อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 351 เขาช่วยเธอหลุดพ้นจากสิ่งเลวร้าย
ตอนที่ 351 เขาช่วยเธอหลุดพ้นจากสิ่งเลวร้าย?
เธอจ้องตาเขม็งไปที่เซว์มู่และถามขึ้นมาอย่างจริงจัง “นายพูดว่าอะไรนะ?”
“ผมพูดความจริง” เซว์มู่ยิ้ม “เธอสาดไวน์ใส่คุณใช่ไหม เธอควรขอโทษก็ถูกแล้ว ส่วนคุณหาเรื่องเธอก็สมควรโดน เพราะงั้น……..”
ซ่า!
น้ำผลไม้ที่เพิ่งเสิร์ฟโดยพนักงานก็ถูกเซว์มู่สาดเข้าไปที่เธออีกครั้ง และจงใจสาดลงไปตรงหน้าอกของเธอ ในตอนนี้เสื้อผ้าของเธอนั้นแนบติดเนื้อ น้ำผลไม้ที่เหนียวเหนอะหนะไหลเข้าไปโดนผิวของเธอ ก่อนจะไหลลงไปตรงส่วนอื่น ๆ
“ตอนนี้เป็นผมที่สาดใส่คุณ คุณก็มาหาเรื่องผมได้เลย!” เซว์มู่มองไปที่เธออย่างอันธพาล แต่ใบหน้าก็ยังคงยิ้ม
หลินจือเซี๋ยวมองไปที่เขาอย่างตกตะลึง ไม่ใช่ว่าพวกเขาเพิ่งรู้จักกันเหรอ?
ทำไมถึงได้พูดแบบนั้นออกมา!
แม้แต่ชื่อของเธอก็ไม่ได้พูดออกมา!
นี่เขากำลังช่วยให้เธอหลุดพ้นจากสิ่งเลวร้ายเหรอ?
และวิธีนี้……มันแปลกจริง ๆ
“นายเป็นใครกันแน่? บ้าไปแล้วหรือไง!” ลูซี่จ้องไปที่เขาด้วยความโกรธ แบบนี้ไม่เหมือนกับที่เธอคิดเอาไว้!
“ก็ใกล้จะบ้าแล้ว ขาดแค่เงินเข้าโรงพยาบาลบ้า ถ้าหากคุณอยากจะตีผม แม้แต่เงินเข้าโรงพยาบาลผมก็ไม่ต้องออกเอง ยังอยากตีอยู่ไหม?” เซว์มู่ยื่นแก้วในมือส่งไปให้เธอ “มาเลย ใช้ไอ้นี่ฟาดมาให้เต็มแรง!”
สมองของผู้ชายคนนี้มีปัญหาหรือเปล่า?
หลินจือเซี๋ยวเริ่มสงสัยอย่างจริงจัง แต่ว่าเมื่อคิดถึงวิธีการของเขาในตอนนี้เธอก็เข้าใจได้
ว่าเขานั้นน่าจะป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ปกติเขาไม่น่าจะเป็นแบบนี้!
ลูซี่มองไปที่แก้วที่อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะละสายตามองไปที่อันโหรวอย่างสงบนิ่ง
เธอกำลังจะเอื้อมมือมา แต่เซว์มู่กลับดึงแก้วที่อยู่ในมือกลับไปทันที “ผมเปลี่ยนใจแล้ว จู่ ๆ ก็คิดขึ้นได้ว่าอยู่บ้านสบาย ๆ ดีกว่า ไม่อยากไปโรงพยาบาลแล้ว!”
“นี่นายจะเล่นฉันเหรอ!”
“ผม….เล่น….คุณ?” เมื่อเซว์มู่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างดัง “คุณสวยกว่าเธองั้นเหรอ? น่ารักเหมือนเธอหรือเปล่า? หน้าอกของคุณของจริงเหมือนเธอไหม? สามารถบีบจูบและกอดได้ไหม? ดวงตาทั้งสองข้างเหมือนว่าจะบอดแล้วถึงได้ไม่แม้แต่จะมองคุณ!”
เธอที่ถูกเซว์มู่พูดแบบนั้น หลินจือเซี๋ยวไม่ได้รู้สึกดีใจเลย
สมองเขาท่าจะมีปัญหาจริง ๆ จู่ ๆ ก็คิดว่าฉีเซิ่งเทียนนั้นสบายตากว่าเยอะ
สุดท้ายก็ต้องเอาคนมาเปรียบเทียบกันจริง ๆ
คำพูดของเซว์มู่ทำให้คนรอบข้างนั้นเริ่มกระซิบกัน สายตาที่มองมาทางลูซี่นั้นมีทั้งเห็นใจและหัวเราะเยาะ
“ขำอะไรกัน?!” ลูซี่จ้องไปที่พวกเขาและเดินผ่านผู้คนตรงนั้นออกไปด้วยความโกรธ
เสียงรองเท้าส้นสูงนั้นดังกังวาน ฟังดูแล้วก็รู้ว่าเธอนั้นโกรธเป็นอย่างมาก
“จิ่ง…….”
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมา ทำให้อันโหรวนั้นตกใจ จิ่งเป่ยเฉินมาได้ยังไง?
ครั้งที่แล้วที่หาเธอเจอเป็นเพราะจีพีเอสที่ติดอยู่บนรถ วันนี้หาเธอเจอเพราะ?
เธอหรี่ตามองไปรอบ ๆ ที่ตอนนี้เริ่มเป็นที่สนใจ หลายคนต่างหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปและวิดีโอ จากสวนซิวมาถึงนี่อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ทำไมเขามาถึงที่นี่ได้เร็วขนาดนี้
หรือว่าเขาเองก็ออกมาเที่ยวเล่นอยู่ด้านนอก?
“ไสหัวออกไป!”
ใบหน้าที่เย็นชาของจิ่งเป่ยเฉินนั้นเดินผ่านฝูงชนเข้ามา เขาเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ
หลินจือเซี๋ยวรู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะเธอเป็นคนพาโหรวโหรวมาที่นี่ ถ้าหากบิ๊กบอสตรวจสอบขึ้นมา เธอได้ตายแน่ ๆ
แต่ว่าเวลานี้เธอรู้สึกว่าเธอได้ตายไปแล้ว
เพราะด้านหลังของบิ๊สบอสนั้นปรากฏเงาของฉีเซิ่งเทียน
ตอนนี้เธอวิ่งหนีจะทันไหมนะ
อันโหรวมองเขาที่กำลังเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น ก่อนจะเข้าไปจับแขนของเขาอย่างออดอ้อน “นายมาได้ยังไงเนี่ย?”
“ไม่มาดูเธอที่กำลังถูกรังแก?” ใบหน้าของเขายังคงเย็นชาเหมือนเดิม ห่างจากเขาก็เกิดเรื่องขึ้น เขาควรที่จะพาเธอไปด้วยทุก ๆ ที่
“ฉันยังไม่ได้ถูกรังแกสักหน่อย ฉันต่างหากที่ไปรังแกคนอื่น!” เธอเดินตามจิ่งเป่ยเฉินเข้าไปหาลูซี่ที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
เธอมองพวกเขาด้วยท่าทางที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ทำได้ไม่เลวหนิ” เมื่อบิ๊กบอสได้ยินเธอพูดแบบนั้น เขาก็ไม่ได้ลงมือ ผู้หญิงของเขาไม่สมควรถูกรังแก
แต่ว่ารังแกคนอื่นได้!
เมื่อตอนที่พวกเขาเดินผ่านลูซี่ไป เธอมองจิ่งเป่ยเฉินอย่างอ้อนวอน น้ำเสียงที่อ่อนโยนตะโกนเรียกเบา ๆ “จิ่ง…..”
น้ำเสียงแบบนี้นั้นมันสยิวจริง ๆ
อันโหรวเองก็รู้สึกได้ถึงขนแขนที่ลุกซู่ ก่อนจะมองที่จิ่งเป่ยเฉิน เขาไม่แสดงสีหน้าใด ๆ
ผู้ชายคนนี้ไม่แยแสกับผู้หญิงที่เรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน ไม่คิดเลยว่าจะรู้สึกเฉยชาไม่หวั่นไหวขนาดนี้
“มีคนเรียกนายนะ” เธอพูดเตือนขึ้นมา
บิ๊กบอสหันกลับไปมองลูซี่อย่างอันธพาล “เธอยั่วโมโหเธองั้นเหรอ?”
“เฉิน ฉันเปล่านะ เป็นเธอที่สาดไวน์ใส่ฉันต่างหาก!” ลูซี่ชี้ไปที่อันโหรวที่ยืนอยู่ข้างเขาด้วยท่าทางตื่นเต้น
อันโหรวไม่พอใจกับการกระทำที่เธอชี้มาที่เธอแบบนั้น ดวงตาของเธอมืดลงและน้ำเสียงก็กดต่ำอยู่ในลำคอ “สาดฉันสะใจไหม?”
เธอหัวเราะขึ้นมาทันที “สะใจมากเลย”
“อยากสาดอีกไหม?”
“ไม่แล้ว เสียเวลา!” เธอไม่แม้แต่จะมองที่ลูซี่
“พรุ่งนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอที่เมือง A” จิ่งเป่ยเฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา ก่อนจะพาอันโหรวเดินออกไปจากบาร์
ลูซี่ยังคงยืนอึ้งอยู่ที่เดิม คำพูดของเขาเมื่อครู่นั้นหมายความว่ายังไง?
คงไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดหรอกใช่ไหม?
ไม่คิดว่าจิ่งเป่ยเฉินจะไล่เธอออกไปจากเมือง A ภายในเมือง A จิ่งเป่ยเฉินเป็นอะไร?
พูดได้ว่าเป็นจักรพรรดิแห่งพื้นที่นี้ เขาพูดคำไหนคำนั้น มีประสิทธิภาพมากกว่าคำพูดของนายกเทศมนตรี!
ขณะที่เธอกำลังยืนประหลาดใจอยู่นั้นก็เห็นใบหน้าที่เย็นชาของฉีเซิ่งเทียนดึงหลินจือเซี๋ยวออกไปด้านนอก และผู้ชายด้านหลังก็เดินตามออกไปด้วย
เซว์มู่มองไปที่เธอและพูดขึ้นว่า “เป็นอะไร ยังอยากให้สาดอีกรอบเหรอ?”
ลูซี่มองไปที่เขาอย่างดุดัน ก่อนจะหันตัวกลับออกไป!
อันโหรวรู้สึกดีใจกับการปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของเขา แต่ว่าสิ่งที่ไม่ดีใจก็คือพวกเขาบอกอย่างชัดเจนว่าคืนนี้พวกเขาจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน
หรือว่าเพราะแบบนี้ต้องตามเขากลับไปด้วยเหรอ?
เธอไม่เต็มใจอย่างมาก!
“ขอบคุณนายนะ แต่ว่าฉันอยากกลับไปกับหลินจือเซี๋ยว พวกเราคุยกันแล้วว่าจะไม่เจอกันสุดสัปดาห์!” หลังจากที่ออกไป เธอก็รีบปล่อยมือของเขาทันที
มือของบิ๊กบอสนั้นว่างเปล่า และมองเธอเดินออกไป เหมือนกับว่าหัวใจเขานั้นว่างเปล่า
แสงไฟสลัว ๆ จากบาร์ด้านนอก จิ่งเป่ยเฉินเดินเข้าไปหาเธอทีละก้าว ดวงตาสีดำสนิทนั้นแฝงไปด้วยความโกรธเล็กน้อย และทั่วร่างกายที่ดูเหมือนจะถูกห่อหุ้มด้วยความหนาวเย็น ใบหน้าที่เย็นชา
“ฉีเซิ่งเทียน ปล่อยฉันนะ ปล่อย! ปล่อย!”
จู่ ๆ หลินจือเซี๋ยวก็ตะโกนร้องออกมา เธอหันไปมองด้านหลัง
หลินจือเซี๋ยวถูกอุ้มขึ้นรถและฉีเซิ่งเทียนก็ปิดประตูรถ ก่อนจะอ้อมไปนั่งที่เบาะคนขับและขับรถออกไปทันที
“ที่รัก พวกเราต้องกลับบ้านนะ!” เธอก้าวเดินไปด้านหน้าและดึงเขา
“ได้”
อันโหรวรั้งเขาไปที่รถโดยไม่ได้สังเกตรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของเขาเลยสักนิด
แผนเดิมของจิ่งเป่ยเฉินก็คือเรียกฉีเซิ่งเทียนออกมาดื่ม หลังจากที่ดื่มจนเมาแล้วค่อยส่งเขาไปที่บ้านของหลินจือเซี๋ยว