สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 852-2 ราชาผีออกโรง (2)
บทที่ 852 ราชาผีออกโรง (2)
เฮยอู๋ฉางน้อยตกใจจนเผลอร้องออกมา
กู้เจียววางเขากลับบนอานม้า ทอดมองคนกลุ่มหนึ่งที่เดินมาทางนี้อย่างเย็นชา
หาใช่คนอื่นไกล เป็นทหารจิ้นที่ไล่ล่าพวกนางมาตลอดทางนั่นเอง
สิ่งที่ทำให้กู้เจียวผิดคาดก็คือ ผู้นำหน้าสุดไม่ใช่เจี่ยสิงโจว แต่เป็นหมิ่นหงอี
หากผู้มาใหม่เป็นเจี่ยสิงโจว ยังพอจะใช้วาจาต้อนรับขับสู้กับเขาได้ แต่หมิ่นหงอีผู้นี้เหมือนกันกับกงซุนอวี่ เป็นพวกบ้าสงครามขนานแท้เลย
หมิ่นหงอีหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ที่แท้เจ้าก็เป็นพวกเดียวกันกับพวกแสร้งหลอกผี ข้าก็ว่าอยู่ว่าพวกเจ้าที่ไหนไม่ไป ไยจึงเข้ามาในนี้ให้ได้ด้วย”
กู้เจียวสบสายตาดุดันระคนกดดันของเขาอย่างราบเรียบก่อนจะเอ่ย “เขาไม่เกี่ยวข้องกับข้า ปล่อยเขาไป”
“ปล่อยเขาไป จากนั้นให้ไปตามกำลังเสริมรึ เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือไร!” หมิ่นหงอีเอ่ยอย่างเย็นชาจบ ก็คว้าธนูมาจากมือลูกน้อง ยิงดอกหนึ่งใส่เฮยอู๋ฉางในอ้อมอกกู้เจียวทันที!
ราชาม้าเฮยเฟิงพลันกระโดดไปเบื้องหน้า หลบเลี่ยงธนูดอกนี้
หมิ่นหงอียิงออกไปอีกดอก ถูกกู้เจียวใช้แส้ฟาดกระเด็น
หมิ่นหงอีเดือดดาลขึ้นมา เขาโยนธนูทิ้ง ชักดาบใหญ่ตรงบั้นเอวออกมา สายตาเหี้ยมโหดเอ่ย “ประเสริฐนัก เช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้าด้วยมือข้าเอง!”
เขายังคงประเมินข้าต่ำไปอยู่บ้าง บางทีข้าอาจจะใช้โอกาสนี้ได้…
กู้เจียวไม่ขยับไหว ท่าทางตกใจกับมาดของเขาจนโง่งมไปแล้ว เมื่อหมิ่นหงอีทะยานตัวขึ้น ดาบยาวกำลังจะฟาดใส่ศีรษะนาง
กู้เจียวก็ฟาดแส้ในมือเพียะ ม้วนตลบด้ามดาบของเขาไว้ กระตุกสะบัดดาบยาวของเขาออกไปอย่างแรง!
ดาบอยู่ คนอยู่
หมิ่นหงอีก็โดนฟาดกระเด็นไปพร้อมกับดาบด้วยเช่นกัน!
หมิ่นหงอีแน่ใจแล้วว่าประมาทศัตรูไป เจ้าหนูนี้ดูเหมือนยังอ่อนเยาว์มาก ซ้ำยามลงมือก็ไร้กำลังภายใจ ตนใช้กำลังภายในแค่ส่วนเดียวก็เหลือเฟือ
สุดท้ายโดนฟาดกระเด็นเสียแล้ว!
หมิ่นหงอีอับอายกลายเป็นโกรธ ปลายเท้าแตะพื้น ยืมแรงจากกิ่งไม้ตีลังกาทรงตัวให้มั่นคง ก่อนจะกุมดาบฟาดฟันเข้าใส่กู้เจียวอีกหน!
ดาบนี้ไม่ใช่ดาบที่ดูเบาศัตรูอีกแล้ว
กู้เจียวจะต้องหลบ ไม่เช่นนั้นตอนพวกเขาประมือกันจะทำให้พลังทำร้ายโดนเด็กกับราชาม้าเฮยเฟิง
“เจ้านั่งดีๆ นะ!”
กู้เจียวกระโจนลงจากหลังม้า ก้าวขึ้นหน้าเหยียบย่ำไปสองสามก้าว ตลบแส้ม้วนบั้นเอวหมิ่นหงอีไว้
นึกไม่ถึงว่าพละกำลังของเจ้าหนูนี่จะม้วนข้าไว้ได้… หมิ่นหงอีขมวดคิ้ว ตกใจกับกำลังแขนที่กู้เจียวปล่อยออกมา ในขณะเดียวกันก็เกิดความตื่นเต้นมหาศาลขึ้นในใจ
คู่ต่อสู้เช่นนี้ ยามฆ่าฟันขึ้นมาจึงน่าสนุก มิใช่หรือ
หมิ่นหงอีหัวเราะอย่างเย็นชา เปลี่ยนดาบเบนไปฟันที่แส้ของกู้เจียวแทน
แส้โดนฟันขาดสะบั้น กู้เจียวถอยหลังไปหลายก้าวด้วยแรงเฉื่อย
นางในอีกเก้าปีให้หลังมีฝีมือมากพอที่จะสังหารหมิ่นหงอีได้ ทว่ายามนี้ หมิ่นหงอีเป็นตัวปัญหาใหญ่ยิ่ง
หมิ่นหงอีแหงนหน้าหัวเราะยกใหญ่ “เจ้าหนู เจ้ายังมีความสามารถอะไรอีก”
กู้เจียวเอ่ยขึ้น “ข้าเก่งกาจเพียงนี้ เจ้าหักใจฆ่าข้าได้จริงรึ”
หมิ่นหงอีชะงักงัน
กู้เจียวค่อยๆ โน้มน้าวใจ “ไม่สู้พาข้ากลับไป มอบให้กับกงซุนอวี่ของพวกเจ้า มีข้าช่วยเจ้า เจ้าต้องได้เปรียบเจี่ยสิงโจวแน่”
เจ้าหนูคนนี้เป็นผู้มีความสามารถที่ปั้นได้ซึ่งหาได้ยาก หากว่า…
ฟิ้ว!
กู้เจียวพลิกมือโบกขึ้น ยิงเข็มถังฮวาในมือออกไป!
หมิ่นหงอีฝีมือการต่อสู้แข็งแกร่งเลิศล้ำ น่าเสียดายที่สมองฉลาดสู้เจี่ยสิงโจวไม่ได้ มิน่าเล่าจึงมักโดนเจี่ยสิงโจวข่มไว้ใต้เท้า
หมิ่นหงอีใช้ดาบต้านไว้ จนด้วยเกล้าที่ยังช้าไปก้าวหนึ่ง มีเข็มถังฮวาเล่มหนึ่งยิงโดนบริเวณท้องของเขา!
บนเข็มมีพิษ!
หมิ่นหงอีรีบสกัดจุดบริเวณบาดแผลทันที เพื่อไม่ให้พิษไหลเวียน
“เจ้าหนู เจ้าทำข้าโมโหข้นมาจริงๆ แล้ว! เดิมทีข้าอยากให้เจ้าไปสบาย แต่ยามนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว! ข้าจะตัดสองมือของเจ้าทิ้ง หักกระดูกทั่วทั้งร่างของเจ้า แล้วค่อยฟันหัวเจ้าซะ!”
“ฮือออ” เฮยอู๋ฉางน้อยเสียขวัญจนร้องไห้ขึ้นมาทันที
หมิ่นหงอีกำลังโมโหได้ที่ เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยทำให้เขารำคาญสุดจะเปรียบ เขาฟันดาบใส่ศีรษะของเฮยอู๋ฉางน้อยทันใด!
เขาฟันไปตรงหน้าจังๆ ไม่ว่าราชาม้าเฮยเฟิงจะบุกหรือถอย เฮยอู๋ฉางน้อยก็โดนดาบอยู่ดี
น่าชังนัก แม้แต่เด็กน้อยก็ยังไม่เว้น!
ถูกจิ้งคงฟันมือเท้าขาดไม่เกินไปเลยสักนิด!
กู้เจียวแววตาไหวระริก ทะยานตัวโผไปคว้าเฮยอู๋ฉางลงจากหลังม้า นางอุ้มเฮยอู่ฉางน้อยกลิ้งหลายตลบอยู่บนพื้นหญ้ารกชัฏ
หมิ่นหงอีอาศัยตอนฟันดาบที่สองลงไป เร่งความเร็ว ทำให้กู้เจียวที่อุ้มเด็กไม่อาจหลบเลี่ยงได้!
ครานี้จะ…ตายอยู่ที่นี่แล้วหรือ
กู้เจียวอยากมีชีวิตอยู่ มีเพียงวิธีเดียว นั่นคือโยนเด็กในอ้อมอกออกไปขวางดาบไว้
กู้เจียวไม่ได้ทำเช่นนั้น
เคร้ง!
บางอย่างโจมตีใส่คมดาบของหมิ่นหงอี ดาบของหมิ่นหงอีโดนโจมตีเบี่ยงทิศ ทั้งแขนเขาชาดิก
“ผู้ใด!”
เขาหันหน้าไปมองในส่วนลึกของราตรีสีมืดด้วยความเดือดดาล
เห็นเพียงท่ามกลางหมอก บุรุษคนหนึ่งในชุดคลุมลึกลับสีทมิฬตลอดร่าง สวมหน้ากากร้อยผีนั่งอยู่บนเกี้ยวหามที่หามด้วยผีร้ายสิบแปดตัว ค่อยๆ เยื้องย่างมาหาพวกเขา
ผ้าผืนบางบนเกี้ยวถูกลมราตรีพัดพลิ้วไสว ในป่าพิศวงเย็นยะเยือกมีกลิ่นอายของผีราตรีหลายร้อยตัวอย่างน่าประหลาด
ใต้แขนเสื้อกว้างของเขาเผยมือขาวเรียวยาวข้างหนึ่งวางอยู่บนที่พักแขนนิ่งๆ ข้อต่อชัดเจน ประณีตราวกับหยก ทว่าก็ขาวเกินไป จึงทำให้ดูน่ากลัวขึ้นไม่น้อย
ด้านหน้าสุดของเกี้ยวเขา มีสองคนที่แต่งตัวเป็นเฮยอู๋ฉางกับไป๋อู๋ฉางยืนอยู่คนละข้าง
ทันใดนั้นในรัตติกาลก็มีลมเย็นยะเยือกพัดวูบ พัดป่าทั้งผืนให้หนาววาบ
เหล่าทหารจิ้นพากันมองหน้ากัน แทบจะถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว
หมิ่นหงอีตวาดอย่างไม่แย่แส “พวกเจ้าคือผู้ใด! อย่ามาแสร้งหลอกผีต่อหน้าข้า!”
“แสร้ง…หลอก…ผีรี”
ริมฝีปากบุรุษหยักยก ยิ้มจางๆ จับที่พักแขน ก่อนลุกขึ้นยืน
แค่ลุกขึ้นเฉยๆ เท่านั้น กิ่งไม้รอบด้านกลับขยับไหวทั้งที่ไร้ลม
ราวกับว่าผีร้ายบนต้นไม้กำลังหวาดกลัวทว่าขานรับเขาอย่างเคารพบูชา
ทหารจิ้นยิ่งเสียววาบขึ้นในใจ
พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองกิ่งไม้ดำทะมึนทั้งบริเวณ คงไม่ใช่ว่าบนต้นไม้มีผีอยู่จริงๆ กระมัง
“เลือดไหลแล้ว! ตะ…ต้นไม้มีเลือดไหลแล้ว!”
ทหารจิ้นคนหนึ่งร้องขึ้นเสียงดัง
แมกไม้รอบด้านเริ่มมีโลหิตซึมไหล กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นอบอวลไปทั่วทั้งผืนป่า
นี่ยังไม่จบไม่สิ้น นกในป่าคล้ายรับการรุกรานของกลิ่นอายมรณะไม่ไหว ร่วงลงมาทีละตัว ไม่ทันไรบนพื้นก็เกลื่อนไปด้วยศพของนก
มีทหารจิ้นตกใจจนทรุดก้นจ้ำเบ้ากับพื้น!
เฮยอู๋ฉางน้อยชะโงกหน้าออกจากอ้อมอกกู้เจียว ชี้ไปที่หมิ่นหงอี ร้องไห้ฟ้องเสียงดัง “องค์ราชาผี! เขาเป็นคนไม่ดี! เขาจะฆ่าข้า!”
เขาไม่กล้าวิ่งไปหา เขากลัวว่าวิ่งไปได้ครึ่งทางจะโดนหมิ่นหงอีฟันเอาอีก เขาเอ่ยจบก็หดหัวเข้าอ้อมอกกู้เจียวคืน
ช่างเป็นเฮยอู๋ฉางน้อยขี้ขลาดตาขาวจริง ๆ
สายตาอันตรายของบุรุษตกลงบนร่างหมิ่นหงอี จากนั้นเขาก็ก้าวขึ้นหน้าก้าวหนึ่ง เท้าข้างหนึ่งเหยียบบนราวกั้นของเกี้ยวอย่างไม่แยแส
จู่ๆ กลิ่นอายความดุร้ายอันธพาลก็ปะทุขึ้นรอบตัวเขา!
กู้เจียว ไฉนจึงรู้สึกว่าบรรยากาศน่าซัดนี่มันคุ้นๆ กันนะ ทำให้ข้าคิดถึงคนผู้หนึ่งขึ้นมา
บุรุษเอ่ยเสียงนิ่ง “กล้ามาสังหารผีน้อยของราชาเยี่ยงข้าในดินแดนของข้า เจ้าช่างกล้านัก บุกรุกเข้ามาในภูเขาผีของข้ามีโทษตาย ยามนี้เพิ่มโทษอีกกระทง ไม่สู้… ปาดเนื้อเถือหนังของเจ้าทั้งเป็นเอามาทำโคมหนังมนุษย์ดีกว่า
เหล่าทหารจิ้นพากันตัวสั่นระริก!
คนผู้นี้สั่นคลอนจิตใจทหารเก่งเกินไปแล้ว จะปล่อยให้มาหลอกผีต่อไปไม่ได้!
ไม่เช่นนั้นยังไม่ทันเปิดศึก ลูกน้องเขาได้ขวัญเสียเผ่นกระเจิงไปเสียก่อน!
หมิ่นหงอีตวาด “เจ้าอย่ามาสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาอยู่ที่นี่! พวกเจ้าแค่ทหารพ่ายศึกไม่กี่คน จะขวางกองทัพจิ้นห้าร้อยนายของข้าได้รึ”
“ไม่กี่คนรึ” บุรุษหยักยกมุมปาก โบกแขนเสื้อกว้าง “ผีน้อยทั้งหลาย ออกมากันให้หมดเถิด คืนนี้ประตูผีเปิด คนเป็นทั้งหมดล้วนเป็นของพวกเจ้า!”
เขาเอ่ยจบ หมิ่นหงอีก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา เขามองไปรอบๆ ก็เห็นบนต้นไม้ใหญ่ บนเนินเขาและในป่า มีทหารผีสวมเกราะฝูงใหญ่โผล่ออกมาแน่นขนัดไปหมด!
หมิ่นหงอีสีหน้าพลันเปลี่ยน “นี่มัน…”
บุรุษเอ่ยเสียงเย็น “ทหารผีสามพันเอ๋ย! จงสังหารพวกมัน อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”