อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 350 เธอโสด
ตอนที่ 350 เธอโสด
“นี่เป็นสิ่งที่เธอเลือกนะ ไม่ใช่ว่าเธออยากไปเหรอ ตอนนี้เธอเป็นโสดอยู่นะ รีบไปเถอะ!” อันโหรวถือแก้วไวน์ในมือ ครั้งนี้เธออยากกินไวน์เพื่อที่จะได้ไม่ต้องขับรถ
“นั่นไงที่ด้านข้างมีพี่ชายสุดหล่อกำลังมองเธออยู่!” อันโหรวเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม
“จริงเหรอ?” หลินจือเซี๋ยวหันกลับไปมอง
ก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนพิงบาร์อยู่ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินที่ดูเรียบง่าย ในมือถือแก้ววิสกี้เอาไว้ ที่ข้อมือมีสายรัดสีน้ำเงินที่เข้ากับเสื้อผ้าเป็นอย่างดี
ในฐานะที่เป็นอดีตเลขาของจิ่งเป่ยเฉิน หลินจือเซี๋ยวเคยเห็นคนใหญ่คนโตมามาก ชายที่อยู่ตรงนั้นเรียกได้ว่าเป็นชายที่สูงส่ง แต่กลับแต่งตัวเรียบง่าย เมื่อเรียบง่ายแบบนี้ภาพลักษณ์ก็บ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของเขาได้เลย
เมื่อถูกหลินจือเซี๋ยวมองแบบนั้น เซว์มู่ก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น ทำให้ใบหน้าของเธอแดงขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ก่อนจะค่อย ๆ หันไปมองอันโหรวที่อยู่ตรงข้าม “โหรวโหรว หล่อมากจริง ๆ นั่นแหละ!”
เบ้าหน้าฟ้าประทาน ปฏิกิริยาราวกับเทพสร้าง
อันโหรวพูดไม่ออก อันที่จริงเธอสังเกตเห็นสายตาของเขามาสักพักหนึ่งแล้ว ก่อนจะพูดจุดประสงค์อะไรบางอย่างออกไป แต่ก็คิดไม่ถึงว่าทั้งสองคนจะสบตากันจริง ๆ
ฉีเซิ่งเทียนจะทำยังไง?
เนื้อยังไม่ทันได้กิน ตอนนี้เหมือนกับว่าเนื้อนั้นกำลังจะถูกคนอื่นคาบไปกินแทนแล้วนะ!
“แล้วเธออยากจะไปตรงนั้นหรือเปล่า?” อันโหรวเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ฉันควรไปเหรอ?” หลินจือเซี๋ยวทำท่าเขินอายเล็กน้อย ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นผู้หญิงโสดสนิทมาก่อน เธอเคยจีบผู้ชายก่อนเมื่อไหร่กัน
แต่ตอนนี้อยู่ในบาร์มีผู้ชายที่หล่อยังกับเทพสร้างแบบนี้ปรากฏตัวขึ้นมา เธอรู้สึกขาดความมั่นใจไม่น้อย
“เธอไม่จำเป็นต้องไปที่นั่นก็ได้นะ” อันโหรวยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ “จือเซี๋ยว ฉันมาที่นี่เพื่อดูเธอนะ สู้ ๆ”
หลินจือเซี๋ยวมองเธออย่างงุนงง หมายความว่ายังไงกันที่เธอพูดมานั่น?
“เธอจะเอาแก้วไวน์ไปไหน? เธอจะช่วยฉันงั้นเหรอ!” โหรวโหรวผู้ที่เพื่อนรักและเพื่อนสนิทยื่นมือช่วยเยอะเกินไปแล้ว
ถึงแม้จะรู้ว่าเธอเขิน เพราะงั้นโหรวโหรวเลยตัดสินใจที่จะช่วย
หลินจือเซี๋ยวนั่งตัวตรงเกร็งอยู่บนเก้าอี้ อันโหรวที่เดินออกไปสองสามก้าว สักพักหนึ่งก็มีคนคนหนึ่งเอ่ยคำพูดที่ฟังดูอบอุ่นขึ้นมา “ผมขอนั่งด้วยได้ไหม?”
เขามาตั้งแต่ตอนไหนกัน?
โหรวโหรวไม่ใช่ฝีมือเธอช่วยงั้นเหรอ พอเธอลุกไปเขาก็มาเลยนะ
เธอมองดูอันโหรวที่เดินออกไปด้วยความสับสน รู้แบบนี้เธอน่าจะพูดว่าอย่าไปเลยจะดีกว่า ไม่งั้นเธอคงไม่ต้องอยู่คนเดียวแบบนี้
ตอนนี้คนได้มานั่งตรงข้ามกับเธอแล้ว มันสายเกินไปที่จะพูด ตอนนี้เธอแทบจะหายใจไม่ทั่วท้อง
เธอเป็นถึงอดีตเลขาของบิ๊กบอสเลยนะ เพราะงั้นต้องแสดงความกล้าหน่อยแล้ว
“ดื่มน้ำผลไม้งั้นเหรอ ก็ดีนะครับ” เซว์มู่มองดูน้ำผลไม้ที่อยู่ในมือของเธอ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม
“ฉันก็คิดว่ามันดีเหมือนกันค่ะ!” อันที่จริงเธอต้องกินเพราะต้องขับรถต่างหาก!
ขับรถก็ไม่ควรกินพวกแอลกอฮอล์นี่!
หลินจือเซี๋ยวมองแก้ววิสกี้ที่อยู่ในมือของเขา ดูจากรูปลักษณ์ของเขาแล้ว ดูยังไงก็ไม่น่าจะขับรถมาเอง คงจะมีคนขับรถมาให้เขาเสียมากกว่า
อา เขาหล่อจริง ๆ นั่นแหละ!
ใบหน้าที่ดูหล่อเหลาได้รูป จมูกโด่งเสียขนาดนั้น แถมริมฝีปากก็บางอมชมพู และท่าทางที่ถือแก้วไวน์แบบนั้น ไม่รู้ว่าเพราะอยู่ในบาร์ด้วยหรือเปล่า แต่มองดูใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาแล้ว มันคล้ายกับคนที่เมาอยู่หน่อย ๆ เลย
แต่หลังจากนั้นจะไม่พูดจาอะไรสักคำหน่อยเลยเหรอ?
หลินจือเซี๋ยวเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร ครั้งหนึ่งเคยมีนัดบอด แต่กลับถูกปล่อยทิ้งไว้เสียอย่างนั้น ตัวเธอเองก็เคยพบเจอผู้คนมามากมาย แม้จะได้อยู่กับบิ๊กบอสและพบปะผู้คน รวมถึงเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์อยู่บ่อยครั้ง
แต่ก็ไม่เคยเจอใครที่หล่อแบบเขามาก่อนเลยสักครั้ง
ไม่เห็นรู้สึกเหมือนตอนอยู่กับฉีเซิ่งเทียนเลยสักนิด ทั้ง ๆ ที่เจอกันครั้งแรก ทำไมถึงได้รู้สึกหัวใจเต้นแรงแบบนี้
มิน่าผู้คนถึงได้ชอบมาที่บาร์กัน วันไนท์สแตนด์ก็ไม่ใช่คนหลอกลวงหรอก!
หลินจือเซี๋ยวหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง กระทั่งจู่ ๆ ได้ยินเสียงของคนตรงข้ามดังขึ้น “ผมชื่อเซว์มู่ครับ คุณชื่อ?”
เขาชื่อเซว์มู่?
หลินจือเซี๋ยวมองเขาอย่างสงบนิ่ง แสงไฟสลัวสีฟ้าที่ส่องผ่านเข้ามาตรงใบหน้าของเขา ทำให้ใบหน้านั้นหล่อเหลามากขึ้นไปอีก
โลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่ ต้องเป็นคนชื่อซ้ำแน่ ๆ
แนะนำคู่เดตให้กับผู้ชายตรงหน้าคงจะไม่ควรใช่ไหม?
เธอลังเลเล็กน้อยว่าควรจะพูดไปดีไหม จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงดังเข้ามาในแก้วหู
“อ้าก……”
เดิมทีภายในบาร์ก็เสียงดังวุ่นวายอยู่แล้ว เสียงปกตินั้นฟังไม่ค่อยได้ยิน แต่ว่าเสียงนี้เป็นเสียงที่แหลมมาก แม้แต่เพลงในบาร์ก็ต้องหยุดลง
เมื่อคิดขึ้นได้ว่าอันโหรวไม่ได้อยู่กับเธอ เธอก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมา เธอกับอันโหรวออกมาด้วยกัน ถ้าหากโหรวโหรวบาดเจ็บ บิ๊กบอสได้ฆ่าเธอแน่ ๆ
“ขอโทษนะคะ ฉันต้องขอตัวก่อน!” เมื่อเธอพูดจบก็ลุกขึ้นทันที
เธอเดินฝ่าผู้คนจำนวนมากออกไป แต่ยังไม่ทันจะเดินเข้าไปก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
“อันโหรว เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ!”
ลูซี่ เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
หลินจือเซี๋ยวเริ่มรู้สึกกังวลมากขึ้นและรีบวิ่งพุ่งตัวเข้าไป เห็นทั้งสองคนกำลังเผชิญหน้ากันอยู่ และบนผมของลูซี่ก็เปียกปอนไปด้วยไวน์
ส่วนแก้วในมือของโหรวโหรวนั้นกลับว่างเปล่า พูดได้ว่าไวน์ที่อยู่บนผมนั้นเป็นเธอที่สาดไป!
อันเปี่ยวหาน[1]ยังคงทำเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน!
“อันโหรว เธอไม่เป็นไรใช่ไหม!” เธอพุ่งตัวเข้าไปโดยไม่ทันคิด
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร” อันโหรวมองลูซี่ด้วยสีหน้าที่เย็นชา
เธอไม่เพียงอยากจะสาดไวน์ไปที่เธอ แก้วในมือนั้นก็อยากจะทุบไปที่หัวของเธอด้วย
ไม่คิดว่าลูซี่จะให้ผู้ชายคนอื่น ๆ ในบาร์มาเล่นเกมกับเธอ สาดไวน์แค่นี้ถือว่ายังเบา ๆ
“อันโหรว ขอโทษฉันมาเดี๋ยวนี้เลยนะ เธอมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับฉัน?” ลูซี่ยืดอกขึ้นพลางมองหน้าเธอ หน้าอกของเธอทั้งสองข้างนั้นจ่ออยู่ตรงหน้าเธอ
อันโหรวยิ้มบาง ๆ สายตาของเธอเหลือบมองไปที่ชายที่ยืนอยู่ทางซ้ายแวบหนึ่ง คนที่เธอกำลังมองนั้นดูลึกลับไม่ใช่น้อย
เมื่อมองเธอแบบนั้นก็เริ่มพูดด้วยท่าทีตื่นเต้น เธอได้ยินชื่อของลูซี่อย่างชัดเจน ก่อนจะเหลือบมองไป ก็บังเอิญเห็นลูซี่ที่จ้องมองเธอด้วยสายตาที่แข็งกร้าว
ลูซี่ยิ้มออกมาอย่างมีนัย ก่อนจะก้าวเดินไปหาด้วยท่าทางเย็นชา
แก้วไวน์ในมืออดไม่ได้ที่คิดอยากจะสาดใส่เธอ แต่หลังจากนั้นก็ได้ปรากฏฉากตรงหน้าขึ้น
“เธอหมายความว่าต้องรอให้พวกเขาเริ่มลงมือกับฉันก่อนใช่ไหม ทำไมเธอถึงแบบนี้? เธอคิดว่าพวกเขาจะทำอะไรฉันได้อย่างนั้นเหรอ แค่ไวน์แก้วเดียวก็ทำได้แล้ว?” ความคิดของเธอตื้นเขินจนเกินไป
จิ่งเป่ยเฉินไม่เคยแตะต้องเธอแม้แต่สักนิ้วเดียว แต่กลับถูกคนคนนี้ใส่ร้ายเขาต่อหน้าสื่อต่าง ๆ ทั้งยังบอกว่าเขาไม่ยอมรับว่าเคยหลับนอนกับเธออีกด้วย
เรื่องแบบนี้มันน่าภูมิใจขนาดนั้นเลยหรือยังไง?
“พวกเขาจะทำอะไรกับฉันแล้วมันเกี่ยวอะไรด้วย?” ลูซี่เช็ดใบหน้าและเช็ดทั่วทั้งตัวเพื่อให้สะอาดขึ้น
“เธอคิดอยากจะให้ฉันกลับไปบอกกับเขาแบบนี้ไหม? ช่างเถอะ มันน่าขยะแขยงเกินไป ไม่ต้องพูดถึงหรอก!” อันโหรวเหลือบสายตามองไปก็เห็นบริกรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอวางแก้วไวน์ที่ว่างเปล่าลงไปบนถาด ก่อนจะเดินออกไปทันที
สิ่งที่ผู้ชายพวกนั้นเพิ่งพูดไปว่าเธอเป็นของชั้นเลิศ ถ้าได้นอนหลับสักคืนคงมีความสุขน่าดู โอกาสที่จะได้หลับนอนกับดาราดัง ๆ อย่างลูซี่แบบนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาได้บุญสักปีแล้ว!
แต่คนจำนวนมากขนาดนั้นอยู่ต่อหน้าเธอ เธอกลับไม่กล้าพูดแบบนั้นออกไป!
“รอก่อน เธอยังไม่ขอโทษเลยนี่!” ลูซี่เดินไปที่ข้างหน้าของเธอ พยายามที่จะขัดขวางไม่ให้เธอออกเดิน
ผู้คนมากมายต่างก็มองไปที่อันโหรว เธอเห็นบางคนกำลังอัดวิดีโออยู่ ถ้ามันถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ละก็ เป็นไปได้ที่เธอจะมีโอกาสได้กลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้งหนึ่ง!
เพราะงั้นจะปล่อยให้เธอไปแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด ครั้งนี้เธอพอมีเหตุผลจึงไม่ได้หวาดกลัวเท่าไรนัก!
“คุณผู้หญิง ผมคิดว่าคุณควรจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วค่อยมาพูดคุย ไม่อย่างนั้นไวน์ที่เปียกบนตัวคุณอยู่แบบนี้เกรงว่าจะไม่สบายเอาได้ มันคงไม่สะดวกเท่าไรนักที่จะให้ไวน์พวกนี้โดนหน้าอกปลอม ๆ ของคุณนะครับ” เซว์มู่พูดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบ ๆ อยู่ในขณะนั้น
คำพูดที่ว่า ‘หน้าอกปลอม ๆ’ นั้นทิ่มแทงจิตใจลูซี่เป็นอย่างมาก!
[1] เป็นชื่อนางเอกที่พ้องกับชื่ออันอีหานที่แปลว่ากล้าหาญและเด็ดเดี่ยว