สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 398 บังเอิญ
ตอนที่ 398 บังเอิญ
……….
ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้รับสั่ง ซุนเหยียนมิกล้ารอช้า เปลี่ยนชุดคหบดีทั่วไปนำสองขันทีแต่งตัวเป็นเด็กรับใช้ ไปร้านหนังสือชิงซงเงียบๆ
ร้านหนังสือชิงซงตั้งอยู่บนถนนครึกครื้น บรรยากาศคึกคัก ซุนเหยียนเดินอยู่บนถนนสายนี้ก็รู้สึกหวนคิดถึงกลิ่นอายชีวิตชาวบ้านขึ้นมา แต่อีกใจก็พยายามปฏิเสธไม่อยากนึกถึงอีก
ขันทีมากมายหลังเรืองอำนาจมักชอบทำการค้านอกวัง ถึงกับ ‘แต่งภรรยา’ แต่ทว่าเขาไม่ชอบ
เขาไม่ค่อยได้ออกมานอกวัง ไม่อยากถูกความครึกครื้นที่เห็นได้ทั่วไปเหล่านี้เสียดแทงจิตใจ
สองขันทีน้อยเคยมาร้านหนังสือชิงซง ขันทีนำทางก็ชี้ไป “อาจารย์[1] ถึงแล้วขอรับ”
ซุนเหยียนมองไปทีหนึ่งก่อนยกมือไพล่หลังเดินไป
ยามนี้ร้านหนังสือชิงซงการค้าไม่เลว พวกผู้จัดการร้านหูกำลังต้อนรับแขกอย่างขะมักเขม้น
“ท่านลูกค้าต้องการดูอันใดบ้าง” พอเห็นซุนเหยียนเข้ามา สือโถวก็ยิ้มเข้ามาต้อนรับ
ซุนเหยียนเห็นสือโถวก็ตกตะลึง
“ท่านลูกค้า?”
ซุนเหยียนตั้งสติคืนมาได้ก็ฉีกยิ้มถามสือโถว “เจ้าหนุ่ม ชื่อแซ่อันใด”
สองขันทีด้านหลังสบตากันทีหนึ่ง ผู้อื่นไม่รู้ แต่พวกเขาฟังออกทันทีว่า อาจารย์น้ำเสียงเปลี่ยนไป
แม้สือโถวคิดว่าลูกค้าผู้นี้ท่าทางแปลกอยู่สักหน่อย แต่ก็ยังคงตอบกลับว่า “ข้าน้อยชื่อสือโถว”
“สือโถว? แล้วเจ้าแซ่อันใด”
สือโถวมองซุนเหยียนอย่างสงสัยทีหนึ่ง กลัวว่าจะล่วงเกินลูกค้า ลังเลก่อนตอบว่า “ข้าน้อยแซ่ซุน”
คนอ่านหนังสือยังต้องถามชาติกำเนิดคนงานร้านให้กระจ่างชัดด้วยหรือ ลูกค้าท่านนี้แปลกมาก
แซ่ซุน…
ซุนเหยียนปากสั่น พยายามผินหน้าออกจากสือโถว มองไปทางชั้นหนังสือที่ตั้งเรียงราย
“ท่านลูกค้าต้องการซื้ออันใดหรือขอรับ” สือโถวถาม
“ข้า…ข้าต้องการ ‘บันทึกตะวันตก’ ชุดหนึ่ง”
“ทั้งชุดหรือขอรับ” สือโถวแววตาประหลาดใจ
ตอนนี้คนซื้อทั้งชุดไม่มาก ‘บันทึกตะวันตก’ ขายดีมากจริงๆ ออกมาหนึ่งเล่มก็มีคนมาตามซื้อทันที
ไม่นานสือโถวก็อุ้ม ‘บันทึกตะวันตก’ มาหนึ่งชุด ห่อเรียบร้อยก็ส่งให้ซุนเหยียน
ขันทีด้านหลังเข้ามารับหนังสือ
ซุนเหยียนจ่ายเงินแล้วก็นิ่งมองสือโถวทีหนึ่ง แผนเดิมที่คิดจะสืบเรื่องเกี่ยวกับเฮ่อชิงเซียวก็ลืมไปหมดสิ้น รีบก้าวออกจากร้านหนังสือทันที
รถม้าแล่นไประยะหนึ่ง ซุนเหยียนก็สั่งให้ตรงไปสำนักฮั่นหลินย่วน
“ไปถามหน่อยว่า ซินไต้จ้าวอยู่สำนักฮั่นหลินย่วนหรือไม่ หากอยู่ เชิญนางออกมาหน่อย” รถม้าไปจอดห่างจากสำนักฮั่นหลินย่วนเล็กน้อย ซุนเหยียนสั่งขันทีผู้หนึ่ง
ขันทีรับคำสั่งไป เหลือขันทีอีกคนหนึ่งเก็บซ่อนความอยากรู้ลอบมองซุนเหยียน แต่เห็นเพียงเขาหลับตาพิงข้างรถไม่เอ่ยอันใด
ซินโย่วออกจากวังแล้วก็กลับสำนักฮั่นหลินย่วน เดิมควรไปขอบคุณหัวหน้าเซี่ย แต่เพิ่งผ่านเหตุการณ์นั้นมา ทำให้ในใจนางยังรู้สึกตึงเครียด กลับถึงห้องทำงานก็เอาแต่นั่งนิ่ง
เมื่อครู่ตอนอยู่นอกประตูอู่เหมิน นางไม่ได้มองใต้เท้าเฮ่อ ไม่รู้ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง
คนผู้นั้นรู้ว่านางมีใจปฏิพัทธ์ต่อใต้เท้าเฮ่อ จะคาดเดาหรือไม่ว่าที่ใต้เท้าเฮ่อปฏิเสธการแต่งงานเพราะนาง จึงได้สงสัยว่าใต้เท้าเฮ่อรู้สถานะนางก่อนหน้านี้แล้ว
การหลอกลวงเบื้องสูงแต่ไรมาล้วนเป็นสิ่งที่ผู้ครองแผ่นดินรับไม่ได้มากที่สุด ฮ่องเต้ยิ่งเชื่อมั่นในตนเองและทรงอำนาจมากเพียงใด ก็ยิ่งเป็นเช่นนี้ หากคนผู้นั้นพบว่าใต้เท้าเฮ่อยังมีเรื่องหลอกลวงเบื้องสูงอื่นอีก…
ซินโย่วนั่งไม่ติด ตัดสินใจไปร้านหนังสือชิงซง พอเดินออกจากสำนักฮั่นหลินย่วน ก็ได้ยินเสียงคนเรียกนาง
ขันทีเข้าไปคำนับ “บ่าวกำลังคิดจะให้คนไปเชิญท่าน พอดีพบกันที่หน้าประตู”
ซินโย่วมองขันทีแต่งกายแบบเด็กรับใช้ ก็พอมีภาพในความทรงจำขึ้นมา “เจ้าคือขันทีข้างกายซุนกงกง?”
“ซินไต้จ้าวความจำดีจริง ท่านเรียกบ่าวเสี่ยวผิงจื่อก็พอ”
“ผิงกงกงมีธุระหรือ” ซินโย่วถามอ่อนโยน
แม้นางรีบไปร้านหนังสือชิงซง แต่ทว่าในยามสถานการณ์อ่อนไหวเช่นนี้ มิกล้าไม่ให้ความสนใจคนข้างกายมหาขันทีซุนเหยียน
“ซุนกงกงมีเรื่องต้องการพบท่าน ตอนนี้กำลังรออยู่ละแวกนี้”
“ผิงกงกง โปรดนำทาง”
ขันทีนำซินโย่วไปถึงระยะไม่ไกลนักก็เห็นม่านประตูรถขยับ ขันทีอีกคนก็ประคองซุนเหยียนลงมา
ซุนเหยียนรีบก้าวไปตรงหน้าซินโย่วคำนับนางทีหนึ่ง “ซินไต้จ้าว”
ซินโย่วคำนับตอบ “ซุนกงกงต้องการพบข้า?”
ซุนเหยียนกวาดตามองซ้ายขวาทีหนึ่ง ถามเบาๆ ว่า “ซินไต้จ้าว สะดวกไปนั่งร้านน้ำชาไหม”
ซินโย่วพยักหน้า
ซุนเหยียนไม่ได้ให้สองขันทีติดตามไป แต่ไปร้านน้ำชาที่ไม่สะดุดตานักกับซินโย่ว
หลังเข้าไปนั่งในห้องรับรอง รอให้คนงานนำน้ำชาเข้ามาและถอยออกไป ซุนเหยียนก็กำแก้วชา เอ่ยว่า “ซินไต้จ้าว ร้านหนังสือชิงซงมีคนงานชื่อสือโถว ท่านรู้สภาพครอบครัวเขากระจ่างหรือไม่”
การตรงมาถามซินโย่ว มิใช่เพราะซุนเหยียนวู่วาม กลับเป็นเพราะเขาคิดกระจ่างแล้ว
ร้านหนังสือชิงซงเป็นของซินโย่ว แม้เขาแอบตรวจสอบ ก็คงไม่อาจผ่านซินโย่วไปได้ เทียบกับการตรวจสอบไปมา มิสู้พูดกันตรงไปตรงมาให้กระจ่าง
“สือโถว?” ซินโย่วคาดไม่ถึงว่าซุนเหยียนตั้งใจมาหานางไม่เกี่ยวกับเฮ่อชิงเซียว แต่เพราะสือโถว
คิดว่าเรื่องของสือโถวน่าจะสอบถามได้ไม่ยาก ซินโย่วคาดเดาจุดประสงค์ของซุนเหยียน “จากที่ข้ารู้มา สือโถวเป็นคนนอกพื้นที่เมืองหลวง หลายปีก่อนติดตามมารดาเข้าเมืองหลวงมาตามหาบิดา น่าเสียดายหาไม่พบ สองแม่ลูกทำงานที่ร้านหนังสือชิงซงมาตลอด…”
มือที่กุมแก้วชาของซุนเหยียนสั่นเทา พยายามระงับความตื่นเต้นถามขึ้นว่า “มารดาสือโถวทำงานที่ร้านหนังสือชิงซง?”
ซินโย่วพยักหน้า “ทำงานเป็นช่างเย็บปักในร้านหนังสือ”
ซุนเหยียนวางแก้วชา ก่อนยกขึ้นอีก แม้อยู่ต่อหน้าซินโย่วก็ไม่อาจระงับความตื่นเต้นสับสนในใจได้
“ซินไต้จ้าว มารดาสือโถวมีชื่อเรียกขานอย่างไร”
“นางบอกว่าสามีแซ่ซุน พวกเราเรียกนางว่าน้าซุน” ซินโย่วมองซุนเหยียนเหมือนคิดอันใดขึ้นมาได้ทีหนึ่ง
ซุนกงกงแซ่ ‘ซุน’ และน้าซุนพาสือโถวเข้าเมืองหลวงมาเพื่อตามหาสามีที่มาหาหนทางยังชีพในเมืองหลวงหลายปีแล้ว ตอนนี้ซุนกงกงสอบถามเรื่องน้าซุนสองแม่ลูกไม่หยุด หรือว่าเขาก็คือคนที่น้าซุนเฝ้าตามหาอย่างยากลำบากมาตลอด
“ซินไต้จ้าว ข้าอยากขอร้องท่านเรื่องหนึ่ง”
“อย่าได้กล่าวว่าขอร้องเลย ซุนกงกงมีเรื่องอันใด”
“ท่านจัดการให้ข้าได้พบกับมารดาสือโถวสักครั้งได้หรือไม่ ไม่จำเป็นต้องพบแบบเผชิญหน้า แต่ให้ข้าได้แอบมองสักทีหนึ่งก็พอ”
“ย่อมได้อย่างแน่นอน” ซินโย่วหลุบตาลงลงจิบชา ไม่ถามว่าซุนเหยียนเกี่ยวข้องอันใดกับสือโถว
ซุนเหยียนกลับรู้สึกทำหน้าไม่ถูก เอ่ยขึ้นเองว่า “ขอบคุณซินไต้จ้าวที่ช่วยเหลือ รอให้ข้าได้พบนางแล้ว ก็จะบอกกับท่านให้กระจ่าง”
“ซุนกงกงเกรงใจไปแล้ว เรื่องเล็กน้อย” ซินโย่วชะงักไปเล็กน้อย ทำทีถามเหมือนไม่คิดอันใด “ซุนกงกงวันนี้ไปร้านหนังสือชิงซงมาหรือ”
ซุนเหยียนชะงักเล็กน้อย หลังเงียบงันไปครู่หนึ่งก็พยักหน้ายอมรับ “ข้าไปมา”
ก็เท่ากับยอมรับว่าฮ่องเต้ซิงหยวนตี้กำลังจับตามองร้านหนังสือชิงซง
วันนี้เพิ่งเกิดเรื่องคิดเอาชีวิตเฮ่อชิงเซียว ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ก็ส่งซุนเหยียนไปร้านหนังสือชิงซง พิสูจน์การคาดเดาของซินโย่วได้ว่า ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ทรงสงสัยเฮ่อชิงเซียวว่าแอบปิดบังตั้งแต่ตอนที่นางยังเป็น ‘โค่วชิงชิง’
ซินโย่วแอบรู้สึกโชคดีที่ซุนเหยียนได้พบความบังเอิญเรื่องสือโถว รับรู้ได้ทันทีว่าเฮ่อชิงเซียวจะรอดพ้นเคราะห์นี้ไปได้หรือไม่ก็ขึ้นกับซุนเหยียน
ไม่นาน นางก็ไปถึงร้านหนังสือชิงซง ให้จูเสี่ยวเยวี่ยไปเชิญมารดาสือโถวมาที่โถง
รอไม่นาน มารดาสือโถวที่ผูกผ้ากันเปื้อนก็มาถึงโถงหน้าร้านหนังสือ คำนับนอบน้อม “ท่านเจ้าของร้าน”
“น้าซุนไม่จำเป็นต้องมากพิธี ฟางหมัวมัวที่ดูแลโรงปักกำลังคิดค้นลายใหม่ อยากรบกวนน้าซุนไปดูกับข้าหน่อย”
มารดาสือโถวย่อมไม่ปฏิเสธ ตามซินโย่วเดินออกจากร้านหนังสือ
[1] ขันทีเล็กๆ ในวังมักจะเรียกขานขันทีตำแหน่งสูงว่า อาจารย์ บรรพชน หรือบิดาบุญธรรมตามความสัมพันธ์