อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 470 ทำเธอเป็นหม้าย
ตอนที่ 470 ทำเธอเป็นหม้าย
เย่ว์เลี่ยง เย่ว์หลั่ง เป่ยซี รวมถึงเย่ว์จือเหิงกับเย่ว์จือกวงอยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวนซานหนึ่งสัปดาห์ก็กลับ
ปาอินตามกลับไปด้วย
อวิ๋นไป๋กลับเจียงตูไปจัดการเรื่องงาน
บรรดาผู้อาวุโสของตระกูลเย่ว์ ตระกูลเป่ย ตระกูลอวิ๋นดูแลเยี่ยนหังกับอู๋ซวงอยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวนซาน
มู่เถาเยาไม่ต้องกลับไปเรียนแล้ว ไม่รีบ หลายวันนี้จึงไม่ได้หาอะไรทำเป็นพิเศษ
วันนี้ไปดูฝูงม้าป่ากับตี้อู๋เปียน พบว่าเฟยอวี่แม่ม้าที่โค้ชเถียนเอามาทิ้งไว้ทางนี้กับม้าป่าอีกหลายตัวตั้งท้องแล้ว
มู่เถาเยารีบโทรบอกข่าวดีให้โค้ชเถียนรู้ด้วยความดีใจ
โค้ชเถียนดีใจแทบบ้า วันรุ่งขึ้นรีบมาทันที
แต่เขายังดีใจเร็วเกินไป เพราะเฟยอวี่ไม่ยอมกลับไปกับเขา!
ไม่ว่าจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรมันก็ไม่อยากไปจากป่าเซียนโหยวกับฝูงม้าป่า ถึงขั้นที่วิ่งไปหลบหลังมู่เถาเยาด้วยความน้อยใจ
โค้ชเถียนหัวใจชอกช้ำ ถ้าไม่ติดว่ามีเด็กรุ่นลูกอยู่ตรงนี้สองคน เขาอยากลงไปนั่งร้องไห้ฟูมฟายบนพื้นแล้ว
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนกลั้นขำแทบแย่
อยู่ที่นี่กันกว่าครึ่งวันจนถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านไปกินข้าว โค้ชเถียนถึงยอมไปจากฝูงม้าตามมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนกลับบ้านด้วยความอาลัยอาวรณ์
“โค้ชเถียนคะ หนูจะทำคอกม้าของหมู่บ้านเถาหยวนซานให้ใหญ่ขึ้นค่ะ วันหน้าถ้ามีแม่ม้าคลอดลูกก็เอากลับมาเลี้ยงในหมู่บ้าน พอลูกม้าหย่านมแล้วค่อยปล่อยพวกมันกลับป่าเซียนโหยว”
โค้ชเถียนถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “ก็คงต้องอย่างนั้นแล้ว เสี่ยวเยาเยา เดือนมีนาถึงเดือนกรกฎาเป็นช่วงติดสัดของม้า ปีนี้ม้าที่ตั้งท้องได้ก็คงมีแค่นี้แล้ว”
“ค่ะ ม้าป่าเคยอยู่แต่ในเขตป่าชั้นใน ถึงแม้สุขภาพจะดี แต่จิตใจหวาดหวั่นทุกวัน ปีนี้ตั้งท้องได้หลายตัวขนาดนี้ก็เหนือความคาดหมายแล้วค่ะ”
“นั่นสิ ตอนนี้เสี่ยวเยาเยาเรียนจบแล้ว ระยะนี้เตรียมทำอะไรเหรอ ยังจะไปเมืองหลวงอีกไหม”
“ตอนนี้ยังไม่ไปค่ะ อีกสองวันหนูกับตี้อู๋เปียนจะเข้าเขตป่าชั้นใน”
โค้ชเถียนมองตี้อู๋เปียน
คนที่ดูแข็งแรงขนาดนี้จะป่วยได้ยังไง
โค้ชเถียนเงียบไปหลายวินาทีถึงพูดขึ้น “พวกเธอต้องระวังตัวด้วยนะ”
มู่เถาเยาพยักหน้า “วางใจได้ค่ะ พวกหนูไม่เป็นไร”
“อืม”
ทั้งสามคนกลับถึงบ้านครอบครัวหยวน ทุกคนกำลังรอพวกเขากลับมากินข้าว
โค้ชเถียนพูดด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษด้วยครับที่ทำให้ทุกคนรอนาน”
ย่าเย่ว์ยิ้มพูด “ไม่เป็นไร เด็กสามคนกินก่อนแล้ว ปล่อยพวกเขาหิวไม่ได้”
แม้เด็กทั้งสามจะกินแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมานั่งร่วมโต๊ะด้วย
วางชามเล็กกับช้อนเล็กให้ ให้พวกเขาหัดกินข้าวด้วยตัวเอง
เยี่ยจั๋วสองขวบกว่ากินเองได้คล่องแล้ว
เยี่ยนหังไม่ใช่เด็กที่แท้จริง ย่อมกินเองได้ แต่เนื่องจากกินไปแล้วเขาจึงไม่ขอกับข้าวจากผู้ใหญ่อีก
อู๋ซวงกินจนเลอะเต็มโต๊ะไปหมด ถึงขั้นที่เอามือจับโดยตรง เนื้อตัวมอมแมมเลอะเทอะ
ทุกคนเห็นแล้วก็ขำ เพิ่มความอยากอาหารขึ้นอีกหนึ่งระดับ
หลังจากกินเสร็จก็เป็นไปตามปกติ บางคนไปเดินเล่น บางคนนั่งดื่มชา
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนไปสวนหลังบ้านดูอู่เลี่ยหวงเหลียนกับดอกเถียนซินดอกฉยงฮวา
“หวงเหลียนโตใช้ได้เลยนะ”
“อืม…เอ๊ะ ใจกลางดอกของดอกเถียนซินเหมือนจะมีสีชมพูหรือเปล่า พี่สามลองดูสิว่าใช่ไหม” ตอนนี้แสงริบหรี่ มู่เถาเยาไม่แน่ใจว่าตัวเองมองผิดหรือเปล่า
ตี้อู๋เปียนลองสังเกตดู “เหมือนจะมีสีชมพูหน่อยๆ นะ”
“หรือจะเป็นเพราะคริสตัล มันอาจจะดูดพลังงานจากคริสตัลหรือเปล่า”
“น่าจะนะ เมื่อก่อนสีขาวมาตลอด ก่อนหน้านี้เอาคริสตัลมาใส่ในดิน นี่เพิ่งผ่านไปไม่เท่าไรก็เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว ซาลาเปาน้อย มันอาจจะเป็นบรรพบุรุษของเสี่ยวฉยงก็ได้นะ”
“เป็นไปได้สูง” มู่เถาเยาสังเกตดอกเถียนซิน “แต่มันคืออะไรกันแน่ ดอกไม้สองชีวิตกับหญ้าพิษชีวิตก็ไม่ได้หน้าตาแบบนี้”
“ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็เลี้ยงเหมือนสัตว์เลี้ยงไปเถอะ เกิดวันไหนมันมีประโยชน์ขึ้นมาล่ะ”
“อืม พอถึงตอนนั้น…คุณลองกินกลีบดอกเถียนซินสักกลีบดูนะ”
ถ้าจนถึงวันสุดท้ายแล้วยังอับจนหนทาง งั้นก็ต้องลองมันทุกแบบ ลองกินดอกเถียนซินดู อย่างไรเสียตอนมันก่อผลึกก็เอามาทำยาได้
ตี้อู๋เปียนพยักหน้า “ได้”
นานขนาดนี้แล้วยังไม่มีข่าวคราว บนโลกนี้น่าจะไม่มีหญ้าพิษชีวิตกับดอกไม้สองชีวิตอยู่จริงๆ
แต่ถ้าไม่ถึงวาระสุดท้าย เขาจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด
ชีวิตของเขาถือว่าเพิ่งเริ่มต้น แล้วแค่ชั่วประเดี๋ยวเดียวจะให้มาถึงจุดจบแล้วเหรอ
“ซาลาเปาน้อย อีกสองวันเข้าเขตป่าชั้นในให้ฉันเลือกเส้นทางนะ” จะพาเธอไปเก็บดอกพันวันให้น้าเหมียว
ถึงแม้เรื่องหายตัวไปได้อย่างไรไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว แต่คนป่วยเป็นแม่ของศิษย์น้องของซาลาเปาน้อย
หากแก้ปัญหานี้ได้ ศิษย์น้องของเธอก็จะได้ทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างเต็มที่ ซาลาเปาน้อยก็หมดเรื่องกลุ้มไปหนึ่งเรื่อง
มู่เถาเยาได้ฟังก็จ้องตี้อู๋เปียน
ตี้อู๋เปียนสีหน้าเรียบเฉย ปล่อยให้เธอมอง
มู่เถาเยาหัวเราะ “ได้ เอาตามคุณว่า”
“เข้าไปครั้งนี้อยากหาสมุนไพรอะไรไหม”
“หลักๆ คือดอกไม้สองชีวิตกับหญ้าพิษชีวิต อย่างอื่นก็แล้วแต่ดวง”
“อืม หลังจากออกมาจะกลับเผ่าไหม”
มู่เถาเยาพยักหน้า “ในป่าพิษหมาป่ายังมีพวกต้นจื่อตันอยู่ ฉันจะไปเก็บมาทำยาและถือโอกาสลองหาสมุนไพรในป่าพิษหมาป่าด้วย”
“ฉันไปด้วย”
“ได้ ถ้าครั้งนี้กลับเผ่าแล้วอากาศดีฉันจะไปปีนยอดเขาหิมะหมื่นเมตรของเขาเทพจันทราด้วย”
“ฉันไป…ขอให้พี่รองของเธอไปเป็นเพื่อนเธอด้วย” เขาไปไม่ได้!
ตอนนี้น้าเล็กไปด้วยได้แล้ว แต่วิทยายุทธของน้าเล็กสู้พี่รองเย่ว์ไม่ได้
“อืม พี่รองไปกับฉันได้”
“…ซาลาเปาน้อย ไม่งั้นพวกเรา…” แต่งงานมีลูกกันไหม!
แบบนี้เขาก็ไปปีนเขาเป็นเพื่อนเธอได้แล้ว
มีโซ่ทองคล้องใจถึงจะถือเป็นคนตระกูลเย่ว์ ถึงจะขึ้นเขาเทพจันทราได้
แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!
“อะไรเหรอ”
“…เธอเสี่ยงอันตรายไปช่วยหาสมุนไพรให้ฉัน แต่ฉันกลับไปกับเธอไม่ได้…” ทั้งซาบซึ้งใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน
แต่เขารู้ดีว่า ถ้าพูดเรื่องแต่งงานมีลูกกับซาลาเปาน้อยตอนนี้ สามพ่อลูกตระกูลเย่ว์ได้เอาเขาถึงตายแน่ ไม่ต้องรักษาอาการป่วยแล้ว
เขาเองก็ตัดใจแต่งงานกับซาลาเปาน้อยไม่ได้ก่อนที่ชีวิตเขาจะรอดแน่นอนแล้ว เกิดตัวเองรักษาไม่หาย ทำเธอเป็นหม้าย…แบบนั้นเขาคงตายตาไม่หลับ
“ไม่ใช่แค่เพื่อคุณ แต่เพื่อทุกคนด้วย อีกทั้งยังเพื่อโรคนี้” เธอสนใจพวกโรคประหลาดมากเป็นพิเศษ!
หวังว่าวิชาฝังเข็มของตัวเองจะเอาชนะจุดอิ่มตัวได้ แบบนี้ต่อให้ไม่มียาก็ไม่มีทางถึงขั้นต้องตาย
“…ซาลาเปาน้อย พรุ่งนี้พวกเราไปทางตะวันออก เริ่มที่ป่าไป๋ฉีหนานแล้วเดินไปทางตะวันออกยาวๆ”
“ได้”
“แล้วพวกเราต้องอยู่ในป่านานเท่าไร”
“ยี่สิบกว่าวันมั้ง”
พรุ่งนี้ร่างกายเธอก็สะอาดแล้ว สองวันนี้เตรียมของสำหรับเข้าป่าให้ครบแล้วค่อยออกมาก่อนจะถึงรอบเดือนครั้งหน้า
รอบเดือนของเธอตรงเวลาตลอด ไม่ช้าหรือเร็วไปหนึ่งวัน
ตี้อู๋เปียนถามด้วยความตกใจ “เธอทนไม่อาบน้ำได้นานขนาดนั้นเลยเหรอ”
ป่าเซียนโหยวไม่เหมือนป่าพิษหมาป่า ต่อให้มีน้ำก็ลงไปไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่าในนั้นมีสิ่งที่ทำให้ถึงตายหรือเปล่า!
บางสิ่งบางอย่างมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
“เป็นกรณีพิเศษ คุณไหวไหม”
เมื่อชาติก่อนเธอพาทหารทำศึก เคยมีประสบการณ์ไม่อาบน้ำหนึ่งเดือน
แม้แต่น้ำดื่มยังไม่พอ แล้วจะเอาน้ำจากไหนมาอาบ
ตี้อู๋เปียนพูดขึงขัง “ฉันไหว! ไหวแน่นอน!” ตอนนี้ไหวแล้ว!
มู่เถาเยามองตี้อู๋เปียนด้วยความแปลกใจ ดวงตากลมโตฉายแววสงสัย
ไหวก็ไหว ทำไมต้องขึงขังขนาดนี้
ตี้อู๋เปียน “…”