สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 320 กลับจวนรองเจ้ากรม
ตอนที่ 320 กลับจวนรองเจ้ากรม
ซินโย่วยังจำได้ว่า ตอนถวายพระพรปีใหม่ ไทเฮามองนางด้วยสายตาที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเรียกได้ว่าโปรดปราน
ไทเฮาตรัสต่อหน้าผู้คนว่าจะเป็นแม่สื่อให้นาง จากนั้นครึ่งปีกว่ามานี้กลับไร้วี่แวว ก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าการคาดเดาของนางต่อการเป็นแม่สื่อของไทเฮานั่นเป็นเรื่องเท็จ การทำให้นางออกเรือนไม่ได้คือเรื่องจริง
การที่ไทเฮาทำเช่นนี้เป็นดังคำสั่งสังหารสำหรับสาวน้อยทั่วไป แต่สำหรับนางแล้วกลับตรงใจพอดี
เหตุใดอยู่ๆ จึงได้พระราชทานสมรสให้นางกับซิ่วอ๋อง
ซินโย่วคิดได้ทันทีถึงเหตุที่เกิดในคืนวันเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วงในวัง ซิ่วอ๋องช่วยไทเฮาไว้จนได้รับบาดเจ็บและสลบไป พอฟื้นขึ้นมาก็พักรักษาตัวอยู่ในวัง
ซิ่วอ๋องเป็นผู้ขอพระราชทานสมรสนี้หรือ
พอคาดเดาเช่นนี้แล้ว ในใจซินโย่วก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ ในสมองพลันมีภาพสนทนากับซิ่วอ๋องในสถานะคุณหนูโค่ว
ซิ่วอ๋องตรงหน้าคุณหนูโค่วเป็นคนอ่อนโยน สงบนิ่ง สง่างาม…
เช่นนั้นซิ่วอ๋องก็อาจมีใจปฏิพัทธ์ต่อคุณหนูโค่วได้
ซินโย่วคิดไปคิดมา หากไม่มีใจ หรือว่าไม่มีใจมากพอ…ซิ่วอ๋องก็อาจขอแต่งกับคุณหนูโค่วได้เช่นกัน
ล้วนรู้กันว่าคุณหนูโค่วมีทรัพย์สมบัติมหาศาล มีความสามารถหาเงินยอดเยี่ยม มีชื่อเสียงใจกุศลในหมู่ประชา ซิ่วอ๋องอายุสิบเก้า ใกล้วัยแต่งภรรยาแล้ว แต่งกับคุณหนูโค่วได้ผลประโยชน์ไม่ต่างจากแต่งกับสตรีตระกูลสูงศักดิ์ทั่วไป
หากอยู่ท่ามกลางศึกช่วงชิงตำแหน่งนั้น ท่ามกลางองค์ชายมากมาย ตระกูลพระชายา ฐานการเมืองย่อมสำคัญมาก แต่ตอนนี้ชิ่งอ๋องล้มแล้ว องค์ชายอื่นก็ยังพระเยาว์อยู่ ขุนนางบุ๋นบู๊ย่อมเอนเอียงไปทางองค์ชายใหญ่ ดังนั้นฐานการเมืองพวกนี้ก็ย่อมมิได้สำคัญสักเท่าไรแล้ว ไม่สู้แต่งกับภูเขาทองคำสักลูกหนึ่งที่จับต้องได้มากกว่า
รองเจ้ากรมต้วนเห็นซินโย่วนิ่งไป ขอบตาก็ตาแดงร้อนใจเอ่ยว่า “เจ้าไม่คิดกลับไปแล้ว?”
ซินโย่วเก็บงำความคิดสับสนแล้วก็เอ่ยว่า “ท่านลุง อย่าได้ร้อนใจไป ข้าไปเก็บของกลับก่อน กลับจวนรองเจ้ากรมด้วยกัน”
รองเจ้ากรมต้วนถอนหายใจโล่งอก แต่ก็รู้สึกกังวลขึ้นมา “แล้วทางนี้จะทำอย่างไร”
“คุณชายซินยังต้องไว้ทุกข์เฝ้าสุสานฮองเฮาอีกสักระยะหนึ่ง”
“แต่ช้าเร็วก็ย่อมต้องกลับไป!”
คุณชายซินลงใต้สร้างความดีความชอบยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ใช่ไต้จ้าวเล็กๆ อีก ยังได้เข้าเฝ้าได้ตลอดเวลา เข้าเฝ้าไทเฮา เข้าเฝ้าองค์หญิงใหญ่ เข้าเฝ้าซิ่วอ๋อง…
หลานสาวที่จะได้เป็นพระชายา จะได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ เข้าเฝ้าไทเฮา เข้าเฝ้าองค์หญิงใหญ่ เข้าเฝ้าซิ่วอ๋อง…
รองเจ้ากรมต้วนแค่คิดก็รู้สึกดังฟ้าดินม้วนพลิกหลายตลบ
“รอถึงตอนนั้นค่อยว่ากันก็แล้วกัน” ซินโย่วน้ำเสียงสบายๆ ไม่ยี่หระ
รองเจ้ากรมต้วนโมโหจนกัดฟันกรอด “เจ้าไม่กลัวถูกเปิดโปงหรือ”
ซินโย่วเหลือบมองเขาทีหนึ่ง “เช่นนั้นท่านลุงอยากให้ข้ากลับไป หรือว่าให้อยู่เฝ้าสุสานต่อ”
รองเจ้ากรมต้วนกำหมัดแน่น เค้นออกมาได้คำหนึ่ง “ไป!”
“ท่านลุงไปก่อน ข้าเก็บของแล้วค่อยแอบตามไป”
รองเจ้ากรมต้วนสีหน้าสงสัย “คงมิใช่ว่าหลอกให้ข้ากลับไปแล้ว เจ้าเข้าไปแล้วก็ไม่ออกมาอีกกระมัง”
“ไม่หรอกน่า อย่างไรก็ต้องบอกกล่าว” ตอนซินโย่วพูด สีหน้าจริงจังขึ้นมา
รองเจ้ากรมต้วนมองประเมินซินโย่ว สุดท้ายก็เลือกที่จะเชื่อ
ไม่เชื่อก็ทำอันใดไม่ได้ มิใช่หรือ
รองเจ้ากรมต้วนคิดจะทึ้งผมตนเองอีก แต่พอแตะโดนหมวกสาน ก็ค่อยๆ ปล่อยมือลง
ซินโย่วรับมือรองเจ้ากรมต้วนเสร็จ ก็สั่งการพวกเจ้าแปดสามคน ก่อนจะหลบออกจากสุสานหลวง
พอไปถึงเมืองหลวงก็ใกล้ค่ำแล้ว แสงสายัณห์สาดส่อง สายลมพัดแผ่ว เป็นความเย็นสบายในแบบฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น
ซินโย่วก้าวเข้าไปในบ้านชาวบ้านหลังหนึ่ง ออกมาอีกครั้งก็กลับคืนร่างหญิงสาว
เดินอยู่บนท้องถนนผู้คนขวักไขว่ ซินโย่วสวมหมวกอยู่ก็ถอนหายใจเบาๆ
นางแสดงท่าทีสบายๆ ต่อหน้ารองเจ้ากรมต้วนเช่นนั้น แต่ความจริงจะรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างไรกัน
วันเวลาที่จะดำรงสถานะคุณหนูโค่วใกล้จบสิ้นแล้ว วันเวลาที่ดำรงสถานะคุณชายซินก็ใกล้จบสิ้นแล้วเช่นกัน
นางเลือกกลับจวนรองเจ้ากรมก็ได้เตรียมรับความเลวร้ายที่สุดไว้แล้ว ก็เหมือนที่นางกล่าวกับรองเจ้ากรมต้วน อย่างไรก็ต้องบอกกล่าว ความเปลี่ยนแปลงและไม่คาดฝันมากมายเกิดขึ้นเหนือการควบคุมของนาง แต่อย่างน้อยยามเผชิญกับเหตุพลิกผันเหล่านี้ก็มิได้มีสภาพอนาถมากนัก
กองกำลังองครักษ์จิ่นหลินบนท้องถนนเดินผ่านมา หัวหน้ากองในชุดแดงก้าวเดินรวดเร็ว
ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือจิตใต้สำนึก คนที่คุ้นเคยอย่างที่สุดกำลังเหลือบมองมาทางซินโย่ว แต่พอไม่พบก็ถอนสายตากลับ
ซินโย่วหลบเข้าหลังต้นกุ้ย มองไปยังชายชุดแดงชาดที่ไกลออกไป ให้กลิ่นต้นกุ้ยรมกายตนเอง
ยามนี้พบกัน นอกจากจะดึงใต้เท้าเฮ่อลงสู่น้ำครำแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ผลดีอันใด
ซินโย่วเข้าทางประตูหลังจวนรองเจ้ากรมที่นางบอกกับรองเจ้ากรมต้วนไว้แล้ว
นางก้าวตรงไปเรือนหว่านฉิงไม่หยุด ทางรองเจ้ากรมต้วนเองได้รับข่าวก็แทบจะพุ่งมาเรือนหว่านฉิง
เรือนหว่านฉิงกำลังครึกครื้น นับเสี่ยวเหลียนด้วยเป็นสี่คน กำลังตั้งวงในลานเล่นไพ่ใบไม้[1]
ซินโย่วค่อยๆ ผลักประตูเข้าไป เสี่ยวเหลียนได้ยินเสียงก็หันหน้ามา พอเห็นก็ตกตะลึง จากนั้นก็ทิ้งไพ่ลงบนโต๊ะหินก่อนจะรีบวิ่งมา
“คุณหนูท่านกลับมาแล้ว!” เสี่ยวเหลียนเสียงสั่นเครือขอบตาแดงเรื่อ
พวกหวางมามาทั้งสามคนวิ่งเข้ามาคำนับ
ซินโย่วพยักหน้าเล็กน้อย “ข้าไม่อยู่หลายวัน ลำบากพวกเจ้าแล้ว”
“ไม่ลำบาก ไม่ลำบาก” หวางมามารีบโบกมือ
แต่ไรมาหลี่หมัวมัวก็พูดน้อย ยามนี้เพียงแค่ยิ้มเงียบๆ
สาวใช้ที่ชื่อหงเอ๋อร์อายุน้อยกว่าเสี่ยวเหลียนสองปี เป็นคนที่ซินโย่วพามาจากร้านข้างนอก ติดตามซินโย่วมานานไม่เท่าคนอื่น แต่เห็นได้ชัดว่ามีความระวังกิริยา
“เล่นไพ่หรือ” ซินโย่วยิ้มถาม
“เพิ่งเล่นไปสองสามตา คุณหนูเหนื่อยไหมเจ้าคะ กินข้าวไหม หรือว่าเล่นสักสองตาก่อนดีเจ้าคะ” เสี่ยวเหลียนจ้องมองซินโย่ว ไม่รู้ควรเอ่ยอันใด
“ได้”
เสี่ยวเหลียนตกตะลึง
ซินโย่วคลี่ยิ้ม “ไม่เหนื่อยและก็ไม่หิว เล่นสักสองตา”
หงเอ๋อร์เดินไปรินน้ำชา ซินโย่วรับไพ่ใบไม้จากนางมาเริ่มเล่น
ตอนรองเจ้ากรมต้วนก้าวเข้ามาในลานด้านหน้าของเรือนหว่านฉิง ก็เห็นซินโย่วเล่นไพ่ใบไม้หัวเราะเริงร่า นางกำลังเล่นไพ่ใบไม้ ด้านหลังยังมีสาวใช้รินน้ำชาให้
เขากะพริบตา ขยี้ตาให้แน่ใจอีกที แน่ใจว่าตรงหน้าไม่ใช่ภาพมายา โทสะก็ยิ่งพุ่งทะยาน ยิ่งสูงขึ้นๆ…
“ท่านลุงมาแล้วหรือ” ซินโย่วได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็ลุกขึ้นเดินไป
รองเจ้ากรมต้วนโมโหเดือดดาลพุ่งทะยาน แต่ไม่ว่าจะว่าอย่างไร นังเด็กนี้ก็กลับมาแล้ว
ซินโย่วเดินเข้าไปใกล้ สายตาเคลื่อนไปจุดหนึ่ง น้ำเสียงตกใจ “ท่านลุง ผมของท่าน…”
เหตุใดจึงล้านแล้ว
รองเจ้ากรมต้วนระงับโทสะที่คุกรุ่นขึ้นมา สีหน้าดำทะมึนกัดฟันเอ่ยว่า “เข้าไปคุยในห้อง!”
ซินโย่วส่งสายตาปลอบประโลมใจให้เสี่ยวเหลียน “ข้ายังไม่ได้รับประทานอาหารเย็น เสี่ยวเหลียนไปบอกทางครัวสักหน่อย”
ห้องตะวันตกตกแต่งแบบห้องหนังสือ ไม่ได้ฝุ่นจับเพราะซินโย่วไม่อยู่
“ท่านลุงนั่ง” ซินโย่วอดส่งสายตามองไปบนศีรษะรองเจ้ากรมต้วนไม่ได้
รองเจ้ากรมต้วนแทบจะอยากมีอีกมือหนึ่งมาบังเหนือศีรษะเอาไว้
“เจ้ามีแผนอย่างไร”
“ตอนอยู่สุสานหลวงไม่ได้ถามละเอียด ท่านลุงรู้หรือไม่ว่าเหตุใดไทเฮาอยู่ๆ ต้องการพระราชทานสมรสให้ข้ากับซิ่วอ๋อง”
รองเจ้ากรมต้วนส่ายหน้า “อยู่ๆ ก็เรียกตัวท่านยายเข้าวังไปพูดเรื่องนี้”
“กะทันหันเพียงนี้ หรือว่าซิ่วอ๋องป่วยกะทันหัน คิดแต่งข้าเพื่อสร้างสิริมงคล?”
ในมุมมองผู้อื่น คุณชายซินที่เฝ้าสุสานหลวงไม่ควรรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง
“ก็มิใช่ ซิ่วอ๋องได้รับบาดเจ็บจริง…” รองเจ้ากรมต้วนเอ่ยเล่าถึงอุบัติเหตุในวังครั้งนี้ สุดท้ายเอ่ยว่า “ได้ยินว่าวันนี้ซิ่วอ๋องกลับจวนอ๋องแล้ว”
ซินโย่วได้รับข่าวสารใหม่แล้วก็แทบจะแน่ใจได้ว่าการแต่งงานนี้เป็นเพราะซิ่วอ๋องทูลขอไทเฮา
[1] ไพ่จีนโบราณ มีภาพและแต้มในไพ่แต่ละใบ