อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 590 กลัวไม่ได้แต่งเมีย
ตอนที่ 590 กลัวไม่ได้แต่งเมีย
เล่นกับนกกระเรียนมงกุฎแดงสักพักทั้งสองคนก็กลับทางเดิม
น้ำแข็งที่อยู่ผิวน้ำมีขนาดเล็กลงและน้อยลงเรื่อย ๆ เพราะแดดส่อง
พอพวกเขาขึ้นไปถึงตรงทะเลสาบน้ำแข็ง เศษน้ำแข็งบนผิวทะเลสาบก็แทบจะไม่มีแล้ว แต่ริมทะเลสาบเกิดเป็นแผ่นน้ำแข็งวนทวนเข็มนาฬิกาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณห้าเมตร
“มหัศจรรย์มาก! ตี้อู๋เปียน ขอกล้องถ่ายรูปหน่อยเร็ว!”
เธออยากอัดวิดีโอให้ทุกคนดูปรากฏการณ์ธรรมชาติหายากที่ไม่อาจพบเจอได้ง่ายๆ ไม่ต่างจากดินแดนอันล้ำค่า
การเกิดแผ่นน้ำแข็งก็แล้วแต่โอกาส แต่ไม่ว่าจะเกิดเมื่อไร เกิดขึ้นที่ไหน ระยะเวลาคงอยู่ก็ไม่นาน
ด้วยเหตุนี้นักธรณีวิทยา นักอุตุนิยมวิทยา นักวิจัยแม่น้ำ และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ที่จะทำการวิจัยในป่าในสภาวะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอย่างละเอียดและสมบูรณ์ สามารถอธิบายได้ว่าเป็นเพียง ‘เอฟเฟกต์น้ำวน’ ซึ่งก็คือหลังจากพื้นผิวน้ำแข็งบนผิวน้ำแตก เศษน้ำแข็งจะถูกรวบรวมโดยกระแสน้ำวน เสียดสีกับพื้นผิวน้ำแข็งโดยรอบอย่างต่อเนื่อง และสุดท้ายก็ก่อตัวเป็นแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่
แผ่นน้ำแข็งผ่านการหมุนวนนับร้อยครั้งจนเรียบลื่น แต่กลับบางและละลาย ด้วยเหตุนี้จึงคงอยู่ไม่นานก็หายไป
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนมองแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ค่อยๆ หายไป โชคดีที่พอเห็นก็ถ่ายวิดีโอไว้
“ซาลาเปาน้อย เป็นบุญตาของพวกเรามากเลยนะ”
“นั่นสิ หวังว่าคืนนี้จะได้เห็นแสงออโรร่าด้วย”
“อึม พวกเราขึ้นไปต้นน้ำ หาที่เหมาะๆ ไว้ก่อนดีกว่า”
“ได้”
ทั้งสองคนไม่ได้ใช้วิชาตัวเบา เหยียบชั้นน้ำแข็งที่หนาทึบริมทะเลสาบเดินสวนกระแสน้ำขึ้นไป
ยิ่งขึ้นไปด้านบน เศษน้ำแข็งเหนือผิวน้ำก็ยิ่งมีมากขึ้น น้ำก็เย็นเฉียบ
น้ำตรงต้นน้ำเป็นน้ำแข็ง น้ำในทะเลสาบก็เย็นยะเยือก แต่ยิ่งลงไปข้างล่างน้ำจะอุ่น
สายน้ำเส้นเดียวกันแต่กลับมีหลายอุณหภูมิเพราะข้างใต้พื้นดินไม่เหมือนกัน
ยิ่งไปข้างบนผิวน้ำก็จับตัวเป็นน้ำแข็งหมดแล้ว
ยิ่งเข้าใกล้ภูเขาหิมะ น้ำแข็งเหนือผิวน้ำก็ยิ่งหนา คนยืนกระโดดอยู่ด้านบนได้ไม่มีปัญหา ถ้ามองข้ามเรื่องลื่นไป
ตี้อู๋เปียน “น่าเสียดายที่ไม่มีรองเท้าสเก็ต ไม่อย่างนั้นคงเล่นไอซ์สเก็ตได้”
“ยังเล่นสกีไม่พออีกเหรอ”
“อยู่กับเธอเล่นอะไรก็ไม่พอ เพราะสิ่งสำคัญคืออยู่ด้วยกัน ไม่สนว่าเล่นอะไร”
มู่เถาเยาถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายจีบสาวเป็นความสามารถที่เรียนรู้ได้เองโดยไม่ต้องมีอาจารย์เหรอ”
“ต้องบวกความจริงใจ ไม่อย่างนั้นมันก็แค่กะล่อน หนักเข้าก็แต่งเรื่องหลอกลวง”
“…เอาเถอะ คุณชนะแล้ว”
“ขอรางวัลหน่อย” ตี้อู๋เปียนยื่นปากเข้าไปใกล้
มู่เถาเยายกมือดันศีรษะของเขาออก
“ซาลาเปาน้อย เธอไม่เคยจูบฉันก่อนเลยนะ”
“…ลองพูดแบบนี้ต่อหน้าพ่อฉันดูไหม” เธอไม่สงสัยเลยสักนิดหากพ่อเธอจะหักขาเขา!
ตี้อู๋เปียนพูดด้วยความน้อยใจ “ไม่กล้าหรอก” เพราะกลัวชาตินี้จะไม่ได้แต่งเมีย!
เดิมทีซาลาเปาน้อยก็ไม่ได้อยากแต่งงานอยู่แล้ว ถ้าว่าที่พ่อตายังเข้ามาขวางอีก เขากลัวจะต้องคบกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ
“…แล้วทำเป็นเก่ง”
“ซาลาเปาน้อย ลูกคนที่สามของพี่ใหญ่จะเกิดแล้ว ฉัน…”
มู่เถาเยาขัดจังหวะเขา “พี่ชายของฉันสองคนยังไม่มีแฟนเลยนะ! พี่รองของคุณก็ไม่มี! คนสมัยนี้แต่งงานกันช้าอยู่แล้ว”
ตี้อู๋เปียนยังอยากแถต่อ “ประเทศเราเปิดกว้างเรื่องลูกคนที่สาม รีบแต่งงานมีลูกมันดีกับผู้หญิงนะ”
“คนเผ่าหมาป่าพระจันทร์สุขภาพดี ช้าหน่อยก็ไม่ต้องกลัว”
ทั้งสองคนเถียงกันไปตลอดทางที่เหาะขึ้นภูเขาหิมะ
ภูเขาลูกนี้สูงประมาณสามพันเมตร เทียบไม่ได้กับเขาเทพจันทราที่สูงหนึ่งหมื่นสองพันกว่าเมตร ทั้งสองคนจึงถึงยอดเขาอย่างรวดเร็ว
หลังจากกินหญ้าพิษชีวิตไปได้ไม่นาน มู่เถาเยาก็ได้ให้เจ้าขาวปุยมอบหยาดน้ำตาสีแดงให้ตี้อู๋เปียนเพื่อเป็นหลักประกันอีกชั้น เขาถึงได้มีเกราะป้องกันแบบเธอที่ไม่กลัวร้อน ไม่กลัวหนาว และทนหิวได้
หญ้าพิษชีวิตป้องกันสิ่งเลวร้ายได้สารพัด แต่อากาศร้อนจัด หนาวจัด ความหิว ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ถ้าหากไม่มีหยาดน้ำตาของเจ้าขาวปุย ต่อให้มีกำลังภายใน ตี้อู๋เปียนก็ไม่เหมาะที่จะอยู่นานๆ ในสภาพแวดล้อมแบบนี้
คนทั่วไปเดินบนหิมะหนาท่วมเข่ามาทั้งวันภายใต้อุณหภูมิลบหลายสิบองศาเท้าอาจจะหายได้! ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการค้างคืนข้างนอก!
“ซาลาเปาน้อย ตรงนี้โอเคเลย เหมาะจะดูแสงออโรร่า”
อันที่จริงสถานที่ที่เข้าใกล้ขั้วโลกล้วนมองเห็นแสงออโรร่าได้ทั้งนั้น รวมถึงภายในเขตบ้านของครอบครัวน่า แต่การทำเรื่องโรแมนติกกับคนที่ชอบก็ต้องเลือกสถานที่ที่เข้ากับอารมณ์ของพวกเขาหน่อย
“น่าเสียดายที่ที่นี่ไม่มีบ้านน้ำแข็ง ไม่อย่างนั้นก็นอนดูแสงออโรร่าได้”
อยู่ ๆ ตี้อู๋เปียนก็ตื่นเต้น “ซาลาเปาน้อย พวกเรากลับไปเอาเต็นท์มาดีไหม แล้วนอนที่นี่สักสองสามคืน!”
ที่นี่เป็นโลกของสองคนแบบไม่มีใครรบกวนอย่างแท้จริง!
แสนสุขใจ!
“ไปรีบไปแช่น้ำพุร้อนที่เมืองข้างๆ แล้วเหรอ แช่น้ำพุร้อนที่เมืองข้างๆ ดูแสงออโรร่าได้นะ”
“พวกเราไม่รีบเสียหน่อย ซาลาเปาน้อย พวกเรากลับกันเถอะ ไปเอาเต็นท์ค่อยมาใหม่”
“ก็ได้”
ตี้อู๋เปียนจับมือมู่เถาเยาเหาะกลับด้วยความตื่นเต้น
ใช้วิชาตัวเบาตลอดทาง ไม่นานก็กลับถึงบ้านครอบครัวน่า
ครอบครัวน่าเห็นพวกเขากลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีใจมาก
มู่เถาเยายิ้มพูด “คุณลุงคุณป้าคะ พี่ใหญ่พี่สะใภ้ พวกเรามาเอาเต็นท์แล้วเดี๋ยวจะออกไปอีก กะจะค้างตรงเนินหิมะสักสองสามคืนค่ะ”
“ไม่ได้ๆ ไม่มีกำแพงอุ่นเตียงอุ่น หลับไปมีโอกาสที่จะไม่ตื่นมาอีก” น่าเค่อเลี่ยร้อนใจจนเกือบยืนขึ้น
ลาจูรีบจับเขาไว้ “ระวังเท้าหน่อยสิ”
“เสี่ยวมู่ พวกเธอจะทนอากาศลบห้าสิบองศาได้จริงๆ เหรอ” เฮ่อสี่เป็นห่วงมาก
“ได้ค่ะ ดูสิคะ พวกเราเพิ่งกลับมาจากข้างนอกแต่มือยังอุ่นอยู่” มู่เถาเยาถอดถุงมือบางแล้วไปจับมือเฮ่อสี่ ให้เธอสัมผัสถึงอุณหภูมิตัวเอง
“อุ่นจริงๆ แต่กลางคืนไม่เหมือนกลางวันนะ”
“วางใจได้ค่ะ พวกเราออกมาเที่ยว ไม่ใช่ฆ่าตัวตาย คอยระวังอยู่แล้วค่ะ”
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนพูดอธิบายอยู่นานสองนานกว่าครอบครัวน่าจะยอม