cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

หมอหญิงพลิกธรรมเนียม - บทที่ 17

  1. Home
  2. All Mangas
  3. หมอหญิงพลิกธรรมเนียม
  4. บทที่ 17
Prev
Next

ขอร้องล่ะ ก้อนปมที่นางพูดถึงจะปรากฏในวันหน้า ไม่ใช่ตอนนี้!

หลวนอวิ๋นชูรู้สึกไม่พอใจในคำพูดของซุนอี๋ไท่อย่างมาก ไม่รู้นางฟังไม่เข้าใจจริงหรือเจตนาบิดเบือน หันไปมองนางแวบหนึ่ง กลับไม่ได้พูดอะไร ในเมื่อผู้อื่นไม่เชื่อเจ้าพูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์

จงอี๋ไท่ครุ่นคิดอย่างจริงจังแล้วสั่นศีรษะ

“ดูเหมือนไม่มี ถ้ามีข้าคงร้อนใจแต่แรกแล้ว ไหนเลยจะเชื่อคำพูดที่บอก ‘ร่างกายกำลังเติบโต’ ”

เห็นอยู่ว่าซุนอี๋ไท่ย้ายดอกทาบกิ่ง* เจตนาบิดเบือนคำพูดของหลวนอวิ๋นชู แต่ทุกคนต่างปิดปากแน่น มีคนมองเพดานห้อง มีคนมองพื้น แต่ไม่มีคนออกมาแก้ไข พานหมิ่นร้อง ‘เฮอะ’ ออกมาคำหนึ่งพลางเบ้ปาก หลวนอวิ๋นชูเพียงทำเป็นไม่เห็น นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเฉยเมย

พักนี้ต่งเหอปวดท้องบ่อยขึ้นทุกที จงอี๋ไท่นึกสงสัยคำบอกกล่าวที่ว่า ‘ร่างกายกำลังเติบโต’ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สุภาษิตว่าไว้มีโรคก็เที่ยวหาหมอไปทั่ว ได้ยินหลวนอวิ๋นชูพูดมาเช่นนี้ จึงอยากจะขอให้นางช่วยรักษา แต่เห็นทุกคนต่างขัดขวาง ก็ไม่กล้ายืนกราน แต่เนื่องจากมีความคิดค้างคาอยู่ในใจ สีหน้าจึงเปลี่ยนเป็นหม่นหมองวิตกกังวล

ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินมาว่าต่งเหอชอบปวดท้อง แต่จงอี๋ไท่ไม่ได้มารายงานอย่างเป็นทางการ นายหญิงใหญ่จึงเพียงทำเป็นไม่ได้ยิน บุตรชายของนางไม่อยู่แล้ว แล้วเพราะเหตุใดบุตรชายของผู้อื่นกลับสบายดี ต่งเหอผู้นั้นตายไปก็ดี เพียงแต่อย่าถูกหนอนพิษหรือถูกวางยาพิษอะไร ทำให้นางต้องถูกตำหนิว่าปกครองบ้านไม่เข้มงวด ควบคุมดูแลได้ไม่เหมาะสมก็พอ

นางมองหลวนอวิ๋นชูอย่างยากจะเข้าใจแวบหนึ่ง ในประตูคฤหาสน์ใหญ่หลังนี้ ถึงจะเป็นคุณชายที่ถือกำเนิดจากอนุก็สูงศักดิ์ยิ่ง ไม่สบายใช่ว่าใครก็สามารถตรวจรักษาได้ ยายิ่งไม่อาจใช้ส่งเดช เรื่องที่คนอื่นอยากจะหลบยังแทบไม่ทัน หลวนอวิ๋นชูกลับพุ่งเข้าใส่ ถ้าให้หลวนอวิ๋นชูสอดมือเข้ามาจริง เกิดต่งเหอเป็นอะไรไป แม้แต่นางก็ยากจะปัดความรับผิดชอบได้

นายหญิงใหญ่ลืมเรื่องที่หลวนอวิ๋นชูถูกใส่ร้ายป้ายสีในช่วงก่อนหน้านี้ไปแล้ว เพียงอยากจะอบรมอีกฝ่ายสักหลายคำ แต่ติดที่ทุกคนยังอยู่ตรงหน้า ทั้งกลัวจะถูกตราหน้าว่าเป็นมารดาที่ใจร้าย จึงจำต้องล้มเลิกความคิด วางถ้วยชาในมือลง สายตาหันไปทางจงอี๋ไท่

“เหอเอ๋อร์ปวดท้องบ่อย เหตุใดอี๋ไท่ห้าจึงไม่บอกให้รู้แต่แรก หากไม่ใช่อวิ๋นชูเอ่ยขึ้น ข้าก็ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว เรื่องนี้ถ้าปล่อยทิ้งไว้ เกิดมีอันตรายจะทำอย่างไร คนอื่นไม่รู้จะเข้าใจว่าข้าผู้เป็นมารดาไม่ให้รักษา”

เสียงไม่ดังแต่เต็มไปด้วยการตำหนิกล่าวโทษ ประหนึ่งมารดาผู้เปี่ยมไปด้วยความเมตตาผู้หนึ่ง

ต่งเหอปวดท้องไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นมาวันสองวัน มีอยู่ครั้งหนึ่งยังถูกสี่หลันไปพบเข้า ครานี้เหตุใดจึงบอกไม่รู้แล้วเล่า ฟังคำพูดนี้แล้วจงอี๋ไท่รู้สึกอึดอัดคับข้องในอก แทบอยากจะเข้าไปฉีกหน้ากากจอมปลอมนี้ออกมา แต่นางถือดีว่าได้รับความโปรดปรานจากต่งกั๋วกง หลายครั้งที่ตามท่านหมอมาก็ไม่เคยรายงานอย่างเป็นทางการ ครั้งนี้ถูกจับผิดได้จริงฟันขาวจึงขบกันแน่น จงอี๋ไท่กล่าวอย่างนอบน้อม

“ล้วนเป็นผู้น้อยที่ไตร่ตรองไม่รอบคอบ ท่านหมอบอกไม่เป็นไร จึงไม่กล้ามารบกวนท่าน ทำให้ท่านต้องเป็นห่วง”

“อวิ๋นชูจะอย่างไรก็อายุยังน้อย ทั้งไม่เคยเรียนรู้วิชาการแพทย์ อาจพูดจาไม่ถูกต้องไปบ้าง อาการป่วยของเหอเอ๋อร์ไม่อาจปล่อยทิ้งไว้ ตอนเที่ยงเลิกเรียนแล้ว ก็ให้หมอมาดูหน่อยเถอะ จัดยาให้กินสักหลายเทียบ ไม่ต้องเสียดายเงินทอง ค่ารักษาทั้งหมดเบิกจากบัญชีใหญ่”

น้ำเสียงรักและเมตตาเต็มไปด้วยความห่วงใย จงอี๋ไท่ก้มหน้าอย่างยินยอมคล้อยตามแล้วรับคำ จากนั้นก็ตำหนิตนเองอีกเล็กน้อย ก่อนถอยไปอยู่ด้านข้างเงียบๆ

“แยกย้ายกันไปเถิด ข้าก็ล้าแล้ว”

ในน้ำเสียงเจือความอ่อนล้าอยู่หลายส่วน นายหญิงใหญ่เกาะแขนสี่จู๋ลุกขึ้นยืน…

“สะใภ้สี่ โปรดหยุดก่อน”

เดินลงบันไดหินศิลาเขียวลงมา จงอี๋ไท่ยกมือขึ้นบังแสงแดดที่แยงตา หรี่ตาลงพลางเรียกหลวนอวิ๋นชูไว้

“เป็นเรื่องแปลกใหม่จริงๆ” พานหมิ่นที่เดินตามออกมาราวกับกลัวคนอื่นจะไม่ได้ยิน โก่งคอพูดเสียงแหลม “บัณฑิตหญิงผู้ยอดเยี่ยมแห่งยุคผู้สูงส่ง ที่แท้อยู่ในห้องหับก็อ่านหนังสือ ‘ชั้นต่ำ’ มานานแล้ว มิน่าเล่า จึงได้แขนเสื้อยาวเชี่ยวชาญการร่ายรำ* อยู่ในหมู่ปัญญาชน ทำอะไรก็คล่องแคล่วราบรื่นไปเสียทุกอย่าง!”

แพทย์เป็นหนึ่งในเก้าอาชีพชั้นต่ำ พานหมิ่นจงใจเว้นคำว่า ‘เก้า’ ไป เพียงหยิบชั้นต่ำมาสองคำ ในคำพูดนี้จึงมีความขัดหูเพิ่มขึ้นมาส่วนหนึ่ง ประหนึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืนอันคุกรุ่น จงอี๋ไท่เห็นสถานการณ์ไม่ดีจึงรีบปิดปาก มองหลวนอวิ๋นชูอย่างขอโทษแวบหนึ่ง แล้วเกาะแขนสาวใช้รีบเดินผละไป

ไม่มีความเดือดดาล หลวนอวิ๋นชูมองพานหมิ่นอย่างเฉยเมย ในใจมีความหดหู่ผิดหวังผุดขึ้นมาเป็นระลอกริ้ว นางชอบวิชาการแพทย์ นี่เป็นความสามารถเพียงอย่างเดียวที่นางมีในโลกแห่งนี้ ทว่าหมอในแคว้นหลวนกลับเป็นอาชีพที่ต่ำต้อยอาชีพหนึ่ง ถูกมองเป็นเก้าอาชีพชั้นต่ำ ถ้าไม่ใช่เพราะชีวิตความเป็นอยู่ถูกบีบบังคับก็ไม่มีใครเปลี่ยนมาทำอาชีพหมอ ทั้งนี้บรรพบุรุษจะได้ไม่ถูกดูถูกเหยียดหยาม

วันหน้าเมื่อไปจากจวนกั๋วกงต้องพึ่งพาตนเอง นางควรเป็นหมอดีหรือไม่

ถ้าไม่เป็นหมอนางที่ไม่มีความสามารถอื่นใดจะหาเลี้ยงชีวิตได้อย่างไร

“พี่สะใภ้สามกล่าวผิดแล้ว” ต่งซูขยับเข้ามารวมกลุ่มด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เกาะหัวไหล่พานหมิ่นช่วยแก้คำพูดให้ “แม้หมอจะต่ำต้อย แต่ไม่ใช่ใครก็เรียนรู้ได้!”

“ใช่ๆๆ” พานหมิ่นผงกศีรษะทันที หัวเราะจนร่างกายสั่นไหว “น้องซูพูดถูก แต่ก็มีคนไม่รู้จักท้องฟ้าสูงพื้นดินหนา** ไม่ว่าอาชีพใดล้วนอยากยื่นมือเข้าไป ใครไม่รู้จะเข้าใจว่าเป็นผู้มีความสามารถยอดเยี่ยมแห่งยุค เฮอะ! ไม่รู้จักส่องคันฉ่องดูตนเองเสียบ้าง”

“นั่นสิ ไม่กลัวจะทำให้จวนกั๋วกงต้องอับอายขายหน้าหรือ”

“หนังสือวิชาการแพทย์แม้จะไม่นำไปสอนในชั้นเรียน สะใภ้สี่กลับสามารถอ่านเข้าใจและนำมาใช้ได้จริง เกรงว่าคนบางคนกระทั่งอ่านก็ยังอ่านไม่เข้าใจ ตนเองไม่มีความสามารถก็ยังมาหัวเราะเยาะคนอื่น” ฝูหรงกล่าวขึ้นพลางมองไปที่สี่จวี๋ “เช่นนี้เรียกอะไรนะ”

สี่จวี๋ก็กล่าวยิ้มๆ “เช่นนี้เรียกอยากกินองุ่นแต่ไม่ได้กิน จึงบอกองุ่นเปรี้ยว…”

“พวกต่ำช้ากีบเท้าเล็ก*** มาจากที่ใด” เนื่องจากไม่กล้าว่าสี่จวี๋ พานหมิ่นจึงชี้หน้าฝูหรงแล้วด่าว่า “พวกเจ้านายคุยกัน มีที่ให้เจ้าสอดปากคำหรือ”

เสียงแหลมเล็กดังก้องไปไกล หญิงรับใช้สูงวัยที่เดินไปมาอยู่บริเวณข้างกำแพงต่างหยุด ชะเง้อคอยาวมองมาทางด้านนี้ เหยาหลันที่เพิ่ง ‘คลานออกมาราวกับหอยทาก’ เห็นแล้วก็เดินเข้ามาดึงรั้งพานหมิ่นกับต่งซูไว้

“ทั้งสองกำลังทำอะไร เมื่อวานข้าเพิ่งได้ใบชาปี้หลัวชุน* มาจำนวนหนึ่ง ไปชิมที่เรือนข้ากัน ช่วยคลายความร้อนในร่างกาย”

“ปี้หลัวชุนมีอะไรน่าดื่ม” ต่งซูสะบัดชายแขนเสื้อ เกาะแขนชิวหงเดินจากไปไม่แม้แต่จะหันหน้ามามอง “ยังสู้น้ำค้างกุหลาบ** ที่ห้องข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ”

เหยาหลันยิ้มๆ ก่อนหันมาเบ้ปากให้หลวนอวิ๋นชู

“พวกเราไม่ได้ทำเรื่องผิดบาปอะไร วันนี้ท่านน่าจะโต้กลับสะใภ้สามให้หนักๆ” เห็นหลวนอวิ๋นชูขึ้นไปบนเตียงเตาแล้ว ฝูหรงก็หยิบหมอนอิงใบใหญ่มาให้นางพิงหลัง “ไม่อาจเอาแต่ปล่อยให้พวกนางข่มเหงเช่นนี้”

“มีอะไรต้องโมโห” หลวนอวิ๋นชูเอนพิงไปข้างหลัง หาตำแหน่งที่สบาย “สุนัขกัดคนทีหนึ่ง คนยังจะกัดสุนัขตอบกลับไปได้หรือ”

สี่จวี๋งงงัน “นั่นไยมิใช่ขนเต็มปากหรือเจ้าคะ” ก่อนหัวเราะเบาๆ “จะต้องเป็นเพราะเมื่อวานคุณชายสามถูกผีหลอก บังเอิญท่านก็ไปที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยนมา นางไม่รู้ไปฟังใครยุแยงมา ถึงได้พุ่งเป้ามาที่ท่าน” สี่จวี๋หมุนตัวไปรินน้ำชาถ้วยหนึ่ง ยกมาที่ข้างเตียงเตา “ตนเองคุมคุณชายสามไม่อยู่ รู้จักแต่หาเรื่องคนอื่น แม้แต่นายหญิงใหญ่ก็ไม่พอใจนาง ถ้าไม่ใช่นายท่านพึ่งพากำลังเงินของคฤหาสน์สกุลพานไปเสียทุกเรื่อง ด้วยความประพฤติและคุณธรรมของนาง คงถูกหย่าไปนานแล้วเจ้าค่ะ”

รู้ว่าตนเองพลั้งปากเสียงของสี่จวี๋พลันหยุดชะงัก นางตรวจดูระดับความร้อนของน้ำชา แล้วยื่นส่งให้หลวนอวิ๋นชู

“อุ่นกำลังดีเจ้าค่ะ”

เอ่ยถึงเรื่องต่งเหรินตกน้ำ ฝูหรงมีความลับในใจที่ไม่อาจบอกคนอื่นได้ ได้แต่ทุบขาให้หลวนอวิ๋นชูเงียบๆ ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา

“อืม” จิบน้ำชาไปคำหนึ่ง หลวนอวิ๋นชูผงกศีรษะด้วยความพอใจ “กลิ่นหอมกรุ่น รสชาติเข้มข้นนุ่มนวล”

“นี่เป็นชาหลงจิ่ง*** ชั้นเลิศที่บ่าวเสาะหามาจากเรือนนายหญิงใหญ่โดยเฉพาะ เป็นใบชาหลวงที่ฝ่าบาทพระราชทานมาให้ ดีกว่าใบชาปี้หลัวชุนมากนัก” แล้วเอ่ยเสริมอีกคำ “ใครอยากดื่มชาปี้หลัวชุนกัน!”

สี่จวี๋ยังคงขุ่นเคืองใจที่เหยาหลันไม่ได้เชิญหลวนอวิ๋นชูไปดื่มชาปี้หลัวชุน

ฝูหรงก็หัวเราะเบาๆ

“หือ?” เห็นบนเตียงเตามีแผ่นผ้าเรียบแบนเกลี้ยงเกลาชิ้นหนึ่งซึ่งทำจากผ้าฝ้ายติดกันหลายชั้นวางอยู่ หลวนอวิ๋นชูหยิบขึ้นมาด้วยความอยากรู้ “นี่คืออะไรหรือ”

“นี่ใช้สำหรับทำพื้นรองเท้า เตียงในห้องบ่าวไม่ร้อน จึงเอาออกมาอบที่นี่เจ้าค่ะ” ฝูหรงมองหลวนอวิ๋นชูด้วยความแปลกใจ ใบหน้ามีแววกังวล “สะใภ้สี่ แม้แต่ของสิ่งนี้ก็…ต้องทดสอบบ่าว”

คงไม่ใช่กระทั่งสิ่งเหล่านี้นางก็ลืมไปแล้วกระมัง อยู่ต่อหน้าสี่จวี๋ ฝูหรงไม่อยากเปิดเผยเรื่องนี้ออกมา

“อ้อ…”

ชาติที่แล้วหลวนอวิ๋นชูยังไม่เคยเห็นของสิ่งนี้จึงพยักหน้า มุมปากอมยิ้มน้อยๆ

“แผ่นผ้าหนาขนาดนี้ยังทำให้เรียบเสมอกันได้เพียงนี้” สี่จวี๋รับแผ่นผ้ามากดๆ ดูก่อนเอ่ยชื่นชม “ฝูหรงฝีมือดียิ่ง”

“นี่ใช้ผ้าเก้าชั้น พื้นรองเท้าผ้าด้ายดิบที่ในจวนส่งมาให้บางเกินไป สะใภ้สี่ร่างกายอ่อนแอ กลัวความเย็น ข้าถึงได้ทำขึ้นเป็นพิเศษ” ยากนักที่สี่จวี๋จะเอ่ยชมนาง ฝูหรงยิ้มแย้มหน้าบาน “ทั้งหมดนี้สะใภ้สี่เป็นคนสอน รองเท้าคู่หนึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดคือพื้นรองเท้า สะใภ้สี่บอก แป้งเปียกต้องเหนียวกำลังเหมาะ ไม่อาจเหลวเกินไปและไม่อาจแข็งเกินไป หาไม่ตอนเย็บขึ้นมาจะยุ่งยากสิ้นเปลืองกำลัง”

ฝูหรงพูดเจื้อยแจ้ว ท่าทางเต็มไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธาสะใภ้สี่ของนางอย่างที่สุด

“คุณหนูสามท่าทางปราดเปรียวเฉลียวฉลาดปานนั้น” หลวนอวิ๋นชูวางถ้วยชาลง เอนพิงไปข้างหลังด้วยท่าทางสบายๆ จมอยู่ในความครุ่นคิด “มองไม่ออกเลยว่าจะพูดจาเจ็บแสบเช่นนั้น”

“คุณหนูสามเดิมไม่ได้เป็นเช่นนี้ พูดขึ้นมาแล้วในจวนแห่งนี้นางนิสัยเปิดเผยตรงไปตรงมาที่สุด กับบ่าวไพร่ก็เมตตาและอ่อนโยน โดยเฉพาะนางชอบความเรียงและบทกวีของท่าน ยังมีคุณหนูรองที่ออกเรือนไปแล้ว พวกท่านสามคนเมื่อก่อนสนิทสนมกันที่สุด” สี่จวี๋กล่าวแล้วชี้ไปที่แผ่นผ้าในมือ มองไปที่ฝูหรง “ไว้พรุ่งนี้เจ้าก็ช่วยทำพื้นรองเท้าหนาเท่านี้ให้ข้าสักคู่ นายหญิงใหญ่ชอบบ่นว่าใต้ฝ่าเท้าเย็น ข้ากับสี่จู๋อย่างมากก็ทำได้แค่เจ็ดชั้น ถ้ามากกว่านี้ก็จะย่นแล้ว ไม่ก็แข็งเกินไป เย็บไม่เข้า”

เห็นสี่จวี๋จะทำให้นายหญิงใหญ่ ฝูหรงก็มองมาทางหลวนอวิ๋นชู

พอมาคิดอีกทีสี่จวี๋จึงนึกได้ว่านางเปลี่ยนนายแล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องถือสาเรื่องนี้ อดรู้สึกกลืนไม่เข้า คายไม่ออกไม่ได้ ได้แต่ยิ้มเจื่อน ยามกะทันหันถึงกับหาคำพูดมาแก้สถานการณ์ไม่ได้

หลวนอวิ๋นชูรับแผ่นผ้ามาอีกครั้ง พินิจพิเคราะห์อยู่พักใหญ่ ก่อนยื่นส่งให้สี่จวี๋แล้วบอก

“รองเท้าของข้ายังไม่ต้องรีบใช้ เอาอันนี้ไปทำให้นายหญิงใหญ่ก่อน”

“นี่…”

“สะใภ้สี่!”

ฝูหรงกับสี่จวี๋เอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน

ฝูหรงมองร่างกายที่บอบบางอ่อนแอของหลวนอวิ๋นชู นางปวดใจจนเอาแต่ขมวดคิ้ว ถ้าไม่ใช่ตอนเฝ้าศพ* ทุกคืนหลวนอวิ๋นชูจะหนาวจนปวดท้อง นางก็คงไม่รีบร้อนทำพื้นรองเท้าหนาให้เช่นนี้ ที่รีบเอามาอบในห้องนี้ก็เพื่อหลวนอวิ๋นชูจะได้สวมเร็วขึ้นหน่อย คิดไม่ถึงว่ากลับถูกสี่จวี๋เห็นแล้วถูกใจ แม้จะปวดใจ แต่ฝูหรงก็รู้ ยามอยู่ต่อหน้าสี่จวี๋คำพูดของหลวนอวิ๋นชูไม่อาจเรียกคืนได้ ริมฝีปากนางอ้าขยับอย่างลำบากใจด้วยพูดอะไรไม่ออก

“ดูความจำของบ่าวสิ สี่จู๋ทำให้นายหญิงใหญ่หลายคู่อยู่ก่อนแล้ว” เห็นฝูหรงทำท่าจะพูดแต่ก็ไม่กล้าพูด สี่จวี๋ก็เอามือตบหน้าผาก ยิ้มพลางเอาแผ่นผ้ายื่นให้นาง “สะใภ้สี่ร่างกายอ่อนแอ พื้นรองเท้านี้ท่านใช้ก่อนเถิด เพียงแต่ฝูหรงสะดวกเมื่อไรค่อยทำอีกชุดก็ได้”

“เช่นนี้ย่อมดีที่สุด…” ฝูหรงสีหน้าดีใจ รับแผ่นผ้ามาอย่างเบิกบานใจ “คืนนี้ข้าจะทำให้”

“ใช้พื้นรองเท้านี้ทำให้นายหญิงใหญ่ก่อน” ฝูหรงพูดยังไม่ทันจบก็ถูกหลวนอวิ๋นชูตัดบท “ความกตัญญูสูงสุดของลูกหลานไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่าการเคารพพ่อแม่ นายหญิงใหญ่เพิ่งจะสวมรองเท้าที่มีพื้นรองเท้าเจ็ดชั้น ข้าจะกล้าสวมพื้นรองเท้าเก้าชั้นได้อย่างไร ฝูหรงจำไว้ ทำเพิ่มอีกสักสองชุด ถือโอกาสทำให้นายท่านด้วยสองคู่”

ฝูหรงใบหน้าชะงักค้าง ผ่านไปครู่ใหญ่สี่จวี๋ถึงได้สติ รีบเก็บแผ่นผ้ามาอย่างฉับไว

“ใช่ๆ สะใภ้สี่พูดถูกต้องเจ้าค่ะ ล้วนเป็นบ่าวที่ไตร่ตรองไม่รอบคอบ พรุ่งนี้บ่าวจะต้องนำความกตัญญูของท่านเรียนให้นายท่านและนายหญิงใหญ่ทราบ”

มุมปากหลวนอวิ๋นชูยกขึ้น ประหนึ่งมีบัวหิมะงดงามเยียบเย็นผลิบานออกมาดอกหนึ่ง เพื่อเป้าหมายที่ยาวไกล นางต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำ สามารถใช้ประโยชน์จากผู้นำสูงสุดของบ้านอย่างสองคนนี้ย่อมดีที่สุด

“เจ้าค่ะ คืนนี้บ่าวจะทำเพิ่มอีก ทำให้นายท่านกับนายหญิงใหญ่อีกคนละสองคู่” คิดได้แล้วฝูหรงก็กระตือรือร้นขึ้นมา เงยหน้าขึ้นมองหลวนอวิ๋นชูด้วยดวงตาเป็นประกาย “ฝีมือวาดภาพของสะใภ้สี่ดี ท่านช่วยวาดลวดลายให้สักหลายภาพได้หรือไม่เจ้าคะ จะได้เอามาลอกแบบทำเป็นหน้ารองเท้า”

เช่นนี้นายหญิงใหญ่จะได้นึกถึงความจริงใจและความกตัญญูกตเวทีของหลวนอวิ๋นชูมากขึ้น วันหน้าจะได้ดีต่อนางมากอีกสักหน่อย

หลวนอวิ๋นชูเพียงยิ้มน้อยๆ ร่างเอนพิงไปข้างหลัง ถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ไฉนจึงบอกว่าข้ากับคุณหนูสามสนิทสนมกันที่สุด ข้าดูอย่างไรก็ไม่คล้าย”

คงไม่ใช่มาตรฐานของ ‘ความสนิทสนม’ ในสมัยโบราณแตกต่างจากสมัยปัจจุบันกระมัง ต่งซูที่พอเจอหน้าก็ด่านางว่าเป็นตัวอัปมงคล ดาวหายนะ ถึงกับเป็นสหายรู้ใจที่สนิทสนมที่สุดของนางเชียว!

“คุณหนูสามชื่นชอบบทกวี เลื่อมใสศรัทธาท่านเป็นที่สุด มีความลับส่วนตัวอะไรก็พูดกับท่าน ทุกครั้งที่ท่านมาก็รบเร้าจะนอนเตียงเดียวกับท่าน นายหญิงใหญ่ยังชอบหยอกล้อพวกท่าน บอกนางไม่ต้องแต่งออกไปแล้ว รอท่านแต่งเข้ามา พวกท่านพี่สะใภ้น้องสามีก็เขียนกลอนท่องบทกวีอยู่ด้วยกันทุกวันตลอดไปก็แล้วกัน” ชั่วพริบตาเดียวฝูหรงก็ลืมข้อเสนอเมื่อครู่ ทุบขาให้หลวนอวิ๋นชูต่อ “ก็ไม่ทราบเพราะเหตุใด ราวเดือนกว่าก่อนหน้านี้ จู่ๆ คุณหนูสามก็พูดจาร้ายกาจขึ้นมา นับแต่นั้นก็ปฏิบัติต่อท่านราวกับเป็นศัตรูคู่แค้นเสียอย่างนั้น”

“เรื่องนี้ยังต้องพูดด้วยหรือเจ้าคะ ย่อมเป็นเพราะเรื่องที่ฝ่าบาทพระราชทานสมรส คุณชายสวินผู้นั้นกับคุณชายเจียง ยังมีคนในจวนของเราผู้นั้นอีกคน” ชูนิ้วมือขึ้นมาสามนิ้ว ก่อนสี่จวี๋จะชี้ไปยังทิศทางของเรือนชิ่นย่วน “ต่างขึ้นชื่อเรื่องดื่มกินการพนันเที่ยวผู้หญิง ถูกแอบขนานนามว่าสามเสเพลแห่งเมืองหลวนเฉิง”

“อืม ก็ประมาณนั้น” มือที่เคลื่อนไหวหยุดนิ่งลงด้วยจิตใต้สำนึก ฝูหรงครุ่นคิดอย่างจริงจังแล้วพยักหน้าหงึกหงัก “ก่อนหน้านี้ราวเดือนกว่า คุณหนูสามเจอกับคุณชายสวินที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยน หลังจากถูกนายหญิงใหญ่ทำโทษแล้ว ต่อมาเรื่องก็กลายเป็นเช่นนี้”

“พวกท่านไม่รู้อะไร” สี่จวี๋ค้อมตัวลงมาพูดด้วยท่าทางลึกลับ “ได้ยินว่าในบ้านคุณชายสวินมีอนุอยู่แล้วถึงสี่นาง มีบุตรสาวสามคน ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันอนุคนที่โปรดปรานมากที่สุดก็คลอดบุตรชายมาหนึ่งคน จวนแม่ทัพจัดโต๊ะเลี้ยงฉลองใหญ่โต ด้วยเรื่องเหล่านี้คุณหนูสามของเราจะไม่โวยวายได้หรือ พวกท่านไม่เห็น หลายวันนั้นคุณหนูสามอาละวาดหนักเพียงใด นายหญิงใหญ่ตกใจจนเพิ่มหญิงรับใช้สูงวัยไว้ในเรือนหลันฟางอีกไม่น้อย ทุกวันต้องผลัดเปลี่ยนกันจับตาดู กลัวมากว่านางจะคิดสั้น”

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ หลวนอวิ๋นชูพยักหน้าอย่างรู้แจ้งชัดเจน มีอนุอยู่เป็นฝูงไม่พูดถึง เวลานี้กระทั่งบุตรชายคนโตที่เกิดจากอนุก็คลอดออกมาแล้ว ไม่ว่าใครถูกกำหนดให้ไปอยู่ในครอบครัวเช่นนี้ย่อมดีใจไม่ออก เพียงแต่หลวนอวิ๋นชูคิดจนหัวแทบแตกก็ไม่เข้าใจ ต่งซูเจอคนไม่ดีเกี่ยวอะไรกับนาง นางเพิ่งแต่งเข้ามาก็ต้องเป็นม่าย หรือต่งซูคิดนางว่ายังโชคดีกว่า

เห็นหลวนอวิ๋นชูหัวคิ้วขมวดมุ่น สี่จวี๋จึงเอ่ยปลอบเบาๆ

“นางอารมณ์ไม่ดี ไม่ว่ากับใครก็ดุร้ายด้วยหมด รอให้ผ่านช่วงนี้ไปแล้วก็จะดีขึ้นเจ้าค่ะ สะใภ้สี่อย่าได้ไปถือสานางเลย ท่านไม่เห็นสะใภ้ใหญ่หรือ ยังยอมอ่อนข้อให้นางไปเสียทุกอย่าง นายหญิงใหญ่ก็เหลือนางที่เป็นบุตรสาวแท้ๆ อยู่เพียงคนเดียวแล้ว”

หลวนอวิ๋นชูไม่ได้กล่าวต่อ ในห้องจึงเงียบเสียงลง

ความเงียบสงัดอย่างประหลาดทำให้สี่จวี๋เห็นว่าวันนี้นางพูดมากเกินไปแล้ว ออกจะรู้สึกไม่รู้จะทำอย่างไรดี สายตาก็กวาดมองไปรอบด้าน

“จริงสิ” เห็นนกฮว่าเหมยที่ร้องจิ๊บๆ อยู่ข้างหน้าต่าง สี่จวี๋พลันนึกอะไรขึ้นได้ “เมื่อวานคุณชายสามตกน้ำ ทุกเรือนต่างไปเยี่ยมแล้ว สะใภ้สี่ท่านว่าเรา…”

* ย้ายดอกทาบกิ่ง เป็นคำอุปมา หมายถึงแอบสับเปลี่ยนคน สิ่งของ หรือเรื่องราวเพื่อหลอกลวงผู้อื่นหรือเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ตนต้องการ

* แขนเสื้อยาวเชี่ยวชาญการร่ายรำ เป็นคำอุปมา เดิมหมายถึงข้อได้เปรียบกว่าคนอื่น ไม่ว่าทำอะไรย่อมสำเร็จโดยง่ายดาย ภายหลังหมายถึงคนที่มีเงินทองและอิทธิพลย่อมเชี่ยวชาญในการใช้เล่ห์เหลี่ยมเสาะหาช่องทาง

** ท้องฟ้าสูงพื้นดินหนา เดิมมีความหมายตรงตัวว่าฟ้าดินกว้างใหญ่ ต่อมาใช้เปรียบถึงบุญคุณอันใหญ่หลวง และยังใช้หมายถึงความยากลำบาก ความหนักหนารุนแรงของเหตุการณ์ ความยุ่งยากซับซ้อนของสิ่งต่างๆ

*** เป็นคำด่าหญิงสาว มีที่มาจากชนเผ่ามองโกลในสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นชนเผ่าที่เลี้ยงสัตว์ หญิงสาวในชนเผ่ามีความใกล้ชิดสนิทสนมกับสัตว์พวกม้า แพะ วัว จึงใช้คำว่ากีบเท้ามาแทนคำเรียกเด็กและคนหนุ่มสาว ซึ่งมีความหมายในทางไม่ดี ต่อมาได้นำมารวมกับคำว่าต่ำช้ากลายเป็นคำด่า

* ชาปี้หลัวชุน เป็นหนึ่งในสิบชาชื่อดังของจีน มีกลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ มีแหล่งกำเนิดบนภูเขาต้งถิงติดทะเลสาบไท่หู เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู

** น้ำค้างกุหลาบ เป็นชื่อสุราทำจากสุราเกาเหลียงหมักดอกกุหลาบ ข้าวเหนียว และน้ำตาลกรวด ระดับแอลกอฮอล์ 38-55 ดีกรี มีสรรพคุณทางยาช่วยให้เลือดลมเดินสะดวก ลดอาการบวม ประจำเดือนมาไม่ปกติ

*** ชาหลงจิ่ง เป็นหนึ่งในชาเขียวที่ขึ้นชื่อของจีน ใบชาแบนแหลมตรง น้ำชามีสีเขียวใส ถิ่นปลูกอยู่ในหมู่บ้านหลงจิ่ง เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง

* เฝ้าศพ เป็นประเพณีของคนจีนสมัยโบราณ ลูกหลานและญาติมิตรจะเฝ้าศพผู้ตายในโถงจัดพิธีเป็นเวลาสามวันเพราะเชื่อว่าวิญญาณจะกลับมาที่บ้าน หลังจากนั้นจึงจะนำศพลงโลงได้

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

Godgame-01-696×1044
ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games
30 กันยายน 2022
9567_cover
ไม่อยากไปดูตัวเลยตั้งเงื่อนไขสุดเว่อร์แต่ดันตรงกับเพื่อนร่วมชั้น
15 มิถุนายน 2021
Super-Decomposition-System
ระบบย่อยสลายขั้นเทพ
20 ตุลาคม 2022
2
ดาบพิโรธสวรรค์
3 กุมภาพันธ์ 2022
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 17"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF