หมอผีแม่ลูกติด - บทที่ 292 สัญญาด้วยร่างกาย
บทที่ 292
สัญญาด้วยร่างกาย
“แล้วท่านก็เลยเป็นสามีของนางงั้นเหรอ?”
หลินซีเหยียนที่ดวงตาแดงก่ำก็ได้มองไปที่ทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้านาง อย่างไรเสียนางนั้นไม่อาจพูดประโยคถัดมาได้และทำได้แค่ตะโกนออกมาในใจ “แล้วข้าล่ะ? เจียงหวายเย่ เจ้าเอาข้าไปไว้ที่ไหน?”
นางนั้นไม่อาจที่จะพูดเช่นนั้นออกไปได้หลังจากที่ถูกทิ้งเช่นนี้ และได้เดินจากไปด้วยใบหน้าที่เย็นชาของนาง
และในขณะที่เดินผ่านเจียงหวายเย่ไปนั้น นางก็ได้กล่าว “ถ้าเช่นนั้นก็ให้ว่าที่ภรรยาของท่านเอาชนะเพื่อให้ได้แมลงวิปลาสหมื่นปีมาให้ท่านก็แล้วกัน ลาก่อน”
หลีเจี้ยนเฉินนั้นไม่ได้รีบตามไป เพราะเขานั้นรู้สึกว่าเขานั้นมีส่วนต้องรับผิดชอบในการที่เขาก้าวเข้าไปแทรกระหว่างท่านหมอหลินและเจียงหวายเย่ เขาจึงต้องการที่จะแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ก่อน เขาถึงจะไปมีความสุขกับแม่นางหลินได้
ยืนอยู่ตรงหน้าของเจียงหวายเย่ หลีเจี้ยนเฉินก็ได้กล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่ขอโทษ “มันไม่มีอะไรกันระหว่างข้ากับท่านหมอหลิน ดังนั้นเจียงหวายเย่ เจ้าอย่าได้ถือโทษโกรธท่านหมอหลิน”
คำพูดนี้ทำให้เจียงหวายเย่นั้นหน้าย่นขึ้นมา และบรรยากาศรอบตัวของเขาก็ได้ลดต่ำลงมาทำให้ผู้คนรอบตัวเขาต้องถอยห่างออกมา
เอียงหัวของเขาเล็กน้อย แล้วดวงตาสีดำของเขาก็ได้สะท้อนชุดสีขาวของหลีเจี้ยนเฉิน แล้วเขาก็ได้กล่าวอย่างประชดประชัน “เราไม่สนใจเรื่องความสัมพันธ์ของเจ้าและแม่นางหลิน”
“เจียงหวายเย่เจ้าเป็นอะไรไป?” หลินหนานเฟิงที่ทนต่อไปไม่ไหวก็ได้พูดขึ้นมา “หรือว่าเจ้าถูกยาพิษ?”
หลินหนานเฟิงเคยได้ยินมาว่ามีแมลงวิปลาสชนิดหนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ที่สามารถทำให้อีกฝ่ายทำในสิ่งที่ต่างไปจากเดิมได้ เพื่อที่จะตามหาน้องซีเหยียนนั้น เขามองเห็นแววตาที่กระวนกระวายในดวงตาของเจียงหวายเย่อย่างชัดเจน เขาจึงไม่น่าจะไปหลงใหลกับหญิงสาวที่ดูลึกลับเช่นนี้ได้
เมื่อได้ยินที่พูด ดวงตาสีดำของเจียงหวายเย่ก็ได้ส่องแสงออกมา “หลินหนานเฟิง ท่านกังวลมากไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีแมลงพิษมากมายที่นี่ก็ทำอะไรข้าไม่ได้ ถ้าท่านไม่เชื่อข้า จะไปถามน้องสาวของท่านดูก็ได้”
“ถ้าไม่ใช่เพราะแมลงวิปลาสแล้ว ทำไมเจ้าถึงได้?”
มองไปที่สีหน้าที่ดื้อรั้นของเจียงหวายเย่แล้ว ดูเหมือนว่าเขานั้นจะไม่สนใจการจากไปของหลินซีเหยียนแล้ว ทั้งหมดนี้ทำให้หลีเจี้ยนเฉินนั้นเชื่อว่าเจียงหวายเย่นั้นไม่รักหลินซีเหยียนจริงๆแล้ว และโอกาสที่เขาจะไล่ตามนางสำเร็จก็จะมีมากขึ้น
แต่แบบนี้มีดีแล้วจริงๆเหรอ?
ถ้าหากว่าเขาเกิดเข้าใจผิดขึ้นมาจริงๆ มันก็จะกลายเป็นว่าเขาฉวยโอกาสน่ะสิ
หลังจากที่คิดเช่นนี้แล้ว หลีเจี้ยนเฉินก็ได้ตัดสินใจที่จะไล่ตามท่านหมอหลินไปก่อน นอกจากนี้เขาก็ได้สบตากับหลินหนานเฟิง โดยไม่สนใจเจียงหวายเย่ ทั้งคู่ก็ได้ไล่ตามหลินซีเหยียนไปในทิศทางที่นางจากไป
“การคัดเลือกนักบุญหญิงนั้นจะจัดต่อในวันพรุ่งนี้” ท่านยายที่ดูเวลาแล้วพบว่าล่าช้ามากไปแล้วนั้น ก็ได้ทำการประกาศออกมาอย่างไม่สบายใจนัก “ในตอนบ่ายวันพรุ่งนี้ถ้ามีใครมาสาย จะถูกตัดสินให้สละสิทธิ์ทันที”
เมื่อรู้ว่าการแข่งขันนั้นได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันพรุ่งนี้แล้วนั้น ผู้คนก็ได้พากันแยกย้ายด้วยความรู้สึกเบื่อ แล้ว เจียงหวายเย่กับเจียงอี๋ก็ได้ไปจากที่นี่เช่นกัน
“ไม่ทราบว่าคุณชายมีที่พักแล้วหรือยัง?” เจียงอี๋ก็ได้ถามอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน ในสายตาของนางแล้วมันจะต้องเป็นเพราะความน่าหลงใหลของนางที่ทำให้ชายคนนี้เลิกสนใจผู้หญิงคนนั้นแล้วมาเลือกนางแทน
เจียงหวายเย่ก็ได้ปัดมือของเจียงอี๋ออกแล้วกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าอยากจะตกลงอะไรบางอย่างกับเจ้า”
“คุณชายบอกชื่อของท่านมาก่อนก็ได้ แล้วเราก็ค่อยมาคุยเรื่องข้อตกลงก็ได้!” เจียงอี๋ก็ยังไม่ยอมแพ้ได้เอาร่างกายของนางกดทับไปที่ตัวของเจียงหวายเย่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลที่แฝงไปด้วยความยั่วยวน
“อยู่ให้ห่างจากข้าด้วย”
น้ำเสียงที่ราวกับขู่ฆ่านี้ทำให้เจียงอี๋นั้นตกใจและถอยห่างออกมาเล็กน้อยด้วยความกลัว เมื่อสักครู่นี้นางนั้นคิดว่าตัวนางจะตายจริงๆเสียแล้ว
ซึ่งเรื่องนี้ได้ทำให้นางนั้นเข้าใจได้อย่างชัดเจนถึงตัวตนของชายที่อยู่ข้างหน้านางนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน นางจึงได้พูดอย่างประจบประแจงเขา “แล้วไม่ทราบว่าท่านอยากจะตกลงอะไรกับข้าล่ะ?”
“เอาแมลงวิปลาสหมื่นปีให้ข้า แล้วเราจะช่วยให้เจ้าได้กลายเป็นผู้ปกครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้”
สายตาของเจียงหวายเย่นั้นเหม่อมองไปไกล แต่เขากลับพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีออกมา
อะไรนะ? จะช่วยให้เราได้เป็นผู้ปกครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์งั้นเหรอ?
เจียงอี๋ก็ได้คิ้วขมวด แล้วมองไปที่เจียงหวายเย่อีกหนแล้วจากนั้นก็ได้พูดถามกลับ “ทำไมข้าจะต้องเชื่อท่านด้วย? ไม่ใช่ว่ามันเป็นเรื่องง่ายสำหรับข้าอยู่แล้วหรอกเหรอกับการที่จะได้เป็นผู้ปกครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์น่ะ”
เนื่องจากเจียงหวายเย่นั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเกินไป ทำให้นางต้องถามให้ชัดเจนเสียก่อน เพราะถ้าหากนางก้าวผิดพลาดไป นางจะไม่มีที่ให้อาศัยอยู่อีกเลยก็ได้
“ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้าก็ไม่เป็นไร ข้าเชื่อว่าจะต้องมีคนอื่นที่ยินดีที่จะช่วยข้าแน่”
เมื่อเจียงหวายเย่ยกเท้าขึ้นมาเตรียมที่จะจากไปนั้น ก็ได้มีเสียงของเจียงอี๋ดังมาจากข้างหลังเขา “ข้าช่วยท่านได้ แต่ท่านจะต้องตกลงกับข้าเรื่องหนึ่งก่อน”
“ว่ามา”
ไม่นึกว่าจะมีคนที่กล้ามาต่อรองเขาเช่นนี้แล้ว เจียงหวายเย่ก็ได้ถามด้วยน้ำเสียงที่หมดความอดทน “เจ้าควรจะรู้ไว้นะว่า โลภมากมักลาภหายน่ะ”
“แน่นอนข้ารู้อยู่แล้ว แต่ข้าไม่ได้ต้องการที่จะเป็นผู้ปกครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรอกนะ แต่ข้าน่ะต้องการที่จะเป็นผู้หญิงของท่านมากกว่า”
แล้วมุมปากของเจียงอี๋ก็ได้ยิ้มขึ้นมา และรู้สึกว่าตัวเองนั้นฉลาดมาก ในเมื่อผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของนางนั้นดูมีความสามารถมากเช่นนี้แล้ว การได้เป็นภรรยาของเขานั้นจะต้องทำให้นางได้มากกว่านี้แน่นอน
ส่วนเรื่องที่อีกฝ่ายไม่ชอบนางในเวลานี้นั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตเขาจะไม่ชอบนาง นางนั้นมั่นใจในความสามารถของนางมาก
เจียงหวายเย่ก็ได้หัวเราะเบาๆอย่างเย็นชาแล้วจากนั้นก็กล่าว “ข้าแนะนำให้เจ้าไปตายเสียดีกว่า”
ถ้าหากว่าเขาได้แมลงวิปลาสหมื่นปีมาเขาก็จะรอด แล้วจากนั้นเขาคอยไปคุกเข่าตรงหน้าเสี่ยวเหยียนเอ๋อขอให้นางยกโทษ
แล้วจัดการเรื่องล้างแค้นให้เรียบร้อยแล้วค่อยแต่งงานกับเสี่ยวเหยียนเอ๋อ
นี่คือความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขานอกไปจากการล้างแค้น ในเวลานี้ในสายตายของเจียงหวายเย่นั้นเหมือนเห็นภาพปรากฏออกมา เขาเห็นหลินซีเหยียนนั้นสวมชุดแต่งงานสีแดง แล้วเดินมาหาเขาอย่างช้าๆแล้วสีหน้าของนางก็ดูอ่อนโยนลงอย่างมากชั่วขณะหนึ่ง
แต่ในเวลานี้หลินซีเหยียนนั้นกำลังนอนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ และนางนั้นกำลังเล่นอยู่กับเจ้าแมงป่องแดงในมือของนาง ซึ่งเป็นตัวเดียวกันกับตัวที่ซู่ฉุ่ยเอาไปเมื่อวานนี้
ซึ่งนางเองก็ไม่รู้ว่ามันกลับมาอยู่ในมือของหลินซีเหยียนได้อย่างไร
“เจ้าเพลิงแดง ข้าเกรงว่าพวกเขาคงจะยังไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าแอบหนีออกมาใช่ไหม?” หลินซีเหยียนมองไปที่เจ้าแมงป่องตัวน้อยด้วยรอยยิ้มแล้วถามมันอย่างครุ่นคิด
เจ้าแมงป่องตัวน้อยก็เหมือนจะเข้าใจ มันได้ถูตัวมันเข้ากับมือของหลินซีเหยียนอย่างอ่อนโยนและรู้สึกจั๊กจี้นิดหน่อย ซึ่งทำให้หลินซีเหยียนต้องหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นก็ได้หยิบเอาขวดเล็กๆออกมาแล้วหยิบเอาเมล็ดสีน้ำตาลออกมาแล้ววางไว้ตรงหน้าของแมงป่องน้อย
เจ้าแมงป่องน้อยก็ดีใจมากและเริ่มกินยาพิษเม็ดเล็กๆที่รุนแรงนี้
ตั้งแต่ผู้เฒ่าพิษนั้นรู้ว่าหลินซีเหยียนนั้นต้องการที่จะเลี้ยงแมลงวิปลาสแล้ว เขาก็ได้สอนหลินซีเหยียนถึงเทคนิคในการเลี้ยงที่เขาคิดค้นขึ้นมาเอง นั้นคือการเลี้ยงด้วยพิษ ซึ่งเจ้าแมงป่องนี้ก็ได้เติบโตขึ้นมาด้วยการกินยาพิษที่รุนแรง จึงได้ต่างจากแมลงวิปลาสทั่วๆไปและมีพิษที่รุนแรงมาก
ในป่าแห่งนี้มีแมลงส่งเสียงร้องกัน แต่แมลงครึ่งหนึ่งในนั้นไม่กล้าที่จะเข้าใกล้หลินซีเหยียน
ซึ่งบางทีอาจจะเป็นเพราะนางนั้นมีแมลงวิปลาสที่เก่งกาจอยู่เลยทำให้แมลงพิษตัวอื่นๆต่างก็ต้องก้มหัวลงและไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาด้วยความกลัวจะต้องสูญเสียชีวิตของมัน
“น้องซีเหยียน”
“ท่านหมอหลิน”
แล้วสองเสียงที่ต่างกันก็ได้ดังก้องไปทั่วทั้งป่าและทำให้เหล่านกจำนวนมากมายต้องตกใจ หลังจากที่หลินซีเหยียนได้ยิน นางก็ได้กระโดดลงมาจากต้นไม้แล้วกล่าว “ท่านพี่ ข้าอยู่นี่”
หลินหนานเฟิงที่ได้ยินเสียงของนางก็ได้รีบวิ่งเข้ามาหา
“เจียงหวายเย่นั้นไม่กลัวแมลงวิปลาสเหรอ?” หลินหนานเฟิงก็ได้ตามอย่างห้วนๆเช่นเคย
เมื่อได้ยินคำถามนี้ แววตาของหลินซีเหยียนก็ได้ดำมืดขึ้นมาแล้วจากนั้นก็กล่าว “เจียงหวายเย่นั้นมีพิษที่รุนแรงมากอยู่ในตัว พวกแมลงวิปลาสระดับต่ำกว่าจึงไม่กล้าเข้าใกล้เขาน่ะ”