อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 353 เติมให้เธออีกสักแก้วสองแก้ว
ตอนที่ 353 เติมให้เธออีกสักแก้วสองแก้ว
ทำไมพี่สะใภ้ถึงไม่เติมเหล้าให้เธอสักแก้วสองแก้ว?
เขายิ้มขึ้นมาก่อนจะพูดว่า “ใครทำให้ฉันต้องเป็นคนที่พูดดีขนาดนั้น! ไม่ทำแต่คนอื่นได้สินะ แต่นี่ถือว่าเป็นการช่วยเธอด้วยซ้ำ ใครใช้ให้เธอมารบกวนความสนใจของฉันกันเล่า เธอต้องอยู่ดื่มกับฉันนี่แหละ!”
เขาเนี่ยนะพูดดี?
ล้อเล่นบ้าอะไรกันเนี่ย?
หลินจือเซี๋ยวอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับคำพูดของเขา แต่สุดท้ายก็พยักหน้าให้เขาแทน เมื่อเทียบกับสูญเสียร่างกายแล้ว เธอสู้ยอมดื่มอย่างน้อยก็ยังดีกว่า
“เธอรอละกัน เดี๋ยวฉันไปเอามาให้!” เขาหันหลังเดินออกไป!
“ผู้จัดการฉี ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยหยิบกระเป๋าของฉันที่ตกไปด้วย ขอบคุณค่ะ!” เธอตะโกนดังขึ้นจากข้างหลังของเขา
เสียงดังขนาดนั้น เขาน่าจะได้ยินแหละ
ไม่นานเท่าไร เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามา และเห็นฉีเซิ่งเทียนเดินถือไวน์มาสองขวด พร้อมกับแก้วสองใบในมือ อีกทั้งกระเป๋าสีน้ำตาลน้อย ๆ ของเธอก็คล้องอยู่ที่ข้อมือของเขาด้วยเช่นกัน
“อย่ามาทำหน้าบูดบึ้งแบบนั้น เป็นเธอกำลังบังคับฉันเอง ไม่ใช่ฉันบังคับเธอเสียหน่อย” อะไรกันนี่บทบาทของพวกเราสลับกันตั้งแต่ตอนไหน หลินจือเซี๋ยวแอบคิด
ฉีเซิ่งเทียนวางแก้วและไวน์ลงบนโต๊ะกาแฟที่อยู่ด้านข้าง ก่อนที่จะโยนกระเป๋าของเธอไปใกล้ ๆ ตัวเธอ “เธอยังอยู่บนเตียง เธออยากจะดื่มบนเตียงหรืออยากจะให้ฉันนอนกับเธอดี!”
“ผู้จัดการฉี เพื่อความปลอดภัยแล้ว พวกเราอยู่ให้ห่างกันหน่อยจะดีกว่านะคะ ตัวอย่างก็…..” เธอรีบกระโดดลงจากเตียง ก่อนจะหยิบแก้วและไวน์ขวดหนึ่ง แล้วรีบกลับขึ้นไปที่เตียงทันที “แบบนี้ไง”
เธอที่เคลื่อนไหวแบบนั้น ฉีเซิ่งเทียนย่อมมองเห็นหมดทุกอย่าง ไม่พลาดแม้แต่ร่องรอยเดียว แต่สิ่งเดียวที่อาจจะพลาดก็คือ
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะทำแบบนั้นลงไปได้
“เธอคิดอยากจะปกป้องตัวเองจากฉันขนาดนั้นเลยเหรอ? ถ้าหากฉันอยากนอนหลับกับเธอจริง ๆ ตอนนี้เธอก็หายใจอยู่ข้าง ๆ ตัวฉันแล้ว เธอคิดเหรอว่าแรงของเธอจะสู้ฉันได้?” ฉีเซิ่งเทียนมองไปที่เธอ พร้อมกับเผยรอยยิ้มบาง ๆ ออกมา ก่อนจะถอยหลังไปนั่งตรงโซฟาและพิงมัน พร้อมกับเทไวน์ใส่แก้วในมือ
หลินจือเซี๋ยวเหลือบสายตามองเขา “ป้องกันไว้ก่อนถ้าเป็นคุณ”
“น่าสนใจจริง ๆ นะ” ฉีเซิ่งเทียนถือแก้วไวน์ในมือ ก่อนจะดื่มมันด้วยตัวเองและเหลือบสายตามองไปที่เธอเป็นครั้งคราว
หลินจือเซี๋ยวมองไปที่เขาโดยไม่ละสายตา อยากจะรู้ว่าเธอจำเป็นต้องดื่มที่นี่จริง ๆ เหรอ?
ดื่มเสร็จแล้ว แล้วหลังจากนั้น?
เธอขับรถกลับบ้านเองไม่ได้แน่ ๆ เธอไม่ใช่คนประเภทไม่เมาง่ายเสียด้วย
คืนนี้มีหวังเธอได้หลับอยู่ที่นี่แน่ ๆ เลย แต่ประเด็นคือแล้วเธอจะนอนตรงไหน?
เธอไม่คิดจะนอนอยู่ที่ห้องของฉีเซิ่งเทียนแน่ ๆ เมื่อเธอยิ่งคิดเรื่องนี้มากเท่าไร ในหัวของเธอก็ยิ่งสับสนมากขึ้นเท่านั้น
ก่อนจะหันหน้าไปมองฉีเซิ่งเทียนที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา สักพักหนึ่งก็เห็นเขามีสองคนปรากฏตัวขึ้น “ผู้จัดการฉี ห้องรับแขกอยู่ที่ไหน? ฉันเมาแล้ว อยากนอน”
“ห้องรับแขกอยู่ใต้ตัวเธอไง”
หลินจือเซี๋ยวก้มศีรษะลงไปมองก็เห็นเตียงขนาดใหญ่ ก่อนที่จะวางแก้วไวน์ในมือลงไปที่พื้นด้วยความรุนแรง
เพล้ง!
หลินจือเซี๋ยวล้มตัวลงนอน ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งทันทีที่ได้ยินเสียงเมื่อครู่ เธอเหลือบสายตามองไปที่ฉีเซิ่งเทียนด้วยความงุนงง ก่อนจะล้มลงกลับไปนอนที่เตียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ตอนนี้ภายในห้องมีกลิ่นไวน์ลอยฟุ้งไปทั่ว เธอบอกไม่ได้เลยว่าเมื่อครู่นี้เธอทำแก้วแตกใส่พื้นหรือใส่ตัวเธอเองกันแน่
ปกติเธอดื่มพวกแอลกอฮอล์ก็ไม่น่าจะเมาเร็วขนาดนั้น? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?
เธอรู้สึกเวียนหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉีเซิ่งเทียนนี่นายเอาไวน์แรงมาให้ฉันกินเหรอ!
สติของเธอค่อย ๆ เลือนหายไปทีละนิด เธอเริ่มไม่คิดอะไรมากมาย ก่อนจะผล็อยหลับลงไปอย่างช้า ๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น
เมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามา คนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงกำลังดิ้นไปมา ก่อนจะค่อย ๆ รู้สึกตัวทีละนิด
หลินจือเซี๋ยวรู้ตัวเองดีว่าตัวเองยังคงหลับตาอยู่ แต่เธอก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งตัว ราวกับว่าเมื่อคืนเธอถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ
สักพักหนึ่งเธอก็ได้กลิ่นไวน์แรง ๆ ลอยเข้ามาในจมูกของเธอ
พลั่ก!
เธอที่กำลังจะลุกขึ้นมานั่งกลับล้มลงไปอีกครั้ง
“อะ………..”
เธออดไม่ได้ที่เอ่ยเสียงเบา ๆ ออกมา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?
