cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

หลังจากช่วย [องค์หญิงน้ำแข็ง] จากโรงเรียนอื่น เราก็เริ่มต้นด้วยการเป็นเพื่อนกันล่ะครับ - ตอนที่ 26 เจ้าหญิงน้ำแข็งและความปรารถนาอันแรงกล้า――

  1. Home
  2. All Mangas
  3. หลังจากช่วย [องค์หญิงน้ำแข็ง] จากโรงเรียนอื่น เราก็เริ่มต้นด้วยการเป็นเพื่อนกันล่ะครับ
  4. ตอนที่ 26 เจ้าหญิงน้ำแข็งและความปรารถนาอันแรงกล้า――
Prev
Next

「ท… ทำไมแม่ถึงรู้ได้ล่ะ?”

 

ถูกจับได้ว่าผมเคยให้ชิโนโนเมะทำอาหารให้ จะโกหกกลบเกลื่อนก็คง… ไม่สิ เป็นไปไม่ได้เลย

นั่นแหละคือเหตุผลที่ผมหลุดปากถามออกไป

 

“ง่ายมากเลยจ้ะ เพราะตำแหน่งเครื่องปรุงมันไม่เหมือนกับที่บ้านเราเลยน่ะสิ… เรื่องแบบนี้มันเห็นชัดเจนจากนิสัยที่ติดตัวมาจากบ้านไงล่ะ ว่าไงล่ะ? ใช่มั้ยจ๊ะ นากิ?”

 

นากิหันมามองผมด้วยสายตากล้ำกลืนเล็กน้อย ผมได้แต่พยักหน้าเบาๆ

 

“ค…ค่ะ แต่จะว่าไป ฉันทำเองโดยไม่ได้ปรึกษาเลยนะคะ จริงๆ แล้วเพราะฉันได้รับความช่วยเหลือจากโซตะคุงเยอะมาก ก็เลยตอบแทนแบบนี้…ช่วยอย่าดุโซตะคุงมากเกินไปนะคะ”

 

ชิโนโนเมะพูดอย่างนั้นออกมา… เธอเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นมากจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็รู้ตัวว่าผมสมควรถูกดุ

 

“…ชิโนโนเมะ เธอช่วยดูแลเรื่องอาหารของฉันเพราะเป็นห่วงใช่ไหม ขอโทษนะ แม่ครับ ผมซ่อนความจริงไว้ แต่ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ผมไม่ได้ทำอาหารกินเองเลยครับ”

 

ผมก้มหัวขอโทษแม่ สักพักเสียงถอนหายใจของแม่ก็ดังขึ้น

 

“เฮ้อ…ช่วยไม่ได้นะ… ก็เป็นครั้งแรกที่ลูกได้อยู่คนเดียว มีเรื่องโรงเรียนอีก แม่ไม่ดุหรอกนะ แต่เอาเถอะ นากิจัง ขอบใจมากนะที่ช่วยดูแลลูกชายแม่”

 

“ม…ไม่ค่ะ จริงๆ ฉันเองก็ได้รับความช่วยเหลือเยอะเหมือนกันค่ะ”

 

แม้ชิโนโนเมะจะพูดอย่างนั้น…แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าไม่มีทางเถียงเธอได้เลย

 

“…อีกอย่างนะ จะบอกให้ฟัง ผมถึงขั้นได้รับความช่วยเหลือเรื่องข้าวกล่องด้วยครับ”

 

“นากิจัง ไหวไหม? ถ้ารู้สึกว่าเป็นภาระหนักไปบอกได้นะ”

 

“ไม่ค่ะ การทำข้าวกล่องหรืออาหารก็เพราะฉันอยากทำเองด้วยล่ะค่ะ มันสนุกนะคะ โซตะคุงเองก็บอกว่าอร่อยตลอด ก็เลยรู้สึกคุ้มค่าที่ทำค่ะ”

 

เมื่อชิโนโนเมะพูดจบ แม่ก็หัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน

 

“งั้นนากิจังเก่งทำอาหารมากเลยสินะ”

 

คำพูดนั้นทำให้ทั้งผมและชิโนโนเมะงงไป แต่แม่ก็อธิบายต่อ

 

“เจ้านี่น่ะ เป็นคนตรงไปตรงมามาก ถ้าอาหารอร่อยก็จะบอกว่าอร่อย แต่ถ้าไม่ก็เห็นชัดเลย ทั้งความเร็วในการกิน ทั้งสีหน้า ทุกอย่างต่างกันหมด”

 

“งั้นเหรอครับ!?”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินแบบนี้ พอแสดงความตกใจ แม่ก็พยักหน้ารับ

 

“อาหารสำเร็จรูปหรือของแช่แข็งก็ชัดเจนมาก อาจเพราะเจ้าตัวชอบอาหารที่แม่ทำเองด้วยมั้ง ถึงทำหน้าบึ้งตึงตอนกิน พอเป็นแบบนั้น แม่ก็เลยลงมือทำเองถึงแม้ไม่มีเวลา”

 

“…ไม่เคยรู้เลยครับ”

 

นั่นหมายความว่า การที่ผมหลุดพูดว่าอร่อยเวลาทานอาหารหรือข้าวกล่องของชิโนโนเมะในช่วงนี้…เป็นนิสัยที่ติดมานานแล้วสินะ

 

ชิโนโนเมะที่ได้ฟังเรื่องของแม่ ทำหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะจ้องผมแล้วหัวเราะออกมา

 

“โซตะคุงกับฉันนี่ เหมือนกันเลยนะคะ… รู้สึกดีจังค่ะ เพราะฉันเคยคิดว่าโซตะคุงพูดไปงั้นๆ ซะอีก”

 

“ไม่มีทางหรอก”

 

ถึงอย่างนั้น การถูกเรียกชื่อเต็มตรงๆ ก็ทำให้รู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ

 

“ใช่แล้ว โซตะน่ะเป็นคนตรงทั้งในแง่ดีและไม่ดี นากิจังเองก็ถ้ามีคนชม ก็รับไว้ด้วยใจจริงจะดีกว่านะ”

 

“ค…ค่ะ…”

 

เมื่อแม่พูดจบ ชิโนโนเมะก็หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยแล้วพยักหน้า สงสัยว่าเธอจะนึกถึงเรื่องอะไรอยู่…แต่ตัวเลือกมันเยอะจนเดาไม่ถูก

 

“อย่างที่คิดเลย ถ้าขาดนากิจัง โซตะคงอยู่ไม่ได้แล้วล่ะ”

 

“ผมไม่มีข้อโต้แย้งเลยครับ”

 

จะว่าไป ชีวิตผมเหมือนจะถูกชิโนโนเมะจับไว้หมดแล้วจริงๆ และถ้าต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม…คงเป็นไปไม่ได้ที่จะพยักหน้า [TLN:มันอยุ่ในแผนทำให้แกขาดเขาไม่ได้ไง]

 

แม้ว่าตอนนั้น ผมจะคิดว่า “ชีวิตแบบนี้” มันไม่ได้แย่ แต่ชอบด้วยซ้ำ

 

พอคิดอย่างนั้นแล้วหันไปมองชิโนโนเมะ เธอกลับทำหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ดูจริงจังกว่าปกติ

 

“มีอะไรเหรอ? ชิโนโนเมะ”

 

“ไม่ค่ะ…แค่คิดว่า ต้องรีบจัดการบางเรื่อง…”

 

สีหน้าของเธอจริงจังมากจนผิดปกติ

 

“ถ้ามีอะไร ปรึกษาได้นะ”

 

ผมพูดออกไปตามใจตัวเอง แต่ชิโนโนเมะเพียงยิ้มแล้วส่ายหน้า

 

“ไม่ค่ะ นี่เป็นปัญหาของฉัน… และยังปรึกษากับเพื่อนสนิทไม่กี่คนอยู่บ้าง เลยไม่มีปัญหาค่ะ”

 

“งั้นเหรอ? ถ้าไม่มีปัญหาก็ดีแล้ว”

 

เมื่อเธอดูไม่อยากให้ผมถามต่อ ผมจึงเลือกที่จะตัดบทสนทนา

 

ตอนนั้นเอง แม่ก็เริ่มพูดกับเราสองคน

 

“…เอาเถอะ ถ้านากิจังอยู่ด้วย แม่ก็วางใจได้ งั้นแม่จะไปทำอาหารแล้ว รอกันหน่อยนะ”

 

“ครับ ขอบคุณครับ”

 

จากนั้นก็มื้อกลางวันที่รอคอย…

 

◆◆◆

 

มื้อกลางวันคือไก่คาราอาเกะ อาหารฝีมือแม่ชวนให้ระลึกถึงอดีต ทั้งยังอร่อยมากจนไม่มีคำบรรยาย แม้จะทำมาเยอะขนาดไหน แต่ก็ถูกกินหมดเกลี้ยงอย่างง่ายดายโดยมีชิโนโนเมะร่วมยืนยันในความอร่อย

 

และตอนนี้…เรากำลังทำอะไรกันอยู่น่ะเหรอ?

 

“นี่เป็นอัลบั้มของโซตะตอนที่ยังเป็นเด็กประถมนะ”

“ว้าว! เด็กคนนี้คือโซตะเหรอคะ? น่ารักมากเลย!”

 

แม่กำลังพาเราดูอัลบั้มภาพเก่าๆ ซึ่งทำให้ผมรู้สึกเขินจนแทบมุดดินหนี

 

“โซตะน่ะนะ ตอนเด็กๆ แทบไม่มีเพื่อนเลยล่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน”

“คงเพราะผมชอบอยู่คนเดียวมากกว่า…แบบว่า การปรับตัวเข้ากับคนอื่นมันเหนื่อย”

“โตเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่เด็กเลยนะคะ…อ๊ะ นี่รูปถ่ายงานวิ่งผลัดหรือเปล่าคะ?”

 

ชิโนโนเมะชี้ไปที่รูปถ่าย ซึ่งผมจำได้ว่าเป็นตอนเรียนอยู่ชั้นประถมปีสอง

 

“ใช่เลย โซตะน่ะวิ่งเร็วมากเลยนะ งานกีฬาสีเขาเป็นคนวิ่งคนสุดท้ายตลอดเลย ตอนนั้นเขาวิ่งแซงจากที่โหล่ขึ้นมาคว้าที่หนึ่งได้ด้วยล่ะ”

“เรื่องแบบนั้นก็เคยมีนะ”

 

ผมพยักหน้ารับ พลางคิดถึงความทรงจำเก่าๆ สมัยที่ผมต้องวิ่งเป็นคนสุดท้ายทุกปี

 

แต่แล้วแม่ก็ทำหน้าตาราวกับเพิ่งนึกอะไรออก ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์

 

“และเพราะแบบนั้นไง โซตะถึงได้เป็นที่หมายปองเลยนะ ตอนงานกีฬาสีจบทีไร ก็มีแต่คนมาห้อมล้อมตลอดเลยล่ะ ดูเหมือนจะวุ่นวาย แต่ก็เหมือนจะแอบดีใจอยู่ด้วยนะ”

 

“…เหรอคะ”

 

ผมรู้สึกเย็นวาบที่หลัง เมื่อหันไปเห็นสายตาคมกริบของ “เจ้าหญิงน้ำแข็ง” ชิโนโนเมะ ที่จ้องมองมา

 

“อ-แต่…มันก็แค่เดือนเดียว ทุกคนก็เลิกสนใจแล้ว!”

“เดือนเดียว…เหรอคะ? เลิกสนใจโซตะคุง? ช่างน่าประหลาดใจ”

 

เดี๋ยวสิ ทำไมผมถึงพูดเหมือนแก้ตัวแบบนั้นล่ะ? แล้วทำไมชิโนโนเมะถึงดูไม่พอใจ?

 

“ช่างเถอะ…อ๊ะ นี่ไง ละครโรงเรียนตอนเด็กๆ”

 

ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง พยายามเบี่ยงเบนความสนใจโดยชี้ไปที่รูปภาพในอัลบั้ม

 

“…ต้นไม้เหรอคะ?”

“ใช่ ต้นไม้”

“ทำไมถึงเป็นต้นไม้ล่ะคะ?”

“มันเป็นบทที่ให้เด็กที่ไม่ถนัดการแสดงน่ะ มีบทเป็นต้นไม้กับหินอะไรพวกนั้น หลังจากรุ่นเราเรียนจบไปก็โดนยกเลิกเพราะมีผู้ปกครองมาร้องเรียน”

 

ชิโนโนเมะยังดูสงสัยเล็กน้อย แต่เธอก็ยอมเปลี่ยนความสนใจกลับมาดูอัลบั้มต่อ

 

“นี่เป็นตอนขึ้นมัธยมต้นใช่ไหมคะ?”

