หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 148
ตอนที่ 148 : การโจมตีโอบล้อม
จอห์นปวดหัวเป็นอย่างมากเมื่อมองการตั้งขบวนแบบการป้องกันและขวางทางเข้าปราสาททั้งหมดไว้
การจัดขบวนป้องกันแบบนี้เหมาะสมที่สุดในที่แคบ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถผ่านไปได้ โดยศัตรูมีโล่ทรงเหลี่ยมซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถูกจัดการโดยนักธนู
“เชี่ยเอ้ย!” จอห์นสบถคำหยาบออกมา “พุ่งไปฆ่าพวกมันซะ”
ในสถานการณ์เช่นนี้มีทางเดียวที่สามารถผ่านไปได้นั่นก็คือการใช้กำลัง
ทันใดนั้นทหารโล่ของเมืองเดลพอนก็ก้าวขึ้นมาด้านหน้าและยกโล่ขึ้น พวกเขาเดินอยู่ข้างกันและตามด้วยทหารที่ตามหลังมาอย่างแน่นหนา
กลุ่มทัพของมือหอกอยู่ด้านหลังเขา
ไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องการคนมากกว่านี้ ทว่าทางเข้าปราสาทนั้นไม่กว้างพอมีเพียงสี่คนเท่านั้นที่สามารถเดินขนานกันได้
ทหารโลสี่คนก้าวไปข้างหนาอย่างมั่นคง สวมชุดเกราะหนักและถือโล่เหล็ก
ในทางฝั่งพวกขอทาน ทหารนั้นถือโล่ไม้และสวมเกราะเบา…มันช่วยไม่ได้ ฮอร์กและคนอื่นต่างเตรียมการถึงสิ่งต่างๆในวันนี้ไว้แล้ว ทว่าอาวุธและชุดเกราะก็ยังไม่เพียงพอ
จริงๆแล้วการหาหอกเหล็กได้กว่าร้อยอันในเวลาเท่านี้ก็ถือว่าน่าชื่นชมแล้ว
เหล่าทหารที่ตั้งขบวนป้องกันอยู่มีท่าที่กังวลอย่างหนัก หากทหารอีกฝ่ายมาถึงพวกเขาต้องพบกับความยากลำบากเป็นแน่
ในที่แคบเช่นนี้ มันขึ้นอยู่กับว่าใครนั้นมีขวัญกำลังใจและความกล้าสูงกว่ารวมไปถึงอุปกรณ์อีกด้วย อุปกรณ์ของเหล่าขอทานนั้นค่อนข้างย่ำแย่
ถึงแม้ว่าจะยากในการทำลายการป้องกันน้ำทิ้ง ทว่าหากต้องเจอคนที่มีอุปกรณ์ที่ดีกว่าจำนวนมาก จอห์นก็ยังคิดว่าหลังจากใช้เวลาสักพักเขาจะสามารถจัดการพวกกบฎนี่ทิ้งได้อย่างแน่นอน
เมื่อเขาคิดเช่นนี้ ลิงค์ที่อยู่ด้านหลังก็ทำการเคลื่อนไหวทันที
เขากระโดดมายังหน้าการป้องกันและพุ่งเข้าสู่ขบวนทัพของศัตรู
คลื่นอันรุนแรงทำให้ผู้คนลอยห่างออกไป เขายิ้มหวานออกมา จากนั้นนับจากตัวเขาเป็นจุดศูนย์กลางเขาเริ่มควงดาบใหญ่ในมือ
รอบแรก สองรอบ สามรอบ ทั้งทรายและหินต่างถูกลมพัดเข้าไปยังทางเขา
แม้ว่าดาบใหญ่จะไม่คมนัก แต่ทุกที่ที่มันผ่านไปทหารก็จะถูกลอยไปในอากาศและหากพ กับดาบใหญ่พวกเขาก็จะถูกฆ่าและแหลกในทันที
หลังจากควงดาบกว่าห้ารอบ ลิงค์ก็หยุดลง
ความสามารถพิเศษของนักรบ: ดาบลมหมุนของเครเวอร์
ไม่มีคนที่มีชีวิตรอดอยู่เลยภายใต้รัศมีสี่เมตรรอบตัวเขา
มีทหารโล่บางคนรอดตายมาได้เพราะความโชคดีเนื่องจากระยะการโจมตีไม่มากพอ
พวกเขาถอยกลับไปและไม่ได้จู่โจมลิงค์อีกต่อไป
พวกเขาโยนโล่ของพวกเขาทิ้งและเดินออกไปในขณะที่มือของพวกเขาสั่นด้วยความหวาดกลัว
มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่กล้าสู้กับเหล่าผู้เชี่ยวชาญ
เมื่อจอห์นเห็นมันเขาก็หันไปถามลูกชายของเขา “ไหนเจ้าบอกว่าลิงค์และฮอร์กนั้นไม่ได้แข็งแกร่งนักไง?”
“มันเป็นความจริงที่พวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งนัก” จอห์นกลืนน้ำลายและพูดว่า “เมื่อหกเดือนก่อน ทหารที่แข็งแกร่ง 5-6 คน สามารถฆ่าพวกเขาได้แล้ว สิ่งที่พวกเขาเหนือกว่ามีเพียงแค่พวกเขาสามารถคืนชีพที่โบสถ์แห่งชีวิตได้เท่านั้น”
“แล้วนี่มันอะไรกัน?” จอห์นชี้ไปยังลิงค์ที่อยู่ท่ามกลางบ่อเลือด
“ข้าก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ไม่มีคำอธิบายใดๆเลยว่าทำไมเขาถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ภายในครึ่งปี”
สาเหตุหลักนั้นเป็นเพราะฮอร์กและลิงค์ไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งออกมาให้เห็นเป็นที่ประจักษ์นักเมื่อหกเดือนก่อน
ในความเป็นจริงนั้น พวกเขาทั้งสองคนขณะสร้างท่าเรือเองก็ยังมองหาภารกิจนั่นทำให้พวกเขาสามารถเลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็ว
มันเป็นสิ่งที่สองพ่อลูกนั้นไม่สามารถเข้าใจได้
ลิงค์ยืนอยู่ท่ามกลางบ่อเลือดพร้อมปักดาบของเขาลงพื้น เขาเอนกายพิงดาบของเขาไว้พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสจอห์น ข้ายังคงแนะนำให้นายพิจารณาข้อเสนอนะ”
“ไม่มีทางหรอก เจ้าโจรกระจอก!”
จอห์นตะคอกออกมาพร้อมโบกแขนของเขา กลุ่มทหารเดินไปเบื้องหน้าอีกครั้ง ทว่าคราวนี้มีผู้บัญชาการหนุ่มสองสามคนตามไปด้วย พวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญ แม้จะมีระดับไม่เท่าลิงค์ ทว่าพวกเขาก็ยังสามารถเป็นอุปสรรคแก่เขาได้
ทหารในชุดเกราะหนักรวมตัวกันอีกครั้งและก้าวไปด้านหน้าอย่างมั่นคง
เหล่ามือธนูต่างตั้งท่ายิงธนูออกมา
ลิงค์รีบถอยและไปยังด้านหลังของขบวนป้องกันของเขา พร้อมตะโกนออกมาจากระยกไกล “นี่เจ้าเมืองนายไม่สนใจเลยงั้นเหรอว่าลูกและเมียของนายอยู่ในกำมือพวกเรานะ ถ้าหากนายยังคงบุกมาแบบนี้ นายไม่กลัวงั้นเหรอว่าพวกเราจะทำเรื่องร้ายแรงบางอย่าง?”
ภรรยาของเจ้าเมืองและลูกสาวทั้งสองอยู่บนระเบียงในปราสาท พวกเธอตัวสั่นไปด้วยความหวาดกลัวและมองไปยังจอห์นด้วยความคาดหวังในดวงตาหลังจากได้ยิน
จอห์นยังคงสั่งให้เดินหน้าโดยไม่แม้แต่หันมองพวกเธอ
จอห์นคนลูกก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน ถึงแม้ดวงตาของเขาจะเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่สามารถอดกลั้นไว้ได้
เมื่อเห็นว่าสามีและลูกชายของพวกเธอต่างไม่สนใจพวกเธอ ภรรยาของเจ้าเมืองที่อยู่บนในระเบียงราวกับถูกตบหน้าในตอนแรก ทว่าจากนั้นเธอก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
เธอรู้ดีอยู่แล้วว่ามันจะเป็นเช่นนี้หากเธอถูกจับตัวไป
ไม่มีความผูกพันธ์และความรักในหมู่ขุนนาง มีแค่ความรื่นรมย์บนเตียงเท่านั้น เธอเข้าใจดี
ลูกสาวตัวน้อยที่อยู่ข้างเธอหัวเราะออกมา เธอยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อและพี่ชายของเธอถึงไม่พยายามจะช่วยพวกเธอ
ไม่ใช่มันชัดเจนอยู่แล้วเหรอว่าต้องยอมทำข้อตกลงกับพวกเขา
มันก็แค่สูญเงินไปเล็กน้อย แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถหามันกลับมาได้อยู่ดี
นักธนูต่างยิ่งศรชุดแรกจนเสร็จ ทว่ามันได้ผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถึงแม้ว่าโล่ของเหล่าขอทานจะเป็นไม้แต่มันไม่มีปัญหาในการเผชิญกับลูกศร
กลุ่มของลูกศรตกลงมา มีเพียงขอทานคนเดียวเท่านั้นที่ถูกโจมตี ส่วนศรลูกอื่นๆถูกป้องกันด้วยโล่ทั้งหมด
เมื่อเหล่ามือธนูกำลังจะยิงคลื่นธนูลูกที่สอง กลุ่มทหารเล็กๆจำนวนสิบคนก็ปรากฏตัวและขนาบพวกเขาไว้
ผู้นำของกลุ่มนี้คือเจ็ท
ร่างของเขาส่องแสงสีเขียวปกคลุมทั่วทั้งตัว…นี่เป็นสัญลักษณ์ของการขอพรจากเทพธิดาแห่งชีวิต จากนั้นเขาก็คำรามออกมาและนำกลุ่มทหารจู่โจมไปยังมือธนู
จอห์นคนพ่อตะโกนออกมา “จริงอยู่ที่มือธนูไม่เก่งในการต่อสู้ระยะประชิดนักแต่คนร้อยคนจะแพ้ให้กับคนไม่กี่สิบได้ยังไง…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็ตกตะลึงทันทีเมื่อเห็นเจ็ทพุ่งเข้าราวกับเสือและจัดการเหล่ามือธนูอย่างสนุกสนาน
ลูกตุ้มเล็กๆแกว่งไปมา เศษสมองกระจัดกระจาย หมวกเกราะถูกเจาะเป็นรูกว้าง ดวงตาเหลือกกว้างเหลือเพียงตาขาวและร่วงหล่นบนพื้น
การโจมตีทั้งหมดถูกป้องกันด้วยโล่กลมขนาดเล็ก
จากนั้นกลุ่มขอทานนับสิบก็ตรงเข้าใส่มือธนูและทำการสังหาร
ขบวนรบของมือธนูกำลังจะถูกทำลายและผู้ทำลายก็ปรากฏตัวขึ้น เจ้าหน้าที่หนุ่มสองคนตะโกนออกมาให้หยุดแต่ก่อไม่เป็นผล
“เจ้าพวกขอทานสกปรกนั่น!”
จอห์นคนพ่อตะโกนออกมาด้วยความบ้าคลั่ง
โดยปกติ เขานั้นจะมีทหารราบจำนวนหนึ่งเพื่อปกป้องพลธนู ทว่าตอนนี้เขาพลาดไปก้าวหนึ่ง และก้าวอื่นๆ ก็พลาดต่อกันไปเรื่อยๆ เขานั้นถูกจูงจมูกโดยสมบูรณ์ ไม่มีที่จะให้บุกหรือถอยอีกต่อไปแล้ว และกระทั่งลืมสิ่งง่ายๆ
เมื่อลลิงค์เห็นเจ็ทพุ่งออกมา เขาก็นำกองกำลังจู่โจมทันที “ทุกคนบุก!”
การป้องกันหายไปทันที เหล่าทหารตะโกนออกมาและตามหลังผู้นำของพวกเขาไป
ยังไม่จบเพียงเท่านั้น กลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งพร้อมกับม้ามาจากทางท้ายของทาง
คนที่อยู่เบื้องหน้าคือชายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อราวกับอสูร ฮอร์ก
จอห์นมองไปยังปราสาทและเบื้องหลังของเขา…และหัวเราะออกมาอย่างหดหู