หลังจากช่วย [องค์หญิงน้ำแข็ง] จากโรงเรียนอื่น เราก็เริ่มต้นด้วยการเป็นเพื่อนกันล่ะครับ - ตอนที่ 15 เจ้าหญิงน้ำแข็งมาเยือนที่บ้าน
- Home
- All Mangas
- หลังจากช่วย [องค์หญิงน้ำแข็ง] จากโรงเรียนอื่น เราก็เริ่มต้นด้วยการเป็นเพื่อนกันล่ะครับ
- ตอนที่ 15 เจ้าหญิงน้ำแข็งมาเยือนที่บ้าน
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์
วันนี้เป็นวันเสาร์… และในที่สุด วันที่สำคัญนี้ก็มาถึง
ฉันเชิญชิโนโนเมะมาที่บ้าน
แน่นอน ไม่มีความหมายแอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้น นี่เป็นการฉลองหลังการสอบเสร็จต่างหาก ตอนนี้ผมกำลังมุ่งหน้าไปยังสถานีที่เธออยู่
ระหว่างที่รถไฟกำลังโยกไปมา ผมก็มองเห็นเธอที่โดดเด่นอยู่ท่ามกลางผู้คน
ทันทีที่ประตูรถไฟเปิดออก… ผมก็ถูกดึงดูดสายตาด้วยเส้นผมสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหิมะที่เพิ่งตกครั้งแรก
ผิวพรรณของเธอก็ขาวนวล ไม่มีรอยด่างหรือจุดหมองใดๆ ใบหน้าของเธอมีลักษณะเหมือนคนต่างชาติ เพราะพ่อแม่ที่ให้กำเนิดไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น
หน้าตาของเธอสวยงามราวกับเทพเจ้าสร้างขึ้น ดวงตาสีฟ้าลึกดั่งมหาสมุทรให้ความรู้สึกเหมือนจะดึงดูดคุณเข้าไป มีเสน่ห์ที่ไม่อาจบรรยายได้
แต่ดวงตาคู่นั้นกลับเคยมีความเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง… หรืออาจพูดได้ว่า “เคย”
ใบหน้าที่เคยไร้ความรู้สึกของเธอเปลี่ยนไป เมื่อเธอเห็นผม รอยยิ้มที่อ่อนโยนปรากฏขึ้น
“สวัสดีค่ะ มิโนริคุง”
“อา… สวัสดี ชิโนโนเมะ”
เมื่อมองใกล้ๆ แบบนี้ ชิโนโนเมะเปลี่ยนไปมาก… หรือจะพูดให้ถูกคือ เธอเริ่มแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาได้
“ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์มารับ”
“ไม่เป็นไรเลย ไม่ลำบากอะไรอยู่แล้ว”
ชิโนโนเมะยังคงมีความหวาดกลัวผู้ชายอยู่เล็กน้อย นั่นเป็นเหตุผลที่วันนี้ ผมมารับเธอที่สถานีที่เธอขึ้นรถไฟ
ขณะที่เราคุยกัน รถไฟอีกขบวนหนึ่งซึ่งมุ่งหน้าไปยังบ้านผมก็มาถึง
“งั้นไปกันเถอะ”
“ค่ะ!”
เมื่อผมพูด ชิโนโนเมะพยักหน้า และเราก็ขึ้นรถไฟไปด้วยกัน
◆◆◆
“ว้าว… แถวนี้ฉันไม่เคยมาเลยค่ะ”
“ก็เป็นย่านที่อยู่อาศัยนี่นะ มีซูเปอร์มาร์เก็ตกับร้านสะดวกซื้ออยู่ แต่ถ้าพูดอีกมุมก็คือ ไม่มีอะไรนอกจากนั้น ถ้าไม่ได้อยู่แถวนี้ก็คงไม่มีเหตุผลให้มาหรอก”
หลังจากลงจากสถานี ชิโนโนเมะก็มองไปรอบๆ อย่างสนอกสนใจ แต่ถึงจะมองยังไงก็มีแค่บ้านคน ไม่มีอะไรที่ดูแปลกใหม่เลย
ถึงอย่างนั้น ชิโนโนเมะก็ดูเหมือนจะสนุกอยู่ไม่น้อย เธอเริ่มเดินต่อด้วยท่าทางสดใส
“บ้านของมิโนริคุงอยู่ทางไหนเหรอคะ?”
“อยู่ทางนี้ ไม่ไกลมากหรอก”
บ้านของผมอยู่ห่างจากสถานีเพียงแค่เดิน 5 นาที ซึ่งถือว่าสะดวกมากในเรื่องการเดินทาง
เมื่อผมเริ่มเดิน ชิโนโนเมะก็มายืนข้างๆ ระยะห่างระหว่างเรานั้นแทบจะสัมผัสกันได้ ไม่ว่าจะเป็นมือหรือไหล่ นี่คงเป็นเพราะเธอไม่ค่อยรู้เรื่องการรักษาระยะห่างสักเท่าไหร่
เราพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยระหว่างเดิน จนในที่สุดก็มาถึงอพาร์ตเมนต์ที่ผมพักอยู่
“ชั้น 4 ของตึกนี้แหละ”
“อพาร์ตเมนต์… นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เข้ามาค่ะ”
“บ้านของชิโนโนเมะเป็นบ้านเดี่ยวเหรอ?”
“ใช่ค่ะ แต่ถ้าไม่นับบ้านตัวเอง ฉันก็เคยไปแค่บ้านญาติเท่านั้น”
“ฉันก็ไม่ต่างกันหรอก”
เราขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 4 แล้วเดินไปที่ห้องของผม ก่อนจะไขกุญแจเปิดประตู
“เชิญเข้ามาเลย ฉันทำความสะอาดไว้เรียบร้อยแล้ว”
แม้ว่าปกติผมจะเป็นคนชอบทำความสะอาดอยู่แล้ว แต่ถ้ารู้ว่าจะมีแขกมา ผมจะใส่ใจเป็นพิเศษ …แม้ว่าบางทีจะอดคิดไม่ได้ว่าความตั้งใจนี้น่าจะเอาไปใช้กับการทำอาหารแทนก็ตาม
“ข-ขออนุญาตค่ะ”
และในที่สุด… ชิโนโนเมะก็ได้เข้ามาในบ้านของผมเป็นครั้งแรก
◆◆◆
“นั่งตรงไหนก็ได้นะ”
โซฟาควรจะให้แขกนั่ง ดังนั้นผมจึงเลือกนั่งตรงข้ามกับเธอ โดยมีโต๊ะขั้นกลาง
แต่แล้ว… ชิโนโนเมะกลับนั่งลงข้างๆ ผมโดยไม่ลังเล
“…จะนั่งตรงนี้เหรอ?”
“เอ่อ… ไม่ได้เหรอคะ?” [TLN:ก็เค้าอยากนั่งใกล้อะ]
เธอมองมาด้วยสายตาที่ดูสับสนและเศร้าเล็กน้อย ซึ่งฉันก็ไม่อาจพูดคำว่า “ไม่ได้” ออกไปได้
z,ลุกขึ้นแล้วพูดว่า
“งั้นนั่งที่โซฟาก็แล้วกัน”
โซฟานั้นกว้างพอที่จะนั่งสองคนได้โดยไม่อึดอัดนัก เมื่อผมนั่งลง ชิโนโนเมะก็นั่งลงโดยเว้นระยะห่างเพียงนิดเดียว จนร่างกายแทบจะสัมผัสกัน
ผมหลับตาเพื่อสงบจิตใจชั่วครู่ ก่อนหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
“เอาล่ะ ตอนเที่ยงเราสั่งพิซซ่ากินกัน เมนูประมาณนี้นะ”
พูดจบผมก็รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เก็บใบปลิวเมนูพิซซ่าไว้ เพราะจอสมาร์ทโฟนนั้นเล็ก… ซึ่งการที่ต้องดูด้วยกัน ทำให้ระยะห่างระหว่างเรายิ่งใกล้กันมากขึ้น
“มีให้เลือกเยอะเลยนะคะ อ๊ะ นี่! นี่คือมาร์การิต้าที่มิโนริคุงเคยพูดถึงใช่ไหม? ดูน่าอร่อยมากเลยค่ะ!”
เธอหันมามองผมใกล้จนเห็นได้แม้กระทั่งขนตาที่ยาวเรียงเส้น
“…? มีอะไรเหรอคะ?”
“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร ว่าแต่ มีอย่างอื่นที่อยากลองไหม? ถ้าสั่งแบบฮาล์ฟแอนด์ฮาล์ฟจะได้ลองสองรส หรือถ้าแบบควอเตอร์ก็เลือกได้ถึงสี่รสเลยนะ”
ชิโนโนเมะทำหน้าตาเหมือนกำลังคิดอย่างจริงจัง ก่อนตอบอย่างตื่นเต้น
“งั้น ขอแบบฮาล์ฟแอนด์ฮาล์ฟค่ะ ฉันสนใจตัวที่มีไก่อบกับข้าวโพดนี้ด้วย”
“โอเค งั้นสั่งสองหน้าแบบนี้แล้วกัน”
ผมพยักหน้าและเลือกพิซซ่าสองหน้าในคำสั่งซื้อ
“แล้วเครื่องดื่มกับเมนูข้างล่ะ อยากได้อะไรเพิ่มไหม?”
“งั้นขอเป็นน้ำส้มค่ะ ส่วนเมนูข้าง… ผมไม่ค่อยรู้จัก เลือกให้ได้ไหมคะ?”
“ได้เลย งั้นเอามันฝรั่งทอดธรรมดาแล้วกัน”
หลังจากกรอกคำสั่งซื้อและที่อยู่เสร็จ ระบบแจ้งว่าจะใช้เวลาส่งประมาณ 30 นาที
“อีกสามสิบนาที ถึงจะยังเช้าไปหน่อยสำหรับมื้อกลางวัน แต่ก็โอเคนะ เธอไหวใช่ไหม?”
“ค่ะ ไหวค่ะ”
ตอนนี้เวลา 11 โมง เป็นช่วงที่เริ่มหิวพอดี ชิโนโนเมะก็ดูไม่ติดขัดอะไร
“เอาล่ะ”
ผมวางสมาร์ทโฟนลงและมองไปที่เธอ ชิโนโนเมะก็จ้องกลับมาที่ผม
“เริ่มกันเลยไหม?”
“ค่ะ มาเริ่มกันเถอะค่ะ”
ชิโนโนเมะพยักหน้า เธอหยิบของบางอย่างจากกระเป๋าออกมา ในขณะที่ฉันหยิบกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา
ใช่แล้ว มันคือผลการจัดอันดับคะแนนสอบ
ชิโนโนเมะดึงกระดาษแผ่นเล็กและยาวออกมา แล้วหันมามองฉัน
“เรามาเปิดพร้อมกันนะคะ”
“อืม ได้สิ”
ชิโนโนเมะดูตื่นเต้นเล็กน้อย ส่วนผมเองก็รู้สึกประหม่า เพราะไม่ค่อยได้มีประสบการณ์แบบนี้
“พร้อมนะ? หนึ่ง… สอง… เปิด!”
เราสองคนเปิดกระดาษของตัวเองพร้อมกัน
【อันดับในโรงเรียน: 1/280 คน】
นั่นคือสิ่งที่เขียนอยู่บนของชิโนโนเมะ ส่วนของผมก็…
【อันดับในโรงเรียน: 1/240 คน】
ที่หนึ่งเหมือนกัน
“…! มิโนริคุงสุดยอดเลยค่ะ!”
“ก็เพราะชิโนโนเมะช่วยนั่นแหละ แล้วเธอก็เก่งมากเลยนะ แทบจะได้เต็มทุกวิชา”
ชิโนโนเมะได้คะแนนเต็มในแทบทุกวิชา ยกเว้นภาษาอังกฤษที่ได้ 97 คะแนน ซึ่งก็ยังถือว่าสูงมาก
ส่วนของผม แม้จะมีคะแนนที่ไม่เต็มบ้าง 98 หรือ 99 แต่คะแนนเต็มก็มีไม่น้อย
“ฉันได้เรียนรู้เลยค่ะว่าการสอนคนอื่นช่วยพัฒนาตัวเองได้มาก… และพอทำร่วมกันสองคนมันก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการเรียนที่ดีจริงๆ ค่ะ!”
“ใช่… ขอบคุณมากจริงๆ”
หากไม่มีชิโนโนเมะ ผมก็คงทำคะแนนไม่ได้ดีถึงขนาดนี้ วิชาที่ไม่ถนัดอย่างวรรณคดีก็ยังได้ถึง 99 คะแนน
“หึหึ ไม่เป็นไรค่ะ”
ชิโนโนเมะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะวางกระดาษลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา
“งั้น… เรื่องรางวัลที่ว่า… คะ ช่วยให้มิโนริคุงเป็นคนขอได้ไหม?”
“…อ่า แน่นอน สิ่งที่อยากให้ชิโนโนเมะทำให้ใช่ไหม?”
ถึงจะพูดไปแบบนั้น แต่ในใจผมก็ยังพยายามรักษาความเหมาะสม… อย่างน้อยก็พยายามแล้วล่ะ
ผมสูดลมหายใจเข้า รวบรวมความกล้าพลางมองเธออย่างตรงไปตรงมา สิ่งที่ติดอยู่ในใจมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้…
“ฉ… ฉันอยากลองกินอาหารฝีมือชิโนโนเมะดู”
เมื่อผมพูดออกไป ชิโนโนเมะก็ทำหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนที่ใบหน้าของเธอจะเปลี่ยนเป็นยิ้มพร้อมหัวเราะเบาๆ
“…หึหึ ได้สิ แน่นอนค่ะ”
คำตอบของเธอทำให้ผมทั้งโล่งใจและดีใจจนเกือบเผลอยิ้มออกมา
“จ… จริงเหรอ? ได้จริงๆ ใช่ไหม?”
“ค่ะ! ฉันเองก็ชอบทำอาหารอยู่แล้ว จะตั้งใจทำให้สุดฝีมือเลยค่ะ… เอ่อว่าแต่ วันนี้ตอนเย็นเป็นยังไงคะ?”
คราวนี้เป็นฉันที่ต้องตกใจบ้าง
“วันนี้เลยก็ได้เหรอ? จริงๆ วันอื่นก็ได้นะ”
“…งั้นเหรอคะ? ถ้างั้นไว้วันอื่นฉันก็ทำให้ได้เหมือนกันค่ะ”
ชิโนโนเมะยิ้มขณะพูด รอยยิ้มของเธอดูเหมือนจะสนุกสนานมากทีเดียว
“แน่นอน ถ้ามิโนริคุงไม่ว่าอะไรล่ะนะ”
“ฉ… ฉันเองก็อยากให้เธอทำให้อยู่แล้วล่ะ!”
“เข้าใจแล้วค่ะ งั้นไว้ตอนหลังเราออกไปซื้อของด้วยกันนะ? มิโนริคุงบอกว่ามีซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ใกล้ๆ ใช่ไหมคะ?”
เมื่อผมพยักหน้า เธอก็ส่งยิ้มหวานกลับมา
“ฉันถนัดอาหารญี่ปุ่นค่ะ… แต่วันนี้จะทำแกงกะหรี่สูตรพิเศษที่คุณแม่เคยสอนให้ อ้อ มิโนริคุงชอบแกงกะหรี่ไหมคะ?”
“อืม ชอบมากเลย”
“ดีจังค่ะ”
ดีใจที่กล้าพูดออกไป ผมรู้สึกผ่อนคลายและยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่ก็รีบปรับตัวให้ดูสงบลง
“โอเค งั้นคราวนี้ตาชิโนโนเมะบ้าง อยากให้ฉันทำอะไร บอกมาได้เลย”
ผมไม่ควรเป็นฝ่ายตื่นเต้นอยู่คนเดียว จึงถามเธอกลับบ้าง เมื่อได้ยินคำถาม เธอก็หยุดนิ่ง ราวกับกำลังรวบรวมความกล้า
ใบหน้าของเธอค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง ไล่จากแก้มไปจนถึงใบหู เธอค่อยๆ เปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“…อะไรก็ได้ ใช่ไหมคะ?”
“หืม? อืม ใช่สิ จะขออะไรก็ได้”
เพราะผมติดหนี้บุญคุณเธอมาก ไม่ว่าจะขออะไรฉันก็ไม่มีทางปฏิเสธ อีกอย่าง ผมมั่นใจว่าชิโนโนเมะคงไม่ขออะไรที่เกินกำลังหรือดูแปลกไป
ผมรอคำพูดจากเธอขณะที่เธอยังคงหน้าแดง ราวกับกำลังพยายามจะพูดออกมา หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เธอจึงตัดสินใจเงยหน้ามองผม
“ข… ขอให้ลูบหัว แล้วก็ชมฉัน… ได้ไหมคะ?” [TLN:เพื่อนแน่นะหรือเฟื่อน]