หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 144
ตอนที่ 144 : ง่ายๆ
โรแลนด์และเจ็ทยืนอยู่บนน้ําแข็ง และมองยังเรือรบที่มุ่งหน้ามายังพวกเขาทั้งคู่
เจ็ทค่อนข้างตื่นเต้น เขานั้นเอาคทาลูกตุ้มออกมาแล้ว และแน่นอนรวมถึงโล่ห์ขนาดเล็กด้วยจากกระเป๋ามิติของเขา เขาเลียริมฝีปากด้วยความตื่นเต้น ท่าทางของเขาราวกับต้องการกระโดดไปยังเรือรบและเข่นฆ่าเหล่าทหารในเรือรบเมื่อพวกมันเข้ามาใกล้
ทว่าหลังจากเรือรบเข้ามาใกล้และรอเหล่าทหารที่จะเผชิญหน้า ทั้งโรแลนด์และเจ็ทก็แสดงสีหน้าผิดหวังออกมา
เรือรบนั้นไม่ใหญ่นักมันถูกจัดไว้เป็นเรือรบขนาดกลางเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม่น้ํานี้กว้างก็จริง แต่มันไม่ลึกพอที่จะใช้เรือรบขนาดใหญ่
ทว่าสิ่งที่ทําให้โรแลนด์และเจ็ทเสียใจจริงๆนั่นคือสภาพจิตใจของเหล่าทหาร
ถึงแม้ว่าอีกฝั่งจะมีคนมากกว่า
โรแลนด์และเจ็ทสามารถบอกได้ว่าสีหน้าของทหารเรือพวกนั้นซีดเผือก โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเห็นโรแลนด์
“ไม่น่าสนใจสักนิด” เจ็ทถอนหายใจพร้อมเก็บอาวุธ
กลุ่มทหารเรือไม่มีเจตนาที่จะต่อสู้
นั่นคือเหตุผลง่ายๆที่ทําไมพวกเขาถึงรู้สึกหวาดกลัวภายใต้ภาวะสงคราม
ทหารพวกนี้ใช้เวลาฝึกเท่าไหร่กัน ถึงสามารถมาเป็นทหารเรือได้แบบนี้
นอกจากนี้จอห์นนั้นสนใจแค่กองทัพม้า และสําหรับเขากองทําอื่นๆก็มีหน้าที่แค่ “เก็บกวาด”และรับใช้กองกําลังทหารม้าเท่านั้น
แค่มีทหารเรือได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว
เมืองแห่งนี้ไม่ใช่เมืองท่า
หลายเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ํายังไม่มีทหารเรือด้วยซ้ํา ทําให้กําลังรบลดไปมาก
เรือทั้งสองเรียกนักธนูออกมาและจัดที่
เหล่าทหารที่ยืนอยู่บนเรือจัดกันเป็นสองแถว มีธนูอยู่หลังพวกเขา พวกเขาไม่แม้แต่จะตั้งท่าโจมตีด้วยซ้ํา
ชายหนุ่มที่ยืนนําดูเหมือนคุ้นๆสําหรับโรแลนด์ หลังคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็จําได้ว่านั้นเป็นเจ้าหน้าที่หนุ่มที่นําทางเขาและเบทต้าตอนที่เด็กสาวบาดเจ็บสาหัสในยามค่ําคืน
เมื่อเห็นว่าอีกฝั่งไม่มีกระจิตกระใจในการต่อสู้ โรแลนด์ก็ไม่ได้ทําอะไร เขาแค่ใช้เวทย์แช่แข็งทางบนผิวน้ําเอาไว้และกําลังจะจากไป ชายหนุ่มที่อยู่บนเรือตะโกนขึ้นมาทันที “ท่านโรแลนด์ได้โปรดหยุด”
แม้มันจะอยู่ไกลไปสักหน่อย แต่เสียงของเขาก็ถูกส่งไปถึง
โรแลนด์หันหน้าไปมองเขา
ชายหนุ่มตะโกนต่ออย่างเสียงดังว่า “ท่านเจ้าเมืองได้สั่งให้ข้าหยุดท่าน โปรดอย่าทําให้เรื่องราวยุ่งยากเลยท่าน”
นี่น่าจะมากกว่าหยุดกันนะ! โรแลนด์รู้ดีว่าชายหนุ่มโกหกออกมา มันเป็นธรรมดาที่จอห์นจะออกคําสั่งให้อย่างน้อยก็จับตัวเขาอย่างเป็นๆหรือไม่ก็ฆ่าให้ตาย
ทว่าพวกเขานั้นเป็นบุตรทองคํา , เป็นอมตะ การฆ่าพวกเขาเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ มันน่าจะเป็นแค่การถ่วงเวลา นี่เองก็น่าจะเป็นแผนของจอห์นเช่นกัน
สําหรับทหารที่ต้องสู้กับผู้ใช้เวทย์ที่เป็นอมตะถึงสองคน ปีศาจที่น่าหวาดกลัวในระดับชั้นยอดมันไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายเลยแม้แต่น้อย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาหวาดกลัว
ในตอนนี้พวกเขาอยู่ในแม่น้ําขนาดใหญ่ และในฐานะทหารเรือ ตามทฤษฎีแล้วพวกเขาควรจะได้เปรียบ
นั่นทําให้ชายหนุ่มมั่นใจในภารกิจในตอนแรก อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายอยู่บนเรือลําเล็กๆเท่านั้นขณะที่พวกเขามีเรือใหฯ หากอีกฝ่ายไม่ยอดจํานน เขาก็สามารถจัดการได้โดยง่าย
บุตรทองคํานั้นจะเกิดใหม่ที่โบสถ์แห่งชีวิตหลังจากคืนชีพแล้ว ยังมีทหารชั้นยอดกลุ่มใหญ่ของเจ้าเมืองรออยู่ที่นั่น
สามารถบอกได้ว่าก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการ จอห์นได้พิจารณาแล้วว่าทุกสิ่งที่เขาสั่งการออกไปจะได้ผล
มันดูสมเหตุสมผลไปหมด
ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่เจ้าหน้าที่หนุ่มคิดว่ามันผิดไปคือ ท่านเจ้าเมืองดูถูกความแข็งแกร่งของท่านโรแลนด์มากเกินไป
ศัตรูอยู่บนเรือเล็กก็จริง ทว่าตอนนี้พวกเขายืนอยู่บนน้ําแข็งขนาดใหญ่ ขนาดเรือเล็กเองยังถูกแช่แข็งอยู่บนนั้นเลย
วันนี้เป็นวันที่อากาศร้อนมันยากที่จะสร้างน้ําแข็งขึ้นมาได้ รวมถึงนักเวทย์ที่แท้จริงด้วย
ทว่าความจริงช่างโหดร้าย น้ําแข็งที่ลอยอยู่บนผืนน้ําขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา
ถ้าหากโรแลนด์สามารถสร้างน้ําแข็งแบบนี้ได้ นั่นหมายความว่าเขาสามารถสร้างให้มันใหญ่กว่านี้ได้แน่นอน
ต่อให้อีกฝ่ายไม่ใช้เวทย์โจมตีก็สามารถจัดการเรือรบได้ และเรือของพวกเขานั้นไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อป้องกันเวทย์ดังนั้นมันจึงไม่มีความสามารถในการทําลายน้ําแข็ง
เรือทั้งสองลําจะไม่สามารถขยับได้แน่นอนหากมันเกิดขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นพวกทหารเรือนั้นได้รับการฝึกฝนน้อยมาก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะต่อสู้บนพื้นน้ําแข็งที่ลื่นได้
หน้าที่เดียวของทหารเรือคือการจัดการพวก “โจรสลัด” หนีภาษี
โรแลนด์ไม่ได้สนใจเรือนักเขาเพียงแค่ยิ้มให้อีกฝ่าย ในเมื่อเรือนั่นไม่กล้าโจมตีพวกเขามันก็ไม่จําเป็นที่เขาต้องโจมตีพวกนัก
เขาใช้เวทย์ สะพานน้ําแข็งเพื่อขยายน้ําแข็งโดยยังชายฝั่งของแม่น้ํา
โรแลนด์และเจ็ทเริ่มเดินไปยังทางชายฝั่ง
ในตอนนี้เจ้าหน้าที่หนุ่มก็รู้สึกกังวลขึ้นมา เขามีความรู้สึกแย่ๆว่าเมื่อโรแลนด์ขึ้นไปยังฝั่งหลังจากการปรากฏตัวของพวกเขา ดูเหมือนการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเตรียมการไว้ก่อนแล้ว
เป็นไปได้ไหมว่าที่พวกเขาแยกตัวออกมาเพื่อเป็นเหยื่อล่อด้วยตัวของพวกเขาเอง?
เจ้าหน้าที่หนุ่มหัวใจเต้นแรงขึ้น
ต่อให้เขารู้ว่าเขาไม่สามารถทําอะไรกับสถานการณ์ตรงหน้าได้อีก เจ้าหน้าที่หนุ่มก็ยังคงตะโกนออกมา “ท่านโรแลนด์ ข้าจะพูดอีกรอบ ถ้าหากท่านออกไปพวกข้าต้องขอใช้กําลัง”
เจ้าหน้าที่หนุ่มมีใบหน้านั้นยากเขายกมือขึ้นมาออกคําสั่ง เหล่าทหารเรือต่างทําตามคําสั่งและนําลูกธนูมาวางไว้ยังคันธนู ทว่ายังไม่มีใครกล้ายิงมันออกไป
โรแลนด์มองไปยังพลังเวทย์ที่อยู่ในสร้อยคอสงบใจและพบว่ามันถูกเติมไปกว่าครึ่งแล้วดังนั้นเขาจึงหันไปและเคาะเพื่อทําลายสะพานน้ําแข็งด้วยคทาเวทย์ของเขา
พลังเวทย์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการควบแน่น กลายเป็นละอองสีขาวปลิวว่อนรอบตัวโรแลน์ในตอนแรกน้ําแข็งสีขาวแพร่กระจายไปบนแม่น้ําอย่างรวดเร็วจากนั้นมันก็เยือกแข็งเรือรบทั้งสองลําในทันทีเหลือทิ้งไว้เพียงเส้นสีขาวระหว่างชายฝั่งสองฝั่ง
จากนั้นเส้นสีขาวเริ่มควบแน่นและแผ่กว้างขึ้นด้วยความรวดเร็ว
เหล่าทหารบนเรือรบต่างมึนงงบ้างก็หวาดกลัว และมองไปยังเบื้องหน้าน้ําแข็งได้เยือกแข็งแม่น้ําทั้งสายไว้แล้ว ทั้งยังมีความกว้างของชั้นน้ําแข็งเกือบเมตร ทําให้กลายเป็นพื้นสีขาวส่องประกายแสงระยิบระยับจากแสงอาทิตย์
และนั่นคือตั้งแต่เริ่มจนจบ ใช้เวลาไม่ถึงสิบห้าวิด้วยซ้ํา
โรแลนด์พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ มานากว่าครึ่งของเขาถูกใช้ไป ความสามารถในการใช้เวทย์ของเขาถูกยกไปอีกระดับแล้ว
หลังจากสามเดือนที่ขลุกตัวอยู่ภายในห้องทดลองเวทย์ และศึกษาทั้งทําการทดลองเวทย์อย่างต่อเนื่องช่วยพัฒนาความสามารถเขาอย่างมาก
จากนั้นทั้งเขาและเจ็ทก็หันหลังกลับไป และไม่ได้มองกลับมายังเรือรบแม้แต่น้อย
“อาร์คเมจ!” ชายหนุ่มมองไปยังแผ่นหลังของโรแลนด์ด้วยความว่างเปล่า “ท่านเจ้าเมืองคงเจอศึกหนักแล้วครั้งนี้”
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นก็พูดกับรองที่อยู่เบื้องหลังเขาว่า ยกสมอขึ้นซะ”
อีกฝ่ายกลืนน้ําลาย “มันไม่ขยับครับท่าน น้ําแข็งหนาเกินไป เรือของเราจะได้รับความเสียหายแทนหากดึงดัน”
“ข้ารู้” เจ้าหน้าที่หนุ่มตอบกลับ “ครานี้ เดลพอนล่มสลายแน่นอน ทว่าบุตรทองคําพวกนี้อาจจะไม่ยึดกองกําลังทหารและอาณาเขตของตระกูลจอห์นก็ได้ พวกเขานั้นค่อนข้างใจดีและยุติธรรมดังนั้นพวกเราจะยังคงได้ทํางานต่อไปในเดลพอนแห่งนี้ และหากเราไม่ “พยายาม” ด้วยการไม่สูญเสียอะไรเลย จะทําให้ดูเป็นพวกขี้ขลาดและไม่เชื่อฟังคําสั่ง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอนาคตพวกเราจะได้รับบทลงโทษแบบใดจากตระกูลจอห์น”
อีกฝ่ายเข้าใจทันทีพร้อมทั้งมองไปยังเจ้าหน้าที่หนุ่มด้วยท่าที่เคารพ “ข้าเข้าใจแล้ว พวกเราจะแอบหักแขนและขาของทหารบางนายเพื่อให้มันดูสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น”
เจ้าหน้าที่หนุ่มยิ้มและพยักหน้า
หลักจากนั้นไม่นานเรือรบทั้งสองลําก็พยายามหลุดออกจากน้ําแข็ง
ในตอนนั้นเอง ขณะที่โรแลนด์และเจ็ทเดินอยู่บนชายฝั่งแทนที่พวกเขาจะไปยังท่าเรือพวกเขาเลือกตรงไปยังกําแพงเมือง
เจ็ทเงียบมาตลอด แต่จู่ๆก็พูดขึ้นว่า “โรแลนด์เป็นกระแสอีกแล้วนะ”
โรแลนด์มึนงงไปชั่วขณะ จากนั้นก็เข้าใจทันที…”นายไลฟ์งั้นเหรอ?”
“ใช่” เจ็ทพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “ล่าสุดตอนนายไปเมืองมอลลีชายที่เปิดไลฟ์สตรีมได้ทิปไปกว่าหมื่นเหรียญ ดังนั้นรอบนี้ฉันเลยคว้าโอกาสนี้ไว้ ทั้งนาย, ฮอร์กและลิงค์ ต่างมีสิ่งต่างๆเป็นของตัวเอง พวกนายเป็นคนที่มักจะยุ่งอยู่เสมอ ดังนั้นฉันเลยเลือกที่จะไลฟ์สดครั้งนี้ และเก็บเงินเอาไว้ใช้บ้าง”
โรแลนด์หัวเราะเบาๆและพูดว่า “นายตรงชะมัด ไม่กลัวว่าชาวเน็ตพวกนั้นจะไม่ทิปนายเหรอ?”
ทว่าความจริงนั้นสวนทางโดยสิ้นเชิง เพราะเจ็ทพึ่งพูดไปเขาก็ได้ทิปมาหลายพันทันที
ถึงแม้ว่าจะมีการมอบทิป แต่การพูดคุยในไลฟ์สตรีมนั้นก็ยังคงข้องเกี่ยวกับโรแลนด์
“ชั้นน้ําแข็งที่สร้างขึ้นในแม่น้ํานั่นทั้งน่ากลัวและยอดเยี่ยมมาก เวทย์นั่นคือเวทย์อะไรงั้นเหรอ? กําแพงน้ําแข็ง?”
“มันไม่มีของอย่างกําแพงน้ําแข็งหรอกมีแค่กําแพงเพลิง”
“จากรูปแบบของมันฉันคิดว่าน่าจะเป็นวงแหวนเยือกแข็งนะ”
“ฉันเป็นคนไม่ชอบอ่าน แต่อย่าโกหกฉันเลย นี่มันเวทย์วงแหวนน้ําแข็งตรงไหนกัน?”
“เขาเป็นถึงนักเวทย์อันดับหนึ่งส่วนพวกนายเป็นแค่พ่อมดตัวจ้อย”
“นักเวทย์คือคนที่สามารถเรียนเวทย์และสามารถปรับปรุงรูปแบบมันได้ ส่วนพ่อมดทําได้แค่ร่ายเวทย์ธรรมดาๆเท่านั้น”
“พ่อมดไม่เคยสร้างเวทย์ พวกนายแค่ใช้เวทย์อย่างง่ายๆเท่านั้น”
“สิ่งที่เรียกว่าเวทมนตร์นะเหรอเรียบง่าย? ยังไงก็ตามตอนนี้พวกเราพ่อมดนั้นมีค่าเฉลี่ยความแข็งแกร่งที่มากกว่า ฝั่งนักเวทย์มีแค่โรแลนด์คนเดียวเท่านั้น ยังมีผู้เล่นระดับเทพมากมากในหมู่พ่อมดและยังมีพวกสตรีมเมอร์ดังๆอย่าง พ่อมดปีศาจกริฟฟินอีก”
“หยุดพูดได้แล้ว มันน่าขําที่จะอ่านมัน โรแลนด์หมอนี่เป็นผู้เล่นระดับบอสเขาอยู่ในอีกระดับหากเขาอยู่ในฝั่งพ่อมดแล้วเตะก้นพวกเรา เขาก็ยังคงจะตะโกนอย่างยิ่งยโสว่า ใครอีก? ฉันสามารถจัดการพวกนายได้อีกกว่าห้าครั้ง!”
ผู้เล่นที่ชื่อกริฟฟินทิ้งข้อความเอาไว้ทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
บรรยากาศภายในไลฟ์สตรีมดูสนุกสนานอย่างมาก
ในขณะที่โรแลดน์และเจ็ทมาถึงยังปาเล็กๆนอกเมืองที่ไม่ไกลจากกําแพงเมืองนัก
ในป่าทึบมีคนกว่าร้อยยืนอยู่เงียบๆที่ยืนอยู่ข้างหน้าพวกเขาคือลิงค์ซึ่งกําลังคาบ ใบหญ้าในปาก
เมื่อเห็นโรแลนด์และเจ็ทมาถึง ลิงค์ก็ถุยใบไม้ออกและยิ้มออกอย่างสุภาพ “ฉันรอพวกนายนานแล้วนะเนี่ย”