อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 363 ตอนนี้เธอหิวมากจริง ๆ
ตอนที่ 363 ตอนนี้เธอหิวมากจริง ๆ
ฉีหย่วนหยางนั่งลงบนเก้าอี้ครึ่งวงกลมนอกและมองมาที่เธอ “ไม่ชอบเหรอ?”
“ไม่ได้เกลียดมัน” แต่ก็ไม่ได้ชอบ
แต่ว่าตอนนี้เธอหิวมากจริง ๆ ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลย
เธอนั่งลงในวงกลมด้านในและหยิบมีดกับส้อมขึ้นมาหั่นสเต๊กเนื้อวัว ยิ่งกินยิ่งช้าลง
เวลานี้ไม่รู้ว่าหยางหยางกับหน่วนหน่วนจะกินข้าวหรือยัง พวกเขากำลังทำอะไรอยู่
โดยสัญชาตญาณเธอไม่อยากจะคิดถึงจิ่งเป่ยเฉิน
เธอยื่นมือหยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาเช็ด สายตาเหลือบไปมองฉีหย่วนหยางที่กำลังกินอย่างสง่างามโดยไม่ตั้งใจ “มีแขกมาที่บ้าน นายควรจะต้องใส่ใจภาพลักษณ์ของตัวเองใช่ไหม?”
ฉีหย่วนหยางเลิกคิ้วขึ้นและดึงเสื้อคลุมอาบน้ำ แต่แทนที่จะดึงขึ้น เขากลับดึงมันออกจากกัน “ฤดูร้อนจะมาถึงแล้ว ร้อนจังเลย”
“ร้อนนักก็ถอดออกมาเลย!”
เขารีบวางส้อมลงทันที มือทั้งสองข้างดึงปลายเสื้อคลุมเอาไว้ “เธอพูดจริงหรือเปล่า? ถ้าเธออยากดูละก็……ฉันยอมเสียสละได้โดยไม่ถือสานะ แต่ว่าเธอดูได้เท่านั้น!”
“นายคิดมากไปแล้ว” เธอก้มหัวลงและกินต่อ
“น่าเบื่อ…..” เขาหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา “จิ่งเป่ยเฉินคงไม่ได้ต้องการเธอเพราะเธอน่าเบื่อแบบนี้หรอกใช่ไหม? ไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ ว่าต้องชื่นชมอะไร อย่างน้อยสีหน้าของเธอก็มองข้ามสิ่งอื่นใด เป็นความผิดพลาดทั้งหมดของเธอ”
“ขอบคุณที่นายแหย่ฉันให้อารมณ์ดีนะ แต่ว่าจะอารมณ์ดีกว่านี้ถ้านายไม่พูดมันออกมา” ปกติพูดมากแบบนี้ที่ไหน
“เธอก็รู้ถึงความพยายามของฉันดี ช่วงนี้ก็นอนพักผ่อน ไม่ต้องไปคิดถึงเขา ใช้เวลาช่วงนี้ลืมเขาไปซะ ถ้าหากเธอไม่มีวิธีลืมเขาก็บอกฉันมา ฉันจะหาวิธีให้เธอเอง!”
“ขอบคุณนาย.…..จริง ๆ” เธอจะลืมเขาไปได้ยังไง ชั่วชีวิตนี้ไม่มีทางลืม
หยางหยางกับหน่วนหน่วนเป็นลูกเขา เธอจะลืมเขาไปได้ยังไง!
เมื่อกินอาหารมื้อค่ำเสร็จ เธอก็เดินออกไปนอกประตูกระจกบานใหญ่อีกครั้ง ลมเย็น ๆ ในตอนกลางคืนดูเหมือนว่าจะหนาวมากขึ้นเป็นพิเศษ
คืนนี้พระจันทร์ไม่เต็มดวง ส่วนหนึ่งถูกเมฆมืดครึ้มปกคลุมอยู่ ลมเย็น ๆ พัดเส้นผมของเธอปลิวไป แต่เธอกลับไม่สนใจ
ไม่รู้ว่าหยางหยางกับหน่วนหน่วนจะนอนหรือยัง
เธอคิดถึงลูก ๆ เหลือเกิน!
ความจริงแล้วก็คิดถึงจิ่งเป่ยเฉินด้วย อยากจะถามว่าสุดท้ายแล้วเขาเห็นเธอเป็นอะไร แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอเป็นอะไร?
หรือว่าในสายตาของเขาคิดว่าจะอยู่กับเธออย่างมั่นใจ โดยไม่สนใจอันหยาพั่นที่เป็นแม่คนอย่างนั้นเหรอ?
จู่ ๆ กลิ่นแอลกอฮอล์ก็ลอยมา เธอมองไปที่เขา “ดื่มอีกแล้วเหรอ นายดื่มน้อย ๆ หน่อยจะได้ไหม?”
“คนอื่นให้มาต้องรับไว้ ยังมีอยู่อีกหนึ่งชั้น ถ้าเธออยากดื่มก็หยิบได้ตามสบายเลย ไม่ต้องเกรงใจฉัน” ฉีหย่วนหยางยืนอยู่ข้างเธอ สายตามองไปที่วิวไกล ๆ พร้อมดื่มด่ำกับไวน์ในมือ
วันนี้เขาดื่มไวน์ไปเยอะจริง ๆ
แต่ว่าที่เขาดื่มไปเยอะก็คงไม่เยอะเท่ากับที่จิ่งเป่ยเฉินนั้นดื่ม……..
สวนซิวหยวน ตอนนี้ในบ้านพักวิลล่านั้นเงียบสงัด อันโหรวไม่ได้อยู่ที่นี่ ราวกับว่าไม่มีความแตกต่าง
และภายในห้องนอน กลิ่นแอลกอฮอล์ก็ฟุ้งไปทั่วห้อง แสงจันทร์สีขาวสว่างส่องเข้ามาภายในห้อง ชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนเตียง รอบตัวเขานั้นมีขวดไวน์กระจัดกระจาย ทุกขวดล้วนว่างเปล่า
จิ่งเป่ยเฉินถือขวดไวน์ไว้ในมือและเงยหน้าขึ้น เขากระดกดื่มอย่างรวดเร็วและหัวเราะเยาะเย้ยออกมาอย่างเย็นชา
หาไม่เจอ ไม่คิดว่าจะหาเธอไม่เจอ!
เพล้ง!
เขาขว้างขวดไวน์ในมือไปที่กำแพงอย่างแรง ขวดแตกกระจายหล่นลงบนพื้น
โหรวโหรวหนีเขาไปอย่างไร้วี่แวว
ไม่นึกเลยว่าจะหายไปจริง ๆ
ทำไมถึงหาเธอไม่เจอ!
คืนนี้ควรเป็นคืนที่บ่าวสาวได้นอนด้วยกันคืนแรกไม่ใช่เหรอ?
มีเพียงเขาคนเดียวที่อยู่ในห้องขนาดใหญ่ และคนที่อบอุ่นคนนั้นได้หายไปแล้ว
เขายื่นมือไปหยิบขวดไวน์ แต่ทันใดนั้นสิ่งที่เธอพูดที่สวนอันในวันนั้นก็ผุดขึ้นมา
‘จิ่งเป่ยเฉิน นายบอกเองนะว่าพวกเราจะอยู่ด้วยกันไปจนแก่!’
“เธอพูดว่าฉันนั้นเก่งกาจ ฉันสามารถเลี้ยงและดูแลหยางหยางกับหน่วนหน่วนได้ ฉันก็ทำได้! จะต้องดูแลทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี!”
เพราะงั้นตั้งแต่ตอนนั้นเธอก็คิดจะหนีเขาไปแล้วใช่ไหม!
ทิ้งให้เขานั้นดูแลลูก ๆ อยู่คนเดียว มันคือบทลงโทษที่เขาไม่ได้อยู่ดูแลเธอมาเมื่อห้าปีก่อนงั้นเหรอ?
แต่เขาไม่ได้ต้องการแบบนี้ พวกเขาอยู่ด้วยกันไม่ดีกว่าเหรอ?
เขาลุกขึ้นพลางเดินโซซัดโซเซไปที่ด้านนอกและลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้เรียกคนรับใช้ ก่อนจะรีบเดินไปที่โรงรถและขับรถออกไปทันที
แสงไฟในคฤหาสน์สวนอันนั้นยังคงสว่างอยู่ อันหยาพั่นนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา แต่ในหัวกลับไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด
สิ่งที่ผุดขึ้นในใจของเธอคืออากาศเย็น ๆ และความเกลียดชังที่แผ่กระจายไปทั่วร่างของจิ่งเป่ยเฉินตอนที่เปิดผ้าคลุมขึ้นแล้วเห็นเธอในวันนี้
เขาโกรธมากจริง ๆ โกรธแบบนั้นยังดูเท่
ตอนนี้ข้างกายเขาไม่มีผู้หญิงคนอื่นแล้ว!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เธอก็หัวเราะขึ้นมา ใบหน้าที่สวยงามของเธอมีท่าทางที่พอใจเป็นอย่างมาก
ปัง!
เมื่อเธอได้ยินเสียงนั้นก็รีบหันหน้าไปมองด้วยความตกใจ เธอเห็นจิ่งเป่ยเฉินเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่มืดมน เธอดูมีความสุขเล็กน้อย
เมื่อเธอจะลุกขึ้นก็ถูกเขากดลงด้วยศอกอย่างแรง ดวงตาสีดำจ้องมองมาที่เธอ “บอกมา! เธออยู่ที่ไหน!”
คอของอันหยาพั่นถูกกดเอาไว้อย่างแรงจนไม่สามารถพูดออกมาได้ เธอจ้องไปที่ใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขา ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ เขาดื่มมางั้นเหรอ?
ดูเหมือนจะดื่มมาเยอะมาก ๆ ด้วย
เธอค่อย ๆ ส่ายหน้า พร้อมส่งเสียงในลำคอ “อืออือ……..”
จิ่งเป่ยเฉินปล่อยมือของเขาออก ก่อนจะมองเธอ “เธออยู่ที่ไหน?”
“แค่กแค่ก!” เสียงไอของเธอดังขึ้น ก่อนจะรีบพยุงตัวเองขึ้นไปนั่งบนโซฟาและเงยหน้ามองเขา “พี่เขย ฉันไม่รู้เรื่องจริง ๆ”
ตอนนั้นอันโหรวรีบถอดชุดเจ้าสาวออกอย่างรีบร้อนและหนีออกไปจากห้อง ซึ่งหลังจากนั้นที่เธอหนีไปที่ไหน เธอเองก็ไม่รู้แล้ว
ภายในใจของเธอนั้นหวังให้เธอนั้นหนีไปไกล ๆ ยิ่งไกลยิ่งดี ทางที่ดีคือไม่ต้องกลับมาอีก
เขาที่เพิ่งขับรถออกมาอย่างกะทันหันและดื่มมาเยอะ ในหัวสมองตอนนี้จึงเริ่มไม่ได้สติ
“เธออยากจะถูกไล่ออกใช่ไหม?”
“พี่เขยคะ ถ้าพี่ไล่ฉันออกจากเมือง A ฉันก็ไม่รู้อยู่ดี หากว่าพี่สาวบอกฉันก่อนหนีไปแบบนั้นก็ไม่ใช่พี่อันโหรวแล้ว นิสัยของพี่สาว พี่เขยก็น่าจะรู้ดีไม่ใช่เหรอ?” เธอพูดความจริง
ถ้าหากว่าอันโหรวจะทำอะไรที่ไม่อยากให้พวกเขารู้ พวกเขาจะไปรู้ได้ยังไงกัน!
แต่วันนี้เธอก็ไม่คิดว่าอันโหรวจะหนีไปแบบนั้น หนำซ้ำยังไม่มีข่าวคราวเลยแม้แต่นิดเดียว
เธอเริ่มสงสัยแล้วว่าอันโหรวนั้นได้เตรียมแผนการหนีไว้ก่อนหน้านี้หรือเปล่า และเธอก็ค้นพบว่าเป็นเพราะสิ่งเร้า?
“เพราะความชัดเจนแบบนั้นถึงมาถามเธอ เธออยู่ไหน!” เขาตะโกนถามเธอเป็นครั้งสุดท้าย
ตัวของเธอเอนหลังพิงไปที่เก้าอี้โซฟาและจับหมอนที่อยู่ด้านข้างมาพลางมองเขาอย่างระวังตัว “ฉันไม่รู้จริง ๆ”
เขาหรี่ตามองการเคลื่อนไหวของเธอ เขาบ้าไปแล้ว
เขาค่อย ๆ หันตัวกลับและเดินกระทืบเท้าออกไปทันที
อันหยาพั่นมองเขาเดินออกไป ก่อนจะโยนหมอนทิ้งและเดินตามเขาไปโดยที่ไม่ใส่รองเท้า
“พี่เขย พี่เมามากแล้วนะ อย่าขับรถเลย มันอันตราย อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้นะ!” ทันใดนั้นเธอก็เอื้อมมือไปคว้าแขนของเขาไว้