cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

หมอหญิงพลิกธรรมเนียม - บทที่ 18

  1. Home
  2. All Mangas
  3. หมอหญิงพลิกธรรมเนียม
  4. บทที่ 18
Prev
Next

ราวกับเกิดอาการตอบสนองโดยปริยาย ฝูหรงเนื้อตัวสั่นเทา มือที่ยกขึ้นมาหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ หลวนอวิ๋นชูฉวยโอกาสผลักนางทีหนึ่ง “ไป ไปชงชาร้อนมาให้ข้าถ้วยหนึ่ง” แล้วหันมาทางสี่จวี๋ “เจ้าไม่ได้ยินแต่ละเรือนพูดอะไรบ้างหรือไม่”

“เอ่อ…”

สี่จวี๋หน้าแดงขึ้น เห็นชัดว่าคำพูดยากจะเอ่ยออกจากปากได้

“เจ้าพูดมาเถิด”

“คนอื่นก็ไม่มีใครพูดอะไร มีแต่คนที่เรือนสะใภ้สาม บอกว่าท่านเพิ่งก้าวเท้าออกจากทะเลสาบลั่วเยี่ยน คุณชายสามก็ถูกผีหลอกแล้ว เห็นชัดว่าเป็นท่านที่ชักนำสิ่งไม่สะอาดมา ยังบอก…”

สี่จวี๋พูดไปเสียงก็ค่อยๆ แผ่วลงแล้วหยุดนิ่งค้างอยู่ตรงนั้น หลวนอวิ๋นชูจึงมองนางด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

“ยังบอกท่านมีความสามารถที่ไม่ธรรมดา เดิมก็เป็นดาวปีศาจจุติลงมา” ถูกมองจนในใจขนลุกชัน สี่จวี๋จึงกัดฟันพูดต่อ “นับแต่ท่านแต่งเข้ามา ในจวนก็มีคนถูกผีหลอกไปทั่ว ศพคุณชายสี่หลอกผู้คนในห้องโถงตั้งศพไม่พูดถึง ครั้งนี้คุณชายสามก็ถูกผีหลอกอีก…เอาแต่โวยวายจะให้นายหญิงใหญ่เชิญนักพรตมาทำพิธีขับไล่สิ่งอัปมงคลที่เรือนลู่ย่วน”

ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าสองเรื่องนี้ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับนาง

บอกว่าข้าเป็นดาวปีศาจจุติลงมา

คนเหล่านี้ยกย่องข้าเกินไปแล้ว!

“คุณชายสามว่าอย่างไร” มุมปากมีรอยยิ้มเยียบเย็นผุดขึ้นจางๆ หลวนอวิ๋นชูขยับขึ้นมานั่งตัวตรง “นายหญิงใหญ่เล่า ก็เห็นด้วยกับการให้นักพรตมาทำพิธีหรือ”

“เรื่องนี้คุณชายสามยังแสดงท่าทีสมกับเป็นคุณชายคนหนึ่ง หลังจากสติแจ่มใสดีแล้วก็บอกเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน ยังด่าสะใภ้สามพักหนึ่ง บอกนางรู้จักแต่คิดโยงเหลวไหลไร้สาระ” เห็นมุมปากหลวนอวิ๋นชูมีรอยยิ้มเยียบเย็น สี่จวี๋ในใจสั่นสะท้าน พยายามพูดกลบเกลื่อนไปในทางที่ดี “นายหญิงใหญ่ก็บอกท่านเป็นคนครองพรหมจรรย์ หากให้คนที่ไม่ชัดไม่แจ้งมาที่เรือนลู่ย่วน ถูกเล่าลือออกไปท่านก็จะเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ เพียงให้นักพรตทำพิธีที่เรือนชิ่นย่วนก็พอ…”

เช่นนี้ค่อยเหมือนเป็นท่านป้าแท้ๆ ของนางหน่อย ไม่เสียแรงที่ตนพยายามประจบประแจงอีกฝ่ายอย่างมาก

หลวนอวิ๋นชูเอนร่างพิงหมอนอิงใบใหญ่อีกครั้ง หลับตาลง ต่งเหรินไม่เปิดโปงนางกับฝูหรงก็ดีแล้ว เรื่องนี้ก็นับว่าผ่านไปได้ ล้างแค้นกันไปคนละที นางกับต่งเหรินต่างตกน้ำคนละครั้ง นับแต่นี้เสมอกันแล้ว…

“หรือไม่…ก็อ้างเรื่องของซิ่วเอ๋อร์ที่ไม่เป็นมงคล เพียงเท่านี้ท่านก็ไม่ต้องไปแล้ว”

เพียงอาศัยเรื่องที่พานหมิ่นชอบหาเรื่องหาราวไปเสียทุกอย่าง อย่าว่าแต่หลวนอวิ๋นชูจะเอือมระอา ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากเอาหน้าร้อนของตนไปแนบก้นเย็นๆ ของผู้อื่น* สี่จวี๋เองก็คิดเช่นนั้น แต่หลังจากต่งอ้ายไม่อยู่แล้ว ก็เป็นไปได้อย่างมากว่าต่งเหรินจะได้รับความโปรดปรานจากนายท่านและนายหญิงใหญ่เป็นเท่าทวี เรืองอำนาจขึ้นมา หลวนอวิ๋นชูดีเลวอย่างไรก็สมควรต้องไปเยี่ยมอาการพูดจาไพเราะน่าฟังสักหน่อย แต่เห็นนางคล้ายจะหลับแล้ว สี่จวี๋จึงลองพูดหยั่งเชิงดู

เห็นไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ สี่จวี๋ก็เดินเบาๆ เอาผ้ามาห่มให้นางผืนหนึ่ง

“เจ้าไปจัดเตรียมของบำรุงกับยา แล้วพาสาวใช้รุ่นเล็กสองคนไปเยี่ยมคุณชายสาม อืม…” สี่จวี๋กำลังจะออกไปก็ได้ยินเสียงหลวนอวิ๋นชูดังมาไกลๆ “ไปแล้วเจ้าก็บอกกับสะใภ้สามไปตรงๆ บอกข้าไว้ทุกข์อยู่ เรือนลู่ย่วนก็มีสาวใช้ตายไป ร่างกายมีกลิ่นอายความอัปมงคลอยู่มาก ไม่สะดวกจะไปที่เรือนของนาง”

“นี่…”

นี่มิใช่เสื่อมเสียศักดิ์ศรีเกินไปแล้วหรือ

หลวนอวิ๋นชูยอมให้นางไปเรือนชิ่นย่วนได้ก็เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดียิ่งแล้ว อย่าได้มีปัญหาแทรกซ้อนขึ้นมาเป็นอันขาด ลังเลอยู่ชั่วขณะสี่จวี๋ก็รับคำด้วยความเบิกบานใจ “บ่าวจะไปจัดเตรียมเดี๋ยวนี้” เกือบจะถึงหน้าประตูก็หันหน้ากลับมาอีก “จริงสิเจ้าคะ ตอนคุณชายสี่ป่วยอยู่ ได้รับของบำรุงมากมาย ล้วนแต่เป็นของดีเยี่ยม ท่านว่า…”

เวลานี้ต่งเหรินค่าตัวสูงขึ้นเป็นเท่าทวี ในเมื่อหลวนอวิ๋นชูไม่ได้ไปด้วยตนเอง ตามธรรมเนียมปฏิบัติของขวัญย่อมสมควรมีค่าสักหน่อย

“ไม่ต้องโดดเด่นกว่าคนอื่น” หลวนอวิ๋นชูยังคงหลับตา เสียงคล้ายลอยมาจากที่ไกลโพ้น “เจ้าดูตามธรรมเนียมปฏิบัติที่เคยทำมา จัดเตรียมไปตามนั้นก็แล้วกัน”

“สี่จวี๋ไปไหนแล้วเจ้าคะ”

ฝูหรงถือน้ำชาผลักประตูเข้ามา เงยหน้าขึ้นไม่เห็นสี่จวี๋จึงเอ่ยถาม พอไม่ได้ยินเสียงตอบถึงได้พบว่าหลวนอวิ๋นชูเหมือนจะหลับไปแล้ว นางวางกาน้ำชาลงเบาๆ เดินเข้าไปจัดๆ ผ้าห่ม หยิบเข็มกับด้ายที่วางอยู่ด้านข้างนั่งลงที่ข้างเตียง เสื้อผ้าเสียดสีกันดังสวบสาบเบาๆ

“เรื่องที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยน คุณชายสามไม่ได้เอ่ยถึงพวกเรา”

มีเสียงดังเคร้ง งานปักเย็บในมือร่วงลงไปที่พื้น ใบหน้าของฝูหรงเปลี่ยนเป็นซีดขาวทันที มองไปที่หลวนอวิ๋นชูอย่างตื่นตะลึง

“สวรรค์! สะใภ้สี่ท่านไม่ได้หลับหรอกหรือ บ่าวตกใจแทบตายแล้ว”

“ดูเจ้าสิ ขวัญอ่อนเสียจริง” ได้ยินเสียงดังหลวนอวิ๋นชูจึงลืมตาขึ้นมา “เรื่องเล็กน้อยเท่านี้ก็เก็บอาการไม่อยู่ ไม่ช้าก็เร็วต้องถูกตนเองทำให้ตกใจตาย”

“สองวันนี้บ่าวรู้สึกจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตลอดเวลา กระทั่งนอนก็ยังหลับไม่สนิท” ฝูหรงชำเลืองมองไปที่ประตูอย่างหวาดระแวง ลดเสียงเบาลง “พอได้ยินคำว่า ‘ทะเลสาบลั่วเยี่ยน’ หรือชื่อของคุณชายสาม ก็จะเนื้อตัวสั่นเทา ต่อไปสะใภ้สี่โปรดอย่าได้ทำเรื่องน่าตกอกตกใจเช่นนั้นอีกนะเจ้าคะ เกิดคุณชายสามเป็นอะไรไป หนึ่งร้อยชีวิตของท่านก็ไม่อาจแลกได้”

นางคิดจะแต่งงานใหม่ วันหน้าเรื่องน่าตกใจเช่นนี้ยังต้องเจออีกมาก ขวัญอ่อนเช่นนี้จะได้อย่างไร

หลวนอวิ๋นชูลุกขึ้นมานั่งเสียเลย สีหน้าเคร่งขรึมผิดปกติ

“เจ้าจำไว้ เมื่อวานพวกเราเดินเล่นอยู่ที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยนรอบหนึ่ง ไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น ต่อไปเจอเรื่องอะไรต้องหัดสุขุมเยือกเย็นสักหน่อย” พูดจบน้ำเสียงของหลวนอวิ๋นชูก็ผ่อนคลายลง “เจ้าก็รู้ คนในเรือนนี้ไม่มีสักคนที่รู้ใจข้า ถ้าเจ้ายังรับภาระหน้าที่ไม่ได้อีก…”

“เจ้าค่ะ บ่าวทราบแล้ว” ฝูหรงใบหน้าแดงปลั่ง ลุกขึ้นมารินน้ำชาให้หลวนอวิ๋นชู “บ่าวไม่เคยผ่านเรื่องพวกนี้มาก่อน ทำให้สะใภ้สี่เป็นห่วงแล้ว”

“ไม่ว่าเรื่องอะไรย่อมต้องมีครั้งแรก พอเคยชินก็ไม่เป็นไรแล้ว” รับน้ำชามา หลวนอวิ๋นชูจิบไปคำหนึ่ง “ตอนไปส่งข้าวให้ลุงใบ้ ลุงใบ้ไม่ได้ถามอะไรหรือ”

งงงันไปพักหนึ่งฝูหรงจึงตามความคิดที่กระโดดไปมาของหลวนอวิ๋นชูทัน นางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วบอก

“อืม…อาจจะถามแล้วเจ้าค่ะ”

ถามก็ถามสิ ไม่ได้ถามก็คือไม่ได้ถาม เหตุใดยังมี ‘อาจจะถาม’ แล้วด้วย

“เขาทำมือทำไม้อยู่เป็นนาน บ่าวก็ดูไม่เข้าใจ” เห็นหลวนอวิ๋นชูนิ่วหน้า ฝูหรงรีบเอ่ยเสริม “บ่าวจึงเดาว่าเขาคงถามแล้ว”

“อ้อ…” หลวนอวิ๋นชูพยักหน้า “เช่นนั้นตอนเขาเห็นเจ้ามีท่าทีอย่างไร”

“เขามีสีหน้าเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลา บ่าวก็มองอะไรไม่ออก” ฝูหรงก้มลงเก็บงานปักเย็บที่พื้นพลางปัดเบาๆ “เห็นเขาทำหน้าจริงจัง ทำมือทำไม้ บ่าวเดาว่าเขาคงถามถึงซิ่วเอ๋อร์ จึงบอกไปตามตรง”

“ได้ยินว่าซิ่วเอ๋อร์ตายแล้ว เขามีท่าทีอย่างไร”

“อืม…” แอบชำเลืองมองหลวนอวิ๋นชูแวบหนึ่ง ฝูหรงมีท่าทางอ้ำอึ้ง “เขาสีหน้าอึมครึมน่ากลัว บ่าวเห็นแล้วก็หวาดกลัว เลยไม่ได้สังเกตท่าทีเขาอย่างละเอียดเจ้าค่ะ”

หลวนอวิ๋นชูทอดถอนใจเบาๆ จนแทบไม่ได้ยินเสียง ลานด้านหลังมีลุงใบ้ที่ลึกลับอยู่คนหนึ่ง หากไม่สืบหาภูมิหลังของเขาให้แน่ชัด ชีวิตนางคงยากจะสงบสุข

“คราวหน้าหากไม่เข้าใจภาษามือของลุงใบ้ ก็ให้ถามสักหลายๆ ครั้ง จนกว่าเขาจะพยักหน้า ตั้งใจให้มากหน่อย ไม่นานก็จะเข้าใจเอง” เงียบไปพักหนึ่ง หลวนอวิ๋นชูพลันเอ่ยขึ้น “หรือไม่เจ้าก็เอากระดาษกับพู่กันติดตัวไป ให้เขาเขียนให้เจ้า”

“บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ จริงสิ…” ฝูหรงนัยน์ตาเปล่งประกายขึ้นมา “บ่าวเกือบลืมไป ลุงใบ้ฝากจดหมายมาให้ท่านฉบับหนึ่ง”

“จดหมาย?” ลุงใบ้ฝากจดหมายมาให้เช่นนี้ หลวนอวิ๋นชูมีท่าทีกระตือรือร้นขึ้นมา “เขียนมาว่าอะไร”

“บ่าวกำลังจะกลับก็ถูกเขาเรียกไว้” ฝูหรงลุกมาค้นหา “เห็นเขาชี้ไปที่ซองจดหมายที่มีคำเรียกขานท่านเขียนอยู่ บ่าวเดาว่าให้ท่าน จึงเอากลับมาด้วย”

พูดพลางก็ไปรื้อเจอจดหมายที่ลิ้นชัก นางกลับมานั่ง สองมือประคองยื่นส่งให้หลวนอวิ๋นชู

หลวนอวิ๋นชูมองตัวอักษรเสี่ยวจ้วนที่เคร่งขรึมเข้มแข็งทรงพลังหลายตัวบนซองจดหมายสีเหลืองต้นหญ้า ดวงตาที่เจิดจ้าก็หม่นแสงลง นางไม่ได้รับจดหมายมา เพียงเอนร่างพิงกลับไปที่หมอนอิงแล้วยกถ้วยชาที่เพิ่งวางลงไปขึ้นมาถือ

“อ่าน”

ฝูหรงงงงันไปเล็กน้อยก่อนหัวเราะออกมา แม้จะบ่นว่านางขวัญอ่อน แต่สะใภ้สี่ยังคงไว้ใจนาง

“ยังเข้าใจว่าอะไรเสียอีก” เปิดซองจดหมายด้วยความตื่นเต้นแล้ว หลังกวาดตามองรอบหนึ่งฝูหรงก็ออกจะผิดหวัง “เป็นยาสมุนไพรบางอย่าง”

“เป็นยาสมุนไพรอะไรหรือ” หลวนอวิ๋นชูยกมุมปาก “ลุงใบ้ผู้นี้เป็นพวกหลงใหลเรื่องยาคนหนึ่ง”

ฝูหรงก็อ่านอย่างจริงจังขึ้นมา

“ต่งฟูเหรินเคยเห็นเหลยกงเถิงหรือไม่ รู้ถึงฤทธิ์ รส ผลต่ออวัยวะ และเส้นชีพจร* หรือไม่” อ่านมาได้ครึ่งหนึ่งฝูหรงพลันลุกขึ้นมา “จริงสิ…สะใภ้สี่ท่านรอสักครู่ บ่าวจะไปหาพู่กันมาสักด้าม”

เหลยกงเถิงยังมีชื่อเรียกว่าหงเย่าหรือสุ่ยหมังเฉ่า ในชาติที่แล้วแหล่งกำเนิดหลักอยู่ที่ฝูเจี้ยน เจ้อเจียง อันฮุย และเหอหนาน จัดเป็นพืชทางตอนใต้ ว่ากันตามเหตุผล แหล่งผลิตก็น่าจะอยู่ที่แคว้นหลวนแห่งนี้ เหตุใดลุงใบ้จึงไม่รู้จัก ในสวนสมุนไพรมีพืชทางเหนือมากมายเพียงนั้น ลุงใบ้ยังรู้จักดี เพาะปลูกได้ดีเพียงนั้น เหตุใด…

หลวนอวิ๋นชูมีความคิดผุดขึ้นมา

ลุงใบ้เป็นคนทางเหนือ เป็นคนแคว้นหลี

นึกถึงรูปร่างผอมสูงที่แตกต่างจากคนทางตอนใต้ของลุงใบ้ หลวนอวิ๋นชูยิ่งมั่นใจในการคาดเดาของตนเอง

นางอดขมวดคิ้วไม่ได้

ได้ยินว่าหัวหน้าสำนักหมอหลวงของแคว้นหลีเป็นขุนนางขั้นห้า สูงกว่าหัวหน้าสำนักหมอหลวงของแคว้นหลวนสองขั้น เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สภาพแวดล้อมการเป็นหมอที่แคว้นหลีดีกว่าที่แคว้นหลวนมาก เพราะเหตุใดลุงใบ้ต้องมาอยู่ที่แคว้นหลวน มอบกายถวายชีวิตเป็นคนสวนที่ต่ำต้อยด้วย

“สะใภ้สี่ บ่าวเตรียมพร้อมแล้ว” ฝูหรงปูกระดาษเรียบร้อย “ท่านพูดเถิด”

“เหลยกงเถิงรสขมและเผ็ด มีฤทธิ์เย็น มีพิษร้ายแรง มีผลต่อตับ เส้นชีพจรไต” หลวนอวิ๋นชูพลันนึกอะไรขึ้นได้จึงเอ่ยขึ้นช้าๆ “ช่วยขับลมขจัดความชื้นในร่างกาย ช่วยให้เลือดลมเดินดี ยุบบวม ขจัดพิษ”

ท่องไปท่องมา ตรงหน้าหลวนอวิ๋นชูก็ปรากฏเงาร่างสูงสง่ารูปโฉมหล่อเหลาขึ้นมา

นั่นเป็นฤดูร้อนที่ร้อนอบอ้าว เขาพับขากางเกง สวมเสื้อยืดสีขาว รับยาสมุนไพรจากมือของตน ทางหนึ่งก็ทำการสาธิตอย่างละเอียด ทางหนึ่งก็พูดร่ำไรไม่หยุด

‘เหลยกงเถิงเป็นสมุนไพรที่มีพิษร้ายแรง เวลานำมาปรุงยาจะต้องลอกผิวออกให้เกลี้ยง รวมทั้งผิวชั้นในและผิวตรงร่อง’

“บ่าวเขียนเสร็จแล้วเจ้าค่ะ!” ฝูหรงถือพู่กัน เงยหน้าขึ้นถาม “ยังมีอีกหรือไม่”

“เหลยกงเถิงเป็นสมุนไพรที่มีพิษร้ายแรง เวลานำมาปรุงยาจะต้องลอกผิวออกให้เกลี้ยง”

พูดโพล่งออกมาแล้ว หลวนอวิ๋นชูจึงได้สติกลับคืนมา มุมปากมีรอยยิ้มเจื่อนผุดขึ้นจางๆ ลู่เซวียนที่แววตาลึกล้ำมีท่าทีสุภาพละมุนละไมเฉกเช่นผู้มีการศึกษาเหมือนกันกับเขาผู้นั้น จะช่วยชี้แนะนางอย่างละเอียดรอบคอบ ไม่ถือสาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้หรือไม่

“แม้ความรู้ด้านการแพทย์จะต่ำต้อย แต่การเปิดร้านยาสักแห่งจะอย่างไรก็ดีกว่ามาเป็นคนสวน” ฝูหรงวางพู่กันในมือลงพลางหมุนข้อมือ “สะใภ้สี่ ท่านว่าลุงใบ้เชี่ยวชาญสมุนไพรเพียงนี้ เพราะเหตุใดจึงสมัครใจเป็นคนสวนอยู่ในจวนของเราเจ้าคะ”

“เขาเป็นคนแคว้นหลี”

“คนแคว้นหลี!” ฝูหรงตื่นตะลึง “สะใภ้สี่ทราบได้อย่างไร” นางพลันหยุดชะงักก่อนผงกศีรษะ “ก็จริง ดูจากรูปร่างท่าทางของเขาก็ไม่คล้ายคนแคว้นหลวน บ่าวกลับไม่เคยคิดไปในทางนั้นเลย”

“ตอนเอาข้าวไปส่ง เจ้าก็บอกกับเขาว่า…” หลวนอวิ๋นชูมองไปที่นอกหน้าต่าง คล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ “คนทางเหนือเพิ่งมาอยู่ทางใต้ ช่วงแรกจะไม่ชินต่ออากาศหนาวชื้นในฤดูหนาว จะเป็นโรคเฟิงซือ* ได้ง่าย สามารถใช้เหลยกงเถิงขับความชื้นช่วยให้เลือดลมเดินสะดวกได้พอดี”

“เฟิงซือคืออะไรหรือเจ้าคะ” ฝูหรงมีสีหน้าฉงน “บ่าวไม่เคยได้ยินคนในจวนเอ่ยถึงลุงใบ้เลย คิดว่าคงจะปกปิดเป็นความลับ ท่านไปเปิดโปงเขาว่าเป็นคนแคว้นหลีเช่นนี้ จะดีหรือเจ้าคะ”

“ทั้งสองต่างเปิดเผยตรงไปตรงมา จึงจะพูดคุยกันง่าย เขามาถามยาเป็นพิเศษเช่นนี้ กระทั่งตนเองเป็นใครมาจากไหนก็คงไม่ต้องบอกแล้วกระมัง” หลวนอวิ๋นชูยื่นมือมาหยิบจดหมายของลุงใบ้ ก้มหน้าลงพิจารณาดู “เรื่องนี้เจ้ารู้ก็พอ ไม่ต้องเอ่ยถึงต่อหน้าผู้อื่น ยาล้วนมีสามส่วนที่เป็นพิษ ต่อไปเจ้าไปที่สวนสมุนไพรต้องระวังตัวสักหน่อย อย่าเที่ยวไปแตะไปจับส่งเดช โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่ากินของที่อยู่ในนั้น จะได้ไม่พลั้งเผลอกินสิ่งที่ไม่ควรกิน”

“เจ้าค่ะ” ฝูหรงพยักหน้า “เรื่องนี้ท่านไม่พูด บ่าวก็ทราบดี”

เห็นหลวนอวิ๋นชูก้มหน้าอ่านจดหมาย ฝูหรงก็เก็บหมึกและพู่กันบนโต๊ะ

“เมื่อวานสะสางสิ่งของที่เหลืออยู่ของซิ่วเอ๋อร์ พบอะไรหรือไม่”

“ล้วนแต่เป็นของใช้ของอิสตรี ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ” ฝูหรงหยิบกระดาษที่เพิ่งเขียนเสร็จมาเป่าหมึกให้แห้ง “สะใภ้สี่จะดูหรือไม่ บ่าวเกรงจะเขียนตกหล่น”

เห็นหลวนอวิ๋นชูไม่พูดอะไร ฝูหรงจึงอ่านอย่างละเอียดอีกรอบหนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็เอ่ยขึ้น

“จริงด้วย เห็นยาสมุนไพรนี้แล้ว บ่าวก็นึกขึ้นมาได้”

“นึกอะไรขึ้นมาได้”

เสียงหลวนอวิ๋นชูค่อนข้างเหนื่อยหน่าย นางอ้าปากหาว เอนร่างพิงไปที่หมอนอิง

“เมื่อวานพบยาสมุนไพรห่อหนึ่งที่ใต้เตียงซิ่วเอ๋อร์” ฝูหรงพับกระดาษให้เรียบร้อยแล้วยัดเก็บไว้ในแขนเสื้อ ก่อนเงยหน้าขึ้นมองหลวนอวิ๋นชู “เป็นยาชนิดเดียวกับที่ซิ่วเอ๋อร์ถามขึ้นมาในสวนสมุนไพรวันนั้น ที่ซิ่วเอ๋อร์บอกคล้ายเขาของแพะภูเขา”

หยางเจี่ยวเถิง!

“ยานั่นอยู่ที่ใด” ภาพเบื้องหน้าสว่างวาบขึ้น หลวนอวิ๋นชูลุกขึ้นมานั่งตัวตรง “เอามาให้ข้าดูหน่อย”

“ใช้หนังแกะสีดำห่อไว้ เห็นแล้วก็ขยะแขยง เฉียนหมัวมัวให้น้าชายของซิ่วเอ๋อร์เอาไปด้วยทั้งหมดแล้วเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นหรือ เจ้าไปเรียกเฉียนหมัวมัวมา” นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งหลวนอวิ๋นชูก็เงยหน้าขึ้นมองฝูหรง “ไม่ต้องแล้ว เจ้าออกจากจวนไปด้วยตนเอง คิดหาหนทางเอายาห่อนั้นกลับมา”

“เพราะเหตุใดเจ้าคะ” ฝูหรงออกจะฉงน “ย่อมต้องมีเหตุผล บ่าวจึงจะ…”

พูดมาได้ครึ่งหนึ่ง ฝูหรงดวงตาพลันสว่างวาบ

“จริงสิ สะใภ้สี่ บางทีปัญหาอาจจะอยู่ที่ของในห่อนั้น บ่าวก็คิดอยู่ วันนั้นอยู่ที่สวนสมุนไพร…”

ขณะพูดอยู่นั้นสี่หลันก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา ฝูหรงรีบหยุดปาก เก็บหมึกพู่กันบนโต๊ะแล้วรีบเดินออกไป

เห็นฝูหรงมีสีหน้าแปลกพิกล สี่หลันรู้สึกแปลกใจ นางหยุดยืนอยู่ตรงนั้น ชะโงกหน้ามองตามเงาร่างที่หายลับไปของอีกฝ่ายจากนั้นจึงขยับเข้ามาที่หน้าเตียงเตาแล้วยอบตัวคารวะ

“สะใภ้สี่ ฝูหรงนาง…”

“นางไปล้างพู่กัน” หลวนอวิ๋นชูไม่ได้เปิดเปลือกตา เอาจดหมายของลุงใบ้ยัดเข้าไปในแขนเสื้ออย่างไม่เผยร่องรอย “มีเรื่องอะไรหรือ”

“พ่อบ้านเฮ่อมาแล้วเจ้าค่ะ”

“พ่อบ้านเฮ่อ?” หลวนอวิ๋นชูหัวคิ้วกระตุกเล็กน้อย “ไม่ได้บอกว่ามีธุระอะไรหรือ”

“ไม่ได้บอกเจ้าค่ะ บอกเพียงจะพบท่าน”

เรื่องของนางล้วนเป็นเหยาหลันเข้ามาจัดการด้วยตนเอง พ่อบ้านเฮ่อมาทำอะไร

หัวคิ้วหลวนอวิ๋นชูกระตุก ดวงตาของนางเจิดจ้าดุจดวงดาว ลุกพรวดขึ้นมา

“ไป ไปดูซิ!”

* เอาหน้าร้อนของตนไปแนบก้นเย็นๆ ของผู้อื่น เป็นสำนวน หมายถึงไปยุ่งเกี่ยวกับคนเย็นชาไร้น้ำใจ

* รสของยาคือเผ็ด หวาน เปรี้ยว ขม เค็ม ผลต่ออวัยวะและเส้นชีพจร หมายถึงผลของยาที่มีต่ออวัยวะภายในร่างกายและเส้นชีพจรทั่วร่าง

* เฟิงซือ คือโรคไขข้อ มีอาการปวดข้อปวดกระดูก มีสาเหตุมาจากความชื้นเย็น

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

8568_cover (1)
[นิยายแปล] I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire!
21 กรกฎาคม 2021
Unknown
Bringing Culture to a Different World
14 กรกฎาคม 2022
9469_cover
[นิยายแปล]พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”
25 พฤศจิกายน 2021
601-696×392
ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก
14 กรกฎาคม 2022
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 18"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF