สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 860-2 ศึกครั้งสุดท้าย! (2)
บทที่ 860-2 ศึกครั้งสุดท้าย! (2)
ขณะที่ถังเย่ว์ซานกำลังจะต่อปาก จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวดังจากบนพื้นดิน จึงทำท่าเอานิ้วชี้จุ๊ปากเพื่อให้ทุกคนเงียบเสียง
ชาวบ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แม้แต่เสี่ยวหยิงซึ่งอายุเพียงขวบกว่าก็ยังปิดปากด้วยมือเล็กๆ ของตัวเองตามที่พี่ชายบอก
เสี่ยวหยิงเชื่อฟัง เสี่ยวหยิงจะเงียบเสียงลง
ทั้งถ้ำเต็มไปด้วยความเงียบ
“เอาละ คืนนี้พวกเราจะพักแรมกันที่นี่!”
เป็นเสียงของทหารแคว้นจิ้น
ชาวบ้านที่นี่รู้ภาษาแคว้นจิ้นเป็นอย่างดี สืบเนื่องจากการค้าขายในพื้นที่ชายแดนเมืองผู่ค่อนข้างเจริญ ช่วงก่อนที่สงครามจะปะทุขึ้น มีร้านค้ามากมายในเมืองนี้ที่เปิดโดยพ่อค้าจากแคว้นจิ้น
ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะมาตั้งค่ายตรงบริเวณที่พวกเขากบดานอยู่
ซ่างกวานชิ่งส่งสัญญาณมือให้ชาวบ้าน “ทุกคนไม่ต้องกังวลไป แค่ไม่ส่งเสียงก็พอ”
ทุกคนพยักหน้าเข้าใจอย่างดี บวกกับว่าตอนนี้เริ่มจะดึกแล้ว พอถึงช่วงฟ้าสางของอีกวัน กองทหารกลุ่มนี้คงจะเดินทางออกไปจากจุดนี้กันเอง
“ใครที่นอนกรนดังๆ คืนนี้อย่าเพิ่งนอนก่อนล่ะ” ซ่างกวานชิ่งกระซิบกับชาวบ้าน
ถังเย่ว์ซานจึงได้แต่นั่งกอดธนูยักษ์ของตัวเองด้วยสีหน้าผิดหวัง
….
ตกกลางดึก พวกทหารแคว้นจิ้นเริ่มเข้านอนกันแล้ว
ถังเย่ว์ซานผู้ซึ่งไม่กล้าหลับลึก เขาทำได้เพียงกอดคันธนูอยู่ในอ้อมแขน พิงกำแพงและหรี่ตาเป็นครั้งคราว
จู่ๆ เขาได้ยินเสียงครางแปลกๆ ดังขึ้น
เขาขมวดคิ้วและมองไปทางต้นเสียงผ่านแสงของไข่มุกเรืองแสงบนผนัง และคนที่กำลังคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดเป็นชาวบ้านหญิงที่กำลังตั้งครรภ์
สามีของนางถูกทหารแคว้นจิ้นสังหาร นางและลูกๆ ของนางอีกสองคนจึงได้รับความช่วยเหลือโดยซ่างกวานชิ่ง
ทหารคนอื่นๆ กำลังออกไปลาดตระเวน เหลือเพียงแค่ถังเย่ว์ซานที่ยังตื่นอยู่
เขามองนางด้วยความสงสัย
แต่แล้ววินาทีถัดมา เขาก็เหลือบไปเห็นกริชในมือของนางที่กำลังชี้ไปที่ลำคอของนางเอง!
ถังเย่ว์ซานรีบพุ่งตัวเข้าไปคว้าข้อมือของนางด้วยความเร็ว และใช้เสียงที่เบาที่สุดแต่แฝงไปด้วยความดุดัน “เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ!”
แวบแรกที่เขาเห็นกริชนั้น ก็แอบนึกไปว่านางเป็นสายลับของฝ่าย แต่หารู้ไม่ว่าที่จริงแล้วนางกำลังจะฆ่าตัวตาย
นางมาจากตระกูลจาง เนื้อตัวและเสื้อผ้าของแม่นางจางผู้นี้เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ พร้อมใบหน้าที่ซีดผาด
ถังเย่ว์ซานเห็นดังนั้นจึงมองไปที่ท้องโตของนาง “เจ้า…อย่าบอกนะว่า กำลังจะคลอดแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น”
ซ่างกวานชิ่งที่เพิ่งตื่นจากความฝันก็รีบวิ่งมาทางนี้
เขามองไปที่ชายกระโปรงของแม่นางจางที่เปียกแฉะ ก่อนจะหันมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจเย็น “น้ำคร่ำนี่นา เด็กกำลังจะออกมาแล้ว”
แม่นางจางตั้งท้องได้แปดเดือนแล้ว และอันที่จริงยังไม่ถึงกำหนดคลอดด้วยซ้ำ อาจเพราะความเครียดจึงทำให้นางต้องคลอดก่อนกำหนด
แม่นางจางกล้ำกลืนความเจ็บปวดจากครรภ์ ดวงตาของนางแดงก่ำ พยายามเอ่ยกับพวกเขา “ข้าคลอดตอนนี้ไม่ได้…ไม่ได้เด็ดขาด”
หากเด็กออกมาจากท้อง เสียงร้องของเด็กอาจดังไปถึงทหารแคว้นจิ้นที่พักแรมอยู่ข้างบน
แม่นางจางเอ่ยด้วยความสิ้นหวัง “พวกเราจะต้องตายกันหมด…ทั้งเสี่ยวหยิง…เสี่ยวฮุย…พวกเจ้า…จะต้องตายกันหมด…”
นางไม่อาจทำลายชีวิตของเด็กสองคนและคนทั้งหมู่บ้านเพื่อแลกกับทารกในครรภ์
ซ่างกวานชิ่งหันไปมองอาหยิงที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่ รวมถึงชาวบ้านคนอื่นๆ ที่อยู่ในห้วงนิทรา พลางคิดหาวิธี
“ข้าจะพาเจ้าไปทำคลอดตรงบริเวณอื่น เจ้าอดทนก่อนนะ” ซ่างกวานชิ่งเอ่ย
“จะ จะไม่ถูกจับได้รึ” แม่นางจางสะอื้นถาม
“ปกติแล้วเด็กที่คลอดก่อนกำหนดจะส่งเสียงไม่ดังนัก พวกเราต้องออกไปจากตรงนี้ไกลหน่อย พวกมันอาจจะตามตัวเราไม่พบก็ได้ แต่ถ้า…เกิดอะไรขึ้น ข้าจะจัดการด้วยตัวข้าเอง”
ถังเย่ว์ซานได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าตกใจทันที
ไม่น่าเชื่อว่าคราวนี้เขาจะฟังออกด้วย
เขามองไปที่ซ่างกวานชิ่งด้วยสายตาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน และคาดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มจะเอ่ยจาแบบนี้ออกมาได้
สำหรับเขาแล้ว การเลือกความโหดร้ายน่าจะยากกว่าความเมตตาสิ
แต่ถ้าไม่ทำเช่นนั้น ชีวิตของคนนับพันจะต้องตกอยู่ในอันตรายแน่นอน
แทนที่จะให้มือของแม่นางจางเปื้อนเลือด เขาเลือกที่จะแบกรับไว้เอง และมันจะตามหลอกหลอนเขาไปตลอดชีวิต
แม่นางจางพยักหน้าทั้งน้ำตา
จากนั้นซ่างกวานชิ่งไปปลุกให้หญิงชราคนหนึ่งตื่นขึ้น และไปตามทหารบางส่วนมาเพื่อช่วยทำเปลฉุกเฉินและแบกร่างของแม่นางจางขึ้นบนเปล
อีกทั้งยังปลุกให้แม่เฒ่าคนหนึ่งลุกขึ้นเพื่อมาช่วยดูลูกของแม่นางจาง เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่รู้สึกหวาดกลัวเมื่อตื่นขึ้นมาและพบว่าแม่ของพวกเขาหายไป
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึ” แม่เฒ่าถาม
ชาวบ้านตื่นขึ้นมาทีละคน เนื่องจากพวกเขาถูกขังอยู่ในถ้ำก็เลยค่อนข้างตื่นตัวง่ายกันมาก เมื่อมีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้พวกเขารู้สึกกังวลได้
“ทุกคนพักผ่อนกันเถิด ข้าจะจัดการเอง” ซ่างกวานชิ่งเอ่ยกับทุกคนด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง
ด้วยรัศมีที่น่าเชื่อถือของเขา ทำให้เกิดความไว้วางใจ พวกเขาจึงพยักหน้าและเข้านอนต่อ
ถังเย่ว์ซานและซ่างกวานชิ่งเดินไปจุดทำคลอดของแม่นางจาง ซึ่งห่างจากจุดที่ชาวบ้านนอกราวหนึ่งร้อยฉื่อ
แม่นางจางกำลังอยู่ในท่านอนราบบนเปล
แม้หญิงชราจะไม่ใช่หมอตำแย แต่อย่างน้อยในเรื่องนี้ นางมีประสบการณ์มากกว่าเหล่าชายชาติทหาร
หญิงชราทำการช่วยแม่นางจางคลอดเด็ก โดยซ่างกวานชิ่งและคนอื่นๆ คอยเฝ้าอยู่ด้านนอก
“มีเศษไม้ไหม” หญิงชราเดินออกมาแล้วถามพวกเขา
“เอาขนาดเท่าไหร่” ซ่างกวานชิ่งถาม
“ไม่ต้องใหญ่มาก เอาไว้ให้นางใช้กัดเพื่อไม่ให้ส่งเสียงดังจนเกินไป แล้วก็เพื่อไม่ให้นางทำร้ายตัวเองด้วย”
เขาจึงดึงจุกก๊อกที่ใช้ปิดถุงน้ำไว้ดื่มออกมา “อันนี้ได้ไหม”
หญิงชราส่ายศีรษะ “ยังใช้ไม่ได้”
“อันนี้ล่ะ” ซ่างกวานชิ่งดึงปิ่นมักผมของเขาออกมา
“ไม่ได้” หญิงชรายังคงส่ายศีรษะ
ซ่างกวานชิ่งลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจหยิบกริชไม้เก่าๆ ขึ้นมาแล้วยื่นให้หญิงชรา
“ประมาณนี้น่าจะใช้ได้” หญิงชราเอ่ย
เอ่ยจบ นางก็หยิบมันเข้าไปด้านในถ้ำ
ถังเย่ว์ซานรับรู้ถึงท่าทีผิดปกติของซ่างกวานชิ่งได้ทันที
กริชไม้นั่นคงสำคัญกับเขามากเลยสินะ
แต่กริชนั่นก็ดูไม่ใช่ของมีค่าอะไร ไว้เขาทำให้ใหม่สักสิบอันก็ได้ ตอนที่มาเป็นลูกบุญธรรมของเขาแล้ว!
แม่นางจางมีอาการปวดท้องตั้งแต่ช่วงกลางวันแล้ว เวลานี้ ปากมดลูกของนางเปิดเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถคลอดบุตรได้
“ไอ้หยา แย่แล้วสิ”
หญิงชรารีบเดินออกมา พร้อมกับเอ่ย “แม่นางจางอยู่ในภาวะคลอดยากแล้วล่ะ…”
เวลาสตรีคลอดลูกไม่ต่างอะไรกันกับการผ่านประตูยมโลก หากเจอกับภาวะคลอดยาก อาจเสียชีวิตได้ทั้งแม่และลูก
“ถ้าแม่เด็กนั่นอยู่ที่นี่ก็คงดี!” ถังเย่ว์ซานบ่นอุบอิบพร้อมกับกำหมัดแน่น
“เกิดอะไรขึ้นรึ”
เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น ทหารสองนายที่อยู่ข้างๆ ถึงกับรีบตั้งอาวุธทันที
“ข้าเอง”
กู้เจียวเอ่ย
ซ่างกวานชิ่งเห็นดังนั้นจึงส่งสัญญาณมือให้ทหารสองคนลดอาวุธลง
กู้เจียวเปิดประตูลับออก แล้วตะกายตัวขึ้น
“กว่าจะหาที่นี่เจอได้ ยากเหมือนกันนะเนี่ย” กู้เจียวเอ่ยขึ้นพร้อมกับปัดฝุ่นที่ติดเสื้อออก
“เจ้ามาจากด้านหลังเขารึ” ซ่างกวานชิ่งถาม
“ก็ใช่น่ะสิ จะให้ข้ามาจากค่ายพักแรมของพวกทหารแคว้นจิ้นรึไง” กู้เจียวโต้กลับ
“มีทางลับมาโผล่ที่นี่ด้วยรึ” ซ่างกวานชิ่งอดสงสัยไม่ได้
“อะไรกัน เจ้าไม่รู้หรอกรึ” ที่จริงนางเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน
หลังจากที่เฝ้าเซวียนหยวนฉีอยู่นานก็เกิดเบื่อ เลยเดินไปรอบๆ แต่กลายเป็นว่าดันเจอเข้ากับกลไกแล้วพลัดตกลงไปในอุโมงค์ลับแห่งหนึ่ง
กู้เจียวพยายามหาทางกลับไปที่เดิม แต่ก็ดันบังเอิญมาเจอกับพวกเขาที่นี่จนได้