“ใช่แล้วล่ะ…ช่วงนั้นโซตะก็ยังไม่มีเพื่อนเหมือนเดิม แม่ยังแอบเป็นห่วงเลยนะ”

“ก็ผมชอบอยู่คนเดียวไง ตอนนั้นอ่านหนังสืออย่างเดียวเลย”

 

ผมตอบด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย

 

แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ตอนนั้นผมแค่ไม่รู้ว่าการมีเพื่อนมันสนุกแค่ไหน

 

“…พอฟังแบบนี้แล้ว ฉันก็รู้สึกเหมือนเข้าใจเลยค่ะ เพราะฉันเองก็เคยอยู่คนเดียวมาตลอด”

 

คำพูดของชิโนโนเมะเต็มไปด้วยความเศร้า

 

…จริงสิ ชิโนโนเมะเคยบอกเองว่าเธออาจเป็นคนขี้อ้อน

 

เธอไม่เหมือนผม เธอไม่ชอบอยู่คนเดียว และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่เธอดูสดใสขึ้นหลังจากที่เราสนิทกัน

 

“แต่ตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่คนเดียวแล้วล่ะ”

“ค่ะ! จริงด้วยค่ะ!”

 

รอยยิ้มของชิโนโนเมะกลับมาอีกครั้ง แม้จะมีเงาเล็กน้อยปรากฏขึ้นในแววตาของเธอ

 

“ฉันจะต้องไม่กลับไปอยู่คนเดียวอีกแล้วค่ะ ฉันจะพยายามให้เต็มที่”

“…ชิโนโนเมะ?”

“ไม่มีอะไรค่ะ”

 

เธอส่ายหน้า แล้วก้มมองอัลบั้มต่อ

 

“มองดูแล้ว…ฉันรู้สึกว่าโซตะคุงค่อยๆ เปลี่ยนไปในแต่ละปีเลยนะคะ”

“ก็นั่นมันฉันนี่”

 

ผมหัวเราะเบาๆ และพลิกหน้าต่อไป

 

“น่าคิดถึงจริงๆ เลย”

 

…แต่แล้วแม่ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ และถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็น

 

“ว่าแต่ การสอบครั้งล่าสุดเป็นยังไงบ้าง?”

 

ทันใดนั้น ผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย…

 

“รอสักครู่นะครับ”

 

ผมลุกขึ้นไปที่ห้องนอน หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา แล้วเดินกลับมาที่ห้องนั่งเล่น จากนั้นยื่นกระดาษนั้นให้แม่

 

“ที่หนึ่ง! สุดยอดเลย! มานี่หน่อยสิ”

 

แม่ยื่นแขนออกมาทั้งสองข้าง

 

“คือว่า…ผมเป็นนักเรียนมัธยมปลายแล้วนะครับ มันออกจะน่าอายไปหน่อย อีกอย่าง ชิโนโนเมะก็อยู่ด้วย”

“ไม่ได้หรอก นี่มันกฎของบ้านเราไม่ใช่เหรอ? ‘เด็กที่พยายามอย่างหนักต้องได้รับคำชมจากพ่อแม่อย่างเต็มที่’ มาเถอะ มานี่เร็วๆ”

 

“แต่ว่า…”

 

ผมลังเลอยู่สักพัก ก่อนที่แม่จะหันไปหาชิโนโนเมะที่ยังคงเอียงคอมองมาด้วยความสงสัย

 

“ว่าแต่ ชิโนโนเมะล่ะจ๊ะ ผลสอบเป็นยังไงบ้าง?”

“เอ๋? ฉันเหรอคะ? ได้ที่หนึ่งค่ะ”

 

“เก่งมากเลย! ถ้าอย่างนั้น ชิโนโนเมะก็ต้องได้รับคำชมเยอะๆ ด้วยเหมือนกัน มาเถอะ มาทั้งสองคนเลย”

 

แม่พูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น ขณะที่อ้าแขนกว้างรออยู่

 

ผมมองไปที่ชิโนโนเมะ เธอยังคงทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจสถานการณ์

 

“แม่เป็นแบบนี้แหละ ถ้าเธอไม่อยากทำให้แม่เสียใจ ฉันคิดว่าคงต้องยอมแล้วล่ะ ช่วยอดทนหน่อยนะ”

 

“เอ๊ะ? อดทน…เหรอคะ? เอ่อ หมายถึง…ฉันจะได้ใกล้ชิดกับคุณมากขึ้นใช่ไหมคะ?”

 

ผมสะดุ้งเล็กน้อยกับคำตอบที่ไม่คาดคิด ก่อนจะหัวเราะแห้งๆ

 

“…ใช่ ช่วยหน่อยนะ”

 

“มาเถอะๆ! แม่รออยู่นะ!”

 

แม่ยิ้มอย่างอารมณ์ดี เราสองคนสบตากัน ก่อนจะยอมเดินเข้าไปหาแม่พร้อมกัน

 

“ดีมากๆ สองคนนี้เก่งที่สุดเลย แม่ภูมิใจมากนะ พวกเธอทำได้ยอดเยี่ยมจริงๆ”

 

แม่ลูบหัวเราเบาๆ พร้อมเอ่ยคำชมไม่หยุด

 

ผมรู้สึกเขินอายจนไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี แต่เมื่อเหลือบมองไปทางชิโนโนเมะ ผมก็เผลอยิ้มออกมา

 

เธอดูมีความสุขมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ

 

และเราก็ปล่อยให้แม่แสดงความรักอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งหัวเราของเราทั้งสองคนยุ่งเหยิงไปหมด

 

“นี่แหละ ที่สุดของการพยายาม!” แม่พูดพร้อมหัวเราะ

 

เป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นเหลือเกิน…

 

“จะกลับแล้วเหรอครับ”

 

“ใช่จ้ะ แค่มาเยี่ยมหน้าแป๊บเดียวเอง ถ้าพ่อของลูกมาด้วย คงจะอยู่ได้นานกว่านี้ แต่ก็ช่วยไม่ได้เนอะ”

 

แม่กำลังจะกลับ ผมกับชิโนโนเมะยืนส่งแม่อยู่ตรงประตู

 

“วันนี้ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะคะ”

 

“แม่ต่างหากที่ต้องขอบคุณ รู้มาว่าลูกช่วยดูแลโซตะตั้งเยอะ… ยังไงก็ฝากโซตะด้วยนะ ถึงจะเหนื่อยหน่อย แต่ขอฝากเขาไว้กับหนูนะ”

 

“ค่ะ! …ฉันเองก็ได้รับความช่วยเหลือจากโซตะคุงเหมือนกัน เราสองคนจะช่วยกันและพยายามไปด้วยกันค่ะ!”

 

คำพูดของชิโนโนเมะทำให้จิตใจผมว้าวุ่นอีกครั้ง ต้องรีบหลับตาเพื่อขจัดความคิดฟุ้งซ่าน

 

“แม่เองก็เดินทางปลอดภัยนะครับ”

 

“จ้ะ ขอบใจนะ โซตะก็รักษาสุขภาพด้วยล่ะ แล้วเจอกันใหม่”

 

“ครับ แล้วเจอกันครับ”

 

“แล้วก็ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ฝากตัวด้วยค่ะ”

 

หลังจากส่งแม่กลับไปแล้ว ผมกับชิโนโนเมะก็นั่งลงบนโซฟา

 

“คุณแม่เป็นคนที่น่ารักมากเลยค่ะ”

 

“ใช่… ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”

 

แม้ว่าผมจะได้ยินเรื่องที่วัยรุ่นหลายคนมีปัญหากับพ่อแม่ แต่สำหรับผมแล้ว ครอบครัวเราไม่ได้มีปัญหาอะไรแบบนั้นเลย ถึงแม้ว่าบางทีแม่จะอบอุ่นเกินไปจนดูน่าลำบากใจนิดหน่อย

 

“แม่ของคุณ…อบอุ่นมากเลยค่ะ เหมือนโซตะคุงเลย”

 

คำพูดนั้นทำให้หัวใจผมเต้นแรงอย่างไม่เป็นจังหวะ

 

“ชิโนโนเมะครับ ตอนนี้แม่กลับไปแล้ว คงจะต้องกลับไปเรียกชื่อแบบปกติแล้ว—”

 

“—เรียกฉันว่านากิ”

 

ชิโนโนเมะขัดจังหวะ พร้อมกับจ้องผมด้วยสายตาจริงจัง

 

“ช่วยเรียกฉันว่านากิทีค่ะ… การเรียกชื่อสกุลกันแบบนี้ มันทำให้ดูเหมือนเราไม่ได้สนิทกันเลย…”

 

เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเขินอาย พร้อมรอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้า

 

“แต่ว่าก่อนหน้านี้คุณเคยบอกว่ามันยากที่จะ—”

 

“นั่นมันก่อนหน้านี้ค่ะ… ตอนนี้เราควรพยายามปรับตัวและทำให้มันเป็นธรรมชาตินะคะ”

 

ผมครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า

 

“นากิ”

 

“ค่ะ โซตะคุง”

 

เธอตอบกลับด้วยใบหน้าแดงก่ำ ผมเองก็รู้สึกเขินเหมือนกัน แต่ขณะเดียวกันก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

 

“โซตะคุง”

 

“นากิ”

 

เราฝึกเรียกชื่อกันอยู่สักพัก จนกระทั่งต่างคนต่างถอนหายใจ

 

“ถึงจะยังไม่ชินเท่าไหร่ แต่เราคงต้องฝึกให้ชินนะคะ”

 

“ใช่… คงต้องอย่างนั้น”

 

หลังจากนั้น เราสองคนเอนตัวพิงโซฟา ผ่านไปสักพัก นากิก็เอนศีรษะพิงมาที่ไหล่ผม

 

เปลือกตาของเธอดูหนักอึ้งเหมือนจะปิดลงได้ทุกเมื่อ… คงเพราะเธอเข้านอนดึกเมื่อคืน

 

“นอนเลยก็ได้นะ”

 

“…ค่ะ”

 

เหมือนครั้งหนึ่งในรถไฟ… หัวใจผมยังคงเต้นเร็ว แต่ไม่เหมือนครั้งนั้นอีกต่อไป

 

“ฝันดีนะ นากิ”

 

“…ฝันดีค่ะ โซตะคุง”

 

นากิเริ่มหลับสนิท ส่งเสียงหายใจเบาๆ ผ่านไปสักพัก ความง่วงก็เริ่มเข้ามาหาผมเช่นกัน

 

ผมไม่ได้ขัดขืน ปล่อยให้เปลือกตาค่อยๆ ปิดลง แล้วผล็อยหลับไปในที่สุด…

 

◆◇◆

 

ลืมถุงใส่ของไว้จนได้ ทั้งที่เพิ่งจะบอกลากันไป แต่ก็ช่วยไม่ได้

 

พอกดกริ่งแล้วไม่มีใครตอบรับ ก็เริ่มแปลกใจ แต่ด้วยความเกรงใจเล็กน้อย ผมจึงใช้กุญแจสำรองไขประตูเข้าไป

 

“…หวังว่าคงไม่ได้กำลังอยู่ในบรรยากาศหวานแหววกับนากิจังหรอกนะ”

 

คิดเช่นนั้นในใจ พร้อมกับหยิบถุงของที่ลืมไว้ตรงครัว แล้วแอบชำเลืองมองไปทางห้องนั่งเล่น

 

“…อะแหม อะแหม”

 

สิ่งที่เห็นคือ สองคนกำลังพิงตัวแนบชิดกันบนโซฟา หลับสนิทพร้อมกับเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ

 

พวกเขาดูคล้ายพี่น้องที่สนิทสนมกัน แต่ขณะเดียวกันก็มีบรรยากาศบางอย่างที่หวานล้ำซึ่งต่างจากความสัมพันธ์แบบพี่น้องโดยสิ้นเชิง

 

“แบบนี้…ดูท่าฉันคงจะได้อุ้มหลานในเร็วๆ นี้แล้วสินะ”

 

เผลอคิดถึงวันนั้นด้วยความรู้สึกที่รอคอยและเต็มไปด้วยความสุขในใจ…

[TLN:แม่เขาอยากอุ้มหลานแล้วหนุ่ม]

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 26 เจ้าหญิงน้ำแข็งและความปรารถนาอันแรงกล้า――"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved