cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

หมอหญิงพลิกธรรมเนียม - บทที่ 10

  1. Home
  2. All Mangas
  3. หมอหญิงพลิกธรรมเนียม
  4. บทที่ 10
Prev
Next

“นายท่านกระหายอยากจะได้มาซึ่งผู้มีสติปัญญาความสามารถ แต่ยังคงมีพวกประจบสอพลอ อย่างเจียงเสียนคนประเภทนี้ยังคงหาทางให้จากไปเสียแต่โดยเร็วจะดีกว่า”

หลังจากให้เหยาหลันกับหลวนอวิ๋นชูออกไปแล้ว นายหญิงใหญ่ก็โบกมือให้บ่าวไพร่ทั้งหลายออกไป แล้วเอ่ยปากหว่านล้อม

ต่งกั๋วกงขมวดคิ้ว “เป็นสตรีจะไปเข้าใจอะไร”

“ข้าอะไรก็ไม่เข้าใจ และไม่กล้าขัดขวางนายท่านด้วย” นายหญิงใหญ่ขยับนั่งตัวตรง เสียงแหลมขึ้นมา “แต่ข้ายังมีดวงตาอยู่ นับแต่เจียงเสียนมาอยู่ในจวน เหรินเอ๋อร์ก็ขลุกอยู่กับเขาทั้งวัน อย่างอื่นไม่ได้เรียนรู้มา แต่กินดื่ม เล่นพนัน เที่ยวหอนางโลมล้วนเรียนรู้มาจนเชี่ยวชาญแล้ว รวมสวินเหลียนด้วยอีกคน ท่านไม่ได้ยินข้างนอกเรียกพวกเขาว่าอย่างไรหรือ” นางมองต่งกั๋วกงตรงๆ “สามเสเพลแห่งเมืองหลวนเฉิง”

ต่งกั๋วกงหันหน้าเข้าหาแสงตะวัน หรี่ตามองตุ๊กตาหยกเหลืองถือเครื่องดนตรี

“ท่านดูเหรินเอ๋อร์สิ กลายเป็นอะไรไปแล้ว ถ้าไม่ใช่ข้าจับตาดูอย่างใกล้ชิด แม้แต่คนของข้าก็คิดจะแตะต้อง อ้ายเอ๋อร์ร่างยังไม่ทันเย็น เขาถึงกับคิดจะใช้กำลังข่มเหงอวิ๋นชูแล้ว อวิ๋นชูเป็นใคร เป็นน้องสะใภ้ของเขานะ!” นายหญิงใหญ่หน้าแดง หอบหายใจดัง “เรื่องนี้ถ้าแพร่งพรายออกไป จวนกั๋วกงจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด”

“นางก็ไม่ใช่ยังดีๆ อยู่หรือ”

“แต่นางสูญเสียความทรงจำแล้ว”

ร้องเสียงแหลมออกมาคำหนึ่ง นายหญิงใหญ่ก็รู้ว่าตนเสียกิริยาจึงผ่อนคลายน้ำเสียงลง

“สกุลของเรามีฐานะสูงส่ง มีซุ้มประตูสรรเสริญ* ฝ่าบาทเคยตรัสไว้ ถ้าสกุลต่งมีหญิงม่ายครองพรหมจรรย์ครบหนึ่งร้อยคน ไม่เพียงจะสร้างซุ้มประตูสรรเสริญกิเลนห้าช่อง ยังจะเขียนป้ายทองด้วยลายพระหัตถ์อีกด้วย เจ้าบ้านฝ่ายหญิงจะได้รับการสืบทอดตำแหน่งนายหญิงตราตั้งสืบต่อกันไปทุกรุ่น” นึกถึงต่งอ้ายที่เสียชีวิตแต่ยังเยาว์วัย แต่กลับได้เข้าไปฝังไว้ในสุสานบรรพบุรุษเป็นกรณีพิเศษ “ประมุขตระกูลคาดหวังว่าถ้าอวิ๋นชูสามารถสร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้วงศ์สกุลและบรรพบุรุษ ช่วงชิงซุ้มประตูสรรเสริญครบหนึ่งร้อยคนมาได้ หลังจากตายแล้วก็เข้าฝังในสุสานบรรพบุรุษได้เช่นกัน” แล้วยกความผิดเป็นข้อๆ ขึ้นมากล่าว “เมื่อใดเรื่องที่เหรินเอ๋อร์คิดจะใช้กำลังข่มเหงอวิ๋นชูที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยนแพร่งพรายออกไป เขาถูกประมุขตระกูลลงโทษถึงตายไม่พูดถึง อ้ายเอ๋อร์จะต้องถูกขับออกจากสุสานบรรพบุรุษแน่นอน!”

ต่งกั๋วกงแอบทอดถอนใจทีหนึ่ง เรื่องแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่นายหญิงใหญ่ไหนเลยจะรู้ถึงความเป็นมาของเจียงเสียน

เจียงเสียน ชื่อรองเหิงจวิน เคยเป็นท่านโหวต่างสกุลเพียงหนึ่งเดียวของแคว้นหลี คนผู้นี้วรยุทธ์สูงส่ง มีความเชี่ยวชาญด้านการทหารและตำราพิชัยสงคราม เป็นผู้มีความสามารถยอดเยี่ยมแห่งยุค ฮ่องเต้แคว้นหลีเคยยกย่องว่าได้คนผู้นี้มาเพียงคนเดียวก็ทำให้ใต้หล้าสงบสุขได้ นับแต่เปิดเผยตัวออกมา เขาใช้เวลาเพียงห้าปีก็ช่วยฮ่องเต้แคว้นหลีที่ยังเยาว์วัยบริหารราชการ ยึดครองเผ่าซยงหนูทางตอนเหนือ ภายในปราบปรามพวกก่อกบฏจนราบคาบ สร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับแคว้นหลี หลังจากนั้นเขายังได้นำเสนอแผนการใหญ่ ‘แผนการสร้างความสงบแก่บ้านเมือง’ และ ‘แผนการสร้างความมั่นคงให้บ้านเมือง’ ซึ่งเป็นข้อคิดเห็นที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกลและยอดเยี่ยมเลิศล้ำ

ถ้าไม่ใช่ตนใช้ไส้ศึกทำให้เจียงเสียนกับฮ่องเต้และขุนนางแตกคอกัน แล้วปล่อยให้เจียงเสียนช่วยฮ่องเต้แคว้นหลีบริหารราชการแผ่นดินต่อไป เพียงไม่กี่ปีใต้หล้านี้ย่อมตกเป็นของแคว้นหลีแต่เพียงผู้เดียว ถ้าไม่ใช่เจียงเสียนถูกลอบเล่นงาน เกรงว่าต่อให้ตนทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ ก็ยังเชิญเจียงเสียนมาไม่ได้!

หลังจากเจียงเสียนออกจากแคว้นหลีมา ฮ่องเต้แคว้นหลีถึงกับส่งกำลังคนสิบกว่าสายมาตามไล่ล่าสังหารเขา ดูจากเรื่องนี้ก็รู้ถึงความหวาดกลัวที่ฮ่องเต้แคว้นหลีมีต่อเจียงเสียนแล้ว ถึงแม้ฮ่องเต้แคว้นหลีจะแล้งน้ำใจ แต่เจียงเสียนกลับอาลัยอาวรณ์บ้านเกิดเมืองนอน หนีมาอยู่จวนกั๋วกงสองปี ไม่เคยออกอุบายหรือแผนการให้ตนเลยสักครั้ง เป็นแขกที่มาอาศัยกินข้าวอย่างแท้จริง

ที่ทำให้คนทอดถอนใจก็คือภายหลังฮ่องเต้แคว้นหลีพบว่าตนเองหลงกลอุบายเข้าแล้ว ถึงกับไม่รับฟังความเห็นของทุกคน รับแผนการสร้างความสงบแก่บ้านเมืองของเจียงเสียนมาดำเนินการ สองปีมานี้ฝึกทหารบำรุงม้า แคว้นหลีในวันนี้ไม่ใช่แคว้นหลีในอดีตจะมาเปรียบเทียบได้

หันกลับมาดูแคว้นหลวน หลายชั่วคนมานี้เพียงอาศัยช่องเขาปากมังกรบริเวณต้นน้ำของแม่น้ำหลวนที่มีชัยภูมิเต็มไปด้วยอันตรายเป็นปราการ ไม่ใส่ใจเรื่องการเพาะปลูก ไม่จัดเตรียมกำลังรบให้พร้อมสรรพ ทั้งแคว้นไม่ว่าเบื้องบนเบื้องล่างมีแต่ความสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย กำลังความสามารถของสองแคว้นทางนี้ลดต่ำทางโน้นเพิ่มสูง อันตรายจากการสิ้นแผ่นดินอยู่ตรงหน้านี้แล้ว ฮ่องเต้กลับถูกปัญญาชนคร่ำครึกับขุนนางที่ประจบสอพลอปิดหูปิดตา เขากราบทูลหลายครั้งกลับยิ่งถูกปัดแข้งปัดขา

ไม่ผิดแม้แต่น้อยจริงๆ นับแต่โบราณกาลมาปัญญาชนทำให้บ้านเมืองพังพินาศ!

การตกต่ำของเจียงเสียนเป็นสิ่งที่เขาทุ่มเทความคิดวางแผนจัดการ เขาต้องการให้เจียงเสียนถลำเข้าไปในความสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย ต้องการให้อีกฝ่ายจิตใจหงอยเหงาเศร้าซึม คิดไม่ถึงว่ากลับพาเหรินเอ๋อร์เสียคนไปด้วย

ต่งกั๋วกงแอบทอดถอนใจ เอาตุ๊กตาหยกเก็บกลับคืนลงไปในหีบไม้หนานมู่แล้วใส่กุญแจพลางกล่าว

“มีบุรุษสักกี่คนที่ไม่เจ้าชู้ ตัวเหรินเอ๋อร์ไม่แสวงหาความก้าวหน้า ไม่อาจโทษผู้อื่น เหิงจวินเป็นคนรักษาคำพูด มีชื่อเสียงบารมีในหมู่ที่ปรึกษาที่ดีมาก จู่ๆ จะให้เขาไปเสีย จะทำให้จิตใจของทุกคนห่อเหี่ยวท้อแท้เสียมากกว่า”

“นายท่าน…”

“ฟูเหรินอย่าเอ่ยถึงอีกเลย!”

เห็นเขามีท่าทีแข็งกร้าว นายหญิงใหญ่สีหน้าแปรเปลี่ยน แต่ไม่กล้าเอ่ยถึงอีก นิ่งเงียบไปชั่วขณะแล้วนึกถึงเรื่องการแต่งงานของต่งซูขึ้นมาได้ “นายท่านไม่ใช่บอกว่ากราบทูลฝ่าบาทให้ทรงทราบแล้วหรือ”

“ยังไม่มีข่าวอะไรเลย” ต่งกั๋วกงยกน้ำชาขึ้นมาจิบคำหนึ่ง ถอนหายใจแล้วว่า “เรื่องนี้ไม่ง่ายเหมือนที่ฟูเหรินคิด ฝ่าบาททรงแต่งตั้งสวินซีเป็นแม่ทัพใหญ่ยกทัพไปบุกตะวันออกแล้ว ที่พระราชทานสมรสก็เพื่อจะให้พวกเขาพ่อลูกออกรบด้วยความสบายใจ ถ้าท่านแม่ทัพใหญ่ไม่ยอมล้มเลิกการแต่งงาน ฝ่าบาทก็ไม่ทรงอนุญาต”

“แล้ว…” นายหญิงใหญ่ตกตะลึง “แม่ทัพสวินมีทีท่าจะล้มเลิกการแต่งงานหรือไม่”

“เขาบอกทุกอย่างแล้วแต่ฝ่าบาทจะทรงตัดสินพระทัย”

“นั่นก็แสดงว่าไม่ยอมล้มเลิกแล้ว” เมื่อนึกถึงว่าต่งจงตายในสนามรบ นายหญิงใหญ่ก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว เสียงสั่นอย่างกลั้นไม่อยู่ “ความหมายของนายท่านก็คือ…คุณชายสวินก็จะติดตามบิดาไปออกรบด้วย?”

เห็นเขาพยักหน้า นายหญิงใหญ่น้ำตาร่วงรินทันที

“จงเอ๋อร์ อ้ายเอ๋อร์ทยอยจากไป ข้าเหลือเพียงซูเอ๋อร์เท่านั้น ข้า…ข้าไม่สู้ตายเสียให้สิ้นเรื่อง” นางมองต่งกั๋วกงอย่างวิงวอนขอร้อง “ขอร้องนายท่านไม่ว่าอย่างไรต้องคิดหาวิธีล้มเลิกการแต่งงานในครั้งนี้”

“บุรุษต่อสู้ในสนามรบ รับใช้ตอบแทนบ้านเมือง แม้ตายก็มีเกียรติ ถ้าสวินเหลียนถอยหนียามออกศึก ก็ไม่มีค่าควรให้ข้ายกซูเอ๋อร์แต่งกับเขา!”

น้ำเสียงหนักแน่นดังกังวาน นายหญิงใหญ่สีหน้าซีดขาว น้ำเสียงยิ่งแหลมขึ้น

“นายท่าน ข้าไม่เข้าใจเรื่องบ้านเมือง แต่ได้ยินอวิ๋นชูพูดอยู่เสมอ แคว้นหลีบ้านเมืองอุดมสมบูรณ์กำลังทหารแข็งแกร่งมานานแล้ว จับจ้องแคว้นหลวนแคว้นชื่อสองแคว้นตาเป็นมัน แคว้นหลวนกับแคว้นชื่อมีแต่ต้องร่วมมือกันต่อต้านจึงจะเป็นแผนที่ดี ดังคำพูดที่ว่า ‘เมื่อไม่มีปากฟันย่อมหนาวเหน็บ’ หากแคว้นชื่อล่มสลาย ถัดไปก็คือแคว้นหลวน” แล้วบอกต่อว่า “เดิมทีฝ่าบาทก็ไม่ควรกรีธาทัพไปตะวันออก!”

ต่งกั๋วกงสีหน้าหม่นขรึม กระทั่งสตรีผู้หนึ่งยังเข้าใจเหตุผลนี้ ฮ่องเต้กลับเชื่อฟังคำพูดของแม่ทัพใหญ่กับขันทีวังตะวันตก ดึงดันโดยไม่ฟังเสียงผู้ใด เขาขุนนางคนหนึ่งจะทำอะไรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจทางการทหารของเขาถูกช่วงชิงไปนานแล้ว เพียงมีตำแหน่งลอยๆ เท่านั้น

เสียดายความรู้ทั้งด้านบุ๋นและบู๊ที่มีอยู่เต็มท้องของเขาไม่มีที่ให้แสดง ถ้าสามารถเกี่ยวดองผ่านการแต่งงานกับแม่ทัพใหญ่ผู้บัญชากองกำลังทหารสิบมณฑลได้ ก็ยังพอจะนับได้ว่าเป็นแผนที่ดีที่จะได้อำนาจทางการทหารกลับมาอีกครั้ง ด้วยจิตใต้สำนึก เขากลับหวังว่าจะสามารถผลักดันให้การแต่งงานในครั้งนี้สำเร็จลงได้ เลี้ยงบุตรสาวไปเพื่ออะไร ไม่ใช่เพื่อแบ่งเบาภาระให้บิดาในช่วงคับขันสำคัญหรอกหรือ

ทว่ายามอยู่ต่อหน้านายหญิงใหญ่ คำพูดนี้เขาก็พูดไม่ออก

“ซูเอ๋อร์ก็เป็นเลือดเนื้อของข้า ข้าเองก็ปวดใจเช่นกัน จนใจที่อำนาจของแม่ทัพสวินเหมือนอาทิตย์ยามเที่ยงวัน* เราไม่อาจล้มเลิกได้!” เขามองนายหญิงใหญ่อย่างเจ็บปวด “ฟูเหรินจะให้จวนกั๋วกงตายไปพร้อมกับซูเอ๋อร์หรือ”

“นายท่านเป็นถึงเจิ้นกั๋วกง แม้แต่เรื่องแต่งงานของบุตรสาวก็ยังไม่อาจจัดการได้หรือ!” สีหน้านายหญิงใหญ่จากขาวเปลี่ยนเป็นแดง “ดินแดนแคว้นหลวนแห่งนี้ บรรพบุรุษของเราก็มีคุณูปการอยู่ครึ่งหนึ่ง บรรดาศักดิ์เจิ้นกั๋วกง ปฐมฮ่องเต้ทรงเป็นผู้แต่งตั้ง ให้สืบทอดบรรดาศักดิ์ต่อไปทุกชั่วคน บรรพบุรุษไม่อยู่แล้ว ท่านถูกตัดอำนาจทางการทหารไม่พูดถึง แม้แต่บุตรสาวยังถูกคนบังคับให้แต่งงาน เจิ้นกั๋วกงผู้องอาจผ่าเผยถึงกับถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเพียงนี้ สวรรค์ช่างไร้ดวงตา!”

น้ำเสียงนายหญิงใหญ่ทดท้อเยียบเย็น ความไม่พอใจในราชสำนักลึกซึ้งเหนือคำพูดที่เอ่ยออกมา ต่งกั๋วกงสีหน้าเปลี่ยนเป็นตื่นตะลึง รีบขยับนั่งตัวตรง กวาดตามองไปรอบด้านด้วยความตึงเครียด กล่าวอย่างไม่พอใจ

“นับแต่โบราณมาขุนนางยึดถือกษัตริย์* เป็นขุนนาง อย่าว่าแต่บุตรสาวเลย แม้แต่ชีวิตก็เป็นของฝ่าบาท จะทำผิดหลักปฏิบัติได้อย่างไร เรื่องนี้ฟูเหรินเลิกพูดถึงเถอะ หากแพร่งพรายออกไปจะต้องประสบหายนะกันทั้งครอบครัว!”

ในใจยังคงแค้นเคืองยิ่ง แต่นายหญิงใหญ่ก็รู้ถึงหลักปฏิบัติและจริยธรรมระหว่างกษัตริย์กับขุนนาง บุตรและบิดา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจฝ่าฝืนได้ เห็นต่งกั๋วกงบันดาลโทสะก็ไม่กล้าพูดอีก

ผ่านไปพักใหญ่ต่งกั๋วกงก็เอ่ยคำพูดที่เปี่ยมไปด้วยน้ำใสใจจริงและแฝงความหมายลึกซึ้ง

“ฟูเหรินวางใจ ซูเอ๋อร์มีบุญวาสนา ไม่แน่ว่าจะอาภัพเหมือนอวิ๋นชู” แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ถ้าสวินเหลียนสามารถสร้างความดีความชอบทางการทหารได้ ซูเอ๋อร์ก็จะพลอยมีหน้ามีตาไปด้วย ไยมิใช่เป็นเรื่องดี” แล้วทอดถอนใจพลางเอ่ยต่อ “ฟูเหรินลองไตร่ตรองให้ดี การแต่งงานครั้งนี้แม่ทัพใหญ่ไม่ยกเลิก เราก็ยกเลิกไม่ได้ แต่ถ้าเขายกเลิกการแต่งงานจริง ชื่อเสียงไม่ดีงามของซูเอ๋อร์ถูกเล่าลือออกไป ในเมืองหลวนเฉิงยังจะมีใครกล้ามาสู่ขออีก”

“เรื่องนี้…”

เรื่องนี้นายหญิงใหญ่ไม่ได้นึกถึงมาก่อน อดตะลึงงันไปไม่ได้ จากนั้นน้ำตาก็พร่างพรมลงมาดุจสายฝน

“ล้วนเป็นเวรเป็นกรรม” นางพูดกับตนเอง “สวินเหลียนมีอนุอยู่หลายคนแล้ว มาคลุกคลีอยู่กับเจียงเสียน ยิ่งไม่มีอะไรที่จะไม่ทำ…ฝ่าบาทพระราชทานสมรส แม้ข้าจะรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนซูเอ๋อร์ แต่ก็ยอมรับชะตากรรมแล้ว เพียงหวังว่าหลังจากเขาแต่งกับซูเอ๋อร์แล้วจะสงบเสงี่ยมลงบ้าง คิดไม่ถึงว่าเขาถึงกับ…พอนึกถึงว่าจงเอ๋อร์ต้องตายในสนามรบ หัวใจของข้าก็คล้ายถูกมีดคว้านเช่นนั้น”

คำพูดเศร้าอาดูรอย่างสุดแสนหลายประโยคแฝงไปด้วยความรักบุตรสาวอย่างลึกซึ้ง แม้จะเป็นการแต่งงานเพื่อการเกี่ยวดองทางการเมืองที่ต่งกั๋วกงเฝ้าปรารถนา แต่จะอย่างไรก็เป็นบุตรสาวของตน เมื่อนึกถึงอนาคตที่ไม่แน่นอนของนาง เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าสลด พูดอะไรไม่ออก

อากาศคล้ายหยุดนิ่งลง ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ

เสียงเคาะประตูดังกังวานขึ้น นายหญิงใหญ่สะดุ้งเฮือก ตื่นจากภวังค์ รีบยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดน้ำตาจนแห้ง จิบน้ำชาให้ชุ่มคอ แล้วส่งเสียงไปที่ประตู

“เข้ามาเถิด”

สี่หลันเท้าข้างหนึ่งเพิ่งก้าวเข้ามาข้างใน เท้าอีกข้างหนึ่งยังอยู่ข้างนอก ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ชะงักงัน นางลังเลอยู่ชั่วขณะ แล้วกัดฟันเดินเข้าไปทำความเคารพอย่างระมัดระวัง แต่ไม่กล้าพูดอะไร

“เจ้าไม่ใช่อยู่ปรนนิบัติสะใภ้สี่หรอกหรือ” เห็นนางไม่พูด นายหญิงใหญ่เอาความคับแค้นใจที่มีอยู่เต็มอกระบายใส่นาง “วิ่งมาทำอะไรที่นี่”

“นายหญิงใหญ่สั่งสอนได้ถูกต้อง บ่าวสมควรถูกลงโทษ บ่าว…”

พูดมาได้ครึ่งหนึ่งสี่หลันมองสบนัยน์ตาคมกริบของนายหญิงใหญ่ เสียงพลันขาดหายไป หลังจากได้สติจึงตอบคำอย่างระมัดระวัง

“เรียนนายหญิงใหญ่ สะใภ้สี่จะไปทะเลสาบลั่วเยี่ยน พวกบ่าวห้ามปรามไม่อยู่ สี่จวี๋จึงให้บ่าวรีบมาเรียนให้นายหญิงใหญ่ทราบเจ้าค่ะ”

“ไปทะเลสาบลั่วเยี่ยน?” นึกได้ว่าต่งซูก็ถูกสวินเหลียนเซ้าซี้พันพัวที่นั่น นายหญิงใหญ่ก็ยิ่งโทสะพวยพุ่ง “คนไว้ทุกข์ไม่อยู่ในห้องหับ เที่ยวเล่นไปทั่วได้อย่างไร!”

สี่หลันเนื้อตัวสั่นเทา รู้ว่านายหญิงใหญ่เข้าใจผิดแล้วจึงรีบชี้แจง

“เข้าไปทางประตูข้างฝั่งตะวันตกของเรือนลู่ย่วนเจ้าค่ะ”

“ประตูข้างฝั่งตะวันตกเรือนลู่ย่วน” นายหญิงใหญ่ย่นหัวคิ้ว “ไม่ใช่ให้คนปิดไปแล้วหรือ”

“บ่าวก็ไม่ทราบแน่ชัดเจ้าค่ะ” สี่หลันสั่นศีรษะ “เพียงแต่ใส่กุญแจไว้แล้ว ลูกกุญแจอยู่ที่ซุนหมัวมัว นางดึงดันไม่ให้ บอกต้องเรียนสะใภ้ใหญ่ก่อน สุดท้ายสะใภ้สี่บันดาลโทสะ ลงโทษนาง แล้วแย่งเอาลูกกุญแจไป…”

นายหญิงใหญ่แววตาเย็นยะเยือก เรียกสี่เหมยเข้ามา “เจ้าไปที่นั่น เรียกสะใภ้สี่มา แล้วถือโอกาสเก็บลูกกุญแจประตูข้างฝั่งตะวันตกมาด้วย”

สี่เหมยรับคำ กำลังจะหมุนตัวไปต่งกั๋วกงก็เอ่ยเสียงเข้มขึ้นมา “ล้วนแต่เป็นพื้นที่ในจวน มีอะไรต้องตื่นตระหนกตกใจ”

สี่เหมยมองนายหญิงใหญ่อย่างไม่รู้จะทำประการใด

“นายท่าน…” นายหญิงใหญ่ผ่อนคลายน้ำเสียงลง “ทะเลสาบลั่วเยี่ยนอยู่ติดกับเรือนซิงซู่ เหล่าที่ปรึกษามักไปที่นั่น”

“ฟูเหรินกังวลเกินไปแล้ว อวิ๋นชูก็รู้กาลเทศะ รู้หลักทำนองคลองธรรม” ต่งกั๋วกงวางถ้วยชาลง “ฝ่าบาททรงอนุญาตให้อิสตรีเข้าร่วมการชุมนุมได้ ตอนนางอยู่บ้านเดิมก็ไปเข้าร่วมการชุมนุมแต่งบทกวีของเมืองหลวนเฉิงทุกวัน เพิ่งจะแต่งเข้ามาจวนของเราก็ถูกจำกัดควบคุมเช่นนี้ จะทำให้นางไม่พอใจและมองหน้ากันไม่สนิท”

“นายท่าน…”

“นางแต่งเข้ามาได้สามวัน อ้ายเอ๋อร์ก็…เดิมพวกเราก็เป็นฝ่ายทำให้นางไม่ได้รับความเป็นธรรม”

“ตามกฎระเบียบที่บรรพบุรุษวางไว้ ไหนเลยจะอนุญาตให้อิสตรีเข้าออกสถานที่เช่นนั้น เข้าร่วมการชุมนุมกวี ท่านดูเวลานี้สิ บุรุษสตรีต่างเข้าไปรวมตัวอยู่ด้วยกันท่องบทกวีเขียนกลอน นี่มันธรรมเนียมปฏิบัติอะไร เรื่องเสื่อมเสียขัดต่อประเพณีและศีลธรรมอันดีงามเหล่านั้นใช่เกิดขึ้นน้อยเสียเมื่อไร”

หน้าประตูเรือนแม่ม่ายมีเรื่องติฉินนินทามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลวนอวิ๋นชูเป็นบัณฑิตหญิงผู้ยอดเยี่ยมแห่งยุคที่คนนับหมื่นต่างเลื่อมใสศรัทธา! น้ำเสียงของนายหญิงใหญ่พลันเหน็บแนมเจ็บแสบขึ้นโดยไม่รู้ตัว ลืมไปแล้วว่าสี่เหมยสี่หลันยังยืนอยู่ที่นี่

ประเพณีโบราณเน้นหนักเรื่องชายหญิงไม่พึงใกล้ชิดกัน ปัญหานอกบ้านในบ้านแยกกันจัดการ ทั้งเรียกร้องให้สตรีไม่สอดส่องออกไปนอกกำแพง ไม่ออกจากเรือน แต่ฮ่องเต้ของแคว้นหลวนแต่ละยุคที่ผ่านมาต่างเลื่อมใสและส่งเสริมเรื่องความรู้และการศึกษา โดยเฉพาะฮ่องเต้องค์ปัจจุบันโปรดปรานสตรีที่สามารถท่องบทกวีเขียนกลอนได้ อยู่ในตำหนักฝ่ายในก็จะจัดงานชุมนุมดอกท้อ งานเลี้ยงดอกโบตั๋นอะไรกับเหล่าสนมชายาอยู่เสมอ ขอเพียงดอกไม้อะไรในอุทยานหลวงผลิบานหรือร่วงโรย ก็จะเอามาเป็นหัวข้อในการแต่งบทกวี บางทีก็ชื่นชม บางทีก็ไว้อาลัย สนุกสนานครึกครื้นกันพักหนึ่ง บรรดาสนมชายาที่ถึงพร้อมทั้งรูปโฉมและสติปัญญาย่อมได้รับความโปรดปรานเป็นเท่าทวีคูณ ได้รับพระราชทานรางวัลมากมาย นานวันเข้าในหมู่ราษฎรก็พากันเอาอย่าง ฮ่องเต้โม่ตี้จึงถือโอกาสนี้อนุญาตให้สตรีชาวบ้านคลุมหน้าเข้าออกสถานที่ชุมนุมกวี เข้าร่วมการชุมนุมกวีได้

ไม่ว่าเรื่องใดล้วนมีสองด้าน การที่บุรุษสตรีต่างเข้าไปคลุกคลีอยู่ด้วยกัน นานวันเข้าย่อมเกิดความสนิทสนมใกล้ชิด ครั้นแล้วนับแต่ข้อบัญญัตินี้ได้รับการยกเลิก ไม่เพียงผู้มีอำนาจยศตำแหน่ง กระทั่งครอบครัวที่มีเงินก็มีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นทุกปี กลายเป็นหัวข้อสนทนาหลังอาหารช่วงดื่มน้ำชาของผู้คน และด้วยเหตุนี้เอง สตรีไปร่วมการชุมนุมแม้ราชสำนักจะอนุญาต แต่ยังคงเป็นที่เหยียดหยามของคนส่วนใหญ่ นายหญิงใหญ่ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ตามความเห็นของต่งกั๋วกงก็เป็นเช่นนั้น นับแต่โบราณหลักปฏิบัติได้กำหนดไว้แล้ว สตรีควรอยู่ในห้องหับ ช่วยเหลือสามีอบรมเลี้ยงดูบุตร แต่หลวนอวิ๋นชูแตกต่างจากคนอื่น นางมีความเฉลียวฉลาด มีสติปัญญาปราดเปรื่องเหนือผู้คน คล้ายได้กลายเป็นแบบอย่างที่ปัญญาชนของแคว้นหลวนคอยไล่ตามสรรเสริญเยินยอไปแล้ว และด้วยเหตุนี้เอง รู้ทั้งรู้ว่าชีวิตของต่งอ้ายเหลืออีกไม่นานแล้ว รู้ทั้งรู้ว่าก่อนออกเรือนนางกับลู่เซวียนแห่งกองอาลักษณ์มีความสนิทสนมส่วนตัวต่อกัน เขาก็ยังคงแต่งนางเข้าจวนกั๋วกง ไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใด เพียงเพื่ออยากใช้นางดึงดูดบุคคลที่มีความสามารถเข้ามา

ถ้าเก็บนางไว้แต่ในจวน แล้วจะดึงดูดบุคคลที่มีความสามารถของเมืองหลวนเฉิงมาเข้าร่วมเป็นพรรคพวกกับเขาได้อย่างไร แล้วที่เขาทุ่มเทความคิดแทบล้มประดาตายแต่งหลวนอวิ๋นชูเข้ามายังจะมีประโยชน์ใดอีก

“ความห่วงกังวลของฟูเหรินข้าเข้าใจ” เห็นนายหญิงใหญ่เคร่งเครียด ต่งกั๋วกงก็โบกมือให้สี่เหมยสี่หลันออกไป “ราชสำนักในเวลานี้บุ๋นควบคุมบู๊ ข้าเป็นทหารนายหนึ่ง แสดงข้อคิดเห็นทางด้านการเมืองไม่ได้รับความสนใจก็แล้วไปเถิด แม้ข้าจะเปิดประตูจวนออกกว้าง เปิดรับบุคคลที่มีสติปัญญาความสามารถ แต่ที่ยอมมาล้วนเป็นพวกห้าวหาญมีพละกำลัง อวิ๋นชูเป็นบัณฑิตหญิงผู้ยอดเยี่ยมแห่งยุค เป็นคนสำคัญในหมู่ปัญญาชน ถ้านางสามารถดึงดูดปัญญาชนเหล่านั้นมาได้ ทำให้ข้าได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาทอีกครั้ง ทำให้ความมุ่งมาดปรารถนาที่จะตอบแทนบ้านเมืองของข้าได้เป็นจริง ข้าย่อมปรารถนาเป็นที่สุดอยู่แล้ว”

“เมื่อก่อนก็ไม่ใช่มีปัญญาชนมาเข้าเป็นพวกหรือ” หลังจากสงบนิ่งลงน้ำเสียงของนายหญิงใหญ่ก็ผ่อนคลายลง นางมองต่งกั๋วกงนิ่ง “เป็นเพราะเจียงเสียน เขาเป็นขุนนางทรยศ ทั้งหลงระเริง ไม่มีอะไรจะมาบังคับควบคุมได้ ปัญญาชนต่างรังเกียจที่จะเข้าร่วมเป็นพวกเดียวกัน ต่างกลัวจะพลอยทำให้ชื่อเสียงเสียหาย จึงได้ไม่เข้ามาใกล้ชิดท่าน ถ้านายท่านคิดจะดึงปัญญาชนมาเป็นพวกจริง ไยต้องพึ่งอวิ๋นชู เพียงขับเจียงเสียนออกไปก็พอ”

รับตัวเจียงเสียนไว้ถึงได้ส่งผลให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นวันนี้ เป็นเรื่องที่เขาคิดไม่ถึง แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้ สถานการณ์ไม่อาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้แล้ว ไยต้องปล่อยเสือกลับภูเขาไปอีกเล่า

“เหิงจวินย่อมมีจุดเด่นของเขา เพียงแต่ไม่อาจให้เราใช้ประโยชน์ได้เท่านั้น”

“หลันเอ๋อร์ได้ยินบิดาของนางบอก เจียงเสียนหลงระเริงกำเริบเสิบสาน ถูกปัญญาชนด่ากระทบกระเทียบเปรียบเปรยอยู่เสมอ เหล่าขันทีก็เห็นเป็นเรื่องขบขันเล่าให้ฝ่าบาทฟัง ไปๆ มาๆ ฝ่าบาทจึงได้ห่างเหินจากท่าน” นายหญิงใหญ่มองต่งกั๋วกงอย่างกลัดกลุ้ม “หรือว่านายท่านมองไม่ออก…ยังงมงายกับคนผู้นั้นอยู่”

เอ่ยถึงเรื่องที่เขาสูญเสียความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพราะเจียงเสียน ต่งกั๋วกงจิตใจว้าวุ่นขึ้นมา พูดด้วยความโมโห

“อิสตรีก็ดีแต่ผมยาวหูตาสั้น เรื่องของบุรุษ พวกเจ้าไม่ต้องมายุ่งเกี่ยว” แล้วบอก “บอกหลันเอ๋อร์ ต่อไปไปจวนอัครเสนาบดีให้น้อยลง!”

นายหญิงใหญ่ขอบตาแดง “จะอย่างไรอวิ๋นชูก็เป็นหลานสาวของข้า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนาง ข้าจะชี้แจงกับน้องสาวอย่างไร”

“ก่อนอวิ๋นชูออกเรือน ที่จวนหัวหน้าสำนักศึกษาหลวงก็ไม่ใช่ผู้คนเดินกันขวักไขว่ทุกวันหรอกหรือ” ต่งกั๋วกงย้อนถาม แล้วผ่อนคลายน้ำเสียงลง “สุภาษิตว่าไว้ ตัวตรงไม่ต้องกลัวเงาเอียง* ขอเพียงอวิ๋นชูไม่หวั่นไหว ยังจะมีอะไรเกิดขึ้นได้”

“นายท่าน…” ในน้ำเสียงของนายหญิงใหญ่เจือการวิงวอนอยู่สามส่วน “ไม่อาจนำอดีตมาเปรียบกับปัจจุบันได้ อวิ๋นชูเป็นผู้ครองพรหมจรรย์ จะทำตัวเหมือนแต่ก่อนได้อย่างไร”

ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีแม่ม่ายบ้านใดออกมาปรากฏตัวในวงสังคม

“นายท่าน ประมุขตระกูลยังคาดหวังให้หลันเอ๋อร์กับอวิ๋นชูช่วงชิงเอา”

“ไม่มีใครบีบบังคับนาง!” นายหญิงใหญ่ยังพูดไม่ทันจบ ต่งกั๋วกงก็สีหน้าเยียบเย็น “ถ้านางทำเรื่องหน้าไม่อายขึ้นจริง ก็หาเรื่องใส่ตนเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับสกุลต่ง เพียงคัดชื่อนางออกจากสกุลไปก็เท่านั้น จะทำให้ชื่อเสียงของสกุลต่งแปดเปื้อนได้อย่างไร” ในน้ำเสียงมีความเข้มงวดน่าเกรงขาม “นับแต่โบราณกาลก็มีทั้งคนดีคนเลว ฝ่าบาทเพียงตรัสว่าถ้าในสกุลมีสตรีม่ายที่ครองพรหมจรรย์ครบหนึ่งร้อยคนก็จะทรงปูนบำเหน็จ ไม่ได้ตรัสว่าไม่อาจมีสตรีที่ไม่อยู่ในกรอบศีลธรรมอันดี!”

“นายท่าน…”

ลมหายใจติดขัดอยู่ที่ลำคอ นายหญิงใหญ่สีหน้าแดงฉาน พูดอะไรไม่ออกอีก

* ซุ้มประตูสรรเสริญ คือเสาประตูที่ไม่มีบานประตูและกำแพง เป็นช่องทางที่สามารถเดินลอดผ่านได้ ส่วนใหญ่นิยมสร้างเป็นเลขคี่ ได้แก่ ซุ้มประตูแบบช่องเดียว สามช่อง และห้าช่อง ด้านบนมีหลังคาแบบจีน มีการแกะสลักตกแต่งอย่างสวยงาม และประดับป้ายอักษรไว้เหนือซุ้มประตู

* เหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน เป็นคำที่ใช้เปรียบเปรยถึงบุคคลหรือเรื่องราวที่กำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์

* มาจากสามหลักปฏิบัติห้าจริยา เป็นหลักคิดและคุณธรรมตามคติของสำนักขงจื่อ (ขงจื๊อ) ซึ่งเป็นหลักยึดถือปฏิบัติของชาวจีนในสังคมศักดินาสืบต่อมาอย่างยาวนาน สามหลักปฏิบัติ ได้แก่ ขุนนางยึดถือกษัตริย์ บุตรยึดถือบิดา ภรรยายึดถือสามี ส่วนห้าจริยา ได้แก่ เมตตาธรรม คุณธรรมความถูกต้อง จารีตประเพณี ปัญญา และสัจจะ

* ‘ตัวตรงไม่ต้องกลัวเงาเอียง’ เป็นสำนวน หมายถึงหากทำอะไรเปิดเผยตรงไปตรงมาก็ไม่มีอะไรต้องกลัว

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

8568_cover (1)
[นิยายแปล] I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire!
21 กรกฎาคม 2021
Unknown
Bringing Culture to a Different World
14 กรกฎาคม 2022
Godgame-01-696×1044
ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games
30 กันยายน 2022
Super-Decomposition-System
ระบบย่อยสลายขั้นเทพ
20 ตุลาคม 2022
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 10"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF