อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 446 สร้างเกียรติให้ประเทศ
ตอนที่ 446 สร้างเกียรติให้ประเทศ
ทุกคนบอกลาเกาะกลางทะเลแห่งนี้อย่างอาลัยอาวรณ์ พอกลับถึงเมืองหลวงก็แยกย้ายไปทำงานหรือเรียน
การฝึกตลอดช่วงเย็นและสุดสัปดาห์ต่อเนื่องกันสามสัปดาห์ทำให้พวกโค้ชรู้ความสามารถของมู่เถาเยาแล้ว
ดังนั้นเวลานี้ สัปดาห์สุดท้ายก่อนหยุดยาวช่วงวันชาติ พวกโค้ชจึงมานั่งหารือเรื่องการฝึกของมู่เถาเยากัน
ทุกคนคิดว่าถ้าให้ฝึกทุกเย็นหลังเลิกเรียน มู่เถาเยาจะไม่เหลือเวลาให้ตัวเองแม้แต่นิดเดียวแล้ว
ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปแม้แต่มนุษย์เหล็กก็จะทนไม่ไหว แล้วนับประสาอะไรกับที่เธอเป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อ ดังนั้นต้องมาหารือแผนการฝึกที่เป็นไปได้
พวกโค้ชคุยกันไปคุยกันมาก็ยังหาเวลาที่ค่อนข้างลงตัวไม่ได้
เดิมทีการฝึกแบบในตอนนี้คือสัปดาห์ละหนึ่งกีฬา อีกทั้งยังได้แค่สองสามชั่วโมง
ไหนจะต้องหักเวลาพักระหว่างฝึกอีก เวลาฝึกจริงแค่สองชั่วโมงกว่า
ต่อให้อยากประหยัดเวลาของมู่เถาเยาแค่ไหนก็ประหยัดไม่ได้มาก
โค้ชเถียนพูดขึ้นก่อน “เสี่ยวเยาเยามีความคิดเห็นอะไรไหม”
มู่เถาเยายิ้มมองพวกโค้ช “หนูคิดว่าระยะนี้หยุดไปก่อนค่ะ รอใกล้ถึงงานแข่งขันจริงค่อยหาเวลาฝึกจริงจังทุกวันเดือนสองเดือน พวกโค้ชว่าดีไหมคะ”
พวกโค้ชหารือกันอีกสักพัก ไม่พยักหน้าแต่ก็ไม่ส่ายหน้า
มู่เถาเยาพูดต่อ “หนูคิดว่าเวลาพอค่ะ หนึ่งกีฬาต่อหนึ่งสัปดาห์ หกกีฬาก็เดือนครึ่ง ปลายเดือนกรกฎาคมถึงจะเปิดฉากแข่งขัน หนูเริ่มฝึกตั้งแต่พฤษภา มีเวลาสองเดือนกว่าก็พอแล้วค่ะ”
โค้ชหร่วนพูด “เสี่ยวเยาเยามีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด ความจำก็ดี แค่ดูรอบเดียวก็ไม่มีทางลืม ถ้าเป็นแบบนี้ไปจนจบการแข่งขัน ตำแหน่งแชมป์ก็ไม่หลุดไปไหนง่ายๆ ก็แค่พอใกล้เวลาแข่งขันเรื่อยๆ เธอจะตื่นเต้นจนทำได้ไม่ดีหรือเปล่า”
เสี่ยวเยาเยามาเพื่อคว้าแชมป์
เขากลัวเด็กคนนี้เกิดทำพลาดขึ้นมาจนตัวเองรับไม่ได้สภาพจิตใจจะย่ำแย่
อย่างไรเสียก็อายุยังน้อย ปลงไม่ได้ก็เรื่องปกติ
“โค้ชหร่วนคะ หนูไม่ตื่นเต้นหรอกค่ะ ไม่มีอะไรโน้มน้าวความรู้สึกของหนูได้” พวกโค้ชก็ยังคงไม่วางใจ ยกเว้นคนในครอบครัวของเธอ
เด็กคนนี้ดูเหมือนสุขุมใจเย็น แต่การแข่งขันระดับโลกที่ทำเพื่อประเทศแบบนี้ ไม่มีใครไม่ตื่นเต้นหรือเปล่า
พูดตามตรง ขนาดโค้ชอย่างพวกเขายังเครียดเลย
ฝึกมานานขนาดนั้น ก็แค่เพื่อให้ได้อันดับดีๆ ในการแข่งขัน สร้างเกียรติเพื่อประเทศชาติไม่ใช่เหรอ
โค้ชเถียนถามหน้าเครียด “เสี่ยวเยาเยา เธอคิดว่าไหวใช่ไหม การแข่งขันไม่ใช่เกมการละเล่นของเด็กๆ นะ”
มู่เถาเยาพยักหน้า “หนูแน่ใจว่าไหวค่ะ”
โค้ชจางยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยามีทั้งความเร็ว พละกำลัง เทคนิค ความกล้า แถมยังฉลาดมาก ตั้งใจฝึก โค้ชเชื่อว่าเธอไหว”
เด็กสาวคนนี้ไม่ได้ฝึกแบบขอไปทีเพียงเพราะตัวเองมีพรสวรรค์สูง เธอจริงจังต่อการฝึกฝนทุกครั้ง อีกทั้งผลงานแต่ละครั้งก็ทำสถิติได้ดีกว่าแชมป์โลกครั้งก่อน คงที่มาก
เรื่องที่พวกเขาไม่รู้คือ มู่เถาเยายังสามารถทำได้ดีกว่านี้อีก แต่เพื่อไม่ให้สะดุดตาเกินไป เธอจงใจศึกษาสถิติของแชมป์แต่ละรายการมาก่อนแล้วสรุปเป็นสถิติใกล้เคียงที่เธอทำแล้วจะไม่สะดุดตาหรือเกินความเป็นจริงจนเกินไป จากนั้นค่อยวางแผนฝึก
แต่ตอนแข่งขันคงต้องดีกว่าตอนนี้หน่อย อย่างไรเสียไม่มีทางที่จะให้เธอดูผลงานของทุกคนแล้วค่อยไปลงสนาม
ไหนจะนักกีฬาหน้าใหม่ที่มาแข่งขัน ศึกษาแค่แชมป์ในอดีตมันยังไม่พอ
เธอรับประกันฝีมือตัวเองได้ แต่รับประกันฝีมือคนอื่นไม่ได้ ดังนั้นตอนแข่งขันเธอต้องทำให้ดีกว่ามาตรฐานสูงสุดไปอีกขั้น
โค้ชอันยกมือ “ฉันก็เห็นด้วยกับแผนของเสี่ยวเยาเยา”
สามสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ถึงแม้แต่ละรายการจะฝึกแค่สามครั้ง แต่ผลงานก็ดีขึ้นทุกครั้ง อีกทั้งเขาเองก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่มีทางตื่นเต้นลนลาน ไม่มีอะไรน่าห่วง
โค้ชคนอื่นๆ อย่างโค้ชเถียน โค้ชหลี่ โค้ชหร่วน โค้ชกงต่างมองหน้ากัน แอบคิดหนัก
มู่เถาเยายิ้ม “โค้ชไม่ต้องกังวลกันนะคะ หนูบอกว่าคว้าแชมป์ได้ก็คือได้ค่ะ เว้นเสียแต่จะเกิดเหตุไม่คาดฝัน อย่างเช่น ม้า ปืน ธนู เรือ อะไรพวกนี้มีปัญหา”
ส่วนตัวเธอเองไม่มีทางเกิดเหตุไม่คาดคิด
โค้ชเถียนตบต้นขาหนึ่งฉาด “งั้นก็เอาตามที่เธอว่า ใช้เวลาช่วงโค้งสุดท้ายไปฝึกทีเดียว แต่ต้องเพิ่มอีกเดือนให้ระยะเวลายืดหยุ่นหน่อย เวลาฝึกจะได้ไม่รีบร้อน ร่างกายของเธอก็จะได้พักอย่างเต็มที่ด้วย แน่นอนว่าหากมีเรื่องสำคัญ อย่างเช่นไปรักษาคนไข้ เธอจะลาหยุดก็ได้”
โค้ชคนอื่นๆ ก็พยักหน้า
“ค่ะ งั้นก็เริ่มฝึกตั้งแต่เดือนเมษา โค้ชเถียนคะ สัปดาห์แรกหลังหยุดวันชาติหนูจะพาพวกเสี่ยวเหยี่ยกลับป่าเซียนโหยวนะคะ”
โค้ชเถียน “…” อยากร้องไห้!
มู่เถาเยากลั้นขำ “น้าเซี่ยแอบมารายงานหนูว่าโค้ชมักไปเฝ้ามันไม่ยอมกลับบ้านอยู่บ่อยๆ”
แน่ล่ะว่าล้อเล่น
เซี่ยซืออวิ้นไม่มีทางมาต่อว่ามู่เถาเยา
โค้ชเถียนคอตกเศร้าสร้อย
“ไว้ถึงเวลาถ้าโค้ชเถียนมีเวลาจะกลับไปพร้อมหนูก็ได้นะคะ ไปเยี่ยมเกาหม่า”
โค้ชเถียนสดชื่นขึ้นมาทันที
เขายังไม่เคยเห็นเกาหม่าม้าในตำนานเลย!
ให้กำเนิดลูกอย่างเสี่ยวเหยี่ยกับหลิวซิงได้ เกาหม่าก็คือยอดอาชาในดวงใจของเขา!
“เสี่ยวเยาเยา โค้ชขอเอาแม่ม้าสักสองสามตัวไปผสมกับม้าป่าได้ไหม”
“ฝูงม้าป่าอาศัยอยู่เขตป่าชั้นในของป่าเซียนโหยว ม้าเลี้ยงไปอยู่ในนั้นไม่ไหวหรอกค่ะ รอกลับไปก่อนค่อยว่ากัน ดูว่าเกาหม่าพาฝูงม้าป่าออกมาด้วยหรือเปล่า”
โค้ชเถียนจำต้องยอมรับ
เพราะเขารู้ว่ามู่เถาเยาพูดเรื่องจริง
โค้ชอันยิ้มถาม “เสี่ยวเยาเยาเคยเข้าเขตป่าชั้นในของป่าเซียนโหยวด้วยเหรอ”
“ค่ะ เข้าไปเก็บสมุนไพรบ่อยๆ ค่ะ”
“ในนั้นอันตรายไหม”
“อันตรายมากค่ะ แต่มีวิชาแพทย์ วิชาพิษ วิชาป้องกันตัว ก็เลยไม่กลัวค่ะ”
โค้ชกงถามด้วยความสนใจ “วิชาต่อสู้ของเธอขั้นเทพเลยใช่ไหม”
“หนูฝึกตั้งแต่ยืนได้ค่ะ”
โค้ชจางใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เก่งนะที่ทนความลำบากนี้ได้ คนทั่วไปคงเลิกฝึกเสียก่อน”
โค้ชหลี่พยักหน้า “คนที่ต่อสู้เป็นถึงได้น้อยไงล่ะ คนทั่วไปแค่มีวิชาป้องกันตัวก็ไม่เลวแล้ว”
โค้ชหร่วน “งั้นทำไมเสี่ยวเยาเยาไม่ลงแข่งพวกกีฬาต่อสู้ล่ะ ศิลปะวิชาต่อสู้ของประเทศเหยียนหวงเราก็ออกจะโด่งดัง!”
“ทางสำนักสอนไว้ว่าห้ามลงแข่งขันในนามของสำนักค่ะ”
พวกเขาออกจากหมู่บ้านเถาหยวนมาทำกิจกรรมต่างๆ ก็ไม่ได้มาในนามของสำนัก แต่เป็นในนามของหมู่บ้านเถาหยวน
อีกอย่าง คนของสำนักวิชาเหล่านี้ก็คนเหมือนกัน กินนอนขับถ่ายเหมือนคนปกติ
อาหารการกิน เครื่องนุ่งห่ม ที่พัก แต่ละอย่างล้วนต้องใช้เงิน ไม่มีทางออกจากสังคมไปได้
หากยังทำตัวเหมือนเมื่อก่อนต่อไป ดีไม่ดีแม้แต่การศึกษาของเด็กรุ่นหลังก็จะมีปัญหา
พอพูดถึงตรงนี้พวกโค้ชก็เกรงใจไม่กล้าถามเรื่องสำนักต่อแล้ว
โค้ชหร่วน “เสี่ยวเยาเยา พรุ่งนี้ก็เริ่มหยุดวันชาติแล้ว ไม่งั้นอยู่เล่นที่นี่ต่อสักสองสามวันไหม เหล่าอู๋ร้อนใจจะตายแล้ว”
เสี่ยวเยาเยามาที่นี่ทุกสุดสัปดาห์ ฝึกเรือใบหนึ่งวัน ฝึกวินด์เซิร์ฟหนึ่งวัน แต่เหล่าอู๋มาคิดเล็กคิดน้อยกับเขา หาว่าครั้งแรกที่เสี่ยวเยาเยามาได้ฝึกเรือใบมากกว่าวินด์เซิร์ฟ!
มู่เถาเยาส่ายหน้า “เดี๋ยวหนูต้องกลับบ้านแล้วค่ะ พี่เหลียงจีไปซื้ออาหารทะเลกับคนอื่นอยู่ ซื้อเสร็จก็เดินทางค่ะ”
พอเธอกลับไปอาเขยกับสองผู้อาวุโสตระกูลอวิ๋นก็จะกลับเมืองหลวง
พี่อู๋เสียกำหนดคลอดอีกหนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้
“ก็ได้ งั้นวันหน้ามีเวลาก็มาเที่ยวนะ ต่อให้ไม่ฝึก แค่มาพักผ่อนก็ยังดี” ขอแค่เธอมา ยังจะไม่เล่นได้เหรอ
“หนึ่งปีนี้หนูคงไม่มีเวลาไปนั่นมานี่เท่าไรค่ะ เพราะหนูต้องเก็บหน่วยกิตวิชาเรียนให้ครบ ปีหน้าจะกลับไปเข้าป่าเซียนโหยวหาสมุนไพร เวลาของเขาเหลือไม่เยอะแล้วค่ะ”
โค้ชหลี่ถามด้วยความสงสัย “ขาดสมุนไพรอะไรเหรอ หาซื้อตามท้องตลาดไม่ได้เหรอ”
มู่เถาเยาส่ายหน้า “มันเป็นสมุนไพรวิเศษในตำนานค่ะ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะมีจริงไหม คงต้องอาศัยดวงค่ะ”
โค้ชเถียนถอนหายใจ
ระยะนี้เขาก็เพิ่งรู้ว่าใครที่เสี่ยวเยาเยาต้องไปช่วยหาสมุนไพร
มิน่าเมื่อก่อนถึงไม่เคยเจอเจ้าชายเล็กตระกูลตี้เลย ที่แท้ก็เพราะไปรักษาตัวอยู่ข้างนอก
หลังจากเจ้าหญิงอู๋เสียคบกับคุณชายสามตระกูลเซี่ย เขาถึงได้มีโอกาสเจอเจ้าชายเล็กที่รูปหล่อดุจเทพบุตร
แต่ก็แค่เคยเจอ ไม่ได้รู้เรื่องราวมากนัก
“เสี่ยวเยาเยา ไม่มีวิธีอื่นนอกจากใช้สมุนไพรวิเศษในตำนานเหรอ เธอกับหมอเทวดาหยวนมีฝีมือล้ำเลิศขนาดนั้นก็รักษาไม่ได้เหรอ”
โค้ชเถียนไม่รู้ว่าเจ้าชายเล็กป่วยเป็นโรคอะไร
“ตอนนี้ยังไม่มีหนทางค่ะ”
“…วันหน้าเดี๋ยวคงมี”
“ค่ะ ต้องหายค่ะ”
ตอนนี้เธอมองคนตระกูลตี้เป็นคนในครอบครัวตัวเองแล้ว จึงไม่อยากเห็นพวกเขาเสียใจ จะต้องหาหนทางรักษาให้ได้ แม้ต่ออายุได้ห้าปีก็ยังดี
แบบนี้เธอก็จะมีเวลาเพียงพอในการตามหาสมุนไพรและวิจัย
รักษาชีวิตไว้ให้ได้ อนาคตถึงจะมีความเป็นไปได้