อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 325 ความตื่นตระหนกที่ไม่เคยมีมาก่อนแล่นผ่านเข้าไปในจิตใจ
- Home
- All Mangas
- อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด
- ตอนที่ 325 ความตื่นตระหนกที่ไม่เคยมีมาก่อนแล่นผ่านเข้าไปในจิตใจ
ตอนที่ 325 ความตื่นตระหนกที่ไม่เคยมีมาก่อนแล่นผ่านเข้าไปในจิตใจ
ความตื่นตระหนกที่ไม่เคยมีมาก่อนแล่นผ่านเข้าไปในจิตใจของเธอ โอวหยางลี่ดูเหมือนว่าตอนนี้เริ่มที่จะอารมณ์เสียมากขึ้นเรื่อย ๆ
“โหรวโหรว ก่อนหน้านั้นฉันอดทนกับเธอมานานแล้ว วันนี้เป็นเธอนะที่บังคับให้ฉันทำแบบนี้!!” โอวหยางลี่ใช้สายตามองมาที่เธออย่างดุเดือด
ถ้าหากวันนี้เธอไม่ทำร้ายตัวเองจนต้องเข้าโรงพยาบาล ถ้าหากเธอไม่วาดรูปสร้อยคอ SOS อะไรนั่น เขาก็คงไม่คิดจะทำแบบนี้
แต่ก่อนพวกเขามีความรักที่สวยงาม พวกเขาต่างก็เป็นคู่รักสิบปีตั้งแต่วัยเด็ก
เขาเคารพเธอมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางตกเป็นของจิ่งเป่ยเฉินได้แน่!
ตอนนี้กลายเป็นว่าคนที่เขาเคารพเช่นเธอ กลับนอกใจเขาไปหาคนอื่นแทน!
ตอนนี้กลายเป็นว่ามีลูกกับจิ่งเป่ยเฉินถึงสองคน หนำซ้ำยังโตขนาดนั้นอีก!
“ไม่ได้ โอวหยางลี่ นายคิดจะทำตัวเองกลายเป็นอาชญากรรมเรื่องพวกนี้อย่างนั้นเหรอ?” มือของเธอตกลงเพราะความอ่อนแรง มันห้อยลงราวกับไม่มีเรี่ยวแรงเหลือ
“แล้วไง จะฟ้องฉันไหม?” โอวหยางลี่มองไปที่เธอ “เธอทำตัวเอง อย่ามาโทษฉันเชียว!”
“ไม่ว่ายังไงในใจเธอก็เกลียดฉันมากอยู่แล้วนี่ ฉันเองก็ไม่กลัวหรอกนะว่ามันจะเพิ่มขึ้นหรือเปล่า เธอจะเกลียดฉันไปตลอดก็ได้ เกลียดฉันไปชั่วชีวิตเลย!” ถ้าหากทำให้เธอกลับมารักเขาไม่ได้ ก็ทำให้เธอเกลียดเขาเลยดีกว่า พวกเขาจะได้อยู่พัวพันกันไปตลอดชีวิต
……
ภายในห้องผู้ป่วยที่โรงพยาบาล กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกลิลลี่ผสมกับกลิ่นยาฆ่าเชื้อของห้องผู้ป่วยลอยฟุ้งเต็มไปหมด
พยาบาลดึงเข็มออกจากตัวจิ่งเป่ยเฉิน ก่อนจะถอดขวดน้ำเกลือออก พลางเหลือบมองไปยังชายที่กำลังนอนอยู่บนเตียง เห็นได้ชัดว่าไม่รู้จักกันมาก่อน แต่เห็นสภาพใบหน้าซีดเซียวแบบนี้ เธอกลับรู้สึกลำบากใจที่ต้องออกจากห้องผู้ป่วย
หลังจากที่พยาบาลเดินออกไป จิ่งเป่ยเฉินก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาทันที
ดวงตาสีดำเงาวับมองไปที่เพดานขาว ๆ ด้วยท่าทีที่เงียบงัน เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองหลับไปนานเท่าไร แต่ความรู้สึกของเขาในตอนนี้มันเหมือนกับมีของบางอย่างที่สำคัญได้จางหายไป
โหรวโหรว……
เธออยู่ที่ไหนกัน?
อยู่ไหนกันแน่?
ถังซั่วเมื่อเห็นเขาตื่นขึ้นมาก็รีบเดินเข้าไปหาพร้อมกับเทน้ำลงในแก้ว “ดื่มน้ำหน่อย”
จิ่งเป่ยเฉินหรี่ตาลงมอง ก่อนจะฝืนพยายามลุกขึ้นมานั่งอย่างลำบาก เขาเอนตัวพิงบนหัวเตียงและถือแก้วน้ำเอาไว้ ค้างอยู่เป็นเวลานานโดยไม่แม้แต่จะดื่ม
อันหยาพั่นที่เฝ้าดูอยู่ก็เริ่มเป็นกังวล “พี่เขย พี่รีบดื่มน้ำก่อนเถอะ!”
จิ่งเป่ยเฉินมองเธอด้วยสายตาที่ไม่แยแส ก่อนจะพูดออกมาเสียงดังว่า “ออกไป!”
“ฉัน…..” อันหยาพั่นเหลือบมองไปที่ถังซั่ว ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างช้า ๆ เธอเฝ้าดูเขาอยู่ที่นี่เป็นเวลาตั้งสามชั่วโมงกว่า แต่พอเขาตื่นขึ้นมาก็ไล่เธอออกไปเสียแล้ว
“คุณอัน คุณออกไปก่อนเถอะ เดี๋ยวจะมีคนพาคุณไปส่งที่ชั้นล่าง” ถังซั่วพูดอย่างอ่อนโยน พลางเหลือบสายตามองไปยังประตูทางออก
“พี่เขย พักผ่อนให้มาก ๆ นะ ฉันไปก่อน” แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจ แต่เธอก็ทำได้เพียงเดินออกจากห้องผู้ป่วยไปอย่างเงียบ ๆ
จิ่งเป่ยเฉินไม่ต้องการเธอ เขาต้องการแค่อันโหรวเพียงคนเดียวเท่านั้น
แต่เรื่องผู้หญิงที่ตายไปแล้วแบบนั้น ศพก็หาไม่เจอด้วยซ้ำ
หลังจากที่อันหยาพั่นออกไป จิ่งเป่ยเฉินก็ยังคงรักษาท่าทางเหมือนเดิม ถังซั่วที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มองไปที่เขา “ให้ฉันป้อนไหม?”
จิ่งเป่ยเฉินเงยหน้าขึ้น แต่ไม่ได้มองเขา ก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
ถังซั่วมองดูเขาดื่มน้ำอย่างเงียบ ๆ “ยากนะกว่าจะได้ยินคำพูดจากนายหนึ่งคำเนี่ย!”
เขายังแอบคิดว่าจิ่งเป่ยเฉินจะใช้ชีวิตเหมือนซากศพที่เดินได้ ไม่สนใจเรื่องราวโลกภายนอก
แต่เมื่อมองดูจิ่งเป่ยเฉินที่ยังทำท่าทางแบบนี้ ดูท่าคงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ถึงแม้เขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ขาดหายไปจากหัวใจของเขาอยู่ดี
“นายเศร้าหรือเปล่า?”
ดวงตาของถังซั่วเป็นประกายเล็กน้อย ก่อนจะมองใบหน้าที่สงบนิ่งของเขา อยู่ ๆ คำพูดที่เขาได้ยินกลับเป็นคำถามพวกนี้เสียได้
“แน่นอนว่าต้องเสียใจสิ อย่างน้อยเธอก็เป็นคนที่หมั้นหมายพร้อมแต่งงาน! เป็นพี่สะใภ้ผมนะ” ทำไมเขาจะไม่เสียใจ!
“ฉันไม่ได้พูดถึงเรื่องพวกนี้” จิ่งเป่ยเฉินเอียงศีรษะมองไปที่เขา ดวงตาของเขายังจับจ้องไปที่ใบหน้า “นายชอบเธอนี่”
เมื่อครู่ถังซั่วกำลังจะหยิบแก้วน้ำที่ว่างเปล่าออกมาจากมือเขา ทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้นของเขา หัวใจของถังซั่วก็สั่นไหว มือค้างเติ่งกำแก้วไว้ในมือแน่น
“ก่อนหน้านั้นฉันไม่รู้ความสัมพันธ์ของพวกพี่ทั้งสอง”
คำพูดของเขาแท้จริงแล้วเป็นการยอมรับ
จิ่งเป่ยเฉินละสายตาจากเขา ดวงตาสีเข้มมองไปที่ที่ห่างไกล “ฉันเตรียมที่จะแต่งงานกับเธอ”
ถังซั่วมองเห็นใบหน้าของเขาที่มีรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นมา ถึงแม้ว่าตัวเขาจะเศร้ามากขนาดไหน แต่มุมปากของเขาก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาได้เวลาพูดถึงเรื่องของอันโหรว
มันต้องเป็นงานแต่งที่ยิ่งใหญ่น่าดู เขาไม่แปลกใจเลยด้วยซ้ำ
มันไม่น่าแปลกใจจริง ๆ นะ
จิ่งเป่ยเฉินเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการในเรื่องพวกนี้ ยิ่งเขาชอบอันโหรวมากเท่าไร ถึงแม้ความสัมพันธ์ของเขาจะเหมือนกับแต่งงานไปแล้วก็ตาม แต่ที่ทำอยู่นี้ก็คือการหมั้นหมาย ถ้าหากแต่งจริง ๆ ละก็ มันจะต้องยิ่งใหญ่มากกว่านั้นแน่ ๆ
ในวินาทีต่อมา ถังซั่วก็มองเห็นเขาลุกขึ้นจากเตียง
ไม่ง่ายเลยกว่าจะแกะมือของเขาออกจากกระเป๋าที่เปื้อนโคลนนั้นได้ รวมถึงเปลี่ยนเสื้อผ้าผู้ป่วยให้เขาด้วย แต่ตอนนี้เขากลับลุกขึ้นคิดจะเดินออกไปเสียอย่างนั้น
“จะไปไหน?” ถังซั่วลุกขึ้นมาขวางตรงหน้าเขาไว้
จิ่งเป่ยเฉินมองไปที่เขาด้วยใบหน้าที่เย็นชา น้ำเสียงยังคงดูสงบนิ่ง “หลบไป!”
“นายบอกมาสิว่านายจะทำอะไร? บ้าจริง ตอนนี้นายช่วยใจเย็นลงหน่อยจะได้ไหม?” ถังซั่วยืนอยู่ตรงหน้าเขาและพยายามรั้งไม่ให้เขาไป
จิ่งเป่ยเฉินเหลือบสายตามอง ก่อนจะเดินไปด้านข้างเขา “ฉันจะกลับไปที่บริษัท”
“นาย…..”
ถังซั่วอดไม่ได้ที่จะปล่อยเขาไป ก่อนจะเดินตามไปติด ๆ เมื่อเห็นเขากำลังเดินด้วยเท้าเปล่าก็หยิบรองเท้ามาให้เขาและยื่นส่งไปให้ “ใส่รองเท้าก่อนค่อยออกไปก็ได้”
ถังซั่วก้มลงไปสวมรองเท้าหนังให้กับเขาที่ด้านหน้า ความหวังดีของพี่น้องเช่นนี้ มีหรือเขาจะปฏิเสธมันได้
ถังซั่วมองชุดผู้ป่วยที่เขาสวมใส่และรองเท้าหนังที่เขาใส่มันเมื่อครู่ จู่ ๆ ก็คิดอยากจะรู้เหลือเกิน ถ้าหากเขาสามารถหาอันโหรวเจอ หากเธอมาเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า เธอจะมีความสุขบ้างหรือเปล่า
แต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดเอาไว้เลยสักนิดเดียว
พวกเขากำลังดูวิดีโอกล้องบันทึกภาพที่อันโหรวกำลังนั่งอยู่ในรถ จากนั้นรถก็ชนเข้ากับรั้วตรงสะพาน ก่อนที่ตกลงไปในแม่น้ำ
แม้ว่าจะกู้ซากรถขึ้นมาได้ แต่ก็พบแค่กระเป๋าของเธอเท่านั้น ส่วนศพบางทีอาจจะถูกกระแสน้ำพัดพาไปนานแล้ว เผลอ ๆ อาจจะตกลงสู่ทะเล
หรือไม่แน่ว่า…..อาจจะถูกฉลามกินจนหมดแล้วก็ได้
……
“โหรวโหรว พวกเราหลังจากนี้จะได้อยู่ด้วยกันแล้ว ฉันหย่าแล้ว หลังจากนี้ฉันจะแต่งงานกับเธอ พวกเราจะกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน”
ทันทีที่ใบหน้าของเขาขยับเข้ามาใกล้ เธอก็เอียงศีรษะหนีทันที
เดิมทีท้องของเธอก็รู้สึกไม่สบายอยู่แล้ว ก่อนจะพองขึ้นมาเล็กน้อยและ “อ๊อก….”
ถึงแม้จะไม่มีอะไรอยู่ในท้อง แต่เธอก็พยายามคายน้ำลายออกมาบนเตียง
“นี่เธอเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เมื่อครู่เขาเพิ่งจะขยับเข้าไปใกล้ อันโหรวก็พยายามลุกเบือนตัวหนี แต่ไม่ทันไรก็ถูกเขาดึงลงมาที่ขอบเตียง ช่วงเวลานั้นเธอก็อ้วกใส่บนเตียงอีกครั้ง “อ๊อก….”
ภายในห้องตอนนี้มีแต่กลิ่นเหม็นเปรี้ยวจากกรดน้ำย่อย
ใช้เวลาเพียงแค่สิบนาที เธอก็ค่อย ๆ รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย
เธอสวมรองเท้าแตะก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องน้ำท่ามกลางดวงตาของเขาที่จับจ้องอยู่ตลอดเวลา
“อ๊อก….”