เธอจำได้ชัดว่าตอนนั้นเธออยู่ที่บาร์ และหลังจากนั้นก็บังเอิญเจอกับลูซี่ จากนั้นก็เจอกับบิ๊กบอสที่พาโหรวโหรวกลับไป ส่วนหลังจากนั้นเธอก็เข้ามานั่งในรถและจบลงตรงที่บ้านของฉีเซิ่งเทียน
ในตอนนี้เองเธอก็รู้สึกถึงกลิ่นของคนที่อยู่ข้าง ๆ ตัวเอง เธอค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมามองดู ก็เห็นผิวที่ดูผ่องใสขาวนวลอยู่ตรงหน้า
เป็นหน้าอกของผู้ชาย แต่กลับมีรอยจูบมากมายตรงหน้าอกเต็มไปหมด….
เธอค่อย ๆ เลื่อนมองที่ตัวเธอเอง อยากรู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่ คงไม่มีรอยจูบพวกนั้นหรอกใช่ไหม เหตุการณ์พวกนี้มันเกิดอะไรขึ้นกัน?
ทันใดนั้นเธอก็ยกผ้าห่มขึ้น ผ้าปูที่นอนบนเตียงสีขาว เธอมองเห็นคราบเลือดสีแดงที่ดูชัดเจนแจ่มแจ้ง มันคล้ายราวกับดอกกุหลาบที่เบ่งบานออกมายังไงยังงั้น
“ฉี เซิ่ง เทียน!” เธอหันหน้าไปมองเขาอย่างจริงจัง ดูท่าเมื่อเธอกับเขาจะทำเรื่องแบบนั้นเข้าจริง ๆ
เธอเมาแล้วจะไปจำอะไรได้กัน!
นี่เขาเอาเปรียบคนที่ไม่ได้สติเหรอ!
“นอนต่ออีกหน่อยเถอะ เหนื่อยแล้ว……..”
ฉีเซิ่งเทียนค่อย ๆ ยื่นมือออกมา ก่อนจะวางไว้ตรงเอวของเธอและใช้แรงกดไปที่เอวของเธอไว้ให้อยู่กับเตียง
หลินจือเซี๋ยวไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากจะนอนลงบนเตียงอีกครั้ง เธอหันหน้าไปมองเขาด้วยความโกรธ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “นายลืมตามาตอบคำถามฉันซะ! นายยังเป็นสุภาพบุรุษอยู่อีกไหม ฉันเมาแบบนั้นทำไมนายยังทำกับฉันแบบนี้อีก! ความบริสุทธิ์ของฉันหายไปแล้ว แฟนแต่ไหนแต่ไรมาฉันก็ไม่เคยมีมาก่อน ฉีเซิ่งเทียนนายมันสารเลว!”
ฉีเซิ่งเทียนยังไม่ลืมตาขึ้นมาเลยสักนิด แต่พูดเบา ๆ ไปว่า “นี่ อย่าสร้างปัญหาสิ ฉันรับผิดชอบเอง”
“รับผิดชอบกับพี่เขยนายเถอะ!”
ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะเริ่มโกรธเข้าจริง ๆ
ขนตาของฉีเซิ่งเทียน ๆ ค่อยขยับ สักพักหนึ่งก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ “เธอบอกว่าเธอกลัวเจ็บ แต่เมื่อคืนก็ดูไม่เจ็บเลยนี่?”
“นายไม่ต้องมาย้อนความคิดของฉันหรอกนะ โอเคไหม?” ตอนนี้เธอโกรธมาก โกรธสุด ๆ ไปเลย โกรธจนชนิดจะฆ่าคนเลยก็ยังได้!
ถ้าหากไม่สามารถฆ่าคนได้ ทางที่ดีการตอนเขานี่แหละถือว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด!
“นี่เพื่อตัวเธอแล้วนะ หลังจากนี้เธอจะได้ไม่เจ็บอีก” ฉีเซิ่งเทียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ โดยมือของเขาก็ไม่ลืมที่จะจับไปที่เอวของเธอพร้อมกับบีบมันเบา ๆ
มันทั้งนุ่ม ทั้งลื่น ทำไมตัวเขาไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยนะ!
นี่เขาเอาตาไปมองไว้ที่ไหนกัน?
“นั่นไม่ใช่เหตุผลที่นายจะมาทำกับฉันตอนที่ฉันเมาอยู่แบบนั้น ฝืนบังคับตอนที่ฉันไร้สตินี่มันแย่ที่สุด!” เธอตะโกนออกมาในขณะที่กำลังนอนลงอยู่ ส่วนมือของเขาก็จับไปที่เอวของเธอราวกับไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งสิ้น
“จริง ๆ แล้ว……”
“จริง ๆ แล้วอะไร? อย่ามาแก้ตัวหน่อยเลย รีบพูดมาซะ!” เธอไม่ชอบคนที่มาพูดอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบนี้!
“เมื่อคืนฉันแค่เก็บเศษแก้วที่แตกอยู่ข้าง ๆ เตียงเอง ส่วนเธอก็ดึงฉันขึ้นมานอน” เขาเริ่มเอ่ยปากพูดอีกครั้งหนึ่งพร้อมทำสีหน้าจริงจัง
เธอเมาอยู่แบบนั้น เธอจำไม่ได้หรอก!
เมื่อคืนฤทธิ์แอลกอฮอล์ค่อนข้างแรงอยู่ด้วย
“ฉันเนี่ยนะ?” หลินจือเซี๋ยวไม่อยากจะเชื่อในคำพูดของเขา เธอต่อต้านมาโดยตลอด ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นกับตัวเขาด้วยซ้ำ
แล้วเธอจะทำแบบนั้นไปได้ยังไง?
“คำถามตอนนี้คือเธอจะรับผิดชอบฉันยังไงดี?” เขาขยับหน้าเข้ามาใกล้ ๆ เธอ ทันใดนั้นก็หวนคิดว่าตื่นตอนเช้าแล้วมาเจอเธอแบบนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีไม่ใช่น้อย
เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มที่จะชอบแบบนี้เข้าแล้วสิ!
ใบหน้าของเขาที่ขยับเข้ามาใกล้ ตัวของเธอเองก็เอนถอยไปที่ด้านหลัง “นายไม่อายที่จะพูดแบบนั้นเหรอ? รับผิดชอบผู้หญิงเยอะแยะของนายไปเถอะ! ผู้หญิงมากมายก่ายกองของนายกับผู้ชายที่เจ้าชู้แบบนาย นายคงคิดว่าโชคดีสินะที่ได้เข้ามาถึงจุดนี้ ยังไงฉันก็ปฏิเสธ ไม่ต้องการมันหรอกนะ!”
“ฉันเข้าใจดี” ฉีเซิ่งเทียนพูดเบา ๆ ออกไป
“นายเข้าใจอะไร?”
“เธอคงต้องการให้ชายเจ้าชู้ที่ว่ามาลูบคลำตัวเธอแค่คนเดียวสินะ” มือที่จับเอวของเธออยู่ค่อย ๆ กดแรงลง ก่อนจะดึงตัวเธอให้เข้ามาใกล้เขาอีกครั้ง
เมื่อคืนเมาเสียขนาดนั้น ไม่ว่าใครจะเริ่มก่อนก็ช่าง เธอไม่มีความประทับใจเลยสักนิดเดียว แต่ตอนนี้กลับ……
พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้าอะไรเลย มีแต่ร่างกายที่เปลือยเปล่าอยู่แนบชิดติดกัน ยิ่งตอนนี้เธอเหมือนจะสัมผัสเสียงการเต้นของหัวใจของเขาได้ ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็ค่อย ๆ แดงขึ้นมา!