หวนแค้นชะตารัก - ตอนที่ 508 ช่วยชีวิตกู้จื่อหยวน ตอนที่ 509 มู่เจี๋ยกลับจวน
ตอนที่ 508 ช่วยชีวิตกู้จื่อหยวน
ซูจิ่วซือพยักหน้า หลังจากมู่หยางเกิดเรื่องขึ้น มู่เจี๋ยอยู่ต่างถิ่นพอรู้ข่าวก็รีบกลับมา อีกสองวันคงจะถึงตูเฉิง
มู่เจี๋ยเป็นลูกชายคนเล็กของมู่อวิ๋นชาง ปีนี้เพิ่งอายุสิบแปดปี เล่ากันว่าเขาเป็นคนเจ้าความคิดที่สุดในบรรดาลูกทั้งสาม และฉลาดที่สุด ติดตามอาทำการค้าอยู่ต่างถิ่น ดูแล้วน่าจะเป็นคนที่คบหาสมาคมกับผู้คนกว้างขวาง
เวลานี้ฮูหยินมู่ยังไม่รู้ว่ามู่หยางเกิดเรื่องขึ้น สักวันหนึ่งนางคงจะรู้ ไม่อาจปิดบังไปตลอด ฮูหยินมู่ทุ่มเทความคิดให้สามีและลูก ไม่รู้ว่าฮูหยินมู่จะทนรับความเจ็บปวดอย่างนี้ได้หรือไม่
พอนึกถึงเรื่องเหล่านี้ ซูจิ่วซือก็เป็นห่วงฮูหยินมู่
กู้จื่อหยวนตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดเมื่อยทั้งตัว เขาถูกกระบี่แทงที่ท้องและลื่นตกลงไปในทะเลสาบ เดิมทีเขาคิดว่าตนคงจะตายแน่ นึกไม่ถึงว่าจะรอดชีวิต
เขาลืมตาขึ้น ภาพที่เห็นเป็นห้องแปลกตา ในนั้นเก็บกวาดสะอาดเรียบร้อย บนตัวมีผ้าห่มคลุมอยู่ พอดูก็รู้ว่าเป็นครอบครัวตระกูลใหญ่ เขาตะกายจะลุกขึ้น แต่รู้สึกว่าไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย ได้แต่นอนนิ่งอยู่บนเตียง
พอถึงตอนนี้ประตูห้องก็มีเสียงคนผลักเข้ามา เขามองไปที่ประตู เห็นฟู่เยว่อี้เดินเข้ามา เข้าเข้าใจทันที คนที่ช่วยเขาก็คือฟู่เยว่อี้
“ขอบใจที่ช่วยชีวิตข้า”
กู้จื่อหยวนรีบพูด
ฟู่เยว่อี้ส่งเสียงสดใส ใบหน้างดงามนั้นมีรอยยิ้มร่าเริง “เป็นเพราะชะตาเจ้ายังไม่ถึงฆาต ไม่งั้นข้าคงช่วยเจ้าไม่สำเร็จ ข้าสืบแล้ว คนที่จะฆ่าเจ้าก็คือคนวังตะวันออก แสดงว่าองค์รัชทายาทตัดสินใจทิ้งน้องชายอย่างเจ้าแล้ว”
กู้จื่อหยวนยิ้มหยัน “เขาไม่เคยเป็นพี่น้องข้า ที่เขาทำอย่างนี้เป็นเรื่องธรรมดาจริงๆ”
“คุณชายกู้ก็อย่าคิดมากเกินไป สงบใจรักษาตัว พอถึงตอนนั้นข้าจะให้คนส่งคุณชายกู้กลับจิงเฉิง ไม่ว่าอย่างไร คุณชายกู้ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”
“ข้าไม่อยากกลับไป ข้าต้องการฆ่าฟู่เฉินหรง”
ดวงตากู้จื่อหยวนฉายแววแค้นล้ำลึก
ฟู่เยว่อี้ส่ายหน้าอย่างเสียดาย “คุณชายกู้ เวลานี้เจ้าฆ่ารัชทายาทไม่ได้ แม้แต่จะเข้าใกล้ยังเป็นไปไม่ได้ ที่นี่คือแคว้นเจียง เจ้าอยู่ที่นี่แม้แต่จะเอาชีวิตรอดยังยาก เจ้าเคยร่วมมือกับข้า เราสองคนมีศัตรูร่วมกัน ข้าช่วยเจ้าเป็นเรื่องสมควร
คุณชายกู้ควรรีบกลับจิงเฉิง ที่นั่นต้องการคุณชายกู้ไปใช้ความสามารถ
กู้ชิงเฉิงกับซูเหิงยังอยู่ที่จิงเฉิง สองคนนี้แม้ไม่ใช่คนที่รัชทายาทใส่ใจ แต่เป็นคนที่ซูจิ่วซือใส่ความสัมพันธ์ระหว่างรัชทายาทกับซูจิ่วซือเจ้าก็รู้ดี ถ้าควบคุมสองคนนี้ได้ รอโอกาสเหมาะ ก็สามารถแก้แค้นพวกเขาได้”
กู้จื่อหยวนเข้าใจความหมายของฟู่เยว่อี้ และรู้สึกว่าฟู่เยว่อี้พูดถูก เขาอยู่ที่แคว้นเจียงไม่อาจทำอะไรได้ แต่ที่จิงเฉิงเขาทำได้ พอกลับจิงเฉิง เขาก็ยังมีตระกูลกู้
เวลานี้กู้ชิงเฉิงเป็นกุ้ยเฟย เขาแตะต้องกู้ชิงเฉิงไม่ได้ แต่ซูเหิง…
พอนึกถึงซูเหิง ดวงตาของเขาก็ฉายแววอำมหิต ซูเหิงเป็นน้องชายคนเดียวของซูจิ่วซือ ถ้าเช่นนั้นเขาจะเริ่มจากจัดการซูเหิงก่อน
พอเห็นกู้จื่อหยวนมีความคิดจะฆ่า ฟู่เยว่อี้ก็พูดต่อ “ซูเหิงเวลานี้เป็นอันผิงโหว และเป็นที่ไว้วางพระทัยของฮ่องเต้ ถ้าบุ่มบ่ามลงมือคงไม่ดีแน่
คุณชายกู้ อย่าทำอะไรโง่ๆ พอถึงตอนนั้นจะเป็นภัยต่อตัวเองและคนอื่น เกิดความเสียหายทั้งสองฝ่าย ได้ข่าวว่าซูเหิงยังไม่ได้แต่งงาน แทนที่จะฆ่า ควบคุมเขาดีกว่า”
กู้จื่อหยวนมองหน้าฟู่เยว่อี้อย่างครุ่นคิด “องค์หญิงมีแผนอะไรดีๆ?”
ตอนที่ 509 มู่เจี๋ยกลับจวน
ฟู่เยว่อี้พูดยิ้มๆ “แผนดีๆ ยังไม่มี เพียงแต่ข้ารู้จักแม่นางคนหนึ่งหน้าตาสวยเด่น อายุถึงคราวแต่งงาน กำลังหนักใจที่ไม่พบคนที่คู่ควร นางอยากแต่งงานไปอยู่แคว้นเว่ย คุณชายกู้โปรดช่วยจัดการด้วย”
“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา องค์หญิงมีน้ำใจจริงๆ”
กู้จื่อหยวนรับปากทันที ฟู่เยว่อี้ช่างฉลาดจริงๆ ในเมื่อสวรรค์ให้เขารอดชีวิต เขาไม่ยอมเลิกราแน่ ต้องแก้แค้นให้เฝิงชิง
“คุณชายกู้รักษาอาการบาดเจ็บก่อน เรื่องอื่นอย่าเพิ่งคิดมาก สุขภาพสำคัญที่สุด” ฟู่เยว่อี้สีหน้าห่วงใย “คุณชายกู้บาดเจ็บหนัก รักษาด้วยโสมคนพันปีจึงรอดชีวิตมาได้
รัชทายาทคงคิดว่าคุณชายกู้ตายที่ตูเฉิงแล้ว ตั้งแต่นี้ไปการเคลื่อนไหวของคุณชายกู้ต้องปิดเป็นความลับ ไม่เช่นนั้นเกรงว่าจะถูกรัชทายาทจัดการ เวลานี้คุณชายกู้ต้องสะกดใจไว้”
“องค์หญิงไม่ต้องเป็นห่วง ข้าทำตามที่องค์หญิงบอก”
กู้จื่อหยวนซาบซึ้งในตัวฟู่เยว่อี้มาก ถือนางเป็นผู้มีบุญคุณ ยอมรับข้อเสนอทุกอย่างของฟู่เยว่อี้ เวลานี้ในใจของกู้จื่อหยวนเต็มไปด้วยความแค้น ในตัวเขาไม่มีเงาในอดีตเหลือแม้แต่น้อย
เขาคิดแต่ว่าจะแก้แค้นฟู่เฉินหรงกับซูจิ่วซือโดยไม่คำนึงถึงค่าตอบแทน มีแต่อย่างนี้เท่านั้น เขาจึงจะสบายขึ้น เขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว ไม่มีอะไรจะสูญเสียอีก
พอเห็นกู้จื่อหยวนอยู่ภายใต้การควบคุมของตนอย่างมั่นคง ฟู่เยว่อี้ก็พอใจมาก ครั้งนี้โชคดีที่คนตระกูลเฟิงช่วยนาง กู้จื่อหยวนเป็นเบี้ยที่เหมาะจริงๆ การต่อสู้ในครอบครัวเป็นเรื่องน่าดูที่สุด
ครั้งนี้ถือว่านางพบคู่ต่อกรแล้ว แต่นางไม่รู้สึกว่าตนจะแพ้ซูจิ่วซือ ใช่สิ ยังมีเฟิงชิงสุ่ยอีกคนหนึ่ง ตูเฉิงคึกคักจริงๆ นานแล้วที่ไม่คึกคักอย่างนี้
ผู้หญิงสามคนออกโรง สุดท้ายใครจะเป็นผู้ชนะ?
นางตั้งตารอคอย และอยากรู้ตอนจบจริงๆ ถ้านางเป็นผู้ชนะ นางจะฆ่าซูจิ่วซือด้วยมือตนเอง
จวนตระกูลมู่
ซูจิ่วซือกำลังอยู่ที่ลานหน้าเรือนหวนคะนึงมองดูเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเบื้องหน้า เด็กหนุ่มอายุยังน้อยสวมเสื้อคลุมสีเขียวเข้ม ท่าทางคล่องแคล่วหนักแน่น ไม่เหมือนเด็กหนุ่มอายุสิบแปดสักนิด
เขาคือมู่เจี๋ย
เขาอายุใกล้เคียงกับซูเหิง แต่ความเป็นเด็กหนุ่มของซูเหิงชัดเจนกว่ามาก ซูเหิงเป็นคนวู่วาม มู่เจี๋ยกลับควบคุมตนเองได้ดี
มู่เจี๋ยเป็นเด็กหนุ่มที่เป็นผู้ใหญ่ ความหนักแน่นของเขาแตกต่างจากความซื่อๆ ของมู่หย่ง มีความเจ้าเล่ห์เล็กน้อย แม้หน้าตายังหนุ่ม แต่ไม่อาจดูแคลนได้
“เจ้าเป็นน้องสาวของข้า?”
มู่เจี๋ยก็มองดูซูจิ่วซือ ยิ้มให้ซูจิ่วซือ เขารู้มาก่อนแล้วว่าพบน้องสาวที่หายไปแล้ว เขาไม่ได้กลับจวนเลย พอกลับคราวนี้ก็รีบมาดูน้องสาว นึกไม่ถึงว่าแม่นางคนที่อยู่ข้างหน้าแตกต่างจากที่เขาคิดอย่างสิ้นเชิง
เขาไม่มีภาพประทับของน้องสาว จำได้เลือนรางว่าน้องสาวร้องไห้เก่ง
เขาอยู่ต่างถิ่นมาตลอด คบหาสมาคมกับผู้คนมากมาย พอเห็นซูจิ่วซือก็รู้ทันทีว่าเป็นแม่นางที่มีเล่ห์เหลี่ยมล้ำลึก ไม่มีความไร้เดียงสาของคนวัยนี้ แต่กลับมีความสงบเยือกเย็นอย่างที่ไม่ควรมี
ชั่วพริบตา เขาก็สงสัยว่าซูจิ่วซือเป็นน้องสาวของเขาจริงหรือ ดูสภาพเวลานี้ ไม่เหมือนน้องสาวของเขาจริงๆ
“พี่สาม”
ซูจิ่วซือยิ้มพลางพยักหน้าให้มู่เจี๋ย ทันทีที่เห็นมู่เจี๋ย ซูจิ่วซือก็มั่นใจว่าคำร่ำลือเป็นความจริง นี่คือลูกชายที่ฉลาดที่สุดของตระกูลมู่
“เรื่องราวทั้งหมดข้าได้ยินแล้ว เมื่อกี้ข้าไปพบท่านพ่อ”