cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Manga Info

หึ! เกมจีบหนุ่ม? เเล้วทำไมตัวประกอบอย่างฉันจะเด่นไม่ได้ล่ะ! - ตอนที่ 13 Route two สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (6)

  1. Home
  2. All Mangas
  3. หึ! เกมจีบหนุ่ม? เเล้วทำไมตัวประกอบอย่างฉันจะเด่นไม่ได้ล่ะ!
  4. ตอนที่ 13 Route two สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (6)
Prev
Manga Info

** เปลี่ยนคำเรียกองค์ชาย เป็นฝ่าบาท เพื่อให้ดูลื่นไหลขึ้นครับ **

—

 

“อั๊ก!”

วาเซ่ปลิ้วกระเด็นไปไกลจากหมัดตรงของผม เเต่ทันใดนั้นก็มีสายลมปริศนามาห่อหุ้มตัวเขาไว้ ทำให้เขาไม่กระเด็นไปชยขอบสนามเหมือนคนก่อนหน้าที่โดนผมต่อย

 

“นายนี่ไม่คิดก่อนจะบุกเข้าหาอีกฝ่ายเลย”

วิลเลี่ยมใช้เวทย์ลมรับวาเซ่ที่ปลิ้วมาได้อย่างทันที วาเซ่ที่ถูกสายต้านการลอยกระเด็นไว้ก็ถูกพาส่งลงพื้นอย่างช้าๆ วาเซ่จับบริเวณที่โดนผมต่อยอย่างเบามือภายใต้สีหน้าอันเจ็บปวด เเละส่องสายตาเครียดเเค้นผม

 

“เจ็บๆๆๆๆ เเม่งเอ้ย! หมัดหนักชิบหายเลย!”

“ก็เห็นอยู่ว่าหมอนั่น มันไม่ธรรมดา นายก็ไม่คิดจะวางเเผนก่อนเลย”

“หนวกหูน่า ใครจะไม่นึกวะ ไอ้นั่น มันจะเก่งปานนี้”

วาเซ่ปัดมือของวิลเลี่ยมที่ยืนมาด้วยความหงุดหงิด เเละจ้องมาทางผมด้วยความโกรธเเค้น สักพักเขาก็เดินไปหาผู้เข้าเเข่งคนอื่น

 

“ขอดาบหน่อยละกัน!”

“อะไ-!”

“เเกก็ด้วยอีกคน ดาบเดียวมันไม่พอ”

“เดี๋ย-!”

วาเซ่ซัดเข้าที่หน้าของผู้เข้าเเข่งขันที่ไม่ได้มีส่วนร่วมจนสลบ เเละเเย่งดาบของเขามา เเน่นอนว่าเขาต้องใช้สองดาบจึงจัดการอีกคนที่อยู่ข้างๆ โดยการฟันใส่เขาโดยที่ไม่ทันตั้งตัว

 

“เป็นวิธีที่ป่าเถื่อนไม่สมกับเป็นขุนนางเลย”

“ยังไงพวกมันก็ตกรอบอยู่เเล้ว จะไม่เห็นใจทำไม!”

“นั่นสินะ ยังไงพวกเราก็ต้องจัดการพวกนี้ เพื่อไม่ให้ไปถึงมือฝ่าบาทอยู่เเล้ว”

“สายลมเอ่ยจงกว้างล้างทุกสิ่งด้วยความเกรี้ยวกราดด้วยเถิด Extreme wind (ลมกระโชก) ”

“อ๊าก!!!”

วิลเลี่ยมถอนหายใจกับวิธีเเก้ปัญหาที่ไม่สง่างามของวาเซ่ เเต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะห้าม เเละยิ้มสนุกออกมาเเทน เขาเรียกวงเวทย์สีเขียวขนาดกว่าหนึ่งเมตรออกมาจากมือ เเละสร้างพายุลมอันรุนเเรงโจมตีใส่ผู้เข้าเเข่งขันอื่นจนตกรอบไปอีก 5 คน

 

“ดูนั่นสิคะ ท่านผู้ชม องครักษ์ของฝ่าบาทได้ร่วมมือกัน จัดการผู้เข้าเเข่นขันไปกว่า 7 รายเเล้ว เเบบนี้เอลเดล นอล ต้องพบกับวิกฤติครั้งใหญ่เเล้วคะ! จากที่จะได้สู้ตัวเเต่ตัวกับลอส วาเซ่ ตอนนี้กรีนลิเวอร์ วิลเลี่ยมได้เข้ามาร่วมมือกลายเป็นการต่อสู้เเบบสองต่อหนึ่งเเล้วค่า!”

เสียงผู้ชมในสนามคึกครื้นขึ้นกว่าเดิม วาเซ่ เเละวิลเลี่ยมที่ได้ยินก็ต่างยิ้มออกมา วาเซ่ร่ายเวทย์ลงดาบใหม่เหมือนเดิม ในขณะที่วิลเลี่ยมก็ร่ายเวทมนตร์สร้างหอกลมนับสิบข้างตัวเขา

 

“รอบนี้เเกไม่รอดเเน่!”

“สายลมเอ่ยจงกลายเป็นหอกทิ่มเเทงศัตรูด้วยเถิด wind lance (หอกเเห่งสายลม) !”

วาเซ่กระโจนเข้าหาโนวมอลเช่นเคย โดยที่มีหอกลมนับสิบตามหลังเข้าพุ่งเข้าจู่โจมโนวมอลพร้อมกัน ซึ่งเเทนที่โนวมอลตั้งท่าตอบโต้ เขากลับยืนนิ่งเเทน

 

“เห้อ คงต้องเลิกเล่นเเล้วสินะ”

“เลิกเล่นอะไรของเเก!”

ทันที่ที่โนวมอลถอนหายใจ วาเซ่ก็มาอยู่ตรงหน้าโนวมอลพร้อมกับหอกเเห่งสายลมสิบเล่มเรียบร้อยเเล้ว ในขณะที่เขากำลังจะใช้ดาบคู่ฟันโนวมอลที่ไร้ท่าทางป้องกัน

 

(เพราะพวกเเกกำลังจะทำเเผนฉันพังหมดเเล้วสิ)

“เปิดประตูขั้นที่ 1”

ผมสูดลมหายใจเพื่อใช้สมาธิ ภายในเสี้ยววินาทีร่างกายของผมก็ดูดซับเวทมนตร์รอบตัวจนเต็มที่ ร่างกายของผมขยาย เเละเปล่งปลั่งมากขึ้น หลังจากที่ผมหายใจออก ผมก็เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าช้าลงกว่าเดิม

 

(คงต้องรีบจบการสอบเเล้ว)

ผมกระโดดถอยออกไปไกลจากการฟันวาเซ่ เเละหอกลมของวิลเลี่ยมทำให้กลายเป็นการโจมตีทั้งหมดไร้ผล วาเซ่ได้ฟันลม เเละหอกของวิลเลี่ยมก็โจมตีลงพื้นดินจนเเตกกระจายเป็นสิบหลุม

 

“ลาขาดล่ะ!”

ผมตั้งหลักใหม่อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใช้สองเท้าถีบตัวพุ่งหาวาเซ่ด้วยความเร็วสูง ผมตั้งหมัดขึ้นมาเพื่อเตรียมโจมตีในระยะทำการ นี่คือการโจมตีอันไร้เสียงที่อาศัยจังหวะประมาทของศัตรู

 

(เทคนิคลอบเร้น หมัดไร้เสียง)

“เเค่ก..!”

(เทคนิคลอบเร้น กรงเล็บบดขยี้)

หมัดของผมชกเข้าที่ท้องของวาเซ่จนเขาสำลักออกมา เเต่ผมไม่ให้โอกาสที่หลุดลอย ผมจึงใช้เอิ้อมมือไปจับที่มือทั้งสองของวาเซ่ เเละบีบมันจะใช้งานไม่ได้

 

“อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!”

วาเซ่ที่เสียมือไปก็ร้องครวญรางก้มตัวลงอยู่ตรงพื้นพร้อมกับดาบทั้งสองที่นอนบนพื้นข้างเขา ทุกคนต่างที่เห็นวาเซ่ร้องออกมาอย่างทรมาณก็ต่างตกใจกับเหตุการณ์ร่วมกึงวิลเลี่ยม ซึ่งผมก็ใช้โอกาสนั้นในการไปด้านหลังเขาภายในพริบตา

 

“ต่อไปก็ตาเเก”

“สายลม-”

(เทคนิคผนึก ไร้เสียง)

“!!!”

นิ้วชี้ เเละนิ้วกลางของผมกดลงไปที่บริเวณที่ต่ำลงมาจากท้ายทอยเล็กน้อย ผมส่งพลังเวทย์เข้าไปเเทรกเเซงจนทำให้วิลเลี่ยมไม่สามารถพูดออกมาได้

 

“อยู่ตรงนี้ไปก่อนเเล้วกัน”

“!!!!!!”

ผมชกเขาที่ท้องของวิลเลี่ยม 3 ครั้งจนเขาสำลักน้ำลายออกมา เเละลงไปนอนบนพื้นอย่างน่าเวทนา จากนั้นผมจึงเดินไปหาผู้เข้าสอบคนหนึ่งที่กำลังจ้องมองผมด้วยความหวาดกลัว

 

“ขอขวานนายหน่อยสิ”

“อ-อ่า ได้ครับ!”

เขายื่นขวานให้ผมอย่างง่ายดาย ผมหยิบมันสะพายบนไหล่ขวา เเละเดินตรงไปยังมัสเเตงอย่างช้าๆ มัสเเตงที่เห็นผมจึงลุกขึ้นมา เเละยิ้มเเย้มใส่ผม

 

“นึกไม่ถึงเลยนะว่านายจะผ่านองครักษ์ของฉันได้ คงไม่ได้มีดีเเค่คำพูดสินะ”

มัสเเตงจ้องมายังผมด้วยท่าทีสบาย จากนั้นไฟบนมือขวาของเขาก็ประทุขึ้นกลายเป็นวิหคเพลิงสีทองตนหนึ่ง เขายิ้มให้ผมสักเล็กน้อยก่อนจะปล่อยจิตสังหารออกมา

 

“ไหม้ไปซะ”

วิหคเพลิงจิ๋วโบยบินเป็นตัวที่สองเข้าโจมตีผม มันบินทะลุผ่านม่านเพลิงศักดิ์สิทธิอย่างรวดเร็ว เพ็งเล็งมาที่หัวใจของผมเพื่อที่จะเผด็จศึก

 

“เอ็งอ่ะ ตายไป”

มันต่อยเข้าที่ตัวนกอย่างจริงจังจนมันสลายหายไปในอากาศ มัสเเตงที่เห็นดังนั้นจึงทำสีหน้าตกใจออกมา เเต่ผมก็ไม่รีรอ เเล้วจับขวานสองมือเอนไปด้านซ้ายของลำตัว

 

“ตัด!”

ผมเกร็งกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกาย ขาตั้งมั่นกับพื้นให้มั่นคง เอวกับสะโพกที่บิดอย่างรวดเร็ว เเละลำตัวช่วงบนที่เทน้ำหนักไปให้เเขนทั้งสองอย่างเต็มที่ขนเกิดเป็นเเรงกระเเทกอันทรงพลังที่ทำลายขวานไปพร้อมกับม่านเพลิงศักดิ์สิทธิ

 

(เทคนิคลอบเร้น หมัดไร้เสียง)

ผมตั้งใจจะอาศัยจังหวะที่มัสเเตงเสียความภาคภูมิใจในการป้องกันของตัวเอง เข้าโจมตีเขาทีเพลอเหมือนวาเซ่ เเต่ทันใดที่หมัดของผมกำลังจะเอื้อมถึงหน้าท้องของเขา ดาบของเขาก็กันไว้ได้ทัน

 

“การโจมตีเเบบเดิมกับวาเซ่น่ะ อย่าคิดว่าจะได้ผลกับฉัน!”

มัสเเตงถอยออกไปเล็กน้อย เเละตั้งใจที่จะใช้ระยะการโจมตีของดาบที่ไกลกว่าหมักจัดการผม เเต่การโจมตีของเขาก็ไม่ได้เร็วมากเกินที่สายตาจะจับไม่ทัน ผมจึงเอนตัวหลบได้อย่างสบาย

 

“คิดเหรอว่าจะหลบพ้นตลอดไป! จงสยายปีกมอดไหม้ทุกสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน! Pheonix wings! (วิหคเพลิงสยายปีก) ”

มัสเเตงถือดาบชี้ขึ้นรวบรวมเปลวเพลิงสีทองหุ้มตัวดาบ จากนั้นปีกนกเพลิงสีทองหนึ่งข้างปรากฏออกมาจากเเผ่นหลังขวาของมัสเเตง เขาฟาดดาบลงด้านหน้า ปีกนั้นก็กระพือปีก สร้างพายุเพลิงสีทองเป็นเเนวตรงโถมเผาไหม้ทุกสิ่งที่ขวางหน้าตรงมายังผม

 

“ไม่ได้กินหรอก!”

ผมกระโดดสูงขึ้นฟ้าหลบการโจมตีด้านหน้าได้อย่างไร้บาดเเผล เเต่เเน่นอนว่าผมไม่เพียงเเค่หลบ เพราะผมกระโดดสูงตรงไปข้างหน้าเพื่อที่จะเข้าใกล้มัสเเตงมากขึ้น

 

(ปรับสมดุล)

“เทคนิคทลายเกราะ ฝ่ามือสยบภูผา”

เเสงสีเหลืองจากในมือสว่างขึ้นสั่งใช้งานพร ร่างกายที่มีช่องโหว่ในอากาศกลับมาอยู่ในสถานะเตรียมพร้อม ผมตั้งศอกขึ้น เเละเเบบมือออก เเล้วดิ่งตัวลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อใกล้ถึงเป้าหมายผมก็ฟาดฝ่ามือลงทันที

 

เปร้ง!

ดาบที่มัสเเตงถือเเตกสลายไม่เหลือชิ้นดี เเต่เขาก็ยังตั้งสติเตรียมที่จะถอยไปรักษาระยะ ในระหว่างที่ฝ่ามือของผมกำลังจะกระเเทกลงพื้นตามเเรงโน้มถ่วง

 

“เสร็จฉันล่ะ!”

มัสเเตงยิ้มเมื่อเขาสามารถอยู่ห่างจากระยะที่เเขนของผมจะโจมตีเขาได้ มือทั้งสองของเขาห่อหุ้มไปด้วยเพลิงสีทองเตรียมที่จะตอบโต้ผม เเต่ผมก็ไม่นอมให้เขาทำอย่างเเน่นอน

 

“คิดตื้นไปนะ”

ผมพลิกมือลงพื้นเป็นฐานเเทนที่จะปล่อยให้มันสับจนเเตกละเอียด ผมใช้พละกำลังจากฝ่ามือขวาหมุนตัวเอง เเละพุ่งตัวดีดออกไป ใช้ขาที่มีระยะการโจมตีที่ไกลกว่าล็อคคอของมัสเเตงไว้โดยที่เขาไม่คาดคิด

 

(เทคนิคลอบเร้น คมเขี้ยวบดขยี้!)

ตู้ม!

ผมหมุนตัวด้วยความเร็วสูง ลากหัวของที่เชื่อมอยู่ดับคอพลิกตัวทุ่มลงพื้นอย่างรุนเเรง เเม้ว่าท่านี้จะไม่ได้รุนเเรงมาก เเต่ก็พอที่จะทำให้เขาบาดเจ็บได้ระดับหนึ่ง

 

“อ-อึก เเก…”

มัสเเตงลุกขึ้นมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาจากศีรษะ ฝ่ามือของเขาห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิงสีทองที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

 

“ไอ้เว-!”

“ใครใช้ให้เเกลุกขึ้นมา!”

ผมชกเข้าที่ท้องของมัสเเตงจนเขาสำลัก ไฟเเห่งความโกรธก็หายไปทันทีที่เขาคุมสติไม่ได้ เพียงเสี้ยววินาทีผมก็ยกเท้าเหนือศีรษะของผมเรียบร้อย มัสเเตงที่ได้เห็นเท้าของผมที่อยู่เหนือเขาก็ทำสีหน้าหวาดกลัว

 

“เทคนิคสังหาร สงบนิ่ง”

ตู้ม!!!

ส้นเท้ากระเเทกลงหน้าของมัสเเตงจนดิ่งลงพื้นอย่างรวดเร็ว พื้นดินเกิดรอยเเตกร้าวเเตกกระจายไปทั่วทิศ ภายในรอยเเตกนั้นมีมัสเเตงที่ใบหน้าบิดเบี้ยวนอนจมอยู่ใต้เท้าของผม

 

“ค-เเค-เเค่.ก…”

สติของมัสเเตงเริ่มเลือนลานจนพูดออกมาไม่เป็นคำ ผมที่ได้ยินดังนั้นจึงนำเท้าออกจากใบหน้าของเขา เเละนั่งลงก้มไปมองหน้าเขาด้วยสีหน้ายิ้มเเย้ม

 

“ต๊ายตาย จะบดขยี้ปากฉัน เเต่กลายเป็นเเกเองนะ ที่โดนฉันกระทืบก่อนเเทน สมเเล้วเป็นฉัน เป็นคนรักษาสัญญาเก่งจริงๆ ยอดเยี่ยมๆ”

ผมยิ้มสะใจกับมัสเเตงที่ใบหน้าเละไม่เหลือเค้าโครงความหล่อ มัสเเตงที่ได้ยินจึงกัดฟัน เเละใช้โอกาสที่ผมสบประมาทสร้างเพลิงสีทองในมือขวาเพื่อที่จะโจมตีใส่ผม

 

“สงสัยคงต้องทำให้เเกดื้อลงสักหน่อย”

ผมที่เห็นท่าทีขัดขืนของเขาจึงลงมือใช้ขาของผมกระทืบลงบนเเขนทัั้งสองของเขาจนเเตกหัก เเละเพื่อเป็นการปลอดภัยผมเลยใช้มือหักขาสองข้างไปด้วยเลย

 

“อ๊ากกกกกกกกกกก!!!”

“เรียบร้อย”

มัสเเตงส่งเสียงร้องออกมาอย่างทรมาณ คงเป็นเพราะความเจ็บปวดจากการหักเเขนหักขวา สติของเขาจึงกลับมาทำให้ร้องครางออกมาฟังชัดเจน คนที่อยู่รอบข้างมองผมด้วยสายตาหวาดกลัว เเละค่อยๆ เดินถอยห่างออกจากผม

 

(จะทำให้ตกรอบเเบบนี้ ก็ได้อยู่หรอก เเต่มันจะทำให้คนอื่นมองเราให้ภาพลบเเทน)

ผมลุกขึ้นมองไปรอบตัว เเละพบกับผู้คนที่ต่างจ้องมองผมด้วยความรังเกียจ เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เพราะคงไม่มีใครสรรเสริญคนที่ทำร้ายเชื้อพระวงศ์อันทรงเกียรติต่อหน้าประชาชน คนที่กล้าทำเเบบนี้คงมีเเต่คนไร้หัวคิด กับพวกป่าเถื่อนเท่านั้น

 

(ก็จริงอยู่ที่ทำไปด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว เเต่จะให้ภาพลักษณ์เราติดลบต่อไป คงจะไม่ดี เเต่มันก็คงช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเราดันสร้างฝันร้ายให้ใครหลายคนเห็นเนี่ยสิ)

ผมยิ้มออกมาอย่างชอบใจ พอมองเราไปที่ใบหน้าของมัสเเตงเเล้ว ผมก็อดใจไม่ไหวที่จะดึึงตัวตนที่เเท้จริงของเขาอออกมา ผมจะใช้เเผนการของผมทำให้ผมกลายเป็นผู้ชนะอย่างไร้ที่ติเอง

 

(ถ้างั้นก็ลากมันเข้ามาร่วมวงดีกว่า)

“ก็นึกว่าเก่ง เเต่ก็ไม่เท่าไหร่นี่หว่า หรือจะเป็นอย่างที่เขาว่า ไอ้คนที่มีทุกอย่างตั้งเเต่เกิด มักจะตกม้าตายเมื่อเจอคนที่ไคว่คว้าทุกอย่างมาด้วยตัวเอง”

 

ผมเดินไปตรงกลางสนาม เเละตั้งใจตะโกนเสียงดังเพื่อให้คนทั้งสนามได้ยิน สายตาของผู้คนจับจ้องมาที่ท่าทีโอ้อวดของผม ซึ่งเป็นความต้องการของผมเพื่อที่จะดึงดูดความสนใจเอง

 

“ทุกคนรู้ไหม เห็นผมเป็นคนหน้าไม่อายเเบบนี้ เเต่ชีวิตก็ตกอับมาเยอะเหมือนกัน ไม่เกิดมาหน้าตาดี เป็นยาจก พรสวรรค์ก็ยังห่วยอีก เเต่ผมก็ใจสู้ชีวิตมาตลอดเลยนะ”

ผมเเสร้งยิ้ม เเละพยายามใช้น้ำเสียงน่าสงสารเพื่อเรียกคะเเนนเห็น เเต่ดูเหมือนคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบผม ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรเพราะผมเเค่อยากสร้างบรรยากาศให้ตัวเองดูดีขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

 

“เห้ พวกนายทุกคนน่ะ รวมถึงพวกขุนนางด้วย พวกนายไม่อยากได้โอกาสในการสอบผ่านเหรอ?”

“…”

“เงียบเเบบนี้ คงงงสินะ งั้นมองขึ้นไปบนนั้นสิ”

ผมชี้นิ้วไปยังภาพที่ฉายอยู่ข้างบนหัว ในนั้นมีรายชื่อของผู้เข้าสอบกลุ่ม A ทั้งหมด มันเเสดงทั้งชื่อ จำนวน เเละผู้ตกรอบด้วย

 

“จากการต่อสู้ไม่เเบ่งฝ่าย ก็ตกรอบไปเเล้ว 40 คน อีกทั้ง…”

(ต้านเวทย์)

“จะมีคนตกรอบเพิ่มขึ้นอีก”

ผมหยิบเศษกินที่เเตกกระจายบนพื้นโยนขึ้นไปบนอากาศโจมตีใส่วิหคเพลิงจิ๋วที่เหลือรอดจากการอัญเชิญครั้งเเรกของมัสเเตงจนร่างกายของมันสลาย ผมหันมามองพวกเขาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

 

“ฉันจะให้โอกาสพวกนาย เลือกสิจะปกป้องคุณชายเหนือหัว หรืออยากผ่านเข้ารอบโดยไม่ต้องสู้กับฉัน”

“หยุดพล่ามเรื่องสาระซะ ไอ้คนไม่รู้จักที่ต่ำ!”

ในขณะที่ผมกำลังพูดเพื่อโน้มน้าว ก็มีใครที่ผมจำหน้าไม่ได้ถือดาบยาววิ่งเข้ามาประชิดผม เขาตั้งใจจะใช้โอกาสที่ผมประมาทเล่นงานผมทีเผลอ

 

“เอ้า คนที่ 41”

ผมฟังจากที่มาของเสียงก็คาดการณ์ได้อยู่เเล้วว่าเขาจะลอบโจมตีผม ไม่ต้องหันไปมอง หมัดของผมก็เหวี่ยงเขาหน้าของเขาจนกระเด็นไปชนขอบสนาม ทิ้งดาบยาวไว้บนพื้นเป็นของต่างหน้าก่อนตกรอบ

 

“ตอนนี้เหลือ 9 คนเเล้วนะ พวกนายยังอยากจะเสียโอกาสอีกเหรอ นี่พวกนายจะได้โควตาเพิ่มอีก 3 คนเลยนะ ถ้าพวกนายเเค่นั่งอยู่นิ่งๆ เเละปล่อยให้ฉันลงมือจัดการ เเต่ถึงอยากที่จะเข้ามามีส่วนร่วมเป็นนายกล้าตายเพื่อองค์ชาย เเต่พวกนายคงไม่ได้อยากลิ้มรสหมัดสยบมังกรของฉันหรอก ใช่ไหม?”

“ขอเตือนไว้เลยนะ ว่าไอ้เมื่อกี้อ่ะ สาธิต เอาจริงฉันอาจจะทำต่อยเข้าที่ซี่โครงจนหักเลยก็ได้ พอคิดว่าเป็นเเบบนั้นเเล้ว น่าจะเจ็บมากน่าดู”

ผมปล่อยจิตสังหารบางเบาให้พวกเขารับรู้ได้ถึงความจริงใจ บรรยากาศรอบตัวกดดันจนไม่มีใครกล้าเดินออกจากที่ สักพักทุกคนก็นั่งลง เเละพยายามคุมร่างกายให้หายสั่นกลัว

 

เเปะๆ

“ยอดเยี่ยม เเบบนี้สิ ถึงจะฉลาดสมกับเป็นคนที่จะได้ผ่านเข้าเรียนที่สถาบันเเอสทาเรีย”

ผมสบมือ เเละยิ้มกว้างสะใจอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นผมจึงหันหลังก้มลงไปหยิบดาบยาวที่ถูกทิ้ง เเล้วเดินตรงเข้ามาหามัสเเตงที่นอนนิ่งอย่างน่าสมเพช ก่อนที่ก้มลงไปมองใบหน้าที่ดูไม่ได้ของเขาใกล้ๆ

 

(สุดท้ายเเล้ว มันก็ไม่มีอะไรเป็นของนายได้หมดหรอกนะ ไอ้เจ้าชายขยะ)

ผมยิ้มให้เขาเห็นถึงความอัปยศที่เขาได้รับจากผม จากนั้นจึงลุกขึ้นโยนดาบขึ้นไปเหนืออารีน่า จนผู้ชมต่างมองดาบยาวที่ล่องลายอยู่บนอากาศอย่างไม่ละสายตา หลังจากที่มันลอยขุ้นไปสูงระดับหนึ่ง ตัวดาบก็ค่อยๆ หมุนตกลงมา

 

“ไว้มาสอบซ้ำนะ ฝ่าบาท”

ผมหันเดินเดินจากมัสเเตงโดยไม่หันกลับมองเขา ผมจะรอฟังเสียงประกาศความพ่ายเเพ้ของเขาจากพิธีกรเอง ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่รอดเนื่องจากผมได้หักเเขน เเละขาจนใช้งานไม่ได้เเล้ว บวกกับสภาพร่างกายที่อ่อนเเอจากการต่อสู้กับผม ขอเพียงเเค่คมดาบได้สัมผัสตัวเขาละก็ยังไงเเหวนระบุตัวตนก็จะทำงาน เเละทำให้เขาตกรอบอย่างเเน่นอน ยกเว้นอย่างเดียวคือ เขาจะไปถึงขั้นตอนสุดท้ายที่จะทำให้เเผนการของผมเสร็จสมบูรณ์

 

ดาบยาวค่อยๆ ดิ่งลงมา มันกำลังจะตกลงทิ่มเเทงกลางอกของเขา อีกไม่เกินหนึ่งเมตรเขาก็จะตกรอบเเล้ว มัสเเตงที่เห็นดังนั้นจึงเร่งพลังเวทย์ในร่างกายจนถึงขีดสุด ซิกม่าที่อยู่ในมือของเขาก็สว่างขึ้นจนเกิดเป็นลวดลายชัดเจน เสียงกู่ร้องเเห่งความโกรธของเขาได้ส่งเสียงเรียกเส้นเพลิงสีทองจากท้องฟ้าเข้าทำลายดาบยาวจนมอดไม้เป็นธุลีในอากาศ เเละพุ่งเข้าใส่มัสเเตงที่นอนอยู่

 

“ฉันจะไม่อภัยให้เเกที่ดูถูกฉันเด็ดขาด! ไอ้สามัญชนชั้นต่ำ!!!”

มัสเเตงลุกขึ้นยืนดด้วยร่างกายที่ห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีทองอันลุกโชก ร่างกายของเขากำลังถูกรักษาจนกลับมาเป็นปรกติ ทันทีที่มัสเเตงได้ยื่นมือทั้งดาบตั้งท่าที่ดาบ เปลวเพลิงสีทองก็ร่วมตัวกันปรากฏขึ้นมาเป็นดาบสีทองบริสุทธิ์ที่เต็มไปด้วยลวดลายของนกอมตะที่มีดวงตาสีเเดงหย่อหยิ่งมองมาทางผมด้วยความสง่าราศี

 

(มาเเล้วสินะ ดาบเพลิงสวรรค์ เซเบอร์ (Saber) )

ผมสัมผัสได้ถึงความร้อนผิดปรกติจึงหันหลังมาดู เเละพบกับมัสเเตงที่กำลังถือเซเบอร์อันลุกโชก เเต่ผมกลับไม่มีท่าทีที่จะเกรงกลัวต่อมันเลย ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้ขั้นตอนสุดท้ายของเเผนการอันไร้ที่ติของผมสำเร็จเรียบร้อย

 

“ฮ่าๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ”

“หัวเราะอะไรของเเก!”

“กฎข้อที่ 1 ห้ามใช้อาวุธอื่นนอกจากของที่จัดเตรียมมา…”

ผมชูนิ้วชี้เเสดงให้เห็นถึงเลข 1 ต่อหน้ามัสเเตงที่หลงกล เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่ผมพูดออกมา ม่านตาของเขาก็กดลง เเววตาที่มองผมด้วยความเกลียดชังก็ถูกเเทนที่ด้วยความสิ้นหวังเเทน เมื่อผมได้เห็นถึงความน่าสมเพชนั้น จากเลขหนึ่งของผมที่นิ้วชี้ก็ได้สลับมานิ้วกลางเเทน

 

“ไอ้งั่งเอ้ย!”

—

** นี่สรุปตัวร้าย หรือพระเอกนิ -.-

ยังไงขอให้มีความสุขกับปีใหม่นะครับ**

 

 

 

 

 

Prev
Manga Info
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 13 Route two สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (6)"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved