cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

หมอหญิงพลิกธรรมเนียม - บทที่ 9

  1. Home
  2. All Mangas
  3. หมอหญิงพลิกธรรมเนียม
  4. บทที่ 9
Prev
Next

ลุงใบ้ผงกศีรษะอย่างชื่นชม เหนือความคาดหมาย เขาถึงกับทำมือทำไม้ สายตาที่มองหลวนอวิ๋นชูก็เต็มไปด้วยความเลื่อมใส

“ลุงใบ้บอกว่าสะใภ้สี่เป็นสตรีผู้หนึ่งถึงกับมีความรู้ในเรื่องเหล่านี้ เขาเลื่อมใสอย่างมาก” ซิ่วเอ๋อร์ช่วยอธิบาย “พืชชนิดนี้นอกจากชื่อแล้ว ที่ท่านพูดมาถูกต้องเกือบทั้งหมด”

ชื่อต่างกันเป็นไปได้อย่างมากว่าสมัยโบราณกับสมัยใหม่เรียกไม่เหมือนกัน ความจริงแล้วอูโถวนอกจากไล่ลมขจัดความชื้นในร่างกายแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยให้เลือดลมอบอุ่น ขจัดความหนาวเย็น บรรเทาอาการปวด หลวนอวิ๋นชูเจตนาบอกประโยชน์การใช้สอยน้อยลงไปหลายอย่าง ด้วยเกรงว่าวิชาทางการแพทย์ในสมัยโบราณยังล้าหลัง สรรพคุณบางอย่างอาจยังไม่มีใครรู้ พูดมากไปกลับจะถูกสงสัย เห็นลุงใบ้เห็นด้วยกับสิ่งที่นางพูด หลวนอวิ๋นชูก็เบาใจ พยักหน้าแล้วบอก

“พืชชนิดเดียวกัน แต่ถ้าอยู่ต่างถิ่นกันเรียกชื่อไม่เหมือนกันก็มี ไม่ทราบลุงใบ้เรียกว่าอะไรหรือ”

ความจริงหลวนอวิ๋นชูไม่รู้ว่าอูโถวนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแคว้นหลี ชื่อว่าซีตู๋เฉ่า ถูกมองว่าเป็นสิ่งมีพิษอย่างหนึ่ง ประโยชน์ใช้สอยที่เห็นบ่อยที่สุดก็คือเอามาทาที่หัวลูกศร ยิงสังหารศัตรู ตอนนั้นคนยังไม่รู้ว่าเอามาทำยาได้…ดีที่หลวนอวิ๋นชูเพียงบอกประโยชน์ใช้สอยออกมาอย่างสองอย่าง และพูดถึงดอก ราก รวมถึงคุณสมบัติของมันออกมาได้ไม่ผิดพลาด ตอนท้ายยังบอกพืชชนิดนี้มีพิษ ลุงใบ้จึงยอมรับ

ที่สำคัญลุงใบ้ไม่อยากให้คนรู้ว่านี่เป็นยาพิษ ย่อมพูดจาคลุมเครือไม่ชัดแจ้ง

ลุงใบ้รักและชื่นชอบสมุนไพรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พูดได้ว่าถึงขั้นหลงใหลบ้าคลั่ง เพาะปลูกสมุนไพรตามลำพังอยู่ที่นี่หลายปี เงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวจนชินแล้ว ในแคว้นหลวนที่การแพทย์ถูกมองว่าเป็นอาชีพต่ำต้อยทั้งเก้า ได้มาเจอคนที่มีความชื่นชอบและเข้าใจสมุนไพรเช่นนี้ เขาก็ทั้งเลื่อมใสและตื่นเต้นดีใจ ย่อมอยากพูดคุยศึกษาพิจารณา จากตอนแรกที่มองข้าม เบื่อหน่ายเอือมระอา ก็เปลี่ยนเป็นกระตือรือร้นขึ้นมา เห็นหลวนอวิ๋นชูถามก็ทำมือทำไม้ แต่ซิ่วเอ๋อร์กลับสั่นศีรษะบอก

“ชื่อที่ลุงใบ้บอก บ่าวก็เดาไม่ออกเจ้าค่ะ”

ออกจะน่าผิดหวังอยู่บ้าง ลุงใบ้มองหลวนอวิ๋นชูอย่างเสียใจแวบหนึ่ง

หลวนอวิ๋นชูยิ้มน้อยๆ เดินไปยังพุ่มไม้เตี้ยที่อยู่ข้างหน้า ลุงใบ้ถึงกับติดตามพวกนางมาตลอด พูดคุยศึกษาพิจารณากับนางถึงลักษณะพิเศษจำเพาะ แหล่งกำเนิด ประโยชน์ใช้สอยต่างๆ ของพืชแต่ละชนิด มีซิ่วเอ๋อร์คอยถอดความให้ ถึงกับสนทนากันได้อย่างถูกคอ

มาอยู่ต่างถิ่นต่างที่ จู่ๆ ได้มาเจอคนที่รู้เรื่องสมุนไพรดีเช่นนี้ หลวนอวิ๋นชูเองก็ตื่นเต้นมาก พูดคุยกับลุงใบ้อย่างออกรสออกชาติ ฝูหรงเองก็ฟังอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน ทั้งสองคนถึงกับไม่ได้สังเกตว่ายิ่งพูดมาถึงตอนท้าย สีหน้าของซิ่วเอ๋อร์ก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวขึ้นทุกที

แต่สิ่งนี้กลับไม่รอดพ้นจากสายตาของลุงใบ้ คำพูดของเขายิ่งนานยิ่งน้อยลง ไม่ได้เป็นแบบพอถามก็ตอบทันทีอีก เริ่มไปดูต้นไม้ดอกไม้คล้ายเจตนาไม่เจตนา เหมือนว่าหมดสนุก อยากจะไล่แขกแล้ว

ฝูหรงแตะไม้เตี้ยต้นหนึ่งพลางทอดถอนใจ “ต้นไม้ดอกไม้ในสวนนี้ บ่าวแทบจะไม่รู้จักเลย”

หลวนอวิ๋นชูยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไร สมุนไพรเต็มสวน ถ้ารู้จักสักหนึ่งในสิบก็นับเป็นผู้เชี่ยวชาญได้แล้ว

ทอดสายตามองไป พรรณไม้ผืนหนึ่งที่อยู่ห่างจากพวกนางไปราวยี่สิบจั้งได้ดึงดูดความสนใจของหลวนอวิ๋นชู ว่ากันตามเหตุผล อยู่ห่างออกไปไกลเพียงนี้ ทั้งยังมีพุ่มไม้บังอยู่ คนทั่วไปไม่มีทางเห็นพืชที่อยู่ด้านหลังพุ่มไม้ได้ชัดเจน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะวินิจฉัยแยกแยะ แต่หลวนอวิ๋นชูประสาทสัมผัสทั้งหกต่างจากคนธรรมดา จึงเห็นได้อย่างชัดเจน

ถึงกับมีเฮยเจ๋อเฉ่าอยู่ผืนหนึ่ง รอบด้านมีทางปูพื้นด้วยศิลาเขียวกว้างราวหกฉื่อกั้นแยกออกมาจากส่วนอื่น ซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้ ถ้าไม่สังเกตก็ยากจะถูกคนพบเห็น

เฮยเจ๋อเฉ่านี้เป็นพืชที่มีพิษร้ายแรง ถ้าเผลอกินเข้าไปก็จะเวียนหัว คันไปทั่วร่าง มือเท้าเน่าเปื่อย สุดท้ายก็เป็นอัมพาตไปทั้งตัวและตาย ที่ร้ายที่สุดคือมันไม่เพียงมีพิษร้ายแรง แต่ยังรุกเข้าเกาะกินพืชชนิดอื่น บริเวณรอบๆ หญ้าชนิดนี้โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีพืชชนิดอื่นขึ้นอยู่ได้ ลำพังเห็นลุงใบ้ตั้งใจใช้หินศิลาเขียวแยกพวกมันออกจากพืชชนิดอื่น ก็รู้แล้วว่าลุงใบ้รู้ถึงธรรมชาติของพืชชนิดนี้ดี

ตามที่ได้มีการจดบันทึกไว้ หญ้าชนิดนี้เดิมมีถิ่นกำเนิดในประเทศแถบตะวันตก จัดเป็นพันธุ์ไม้จากต่างถิ่น ไม่รู้ว่าแคว้นหลวนตรงกับยุคสมัยของราชวงศ์ใดในโลกเมื่อชาติก่อนของนาง ในปัจจุบันพืชชนิดนี้ได้เข้ามาสู่ประเทศจีนแล้ว บางทีการกระจายพืชพรรณไม้ของที่นี่อาจแตกต่างจากช่วงมิติเวลาเมื่อชาติก่อนของนางกระมัง หลวนอวิ๋นชูคิดไปไกลโพ้น

“สะใภ้สี่ ท่านดูสิเจ้าคะ ต้นไม้ต้นนี้รูปร่างแปลกประหลาดเสียจริง คล้ายอะไรหนอ…” ซิ่วเอ๋อร์เอียงคอมองพืชชนิดนั้นพลางครุ่นคิดอย่างหนัก “คล้ายเขาของแพะภูเขา ไม่รู้มีชื่อเรียกว่าอะไร เอามาใช้ประโยชน์อะไร”

อาจเพราะตื่นเต้นเกินไป เสียงของนางถึงกับสั่นเล็กน้อย

ลุงใบ้มือสั่น ไม่ระวังนิ้วหัวแม่มือถูกพุ่มไม้เตี้ยๆ ทิ่มเป็นแผล โลหิตสดสีแดงไหลซึมออกมาทันที ลุงใบ้สะบัดแขนเสื้อ โลหิตสีแดงเข้มหยดนั้นจมหายไปในแขนเสื้อ เขาหันมาทางหลวนอวิ๋นชู ส่วนลึกในดวงตามีประกายอำมหิตผุดขึ้นมาจางๆ

หยางเจี่ยวเถิง!

หลวนอวิ๋นชูจ้องพืชชนิดนั้นนิ่ง

หยางเจี่ยวเถิงจัดอยู่ในประเภทพันธุ์ไม้เลื้อย ผลคล้ายเขาแพะภูเขา โดยทั่วไปจะเจริญเติบโตอยู่ตามข้างทางหรือในพุ่มไม้ ถ้าเผลอกินพืชชนิดนี้เข้าไปจะเกิดอาการปวดศีรษะวิงเวียน คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง จากนั้นมือเท้าจะเย็นมีเหงื่อออก กล้ามเนื้อกระตุกหมดสติ สุดท้ายหัวใจก็หยุดเต้น

เป็นสมุนไพรที่มีพิษร้ายแรงอีกชนิดหนึ่ง

แม้หลวนอวิ๋นชูจะสุขุมเยือกเย็น แต่เวลานี้ก็อดใจเต้นแรงไม่ได้ ถ้าบอกว่าเจอสมุนไพรที่มีพิษชนิดหนึ่ง ยังพูดได้ว่าเป็นเหตุบังเอิญ แต่ทยอยเจออย่างไม่ขาดสาย นี่ย่อมไม่ปกติแล้ว

มิน่าเล่าที่นี่จึงถูกจัดเป็นสถานที่ต้องห้าม ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามา

เพียงแต่…ต่งกั๋วกงกับต่งอ้ายปลูกสมุนไพรมีพิษเหล่านี้ไว้ทำอะไร หรือว่าตอนต่งอ้ายยังมีชีวิตอยู่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ยาพิษ

คิดมาถึงตรงนี้ หลวนอวิ๋นชูพลันนึกถึงใบหน้าเขียวคล้ำน่าเกลียดน่ากลัวที่ห้องโถงตั้งศพ ร่างนางสะท้านเฮือก ต่งอ้ายตายเพราะถูกพิษกระมัง แต่ในเมื่อเขาก็มีความรู้เรื่องยาพิษ เพราะเหตุใดยังถูกพิษได้อีก

หรือว่าพลาดพลั้งกินยาพิษอะไรที่ถอนไม่ได้เข้าไป ถึงได้ปลูกสมุนไพรเหล่านี้ไว้เพื่อทดลองใช้ถอนพิษ

ความคิดนี้พอผุดขึ้นมาในสมองก็ถูกนางปฏิเสธในทันที จะเป็นไปได้อย่างไร ถ้าต่งอ้ายพลาดพลั้งกินยาพิษเข้าไปจริง ต่อให้เขาถอนพิษไม่ได้ ต่งกั๋วกงก็ย่อมหาหมอที่มีชื่อเสียงทั่วทั้งใต้หล้ามาช่วยรักษา จะปล่อยให้เขาจากไปง่ายๆ เช่นนี้ได้อย่างไร!

อีกอย่างข้าก็ไม่เคยได้ยินในจวนพูดเรื่องต่งอ้ายถูกพิษมาก่อน

ถ้าไม่ใช่พลั้งเผลอกินยาพิษเข้าไป ทายาทเจิ้นกั๋วกงผู้องอาจผึ่งผาย ทั้งยังมีลุงใบ้ที่รู้จักยาพิษชนิดนี้จะถูกทำร้ายง่ายๆ ได้อย่างไร มองหยางเจี่ยวเถิงที่อยู่ในมือซิ่วเอ๋อร์ หลวนอวิ๋นชูในสมองสับสนไปหมด รู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่านางตกหล่นอะไรไป ถึงไม่อาจเอาไข่มุกที่กระจัดกระจายเป็นเม็ดๆ นี้มาเรียงร้อยต่อกันได้สำเร็จ

หลวนอวิ๋นชูยกมือขึ้นนวดคลึงจุดไท่หยาง บางทีต่งอ้ายอาจจะป่วยตาย เป็นนางที่คิดมากไปเอง มีลุงใบ้อยู่ ไยนางต้องคาดเดาส่งเดช สิ้นเปลืองสติปัญญาด้วย!

คิดมาถึงตรงนี้กำลังจะเอ่ยปาก นางที่ประสาททั้งหกเฉียบไวพลันรู้สึกถึงกลิ่นอายเยียบเย็นขุมหนึ่งแผ่ออกมาจากร่างลุงใบ้ คล้ายอากาศเย็นยะเยือกขึ้น ฉับพลันนั้นถึงกับได้ยินเสียงลมหายใจที่เปลี่ยนเป็นหนักหน่วงของเขา

มีลางสังหรณ์ว่าอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ หลวนอวิ๋นชูใจเต้นรัวแรง นางกลืนคำพูดที่มาถึงริมฝีปากกลับลงไป ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง แสร้งทำทีเป็นพิจารณาดูอยู่พักใหญ่แล้วยืดตัวขึ้นพูดยิ้มๆ

“ในสวนของลุงใบ้แห่งนี้มีต้นไม้ดอกไม้แปลกๆ มากเสียจริง ต้นนี้ข้าก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่รู้จริงๆ ว่าเรียกอะไร”

“ท่านก็ไม่รู้จักหรือ” ซิ่วเอ๋อร์มีท่าทีผิดหวัง หันไปทางลุงใบ้ “อันนี้…ก็รักษาโรคได้หรือ”

ลุงใบ้มองหลวนอวิ๋นชูอย่างเยียบเย็นแวบหนึ่ง แล้วก้มหน้าลงดูแลต้นไม้ดอกไม้ต่อไป ไม่สนใจคำพูดของพวกนาง

สัมผัสได้ว่ากลิ่นอายเยียบเย็นสลายไปแล้ว หลวนอวิ๋นชูลอบระบายลมหายใจ กวาดตามองไปรอบด้าน เพ่งดูอย่างละเอียดรอบหนึ่ง พบว่าที่นี่ไม่มีทางออกอื่นจริง นางมองๆ ดวงตะวันแล้วเอ่ยขึ้น

“สายมากแล้ว พวกเราออกไปกันเถิด สี่จวี๋สี่หลันจะรอนาน”

“สะใภ้สี่…”

ซิ่วเอ๋อร์มองหยางเจี่ยวเถิงต้นนั้นอย่างทึ่มทื่อ ในดวงตามีประกายมึนงงผุดขึ้นมาแวบหนึ่ง ยังทำท่าจะพูดอะไร แต่ลุงใบ้วางงานในมือลง เดินนำออกไปข้างนอกแล้ว เห็นเขามีท่าทางไล่แขกอย่างชัดเจน ซิ่วเอ๋อร์จึงหุบปาก เดินตามอยู่ข้างหลังคล้ายมีเรื่องอะไรอยู่ในใจ

มาถึงหน้าประตูหลวนอวิ๋นชูก็พูดคุยด้วยอีกสองสามคำ แล้วส่งสายตาให้ฝูหรง

ฝูหรงหยิบเศษก้อนเงินออกมาก้อนหนึ่งด้วยท่าทางไม่เต็มใจอย่างมากยื่นส่งไปให้

เห็นลุงใบ้รับเงินไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึก แล้วโยนลงไปในเข่งที่อยู่ปลายเท้า กระทั่งขอบคุณสักคำยังไม่มี ปากน้อยๆ ของฝูหรงก็พลันเชิดขึ้นจนสูง

หลวนอวิ๋นชูกลับแอบนึกเสียใจที่ให้รางวัลบุ่มบ่ามเกินไป ลุงใบ้ผู้นี้ต้องไม่ใช่คนที่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแค่เศษเงินเล็กน้อย แต่ก็จนใจยิ่งนัก เพราะนางเองก็เป็นคนยากจนคนหนึ่ง

เก็บท่าทางกลืนไม่เข้า คายไม่ออกบนใบหน้า หลวนอวิ๋นชูกำลังจะเอ่ยลา กลับเห็นลุงใบ้ทำมือทำไม้ขึ้นมาอีก

“ลุงใบ้บอกว่าพอสะใภ้สี่ออกไปแล้วอย่าได้พูดเป็นอันขาดว่าที่นี่ปลูกสมุนไพร เพียงบอกว่าเป็นสวนดอกไม้ก็พอ นี่เป็นคำสั่งของคุณชายสี่ตอนยังมีชีวิตอยู่”

ฟังคำอธิบายของซิ่วเอ๋อร์แล้ว หลวนอวิ๋นชูมีเหงื่อเย็นซึมออกมาทั่วร่างทันที พลันนึกขึ้นมาได้ ถ้านางเปลี่ยนตัวซิ่วเอ๋อร์ออกไป ต่อไปใครจะช่วยแกะภาษามือของลุงใบ้ให้นาง

“เรื่องนี้ลุงใบ้โปรดวางใจ” นางกล่าวอย่างลังเล “ลุงใบ้…เขียนหนังสือได้หรือไม่”

ยังต้องถามด้วยหรือ คนสวนที่ต่ำต้อยผู้หนึ่งจะเขียนหนังสือเป็นได้อย่างไร

ไม่ได้เตรียมการไว้ว่าหลวนอวิ๋นชูจะถามเรื่องนี้ ฝูหรงกับซิ่วเอ๋อร์ต่างหน้าแดง ลำบากใจแทนลุงใบ้

งงงันอยู่ชั่วขณะลุงใบ้ก็แสยะปากยิ้มแล้วพยักหน้าให้นาง อารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด ในดวงตาปรากฏแววอ่อนโยนมีเมตตาออกมา

เขียนหนังสือได้ก็ดี ถึงให้ซิ่วเอ๋อร์ออกไป การสื่อสารกันในวันหน้าก็ไม่มีอุปสรรค

หลวนอวิ๋นชูคลี่ยิ้มสดใสดุจบุปผาในฤดูใบไม้ผลิ สมุนไพรที่มีอยู่เต็มสวนแห่งนี้ ไม่ช้าก็เร็วต้องเป็นของในกระเป๋า* ของนาง

สี่จวี๋สี่หลันนั่งอยู่บนม้าหินกำลังเด็ดใบหญ้ากันอยู่ ที่ปลายเท้ามีหญ้าสามใบกระจัดกระจายอยู่กองเล็กๆ ได้ยินเสียงฝีเท้าก็เงยหน้าขึ้น หลวนอวิ๋นชูมาถึงเบื้องหน้าแล้ว ทั้งสองจึงรีบโยนใบไม้ทิ้ง ลุกขึ้นมารับหน้า สี่จวี๋ยื่นมือมาหาหลวนอวิ๋นชู ยิ้มแล้วเอ่ยถาม

“ข้างในปลูกดอกไม้อะไรหรือเจ้าคะ สะใภ้สี่เข้าไปเดินเที่ยวเล่นนานเพียงนี้ ปล่อยให้บ่าวรออยู่นานทีเดียว”

ฝูหรงกับซิ่วเอ๋อร์อดรู้สึกผิดไม่ได้ ในสวนมีแต่สมุนไพรแปลกประหลาด พูดไม่ได้ว่าสวยงาม แต่ลุงใบ้บอกไว้ พวกนางย่อมไม่กล้าพูดส่งเดช แต่ในเรือนลู่ย่วนนี้สี่จวี๋เพียงอยู่ใต้หลวนอวิ๋นชูคนเดียว จึงไม่กล้าโกหกนาง ได้แต่ส่งสายตามองไปที่หลวนอวิ๋นชูไม่หยุด

“แต่ละวันข้าไม่ได้ออกไปไหน เดิมยังเข้าใจว่าต้นไม้เพิ่งแตกหน่อเสียอีก” ขณะเดินไปหลวนอวิ๋นชูก็เอ่ยออกมาอย่างไม่เผยพิรุธใดๆ “คิดไม่ถึงว่าดอกไม้ต้นหญ้าจะสูงครึ่งฉื่อแล้ว”

“ไม่เหมือนภาคเหนือ ทางภาคใต้อากาศอบอุ่น ต้นไม้ใบหญ้าจะเจริญเติบโตเร็ว” สี่จวี๋หัวเราะพรืด “บ่าวได้ยินว่าทางเหนือในเวลานี้ยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลยเจ้าค่ะ”

พูดคุยหัวเราะกันไปมาจนออกจากป่าไผ่ ช้อนสายตามองไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ หลวนอวิ๋นชูพบว่าด้านหน้าไม่ไกลออกไปเท่าไรมีประตูข้างบานหนึ่ง จึงชี้พลางเอ่ยถาม

“ประตูนี้ออกไปที่ใด ตอนออกมาเหตุใดจึงไม่เห็น”

สี่หลันกล่าวยิ้มๆ “ไปทะเลสาบลั่วเยี่ยนเจ้าค่ะ นี่เป็นด้านตะวันตก พวกเรามาจากทางตะวันออก”

ทะเลสาบลั่วเยี่ยน?!

นั่นก็คือทะเลสาบที่บัณฑิตหญิงผู้ยอดเยี่ยมแห่งยุค ‘ฆ่าตัวตายเพื่อบูชารัก’ แห่งนั้น

“ไม่ได้อยู่นอกจวนหรอกหรือ” หลวนอวิ๋นชูออกจะฉงนสนเท่ห์ “เหตุใดจึงอยู่ติดกับเรือนในโดยตรง”

“สะใภ้สี่เข้าใจผิดแล้ว ทะเลสาบลั่วเยี่ยนก็เป็นส่วนหนึ่งของด้านในจวน” เอียงคอคิดอยู่ครู่หนึ่ง สี่หลันก็แก้ไขคำพูดใหม่ “ความจริงก็ไม่นับเป็นด้านในจวน”

ฝูหรงโต้แย้งขึ้น “ไม่ใช่ด้านในจวน? เหตุใดจึงมีทางไปจากเรือนของเรา!”

สี่หลันหน้าแดงขึ้นทันที กำลังจะเถียงสี่จวี๋ก็ดึงนางไว้แล้วกล่าวยิ้มๆ

“เจ้าเพิ่งจะเข้าจวนมา อาจยังไม่เข้าใจ ฝั่งตรงข้ามทะเลสาบลั่วเยี่ยนก็คือเรือนซิงซู่ ไม่นับเป็นด้านในจวนจริงๆ ประตูนี้ตอนคุณชายสี่ยังอยู่ ต้องการความสะดวก จึงดึงดันจะเจาะประตู ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันนายหญิงใหญ่ยังสั่งแล้วสั่งอีกให้ปิดตายไปเสีย”

“เรือนซิงซู่เป็นสถานที่ใดหรือ” เห็นหน้าผากหลวนอวิ๋นชูมีเหงื่อซึมออกมา ฝูหรงก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับให้นาง

“เป็นสถานที่ที่เหล่าที่ปรึกษาพักอาศัยเจ้าค่ะ…ตำนานบอกว่าบุคคลที่มีคุณธรรมและความปรีชาสามารถล้วนเป็นดวงดาวบนท้องฟ้าจุติลงมาเพื่อจะดึงดูดผู้มีคุณธรรมปัญญา นายท่านจึงตั้งใจให้ชื่อว่า ‘ซิงซู่’ ที่มีความหมายว่ากลุ่มดาว ประหนึ่งว่าเป็นที่สำหรับรวบรวมคุณธรรม” สี่จวี๋กล่าว

“อ้อ…”

หลวนอวิ๋นชูผงกศีรษะ ในตำนานว่าไว้เช่นนั้นจริง อาทิดาวเหวินฉวี่ก็เป็นกลุ่มดาวที่ทำหน้าที่ควบคุมดวงชะตาด้านอักษรศาสตร์ เล่าลือกันว่าคนที่เขียนความเรียงได้ดีและมีตำแหน่งสูงล้วนเป็นดาวเหวินฉวี่จุติลงมา เช่นอีอิ่นอัครเสนาบดีแห่งราชวงศ์ซาง* ปี่กานเทพแห่งโชคลาภ** ฟ่านจ้งเยียนขุนนางสมัยราชวงศ์ซ่ง*** เปาเจิ่ง**** บุคคลเหล่านี้ล้วนได้รับการพูดถึงว่าเป็นดาวเหวินฉวี่มาแต่เกิด

หลวนอวิ๋นชูมองไปที่ประตูข้างบานนั้นด้วยสีหน้าอมยิ้ม ในดวงตามีประกายสว่างวาบดุจดวงดาว

ถ้าได้รู้จักที่ปรึกษาที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยนสักหลายคน แผนการออกจากจวนของนางไยมิใช่มีโอกาสประสบความสำเร็จเพิ่มอีกส่วนหนึ่งหรือไร

* ของในกระเป๋า เป็นคำเปรียบเปรย หมายถึงสิ่งที่ได้มาโดยไม่ได้ต้องลงแรงอะไรมากมาย

* อีอิ่น (1649-1550 ก่อนคริสต์ศักราช) เป็นขุนนางผู้มีคุณูปการในการช่วยฮ่องเต้ซางทังสถาปนาราชวงศ์ซาง อีอิ่นมีชาติกำเนิดที่ต่ำต้อย แต่เป็นคนฉลาดหลักแหลมเปี่ยมไหวพริบ มีอายุยืนยาว ช่วยบริหารราชการแผ่นดินถึงสี่แผ่นดิน

** ปี่กาน เป็นอัครเสนาบดีผู้ซื่อสัตย์ของฮ่องเต้องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ซาง (1125-1063 ปีก่อนคริสต์ศักราช)

*** ฟ่านจ้งเยียน (ค.ศ. 989-1052) เป็นขุนนางในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ การเมืองในสมัยนั้นเต็มไปด้วยความทุจริตคอร์รัปชัน ฟ่านจ้งเยียนพยายามจะปฏิรูประบบราชการและการสอบคัดเลือกคนเข้ารับราชการ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมามีผู้สานต่อแนวความคิดของฟ่านจ้งเยียนจนประสบความสำเร็จ

**** เปาเจิ่ง (เปาบุ้นจิ้น) (ค.ศ. 999-1062) เป็นขุนนางในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชิดชูความบริสุทธิ์ยุติธรรม

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

Invincible-Super-System-Modifier-696×928
Super System Modifier
6 มกราคม 2022
Unknown
Bringing Culture to a Different World
14 กรกฎาคม 2022
6218a64f4L3yHjrm
พี่น้องร่วมสาบาน ใต้แสงจันทร์อันเจิดจรัส
8 กรกฎาคม 2022
9567_cover
ไม่อยากไปดูตัวเลยตั้งเงื่อนไขสุดเว่อร์แต่ดันตรงกับเพื่อนร่วมชั้น
15 มิถุนายน 2021
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 9"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF