อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 521 ชะตาเปลี่ยน ตอนที่ 522 ลูกรักวงการกีฬา
ตอนที่ 521 ชะตาเปลี่ยน / ตอนที่ 522 ลูกรักวงการกีฬา
ตอนที่ 521 ชะตาเปลี่ยน
เวลาเก้าโมงเก้านาที เพลงพิธีแต่งงานก็บรรเลงขึ้น เริ่มพิธีอย่างเป็นทางการ
ลู่จือฉินคล้องแขนอธิการบดีเจียงพี่ชายแท้ๆ เข้ามาในงาน
เยี่ยนหังกับอู๋ซวงเป็นเด็กโปรยดอกไม้
บรรยากาศครึกครื้นเป็นพิเศษ
มู่เถาเยา มู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียนและคนอื่นๆ ตื่นเต้นมากเสียจนใบหน้าแดงก่ำ
ตี้อู่หลันฉือถึงกับน้ำตาคลอ “เสี่ยวเยาเยา เธอว่าพี่เรียกอาจารย์ลู่ว่าแม่ได้ไหม”
แม้เธอจะเลยวัยที่ต้องการแม่แล้ว แต่เธอก็ยังอยากให้คำว่า ‘พ่อกับแม่’ อยู่ด้วยกัน เธออยากให้ทั้งสองคนครองคู่อย่างมีความสุขไปตลอดชีวิต
ถ้ามีน้องให้เธอได้จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่! พี่สาว ‘สูงวัย’ อย่างเธอจะตามใจน้องให้เหมือนลูกเลยล่ะ!
ต่อให้วันหน้าเธอแต่งงานมีลูกของตัวเอง พ่อแม่แก่แล้ว เธอก็จะรักน้องอย่างสม่ำเสมอได้แน่!
มู่เถาเยายิ้มตาโค้ง “ฉันว่าอาจารย์สามต้องดีใจมากแน่ค่ะ”
อาจารย์สามต้องเหมือนเธอแน่นอน ไม่คิดว่าตี้อู่หลันฉือจะยอมเรียกว่าแม่ อย่างไรเสียก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
“งั้นพวกเราก็เป็นพี่น้องกันแล้วนะคะ” เจียงเฟิงเหมียนยิ้มดวงตาโค้งมน
ตี้อู่หลันฉือหยิกแก้มยุ้ยของเจียงเฟิงเหมียนที่งดงามเหมือนหัวหน้าคณะกู่ย่า “ใช่จ้ะ น้องสาว! ไว้พี่จะเอาของขวัญพบหน้ามาให้นะ!”
“ฉันก็จะวาดภาพให้พี่เหมือนกันค่ะ”
“งั้นก็เยี่ยมเลย! พอเธอดังพี่ก็ขายภาพรวยแล้วล่ะ!”
พวกมู่หว่านกับอวิ๋นสุ่ยเหยารีบอ้อนขอภาพวาดจากเจียงเฟิงเหมียน
เจียงเฟิงเหมียนยิ้ม “ได้หมดทุกคน! วันหน้าใครร้อนเงินก็เอาภาพวาดไปขายได้เลย! แต่ห้ามขายถูกๆ นะ ไม่อย่างนั้นไม่คู่ควรกับภาพวาดของฉัน!”
จั่วอีเหิงอินกับพิธีการ หรือจะเรียกได้ว่าจดจ่ออยู่กับคู่บ่าวสาว จึงไม่ได้สนใจว่าพวกเธอคุยอะไรกัน พอเห็นหัวเราะคิกคักเลยถามขึ้น “คุยอะไรกันเหรอ น่าสนุกเชียว!”
ตี้อู่หลันฉืออดยิ้มอธิบายไม่ได้ “พวกเรากำลังขอภาพวาดจากน้องสาวฉันอยู่น่ะ”
“น้องสาวเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ! ตอนนี้อาจารย์ลู่เป็นแม่ฉันแล้ว เสี่ยวเหมียนเป็นหลานสาวแท้ๆ ของแม่ฉัน ก็เท่ากับเป็นน้องสาวฉันไม่ใช่เหรอ”
จั่วอีเหิงประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็เข้าใจได้เร็ว
อาจารย์ลู่แสนดีขนาดนั้น หลันฉือจะชอบแล้วเรียกแม่เลี้ยงว่าแม่ก็ไม่แปลก
จั่วอีเหิงยิ้มมุมปาก “อาจมีเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่ารอพวกเธอสองคนพี่น้องอยู่ก็ได้นะ”
เธอดูโหงวเฮ้งของเจ้าสาว โชคชะตามีลูก บุญเยอะอายุยืน แม้แต่เจ้าบ่าวก็ได้อาศัยใบบุญพลอยอายุยืนไปด้วย
สองคนนี้แต่งงานเป็นสามีภรรยาคือคู่สร้างคู่สม เกื้อหนุนกันและกัน
เมื่อครู่ที่เธอไม่ได้สนใจสาวๆ คุยกันก็เพราะสังเกตเห็นว่าโชคชะตาของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเปลี่ยนไป
พวกสาวๆ พูดเป็นเสียงเดียวกัน “จริงเหรอ”
เซอร์ไพรส์ใหญ่ของบ่าวสาวคืออะไร ทุกคนไม่ได้โง่ เดาออกได้ง่ายๆ
จั่วอีเหิงแค่ยิ้มแต่ไม่ตอบ
เธอไม่ได้แพร่งพรายความลับสวรรค์นะ! ทุกคนเดากันได้เอง!
“เสี่ยวเยาเยา พี่ พี่ พี่…มีความสุขจังเลย!” ตี้อู่หลันฉือดีใจหน้าแดงก่ำ
เจียงเฟิงเหมียนก็ด้วย “ฉันด้วยๆๆ” เธอจะมีน้องแล้ว!
ดวงตาของมู่เถาเยาก็มีประกายน้ำตา
ใกล้จะสมบูรณ์แบบแล้ว!
พวกสาวๆ มัวแต่ดีใจจนไม่ได้สนใจว่าบ่าวสาวเสร็จพิธีแล้ว
เย่ว์เลี่ยงเดินเข้ามายิ้มพูด “สาวๆ ไม่เคยแต่งงานกันเสียหน่อย ทำไมมีความสุขขนาดนี้ล่ะ รีบมาเร็ว เตรียมไปนั่งแล้ว”
มู่เถาเยาอดแบ่งปันความสุขไม่ได้ “อาคะ หนูใกล้จะมีน้องแล้วค่ะ”
เย่ว์เลี่ยงอึ้งไปชั่วขณะ
เจียงเฟิงเหมียนยิ้มพลางพยักหน้า “อาเย่ว์คะ จริงๆ นะคะ พี่อีเหิงบอก แม่นแน่นอน”
จั่วอีเหิงรีบส่ายหน้าเป็นป๋องแป๋ง “ไม่ค่ะไม่ หนูไม่ได้พูดอะไรเลยนะคะ”
เธอพูดออกมาตรงๆ ไม่ได้แน่นอน ต่อให้ข่าวนี้ไม่ถือเป็นการแพร่งพรายความลับสวรรค์ ไม่มีทางถูกลงโทษ แต่เธอระวังคำพูดไว้ก่อนดีกว่า
เย่ว์เลี่ยงอึ้งไปสักพักถึงได้สติกลับมา จากนั้นก็กระซิบพูดกับพวกเด็กสาว “พวกเราอย่าเพิ่งพูดไป เดี๋ยวจือฉินจะรู้สึกกดดัน แบบนั้นจะไม่สวยงามแล้ว”
ทุกคนพยักหน้าเพื่อแสดงออกว่าเข้าใจ
เย่ว์เลี่ยงยิ้มกว้าง “ไปเถอะ พวกเราเข้าไปนั่งกัน”
สาวๆ ตามเย่ว์เลี่ยงเข้าไปนั่ง
เจ้าสาวลู่จือฉินมีญาติร่วมสายเลือดเพียงคนเดียวคือพี่ชายแท้ๆ อธิการบดีเจียงเฉา หยวนเหยี่ย ซย่าโหวโซ่วกับภรรยาจึงมาเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเธอให้ นั่งกับบรรดาผู้ใหญ่ของตระกูลตี้อู่
งานแต่งงานนี้ไม่ได้จัดให้นั่งเป็นครอบครัว แต่เริ่มจากโต๊ะประธาน ไล่จากผู้ใหญ่ไปเด็ก แยกชายหญิง คนรุ่นเดียวกันนั่งด้วยกัน
เด็กที่เล็กมากจะเป็นพวกสาวๆ อย่างมู่เถาเยาดูแลกินข้าว
บ่าวสาวไล่ดื่มกับแขกตามโต๊ะ
พวกรุ่นผู้น้อยก็กินกันเฮฮาตามประสา
งานเลี้ยงฉลองที่ไม่ถือว่าใหญ่นี้ครึกครื้นมากทีเดียว
เมื่องานใกล้จบมู่เถาเยาก็หาโอกาสถามคู่บ่าวสาวขึ้น “อาจารย์สามกับคุณลุงตี้อู่จะไปฮันนีมูนที่ไหนเหรอคะ”
ตี้อู่เหลียนจิงรีบฟ้องลูกศิษย์ของภรรยา “ลุงก็อยากไปอยู่หรอก แต่อาจารย์ของเราน่ะสิไม่ยอม” พูดด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ
มู่เถาเยาเขย่ามือลู่จือฉิน “อาจารย์คะ ไปเที่ยวกับคุณลุงตี้อู่ไม่กี่วันเอง” โอกาสแบบนี้ไม่ไปแล้วจะรอเมื่อไร
อาจารย์ของเธอไม่เคยเที่ยวอย่างแท้จริง ออกไปไหนทีคือมีธุระ อย่างเมื่อก่อนออกไปตามหาพี่ชาย ตอนนี้ออกไปไหนก็คือไปกับพวกเธอ…
ลู่จือฉิน “ที่ไหนก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
ตี้อู่เหลียนจิง “เหมือนที่ไหนกัน คุณลองทิ้งเรื่องทุกอย่างไปแล้วเที่ยวจริงจังสักสองสามวันดู คุณจะพบว่าต่อให้เป็นที่เดียวกันฤดูกาลเดียวกันมันก็ไม่เหมือนกันหรอก”
ทิวทัศน์จะสวยไหมขึ้นอยู่กับอารมณ์คนเราที่เปลี่ยนไป
อารมณ์ดีวิวก็สวย มีเรื่องคิดมากในใจวิวก็จืดชืด อารมณ์ไม่ดีก็จะเกิดความคิดที่ว่าที่นี่ไม่ควรค่าแก่การมาเที่ยว
“คุณลุงตี้อู่พูดถูกค่ะ อาจารย์สามควรออกไปเที่ยวบ้างนะคะ…” มู่เถาเยาพูดชักแม่น้ำทั้งห้าจนลู่จือฉินพูดไม่ออก จำต้องยอมตกลงไปฮันนีมูน
ตี้อู่เหลียนจิงดีใจสุดๆ
“ฝากอาจารย์สามด้วยนะคะคุณลุงตี้อู่”
เดิมตี้อู่เหลียนจิงก็ทำด้านท่องเที่ยวอยู่แล้ว ดังนั้นจะไปฮันนีมูนที่ไหน ไปยังไง ก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องกังวลแล้ว
“เสี่ยวเยาเยาวางใจได้ ลุงรับรองเลยว่าจากนี้ชีวิตของอาจารย์สามจะมีความสุขแน่!”
มู่เถาเยาพยักหน้า
เธอวางใจ
ตอนที่ 522 ลูกรักวงการกีฬา
วันอาทิตย์ หลังจากตี้อู่เหลียนจิงกับลู่จือฉินออกเดินทางไปฮันนีมูนแล้ว มู่เถาเยาก็ให้หร่วนเหวินไปส่งพวกหยวนเหยี่ยกลับหมู่บ้านเถาหยวนซาน
เซี่ยซืออวิ้นกับพ่อแม่ของเธอที่เป็นศาสตราจารย์ก็ตามไปด้วย
พวกเขามาโดยเครื่องบินของมู่เถาเยาเมื่อเย็นวันศุกร์
พอเสร็จเรื่องทางนี้แล้วมู่เถาเยากับพวกมู่หว่านก็นั่งเครื่องบินของตี้อู๋เปียนกลับเมืองหลวง
อีกหนึ่งสัปดาห์เธอก็ต้องเดินทางจากเมืองหลวงไปทะเลตะวันออกเพื่อฝึกเรือใบกับวินด์เซิร์ฟ
การแข่งขันในนามประเทศแบบนี้ พวกเขาไม่มีทางอิจฉาที่คนอื่นเก่งกว่าตัวเอง
ไม่ว่ายามปกติพวกเขาจะเคร่งเครียด ไม่ยอมให้คนอื่น หรือแย่งกันเป็นที่หนึ่งขนาดไหน แต่ในฐานะที่เป็นนักกีฬาของประเทศ จิตสำนึกส่วนรวมก็ต้องมาก่อน
ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ ถึงวันศุกร์ที่ทำการฝึก
พวกโค้ชรวมตัวกัน เชิญแชมป์โลกของแต่ละรุ่นแต่ละรายการมากินข้าวร่วมกัน เพื่อว่าที่แชมป์โลกอย่างมู่เถาเยา
ถึงแม้กีฬาแต่ละประเภทมู่เถาเยาเพิ่งฝึกซ้อมไปได้สัปดาห์เดียว แต่ได้กลายเป็นลูกรักของบรรดาโค้ชและนักกีฬาทุกประเภทไปเรียบร้อยแล้ว
มู่เถาเยาได้ดังไปทั่ววงการกีฬาแล้วจากคำบอกเล่าของโค้ชและนักกีฬาจากหลายประเภทเหล่านี้!
เพราะเธอคนเดียวเข้าร่วมถึงหกรายการใหญ่! แถมเธอยังเป็นดอกเตอร์ถึงสองสาขา! เป็นหมอที่มีใบประกอบโรคศิลปะ!
นักกีฬาฝึกซ้อมได้รับบาดเจ็บหรือเหนื่อยก็มีเธอช่วยรักษาให้ มีเธอคอยให้คำแนะนำการนวดกดจุดก็ช่วยให้ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจได้เร็วขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นสาวสวยที่งดงามน่ารักทั้งภายในและภายนอก!
ใครบ้างไม่ชอบ ใครบ้างไม่อยากทะนุถนอม
ตี้อู๋เปียนที่แปลงโฉมแล้วถึงแม้จะนั่งข้างมู่เถาเยา แต่เธอแทบจะไม่ว่างคุยกับเขา พูดคุยสรวลเสเฮฮากับพวกโค้ชและนักกีฬาคนอื่นตลอด เขาแอบอิจฉาอยู่ในใจ
จางเฉินเย่ว์โค้ชยิงธนูที่เป็นคนละเอียดอ่อนสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของตี้อู๋เปียนก่อน จึงรู้สึกผิดที่มัวแต่คุยกับแฟนคนอื่น เธอถาม “คุณชายเล็กคะ พรุ่งนี้เสี่ยวเยาเยาจะไปทะเลตะวันออกแล้ว คุณชายเล็กไปด้วยหรือเปล่าคะ”
ทั้งสองคนตัวติดกันทั้งวัน ไม่ว่าใครก็มองว่าพวกเขาเป็นแฟนกัน ยกเว้นผู้ชายบางคนที่ยังไม่ยอมตัดใจ
ตี้อู๋เปียนพยักหน้า “แน่นอนครับ”
มู่เถาเยาหันไป “พี่สามควรไปทำงานทำการได้แล้วนะคะ”
“ฉันก็ทำงานอยู่ตลอด เธอไม่เห็นเหรอว่าช่วงนี้ฉันพกคอมพิวเตอร์ไปด้วยตลอด”
“…ฉันหมายถึงไปทำงานในออฟฟิศ”
“ไหนบอกจะพาฉันเที่ยวเล่นไง”
“เอ่อ…แล้วช่วงนี้พี่สามไม่ได้เล่นอยู่ตลอดเหรอคะ”
ถึงแม้เขาจะพกคอมพิวเตอร์ทำงานอยู่ตลอด แต่เวลาเธอฝึกเขาก็มักลงสนามไปเล่นด้วยอยู่บ่อยครั้ง!
เธอได้ยินเสียงพวกโค้ชถอนหายใจอยู่บ่อยๆ อยากจะเอาพี่สามลงสนามไปแข่งด้วย! เพราะอะไรที่เธอทำได้พี่สามก็ทำได้เหมือนกัน
แต่น่าเสียดายที่ส่งรายชื่อนักกีฬาไปสมาพันธ์กีฬานานาชาติตั้งแต่ร่างกายเขายังไม่หายดี
ต่อให้ตี้อู๋เปียนเป็นเจ้าชายของประเทศเหยียนหวงก็ไม่สามารถเปลี่ยนรายชื่อของงานแข่งขันระดับนานาชาติได้
อันที่จริงตี้อู๋เปียนก็รู้สึกเสียดายเหมือนพวกโค้ชที่ไม่สามารถลงแข่งเคียงบ่าเคียงไหล่กับซาลาเปาน้อยได้
มันเป็นโอกาสที่ดีมากเลยนะ!
ตี้อู๋เปียน “แต่ฉันยังอยากเล่นน้ำอีก! ซาลาเปาน้อย เธอเคยบอกไว้ว่าจะสอนฉันเล่นวินด์เซิร์ฟด้วยนะ…” น้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ สีหน้าเสียใจ
พวกโค้ชต่างรู้สถานะของตี้อู๋เปียน จึงรู้สึกตะลึงมากที่เขาทำสีหน้าท่าทางแบบนี้ แม้จะแปลงโฉมแล้วก็ยังรู้สึกว่าไม่เข้ากันกับเขา
พอนึกถึงตอนตี้อู๋เปียนป่วยจนไม่ได้ออกไปไหนมู่เถาเยาก็เริ่มใจอ่อน “ก็ได้ค่ะ”
ตี้อู๋เปียนสีหน้ามีความสุข ในใจภูมิใจมาก ซาลาเปาน้อยหลงกลเขาแล้ว!
ตราบใดที่เล่นละครเก่งก็ได้กินซาลาเปาน้อยเสมอ!
พวกโค้ชมองหน้ากัน ดีใจแทนมู่เถาเยา แต่ก็แอบปวดใจ
สาวน้อยเพิ่งจะอายุยี่สิบสอง ยังเด็กอยู่เลย…ทำไมถึงถูกงาบไปกินแล้วนะ ช่างไร้เดียงสาเสียจริง!
พวกแชมป์มองทั้งสองคนคุยกัน รู้สึกว่าตัวเองอกหักแล้ว
แต่ตราบใดที่ยังไม่แต่งงานพวกเขาก็ยังมีโอกาส!
คุณชายเล็กอะไรนี่รูปร่างก็ดีอยู่หรอก แต่หน้าตางั้นๆ หล่อสู้พวกเขาไม่ได้เลย!
ความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง กินข้าวได้เพิ่มขึ้นอีกชาม!
มื้ออาหารเย็นแสนครึกครื้นผ่านไป ทุกคนรู้ว่าวันรุ่งขึ้นมู่เถาเยาต้องไปทะเลตะวันออก จึงไม่มีใครชวนเธอไปกินเหล้าต่อ
ตราบใดที่ไม่ใช่ก่อนแข่งขัน ก่อนหรือหลังออกกำลังกาย นักกีฬาสามารถกินเหล้าในปริมาณน้อยได้
สมัยนี้แอลกอฮอล์กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมกีฬาแล้ว
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนร่ำลาทุกคนเสร็จก็ขับรถกลับวังตระกูลตี้
มู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน อวิ๋นสุ่ยเหยา กู้หาน กำลังนั่งคุยกับครอบครัวตี้ครอบครัวอวิ๋นอยู่ในห้องรับแขก
พวกเด็กผู้ชายอย่างตี้อันเหยี่ย มู่ซือจิ่น ซย่าโหวจิ่งเหยา ถังเซิ่นอวี๋ก็อยู่ด้วย เล่นกับจินเหยี่ยน้อย
คุณนายอวิ๋นเหอยิ้มกวักมือเรียกมู่เถาเยา “เสี่ยวเยาเยามานี่เร็ว ป้าจะแนะนำให้รู้จัก”
ราวกับไม่เห็นลูกชายตัวเองที่อยู่ข้างๆ
มู่เถาเยาเดินเข้าไป ยิ้มดวงตาโค้งมน “สามท่านนี้คือคุณป้าหยางชิงเถียน คุณลุงอีเอิน และก็พี่อีหลายใช่ไหมคะ”
หยางชิงเถียนยิ้มพูด “ดูสิ บอกแล้วว่าเสี่ยวเยาเยาแค่มองก็รู้”
มู่เถาเยายิ้มบาง “หนูเคยดูละครราชวงศ์เทียนเย่ว์ย่อมรู้จักพี่อีหลายค่ะ และก็เคยดูโฆษณาที่คุณป้าชิงเถียนกับคุณลุงอีเอินร่วมแสดงด้วยค่ะ”
ถึงแม้สองสามีภรรยาจะเป็นนางแบบนายแบบ แต่ก็เคยร่วมแสดงโฆษณาเสื้อผ้าบ้าง
ครอบครัวอีทั้งสามคนได้ยินชื่อเสียงของ ‘มู่เถาเยา’ มานาน เวลานี้ได้มาเจอยิ่งรู้สึกดีขึ้นเป็นทวีคูณ
อีหลายขยิบตาให้มู่เถาเยาก่อน จากนั้นก็คล้องแขนมู่เถาเยาอย่างเป็นกันเอง “พี่อยู่กับเสี่ยวหว่านมาหลายเดือน เสี่ยวหว่านเอาแต่พูด ‘น้องสาวฉัน’ อย่างนั้นอย่างนี้ เล่นเอาพี่ชักสงสัยยกใหญ่เลยล่ะ!”
มู่เถาเยายิ้มบาง “ฉันก็สงสัยค่ะว่านางเอกในบทละครของฉันเป็นคนแบบไหน เหนือความคาดหมายมากค่ะที่พี่อีหลายเล่นเป็นจักรพรรดินีที่นิสัยตรงข้ามกับตัวเองอย่างสิ้นเชิงได้แนบเนียนขนาดนี้! น้าเล็กตาถึงจริงๆ ค่ะ!”
ตอนนั้นเธอไม่อยากยุ่งว่าเลือกใครมาแสดงเป็นนางเอก อย่างไรเสียไม่ว่านางเอกจะเป็นใครก็เล่นเรื่องนี้ให้ดังได้ทั้งนั้น
แต่ถ้าให้เธอเลือกอาจมองข้ามอีหลายมาแสดงเป็นนางเอก อย่างไรเสียเธอก็ไม่เคยคร่ำหวอดในวงการนักแสดง คงพิจารณาได้แค่จากปัจจัยภายนอก เช่น นิสัย ว่าเหมาะสมกับบทหรือไม่
เป็นอย่างที่คิด เรื่องบางอย่างต้องให้คนในวงการทำเท่านั้น
พวกโค้ชพอใจผลการฝึกของเธอตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมามาก พวกรุ่นพี่ของแต่ละชนิดกีฬาก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี