สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 854 พี่ชิ่งทำความแตก
บทที่ 854 พี่ชิ่งทำความแตก
บุรุษตัวแข็งทื่อ
ครู่ต่อมาเขาก็เดินไปข้างหน้าต่ออย่างสงบนิ่งยิ่ง “เจ้าจำผิดคนแล้ว”
กู้เจียวหันหลังกลับมา มองแผ่นหลังของเขาที่เดินไปโดยไม่หันมามอง พลางเอ่ย “แม่เจ้ามาแล้วนะ”
ฝีเท้าของบุรุษไม่ได้หยุดลง ยังคงสาวเท้าก้าวยาวๆ เข้าสู่รัตติกาล
กู้เจียวเอ่ยต่ออีก “แม่เจ้ามาจริงๆ นะ องค์หญิงนำทัพแทนฮ่องเต้กองทัพใหญ่ของราชสำนักเข้ารักษาการณ์ที่เมืองฉวี่หยางหมดแล้ว หากนางรู้เข้าว่าเจ้าไม่รออยู่นอกเซิ่งตูแต่โดยดี วิ่งเข้าป่ามาเป็นโจรอยู่ที่ด่านชายแดน นางได้ฟาดเจ้าแน่!” บุรุษกำหมัดแน่นเดินไปข้างหน้าต่อ
กู้เจียวเอ่ยอีก “เย่ชิงของตำหนักกั๋วซือก็มาด้วยนะ”
ในที่สุดบุรุษก็อดทนจนไม่รู้จะทนอย่างไรแล้ว อารมณ์ที่ข่มกลั้นพลันระเบิดออก เขาหันหลังกลับมาก่อนจะเอ่ยอย่างเดือดดาล “อ้ากกก! เจ้าจำได้อย่างไร!”
กู้เจียวกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเอ่ย “จำไม่ได้หรอก ก็แค่ หลอกเจ้าน่ะ”
ซ่างกวานเยี่ยน “…??”
กู้เจียวแบมือ “ก็ได้ ความจริงก็มีนิดหน่อย”
มาดนั่นที่เจ้าปรากฏตัวเหมือนกับพ่อเจ้าทุกกระเบียดนิ้ว ไหนจะทหารผีสามพันของเจ้าอีก เจ้ารู้หรือไม่ว่าพ่อเจ้ามีกองทัพหน้ากากผีสามพันนาย
ตรรกะความคิดเช่นนี้ ยังมาบอกว่าไม่ใช่พ่อแท้ๆ อีก
นอกจากนี้เพราะกู้เจียวเข้ามาในป่าแล้วสังเกตถึงความผิดปกติได้ รวมถึงที่นางพลัดหลงกับถังเย่ว์ซานด้วย ในป่าน่าจะซุกซ่อนค่ายกลบางอย่างเอาไว้
วิชาประตูพิสดารเกราะล่องหน เหมือนวิชาที่หายสาบสูญไปของกั๋วซือบางคนยิ่งนัก
ที่สำคัญก็คือ…
“นี่ สิ่งนี้น่ะ” กู้เจียวยกมือขึ้น แบมือออก เผยให้เห็นป้ายคำสั่งของราชวงศ์ต้าเยี่ยน
ซ่างกวานชิ่งมองป้ายคำสั่ง แล้วหันไปมองกระเป๋าเงินที่ว่างเปล่าของตัวเอง พลันเดือดดาลขึ้นมาอีกหน “เจ้าขโมยป้ายคำสั่งของข้าไปตั้งแต่เมื่อใด ข้าอุตส่าห์หวังดีช่วยเหลือเจ้า! เจ้ากลับฉกฉวยสิ่งของจากตัวข้าไป! เจ้ามันช่างไร้มโนธรรมเกินไปแล้ว!”
กู้เจียวเบ้ปาก “เจ้าดูท่าทางน่าขโมยนี่นา… เลยอดใจไม่ไหวไปชั่ววูบ”
ซ่างกวานชิ่ง “…!!”
ซ่างกวานชิ่งตัดสินใจจะสั่งสอนให้เป็นบทเรียนแก่ผู้บุกรุกคนนี้ อำนาจของราชาผีไม่ควรมาท้าทาย!
เขากางแขนออกสองข้าง ร่างกายสั่นระริก กิ่งไม้บนต้นไม้ใหญ่รอบด้านพลันพลิ้วไหวทั้งๆ ที่ไร้กระแสลม
ตัวสั่นแล้วกระมัง ผู้บุกรุก!
กู้เจียวไม่เหลือบตาขึ้นมองแม้แต่น้อย แหงนหน้าขึ้นมาหยุดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ยกมือขึ้นจับคว้าเชือกมาได้เส้นหนึ่ง ก่อนจะกระตุกดึง
“โอ๊ย…”
ผีน้อยบนต้นไม้โดนดึงลงมา
ซ่างกวานชิ่งไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาซัดฝ่ามือใส่ต้นไม้ใหญ่ด้านหลัง ต้นไม้ใหญ่เริ่มหลั่งโลหิต
กู้เจียวร้องโอ้ ยกนิ้วขึ้นนิ้วหนึ่ง จิ้มในรูต้นไม้
เลือดที่กำลังไหลออกมา เอ๋ ไหลไม่ออกแล้ว…
ซ่างกวานชิ่งสะดุ้งโหยง “ดูท่าเจ้าจะบีบให้ข้าต้องใช้ ท่า ไม้ ตาย!”
“เจ้าหมายถึงสิ่งนี้หรือ” กู้เจียวก้มตัวลง ซุกลงไปในพุ่มไม้ ได้มือกระดูกขาวโพลนมาข้างหนึ่ง มือยังมีผีน้อยสีหน้างุนงงติดมาด้วย
ผีน้อยขยับกลไกในมือ มือกระดูกข่วนสองที แกรก แกรก
สถานการณ์ตกสู่ความเงียบงันดุจความตาย
ผีน้อยเห็นท่าไม่ดี จึงทิ้งอุปกรณ์ประกอบฉากของตัวเอง… เอ๊ยไม่ใช่ มือผี วิ่งเผ่นแนบไปเลย!
กู้เจียวครุ่นคิด คืนมือผีให้ซ่างกวานชิ่งอย่างใจกว้างยิ่ง “เอาไปสิ”
ซ่างกวานชิ่ง “…”
ซ่างกวานชิ่งกัดฟันคว้ามือผีมาโยนไปด้านข้าง เฮยอู๋ฉางน้อยที่กำลังแอบฟังถูกกระแทกใส่เข้าเต็มๆ กอดมือผีเผ่นหนีไปโดยไม่ส่งเสียงสักแอะ
ซ่างกวานชิ่งสีหน้าเย็นเยียบดุจน้ำแข็งมองกู้เจียว “เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่ ตาเฒ่าส่งเจ้ามารึ ศิษย์คนใหม่ของตำหนักกั๋วซือรึ ไม่เคยเห็นหน้าเจ้ามาก่อน!”
ดูท่าเจ้าจะสนิทกับตำหนักกั๋วซือจริงๆ นะนี่ มิน่าเล่าได้รับการถ่ายทอดวิชาจากกั๋วซืออย่างล้ำลึก ทำเสียเหมือนผู้ข้ามภพมาครึ่งตัวอย่างไรอย่างนั้น
ข้าคือน้องสะใภ้เจ้าต่างหากเล่า
กู้เจียวเอ่ย “ข้าเป็นผู้บัญชาการคนใหม่ของทหารม้าเฮยเฟิง แซ่เซียว”
ซ่างกวานชิ่งได้ยินว่าแซ่เซียวเป็นผู้บัญชาการทหารม้าเฮยเฟิงคนใหม่ ก็ไม่ได้เผยสีหน้าซับซ้อนมากนัก กู้เจียววิเคราะห์ว่าเขาน่าจะยังไม่รู้เรื่อง หรือไม่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
เซียวชิ่งจะรู้ชาติกำเนิดของตัวเองหรือไม่ ซ่างกวานเยี่ยนไม่ได้บอก กู้เจียวจึงทึกทักว่าเขาไม่รู้ นางย่อมไม่อาจเป็นฝ่ายตัดสินใจเปิดโปงเอาเองได้
ซ่างกวานชิ่งมองไปด้านหลังกู้เจียว “ทหารม้าเฮยเฟิงก็มาด้วยรึ”
กู้เจียวเอ่ย “ไม่ได้มาเมืองผู่ อยู่ที่ฉวี่หยาง”
ซ่างกวานชิ่ง “อ้อ”
กู้เจียวถาม “ผู้ใดเป็นคนให้ปืนไฟแก่เจ้ารึ”
ซ่างกวานชิ่งกลอกตา “ข้าประดิษฐ์เองไม่ได้หรือไร”
กู้เจียวมองปืนไฟในมือเขา “ขึ้นสนิมขนาดนั้น เกรงว่าอายุของมันคงมากกว่าเจ้าด้วยซ้ำ”
ซ่างกวานเยี่ยนเอ่ยอย่างอันธพาล “ข้าไม่สน ข้าเป็นคนประดิษฐ์!”
‘ประดิษฐ์’ กับ ‘ประสบ’ ต่างกันแค่คำเดียว นับถ้วนๆ ก็คือประดิษฐ์นั่นแหละ!
“อ้อ” กู้เจียวเลิกคิ้วมองคนที่กำลังเก็บกวาดสนามรบในป่า “เช่นนั้น ทหารผีเหล่านั้นกับเกราะบนตัวพวกเขาเจ้าก็เป็นคนประดิษฐ์รึ”
ซ่างกวานชิ่งเอ่ย “ชุดเกราะเจอที่บรรพตหลัง”
นี่เหมือนกับที่กู้เจียวคาดเดาไว้ ที่นี่เป็นสถานที่ที่ฝังศพของกองทัพเซวียนหยวน ดังนั้นจึงมีชุดศึกเซวียนหยวนที่ชำรุดทรุดโทรมมากมายเพียงนี้
“ส่วนทหารผีพวกนั้น” ซ่างกวานชิ่งเริ่มเดินไปตามเส้นทางที่เดินมาตอนแรก เดินไปพลางเล่าไปพลาง “พวกนี้เป็นโจรที่ด่านชายแดน ถูกข้ากำราบแล้ว”
กู้เจียวเดินตามเขา เดินไปได้สักพักใหญ่จึงเข้าใจ ‘พวกนี้’ ที่เขากล่าวมาหมายถึงอะไร เพราะที่นี่ยังมี ‘พวกนี้’ อีกอย่างเห็นได้ชัด
หลังป่าไม้เป็นหุบเขาแห่งหนึ่ง หันหลังให้สามภูเขาใหญ่ มีแม่น้ำเล็กๆ ไหลผ่านหุบเขา มีสะพานน้อยเชื่อมหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขากับป่าไม้เอาไว้
หมู่บ้านแบ่งเป็นสองฟาก ฟากหนึ่งเป็นที่พักของพวกทหารผี อีกฟากเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน
หมู่บ้านแห่งนี้เพิ่งจะสร้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ห้องสุขาล้วนใหม่เอี่ยมอ่อง
เหล่าทหารถอดเกราะออกอย่างผู้ชนะ ชาวบ้านในหมู่บ้านกำลังจุดกองไฟในที่โล่งกว้าง ผู้ใหญ่กำลังทำงาน เด็กๆ ก็เล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่ข้างๆ
ตรงกันข้ามกับเมืองผู่ที่มีเพลิงสงครามกำลังลุกลาม ที่นี่ราวกับเมืองสวรรค์
ซ่างกวานชิ่งเอ่ยนิ่งๆ “ล้วนเป็นชาวบ้านในเมืองที่ถูกทรมานจากเพลิงสงคราม รวมถึงคนในหมู่บ้านที่โดนเผาหมู่บ้านด้วย ทหารจิ้นไม่ใช่คน ก็ให้พวกมันไปเป็นผีแล้วกัน”
มิน่าเล่ายามสังหารทหารจิ้นขึ้นมาจึงไร้ปรานีไม่มีใจอ่อน ที่แท้ก็เห็นการกระทำอันโหดร้ายทารุณของทหารจิ้นมาทั้งหมดแล้ว
“ซ่างกวานชิ่ง” กู้เจียวหันไปมองเขา
“อะไร” เขาถามอย่างไม่แยแส
กู้เจียวหยักยกมุมปาก “ชื่นชมเจ้า”
เคยจินตนาการถึงลักษณะของเจ้ามานับไม่ถ้วน กลับคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นซ่างกวานชิ่งเช่นนี้
แม้ว่าจะโดนพิษตั้งแต่เด็ก ทำให้ร่างกายเจ้าไม่แข็งแรงพอ แต่เจ้ามีสติปัญญาฉลาดหลักแหลมและจิตใจเมตตาหนักแน่น
ในชีวิตที่จำกัดนี้ เจ้าสร้างความเป็นไปได้อันไร้ขอบเขตขึ้นมา เจ้าช่วยชีวิตคนไว้มากมาย
“คะ…ใครต้องการคำชื่นชมจากเจ้ากัน!” ซ่างกวานชิ่งหันหน้าหนี หูพลันแดงเรื่อ
กู้เจียวมองใบหูแดงๆ ของเขา ก็ทนไม่ไหว หัวเราะฮ่าๆ ออกเสียงขึ้นมา
เหมือนกับเซียวเหิงเลย โดนคนอื่นชมแล้วจะหน้าแดง!
“เป็นองค์ราชาผีกลับมาแล้ว!” ชาวบ้านคนหนึ่งได้ยินเสียงหัวเราะปลอดโปร่งของเด็กหนุ่ม จึงอดหันมามองทางนี้ไม่ได้ เขาเห็นซ่างกวานชิ่งพาเด็กหนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่งกลับมา ก็ไม่ได้ตกใจ แต่ยิ้มแย้มเอ่ย “วันนี้มีคนเพิ่มเข้ามาหรือ”
ท่าทางยินดีต้อนรับยิ่ง
ในบรรดาพวกเขาส่วนใหญ่ล้วนเคยจนตรอกไร้ที่ไปมาก่อน และเคยได้รับการต้อนรับจากรุ่นอาวุโสกว่าที่นี่
พวกเขาจึงยินดีต้อนรับผู้มาใหม่ที่เข้ามาทีหลังเช่นกัน
ซ่างกวานชิ่งยกสองมือไพล่หลัง มองกู้เจียวแวบหนึ่งก่อนจะเอ่ยกับชาวบ้านเพศชายวัยสี่สิบกว่าปีคนนั้น “เปล่าหรอก เขาผ่านทางมา ไม่ทันระวังบุกเข้ามาในป่าของพวกเรา พรุ่งนี้เขาก็ไปแล้ว”
ชาวบ้านเอ่ยด้วยความตกใจ “อ๊ะ แต่…ข้างนอกไม่ปลอดภัยนะ”
ปฏิกิริยาจากจิตใต้สำนึกของเขาไม่ใช่สงสัยว่ากู้เจียวจากไปแล้วจะแพร่งพรายที่ซ่อนของพวกเขาออกไปหรือไม่ แต่กลับเป็นห่วงกู้เจียวว่าจะเจออันตรายภายนอก
พวกเขาต่างเป็นชาวบ้านที่จิตใจดีและธรรมดากลุ่มหนึ่ง
“พี่ชายน้อยคนนี้เก่งกาจมาก!”
เฮยอู๋ฉางน้อยไม่รู้โผล่มาจากไหน ในมือยังถือมือผีนั่นไว้ด้วย
“ลิ้นของเจ้าเล่า” ชาวบ้านถามเขา
ไอ้หยา!
ทำหายแล้ว!
เฮยอู๋ฉางน้อยหนีตายอีกหน!
กู้เจียวอมยิ้มมองซ่างกวานชิ่ง
ซ่างกวานชิ่งแสร้งตีหน้าดุดันเอ่ย “เหอะ ข้าแค่ต้องการกรรมกรนิดหน่อยเท่านั้น รอสงครามสิ้นสุดลง ข้าก็จะให้พวกเขาไปขุดเหมืองให้ข้าให้หมด! ขุดมันทุกวัน! ขุดมันทุกคืน! ไม่หลับไม่นอน! ข้าจะรีดเค้นเอาประโยชน์สุดท้ายของพวกเขาให้หมด!”
“อุ้ม อุ้มๆ”
เด็กผู้หญิงวัยหัดเดินคนหนึ่งเดินเตาะแตะมาหา กางแขนน้อยๆ ออกมาจะให้อุ้ม
ซ่างกวานชิ่งถอนหายใจอย่างจนปัญญา อุ้มนางขึ้นมา ปลายนิ้วเช็ดงาดำเม็ดหนึ่งตรงมุมปากนางให้ “เสี่ยวอิ๋ง เจ้าขโมยกินอีกแล้วนะ คืนนี้ห้ามกินลูกอม รู้หรือไม่”
เสี่ยวอิ๋งวัยครึ่งขวบนั่งอยู่บนข้อพับของซ่างกวานชิ่ง ซุกอกเขาไว้
นางเสียบิดาบังเกิดเกล้าไปในเพลิงสงคราม
นางยังเล็กนัก ไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอย่างไร เพียงแต่ทุกๆ วันพอตกค่ำ นางจะหลับในอ้อมแขนของซ่างกวานชิ่ง ราวกับหาความรู้สึกปลอดภัยที่ขาดหายไปส่วนนั้น
เสี่ยวอิ๋งฟุบหลับอยู่ในอ้อมอกซ่างกวานชิ่ง
พี่ชายวัยสิบปีของนางเดินมาอุ้มนางไป
จำต้องกล่าวว่าซ่างกวานชิ่งทำให้กู้เจียวได้รู้จักเพิ่มอีกแล้ว
นึกว่าเป็นคนไม่เอาอ่าว หลังพบหน้าแล้ว วิธีการจัดการทหารจิ้นเหล่านั้นช่างไม่จริงจังจริงๆ แต่เบื้องหลังความไม่จริงจังนี้มีความอบอุ่นและเห็นอกเห็นใจประชาชนซ่อนอยู่
ซ่างกวานเยี่ยนสั่งสอนบุตรชายคนนี้ได้ดียิ่งนัก
ซ่างกวานชิ่งเอ่ย “จริงสิ สหายเจ้าสลบไปแล้ว พวกเราไม่ได้ทำเขาตกใจจนสลบไปนะ เขาชนกระแทกสลบไปเอง”
หลังจากถังเย่ว์ซานผู้กลัวผีพบว่ากู้เจียวหายไปแล้ว รีบไปตามหานาง พลันชนเข้ากับกำแพงดำของกับดัก
ซ่างกวานชิ่งเอ่ยต่ออีก “คนของพวกเราหามเขากลับมาแล้ว อีกเดี๋ยวเจ้าไปพบเขาได้ คืนนี้เจ้าก็ค้างในหมู่บ้าน พรุ่งนี้เช้าข้าจะส่งพวกเจ้าออกจากเมือง”
คนซื้อถังหูลู่เมื่อเช้าเป็นเขาจริงๆ ด้วย
“ข้าไปเดินเล่นรอบๆ ได้หรือไม่” กู้เจียวถาม
“ได้” ซ่างกวานชิ่งทอดมองทางทิศเหนือของหมู่บ้าน “ยกเว้นภูเขาด้านหลัง”
“เพราะอะไรหรือ” กู้เจียวไม่เข้าใจ
ซ่างกวานชิ่งสีหน้าพลันฉาบความซับซ้อนขึ้นหลายส่วน “เพราะที่นั่น…มีราชาผีตัวจริงอยู่น่ะสิ!”