เปียน ‘พังร้าน’
ลูกค้าที่อยู่รอบๆ ก็ไม่รู้ว่าชายหญิงคู่นี้มีปัญหาอะไรกัน อย่างไรเสียพวกเขาก็หูไม่ไวเหมือนมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียน แต่เห็นฝ่ายหญิงสติแตก รู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังของเธอ ได้ยินผู้ชายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย จะเข้าไปตบผู้หญิง ด้วยเหตุนี้แต่ละคนจึงอดคันไม้คันมือไม่ได้!
เพียงแต่เห็นพลเมืองดีคนนั้นจัดการจนอยู่หมัดได้ จึงไม่ได้เข้าไปช่วย ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่ได้แค่มุงดูแน่!
คนต่างถิ่นกล้ามาทำร้ายผู้หญิงในบ้านเกิดของพวกเขา เห็นพวกเขาคนเยียนอวิ๋นขี้ขลาดอ่อนแอหรือไง!
ผู้หญิงอายุประมาณสี่สิบที่อยู่ด้านข้างเดินเข้าไป มองผู้หญิงสิ้นหวังด้วยความสงสาร “น้องสาว ไม่ต้องกลัวนะ เมืองเยียนอวิ๋นของเราไม่ใช่ว่าไม่เหลือใครแล้ว!”
ผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่งพูดต่อ “นั่นสิ! อยู่กันไม่ได้ก็หย่าเลย! ดูซิยังจะกล้ามาหาเรื่องอีกไหม! หมัดของพี่ชอบคนสารเลวประเภทนี้ที่สุด!”
ทุกคนพากันปลอบใจผู้หญิง อยากมอบพลังให้แก่เธอ
ผู้ชายที่โดนตี้อู๋เปียนต่อยจนกระเด็นไปชนโต๊ะเก้าอี้ เดิมทีก็เจ็บปวดอยู่แล้ว เวลานี้มาได้ยินคำพูดของทุกคนอีกก็แทบกระอักเลือด เขาพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่บวมเป่งมองเห็นก็ไม่ชัด “กูจะแจ้งตำรวจ”
เด็กหนุ่มอายุประมาณยี่สิบโมโหจนหัวเราะ “อยากแจ้งก็ไปแจ้งเลย ช่วยต่อสายให้เอาไหม!”
ถึงแม้การทำร้ายคนจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร แต่พวกเขาเห็นคนถูกรังแกก็ต้องช่วย หากต้องไปช่วยเป็นพยานก็จะไป ต้องชดใช้เงินก็ไม่บ่ายเบี่ยง
ยุคสมัยนี้ต้องการฮีโร่ อย่าปล่อยให้เป็นเรื่องชินชา ไม่อย่างนั้นจะหาคนดีไม่ได้อีก
ผู้ชายคนนั้นย่อมไม่กล้าแจ้งตำรวจ เพราะจุดประสงค์ของเขาไม่ดีตั้งแต่แรก
จึงจำต้องลากสังขารที่บาดเจ็บพูดประชดเมียกับคนที่มุงดูอยู่ “ฝากไว้ก่อนเหอะ” จากนั้นก็พาตัวเองออกไป
ทุกคนพากันปลอบใจผู้หญิงคนนั้น ทิ้งช่องทางติดต่อไว้ให้เธอ บอกว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยก็ยินดี ทั้งยังชื่นชมการกระทำของตี้อู๋เปียนกันยกใหญ่ แถมบอกว่าคลิปวิดีโอเมื่อครู่ลบไปแล้ว อย่างไรเสียเขาก็เป็นฝ่ายทำร้ายร่างกาย
ไม่ว่าจะมีเหตุผลหรือไม่มี คนที่ลงมือก่อนก็เป็นฝ่ายผิด โดยเฉพาะเป็นฝ่ายทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว
ตี้อู๋เปียนกับผู้หญิงคนนั้นขอบคุณทุกคน
ทุกคนก็ส่ายมือ จากนั้นก็ช่วยกันเก็บข้าวของในร้าน กลับไปนั่งโต๊ะตัวเองแล้วกินต่อ ราวกับไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
มู่เถาเยาพาผู้หญิงคนนั้นมานั่งที่โต๊ะตัวเอง
“พี่ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะมาแก้แค้นนะคะ ขอแค่พี่อยากไปให้พ้นจากผู้ชายคนนี้ พวกเราก็มีหนทางทำให้เขามารังควานพี่กับคนในครอบครัวไม่ได้อีก แต่ถ้าพี่กังวล ก็พาพ่อแม่กับลูกๆ ไปพักอยู่ที่ที่เขาไม่รู้จัก ก่อนที่จะแก้ปัญหาเสร็จก็ได้นะคะ”
เวลานี้ผู้หญิงสงบสติอารมณ์ได้บ้างแล้ว พอฟังมู่เถาเยาพูดก็เริ่มมีความหวัง แต่เธอคิดไม่ออกว่าจะมีหนทางไหนที่จะทำให้ผู้ชายสารเลวคนนี้เลิกรังควาน ประกายความหวังในดวงตาจึงมอดลงไปอีกครั้ง
“คุณทนายคะ เขาเป็นเจ้าของบาร์ มีกลุ่มเพื่อนอันธพาล ไม่ควรมีเรื่องด้วย เขาทำได้ทุกอย่าง พวกคุณอย่ายุ่งเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะเจ็บตัวเปล่าๆ”
“ไม่ต้องกลัวค่ะ ยิ่งคุณกลัวเขาก็ยิ่งได้ใจ เซฟเบอร์ฉันเอาไว้นะคะ ตัดสินใจได้แล้วก็โทรมา พวกเราฝึกต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก อย่างเขาน่ะ มาเป็นร้อยพวกเราก็สู้ไหว”
อืม พูดว่าเก่งกว่านี้ก็ไม่ดี เดี๋ยวจะหาว่าเป็นคำปลอบโยน
ผู้หญิงคนนั้นลังเลสักพัก สุดท้ายก็ล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเพื่อเซฟเบอร์โทรศัพท์ของมู่เถาเยา
ไม่ว่าจะสู้ร้อยคนได้จริงหรือไม่ เมื่อครู่เธอก็เห็นสภาพของสามีแล้วว่าจนตรอก แถมสองคนนี้ยังเป็นคนต่างถิ่น สามีเฮงซวยหาสองคนนี้ไม่เจอหรอก เธอจึงไม่ต้องกังวลว่าพวกเขาช่วยเธอแล้วจะถูกตามล้างแค้น
“คุณทนายคะ ฉันชื่อเจียงเหอ ขอบคุณพวกคุณที่ออกหน้าช่วย ฉันขอกลับก่อน เดี๋ยวคนที่บ้านจะเป็นห่วงค่ะ”
พ่อกับแม่ของเธอไม่เชื่อว่าสามีเฮงซวยจะอยู่ๆ ก็กลับตัวเป็นคนดี ลูกสามขวบแล้วยังไม่เห็นมาดูดำดูดี อยู่ๆ จะมารับลูกเมียกลับบ้าน ต้องคิดอะไรไม่ดีอยู่แน่
ดังนั้นถ้ายังไม่เห็นเธอกลับบ้าน พ่อกับแม่ไม่มีทางหลับอย่างเป็นสุขแน่
“อยากให้พวกเราไปส่งไหมคะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เขาคงไปทำแผลที่โรงพยาบาลแล้ว ขอบคุณมากนะคะ”
“งั้นระวังตัวด้วยนะคะ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
“ลองไปคิดดูสักสองวันนะคะ ถ้าวันที่สามยังไม่ให้คำตอบ พวกเราจะไปเที่ยวในช่องแคบหุบเขาแล้ว พอถึงตอนนั้นมือถือจะไม่มีสัญญาณ แต่ว่าโทรได้ ฉันจะโอนสายของพี่ไปให้เพื่อนก่อนค่ะ”
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะคุณทนาย”
มู่เถาเยาพยักหน้า
เจียงเหอลุกขึ้น จะไปจ่ายเงินของโต๊ะเธอกับโต๊ะของมู่เถาเยา รวมถึงค่าเสียหายที่สามีเฮงซวยทำจนต้องทำอาหารมาเสิร์ฟโต๊ะนั้นใหม่ แต่เจ้าของร้านไม่รับไว้
เธอต้องรีบกลับบ้าน จึงมัวเสียเวลาอยู่ที่นี่ไม่ได้ อย่างไรเสียเจ้าของร้านก็เปิดร้านตรงนี้ทุกวัน ไว้เธอค่อยหาเวลามาใหม่
เจียงเหอขอบคุณทุกคนแล้วกลับก่อน