อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 312 แบ่งเตียงให้ฉันครึ่งหนึ่ง
ตอนที่ 312 แบ่งเตียงให้ฉันครึ่งหนึ่ง
“นายไม่แบ่งเตียงให้ฉัน แล้วนายจะลากฉันมาทำไม?”
“ครึ่งเตียงไม่ได้ แต่ว่าตรงนี้ได้” เขามองใบหน้าเธอท่ามกลางความมืดสลัว แม้จะไม่ชัดเจนแต่ว่าเขาก็พอจะมองเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ที่แดงระเรื่อของเธอ มันดูน่ารักเอามาก ๆ
“ในที่สุดคุณก็แสดงความเป็นสุภาพบุรุษออกมา จะยอมไปนอนตรงโซฟาแล้วใช่ไหม เยี่ยมไปเลย เชิญเลยค่ะ!” เธอกลับพบว่าฉีเซิ่งเทียนนั้นยังมีความสุภาพบุรุษอยู่
ถ้าหากเขายอมยกเตียงให้เธอนอนจริง ๆ ละก็
“ที่ฉันหมายถึงคือ……..”
“คืออะไร?”
ฉีเซิ่งเทียนพลิกตัวกดตัวเธอเอาไว้และใช้น้ำเสียงที่คลุมเครือ “แบบนี้ทั้งเตียงเป็นของเธอ”
“เตียงมันก็เป็นของฉันแต่แรกอยู่แล้ว!” เธอคำรามออกมา แต่ว่าเขากลับไม่สนใจเลยสักนิด เธอกลืนน้ำลายเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย
“คุณลุกออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ผู้จัดการฉี คุณอยากมีคดีเหรอ?” พวกเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่จู่ ๆ เขากลับทำกับเธอแบบนี้
ที่แท้ก็เป็ยเพลย์บอยสมคำร่ำลือจริง ๆ นิสัยแก้ไม่ได้!
“ฉันแค่กลัวว่าเธอจะหนาวเกินไป กอดเอาไว้แบบนี้อุ่นดีนะ” เขายังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย!
ใบหน้ายังไม่แนบชิด ปากยังไม่ได้จูบ แบบนี้ผิดด้วยเหรอ อย่างนี้เขาก็เสียเปรียบสิ!
“งั้นเหรอ? งั้นตอนนี้…” เธอเพิ่งเข้าใจว่าการมาที่นี่ของเขานั้นไม่ได้มีเจตนาดี
ฉีเซฺิ่งเทียนขยับตัว ถ้าหากเขาไม่ตอบสนองกลับสิแปลก!
“พอใจไหม?”
“คำพูดนี้คุณควรไปถามคนที่เขามีประสบการณ์ตรงนะ” เธอไม่เคยมีประสบการณ์จะไปรู้ได้ยังไง และเธอก็ไม่ได้อยากมีด้วย
ฉีเซิ่งเทียนยิ้มออกมาบาง ๆ ก่อนจะเอนตัวเข้าไปใกล้เธอ “แสดงว่าเธอก็ต้องการ….”
“ไอ้บ้า!” เธอทั้งอายทั้งรำคาญ
เธอใช้พละกำลังทั้งหมดตะโกนใส่เขา
“ถ้าเธอจะฟ้องฉันก็ต้องให้ฉันทำอย่างนั้นจริง ๆ ก่อน เพราะเธอฟ้องไปก็ไม่ชนะอยู่ดี ให้ฉันแสดงหลักฐานให้เธอดูเอาไหม?”
“ผู้จัดการฉี ช่วงนี้คุณร้อนรนเกินไปหรือเปล่า?” ดอกไม้ข้างนอกไม่หอมแล้วหรือยังไงถึงได้มาหาเธอ
“……”
บรรยากาศเงียบสงัดขึ้นมาทันทีที่เธอพูดจบ “โบราณเขาว่ากระต่ายไม่กินที่ขอบรัง ผู้จัดการฉีที่ทำงานเราใกล้กันขนาดนี้ย่อมไม่ได้”
“ฉันไม่สนใจ”
“ฉันเป็นกระต่าย ส่วนคุณเป็นหญ้า”
เมื่อฉีเซิ่งเทียนได้ยินก็กัดฟันกรอด “หลินจือเซี๋ยว! ฉันจะไม่ให้เธอได้เห็นแสงสี เธอไม่รู้ว่าฉันเป็นใครหรือไง!”
“ผู้จัดการฉี ฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดปล่อยฉันเถอะ!” หญิงสาวที่สามารถงอและยืดตัวได้
น้ำเสียงของเธออ่อนลง ความโกรธที่เขาเพิ่งจุดไฟก็หายไปในทันที
เขาขยับเข้าไปกระซิบข้างหูของเธออีกครั้ง “หรือว่าเธอไม่คิดว่าตอนนี้ เวลานี้ จะเป็นความทรงจำที่น่าจดจำ?
“ไม่เอา”
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขานั้นคือหัวหน้ากับลูกน้อง ไม่ใช่เพื่อนหรือแฟนกัน เพราะงั้นเธอต้องขัดขืนโดยสัญชาตญาณ
“อยากจะอุดปากเธอเสียจริง!” ตอนนี้เขารู้สึกอึดอัด แต่จะรู้สึกอึดอัดยิ่งกว่าหากผ่อนคลายไม่ได้ เขาไม่อยากออกไปจากเตียงอุ่น ๆ ไม่อยากไปห้องนั่งเล่นที่เย็นเฉียบและไม่มีแอร์นั้น เขาไม่อยากไป
“ไม่ใช่ปากที่ไม่เชื่อฟัง” เธอไม่เชื่อฟังเขาทั้งหมด
ฉีเซิ่งเทียนเองก็ทนไม่ไหวแล้วจึงปิดปากของเธอที่เอาแค่ขัดคอเขา ควรสั่งสอนเสียหน่อย
“อือ…..”
เกิดอะไรขึ้น?
เมื่อกี้ไม่ได้คุยเจรจากันอยู่เหรอ?
“อ้าก……”
ฉีเซิ่งเทียนปล่อยเธอทันที ปากผู้หญิงคนนี้รุนแรงเสียจริง ที่กัดไปไม่ใช่เพราะเธอเก่งขนาดนั้นหรือไง?
“ผู้จัดการฉี แค่ก แค่ก ฉันไม่อยากทำอะไรที่ไม่ชัดเจนแบบนี้ คุณเข้าใจหรือเปล่า?
ทันทีที่เธอพูดจบก็เงียบไปสักพัก ไม่ใช่ว่าฉีเซิ่งเทียนไม่อยากจะพูด แต่เพราะเจ็บเกินไป เขารู้สึกได้ถึงเลือดที่ไหลออกมาเล็กน้อย
หลินจือเซี๋ยวร้องตะโกนออกไปอย่างไม่แน่ใจ “ผู้จัดการฉี?”
“นอนซะ!”
แบบนี้หลินจือเซี๋ยวจะสามารถหลับลงได้ยังไง แต่เมื่อท้องฟ้าเริ่มสางเธอก็ผล็อยหลับไป
ในสถานการณ์แบบนี้กลับหลับสนิทจนตื่นสาย
ทันทีที่เธอตื่นขึ้นมา ข้างกายเธอก็ไม่มีแม้แต่เงาของฉีเซิ่งเทียน ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก เธอยังไม่ได้คิดเลยว่าจะทำตัวยังไงเมื่อเจอเขา!”
แต่ว่าตอนที่เธอออกไป เธอกลับพบว่าสายตาของพ่อแม่นั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เธอนั่งลงบนโซฟาอย่างเฉยเมย หย่อนขาอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะกดทีวีเพื่อเปลี่ยนช่องอย่างเบื่อหน่าย แต่จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าบรรยากาศในห้องนั่งเล่นนั้นไม่ได้หนาวเลย
“แม่ เมื่อวานเครื่องปรับอากาศเสียหรือเปล่า?
“ก็ไม่นะ! เครื่องปรับอากาศก็ปกติดีนี่!”
“………..”
หลินจือเซี๋ยวเงยหน้าขึ้นไปมองเครื่องปรับอากาศที่พัดลมร้อนออกมา ยังดีอยู่จริง ๆ ด้วย แต่ว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น?
ฉีเซิ่งเทียน!
ต้องเป็นเขาที่ทำเรื่องบ้านี้แน่ ๆ น่ารังเกียจจริง!
………
ตอนฉลองตรุษจีนเป็นช่วงที่ดีต่ออุตสาหกรรมที่กำลังเฟื่องฟู ผ่านความยากลำบากมาทั้งปี เครื่องประดับหยก เสื้อผ้า รองเท้า หมวก เวลานี้เป็นช่วงที่จะทุ่มเทพลังในการชอปปิง
แต่ว่าในวันแบบนี้จินหยู่ตัวแทนของตลาดจิ่งที่เพิ่งจดทะเบียนในตลาดไม่นานกลับไม่ได้เปิดร้าน
สื่อรายงานเรื่องนี้เป็นระยะ ๆ นักข่าวต่างโทรศัพท์มาหาบริษัทจิ่งเพื่อหาคำตอบ
แต่ว่าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทจิ่งนั้นหยุดทำการจึงไม่ได้ให้การอธิบายใด ๆ
หลังจากที่หยุดตรุษจีนเมือง A ก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น