สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - ตอนที่ 22-2 ท่าทางการทำงานที่แท้จริงของภูตดำ
“เอ๊ะ คนนั้นมันสวีจ้าวไม่ใช่เหรอคะ?” เริ่นจื่อหลิงเอียงคอมองไปทางด้านหลังหลีจื่อ
หลีจื่อจึงรีบหันหน้าไปมอง
แล้วเธอก็เห็นสวีจ้าวกำลังโอบกอดหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมาจากร้านเครื่องดื่ม ถ้าไม่ได้ดูผิดไปละก็ ผู้หญิงที่ถูกโอบกอดไว้คนนี้ ดูเหมือนเป็นหนึ่งในพนักงานของสถาบันสอนพิเศษด้วย
เริ่นจื่อหลิงอดพูดอย่างเหยียดหยามไม่ได้ว่า “ผู้ชายกากๆ นี่ไม่ว่าผู้หญิงประเภทไหนก็เอาหมดเลยเหรอ? นักเรียน…หญิงแต่งงานแล้วก็ด้วย ฉันจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้แต่งงานแล้วนะ”
“ก็พี่เรียกผู้ชายกากๆ ไปแล้วนี่” หลีจื่อตอกกลับมาประโยคหนึ่ง
แต่ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้นก็ต้องอ้าปากค้างเล็กน้อย เพราะในวินาทีนั้น ฉับพลันก็มีคนสวมผ้าปิดปากและหมวกพุ่งไปทางสวีจ้าวทันที
สวีจ้าวไม่ได้ตั้งตัว จึงถูกกระแทกล้มไปบนพื้นทันที
“แกมีลูกตาหรือเปล่าเนี่ย?” สวีจ้าวสบถอย่างโมโห…แต่ไม่ทันไรสีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว!
เพราะนึกไม่ถึงว่า ในมือคนที่ชนเขายังถือมีดคัตเตอร์ไว้เล่มหนึ่งด้วย! ทั้งยังจ่อใบมีดไปบนใบหน้าของเขา
“มี…มีเรื่องอะไรคุยกันดีๆ นะ น้องชาย ฉันไม่ได้ทำให้นายไม่พอใจใช่ไหม?” สวีจ้าวมือสั่น ยังจะเหลือความโกรธอะไรอีกล่ะ?
ผู้หญิงที่เขาพามาก็กรีดเสียงร้องลั่นเช่นกัน!
ช่วงเวลานี้บริเวณกลางแจ้งด้านนอกของร้านเครื่องดื่มก็มีลูกค้านั่งอยู่ไม่น้อย ตอนนี้ต่างพากันผุดลุกขึ้นอย่างตื่นตกใจ บ้างก็ยุ่งอยู่กับการถ่ายรูป บ้างก็นึกว่านี่เป็นการจัดฉากแสดงละคร และก็มีบางคนคิดจะโทรแจ้งตำรวจ…แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือเลย
“ไอ้เศษสวะ!” ชายที่สวมผ้าปิดปากพูดเสียงเข้ม “ทำไมแกถึงต้องทำร้ายหรงหรงถึงตายด้วย?”
“หรงหรง? หรงหรงอะไร?”สวีจ้าวพูดเสียงสั่น “น้องชาย ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงใคร จำคนผิดหรือเปล่า? มีอะไรค่อยๆ คุยกันนะ วางคัตเตอร์ลงก่อนได้ไหม?”
“เฉียวหรงหรง! แกลืมไปแล้วเหรอ?” เสียงของชายสวมผ้าปิดปากพยายามข่มความโกรธแค้น…คล้ายเค้นเสียงขู่อีกฝ่าย
“เฉียวหรงหรง…เฉียวหรงหรง…ฉันนึกออกแล้ว” สวีจ้าวถูกใบมีดจ่ออยู่ ก็ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่ก “ฉันไม่ได้ทำให้เธอตายสักหน่อย! เธอโดดตึกฆ่าตัวตายเองต่างหาก…ทางตำรวจก็ยืนยันแล้ว!”
“แกยังปฏิเสธอีกเหรอ!!” ดูเหมือนว่าชายสวมผ้าปิดปากจะเริ่มเดือดแล้ว “ช่วงก่อนหน้านี้ แกพาเธอไปด้วยทุกวัน…ไม่ทันไรก็หาผู้หญิงอื่นได้แล้วเหรอ แกนี่มันไอ้สวะ!!”
“เดี๋ยว ใจเย็นๆ นะ!” สวีจ้าวลนลาน “การตายของเธอไม่เกี่ยวกับฉันจริงๆ นะ ฉัน ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอเลย…เธอ เธออยากทำเองทั้งนั้น”
“แกทำอะไรเธอกันแน่!!” ชายสวมผ้าปิดปากกระชับคัตเตอร์ในมือขึ้นทันที ราวกับคิดจะใช้ใบมีดแทงไปเสียเดี๋ยวนี้เลย
“เดี๋ยว! ฉันบอกแล้ว!” สวีจ้าวตะโกนหยุดเขาเอาไว้
ชายสวมผ้าปิดปากตะลึงค้าง มือพลันแข็งทื่อทันที และก็ในวินาทีนี้เอง สวีจ้าวก็สบโอกาสคว้ามือข้างที่ถือมีดคัตเตอร์ไว้ทันที พร้อมกับชกไปที่หน้าของชายสวมผ้าปิดปากไปหมัดหนึ่งอย่างรวดเร็ว
ชายสวมผ้าปิดปากโดนหมัดนี้เข้าไปถึงกับมึนงง หัวหมุนคล้ายเห็นดาวเต็มไปหมด สวีจ้าวเห็นได้โอกาส จึงพลิกตัวขึ้นมาล็อกตัวอีกฝ่ายไว้ แล้วจับกดลงไปกับพื้น
เกมพลิกแล้ว
“รูปร่างผอมบางอย่างแกเนี่ยเหรอ!” สวีจ้าวถ่มน้ำลาย พร้อมกับกดตัวอีกฝ่ายไว้จนไม่สามารถกระดุกกระดิกได้ เขาก้มหน้าลงไปแล้วพูดอย่างเหี้ยมโหด “กล้ามาหาเรื่องฉัน? แกตายแน่! เสียวเหม่ยแจ้งตำรวจสิ!”
สวีจ้าวเงยหน้าหันไปสั่งผู้หญิงที่เขาพามาด้วย
ทว่าชายสวมผ้าปิดปากกลับฮึดสู้ดิ้นพล่าน เพียงแต่รูปร่างของเขาแตกต่างจากสวีจ้าวมากยิ่งนัก ไม่มีทางดิ้นหลุดไปได้เลย
“บอกไว้เลยนะ การตายของเฉียวหรงหรงไม่ได้เกี่ยวกับฉันเลยสักนิดเดียว!” สวีจ้าวหัวเราะเยาะ เขาเขยิบเข้าไปใกล้ๆ หูชายสวมผ้าปิดปาก “แต่รสชาติของเด็กสาวคนนี้ ฉันรู้ดีกว่าแกแน่นอน แกเป็นแฟนของเธองั้นเหรอ? หรือคิดไปเอง? ยังไงแกก็คงไม่เคยแตะต้องเธอเลยสินะ? ฉันจะบอกให้นะ ผู้หญิงคนนี้ก็แค่หญิงใจง่ายหลายใจ นังโสเภณีที่เห็นเงินก็ตาโตยอมทิ้งศักดิ์ศรีตัวเอง จะนอนกับใครก็ได้ทั้งนั้น!”
“ปล่อยฉัน!!!” ชายสวมผ้าปิดปากสะบัดแขนขาทั้งสี่ข้างฟาดไปมามั่วซั่วราวกับสัตว์ป่า “แกนี่เอง! แกแน่ๆ! แกหลอกล่อเธอ แกทำให้เธอเปลี่ยนไป!! แกนี่เอง!!!”
“เดี๋ยวตำรวจก็มาแล้ว! ฉันขี้เกียจจะพูดกับแกจริงๆ!” สวีจ้าวพูดอย่างเย็นชา “แต่ฉันขอดูหน้าแกหน่อยแล้วกัน! ฉันจะได้จำหน้าตาแกไว้ อย่าคิดว่าเรื่องนี้จะจบแค่นี้นะ! กล้าเอามีดมาขู่ฉันเหรอ?”
ขณะที่สวีจ้าวดึงผ้าปิดปากของชายหนุ่มคนนี้ลงมาจนเกือบเห็นใบหน้าที่แท้จริงแล้ว ฉับพลันก็มีแก้วน้ำจากไหนไม่รู้ลอยมากระแทกเข้าที่หลังสวีจ้างอย่างแรง
เขาเจ็บจนต้องร้องโอดโอย…น้ำหนักของแก้วใบนี้ก็เหมือนก้อนหิน พอเขวี้ยงมาโดนที่หลังก็เจ็บปางตาย!
“ไอ้งี่เง่าที่ไหนแอบซุ่มทำร้ายฉัน!” สวีจ้าวมองไปรอบๆ อย่างโกรธคือง เป็นจังหวะให้ชายสวมผ้าปิดปากดิ้นหลุดมาได้
ชายสวมผ้าปิดปากคนนี้วิ่งพุ่งเข้าไปในฝูงชนโดยไม่หันหลังกลับ
สวีจ้าวโกรธจนคอเห่อแดง ตอนนี้คิดจะตามไปจับชายสวมผ้าปิดปากคนนี้ก็ไม่ทันแล้ว คิดจะหาว่าใครแอบทำร้ายเขากันแน่ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ด้วยเพราะคนที่มุงดูที่นี่เยอะเกินไป!
…
“โว้ว! พี่ชายผ้าปิดปากของฉันเจ๋งชะมัด!”
“พี่ก็เจ๋งเหมือนกันนะคะ พี่เริ่น ไปเรียนทักษะการปาแก้วมาจากที่ไหนคะเนี่ย? แม่นจริงๆ เลย!”
หลังจากเริ่นจื่อหลิงและหลีจื่อเห็นชายสวมผ้าปิดปากนั่นหนีออกไปแล้ว พวดเธอก็รีบตามไปทันที แต่คาดไม่ถึงว่าชายสวมผ้าปิดปากคนนี้จะขึ้นรถแท็กซี่ตัดหน้าคนอื่นที่ข้างทางไปเสียดื้อๆ แล้วก็หนีไปง่ายๆ แบบนี้
“ดูท่าจะตามไปไม่ได้แล้วล่ะค่ะ…พี่เริ่น รถพี่ล่ะคะ?” หลีจื่อถามอย่างหมดหวัง
“อย่าพูดถึงรถพังๆ นั่นเลย!” เริ่นจื่อหลิงส่ายหัว “นึกว่าจะได้ถามอะไรจากพี่ชายผ้าปิดปากคนนี้เสียอีก… ฉันจำได้ว่าเฉียวหรงหรงเป็นหนึ่งในนักเรียนที่ฆ่าตัวตายนะคะ แล้วพี่ชายผ้าปิดปากนี่เป็นใครกัน?”
สองสาวหารือกันไม่ได้ข้อสรุป จึงได้แต่เก็บความสงสัยไว้แล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันไป
…
…
อีกนิดเดียว…อีกนิดเดียวเท่านั้นเอง…
ในหัวของติงตงเซิงเต็มไปด้วยคำว่า ‘อีกนิดเดียว’…ถ้าตอนนั้นไม่ได้ลังเลละก็
เขาลงจากรถแท็กซี่ ถอดผ้าปิดปากและหมวกออกแล้วเขวี้ยงลงไปในถังขยะใกล้ๆ ก่อนออกเดินไปบนถนนเส้นนี้เพียงลำพัง
เขากำหมัดแน่น จนข้อนิ้วซีดขาวไปเล็กน้อย!
คำพูดของสวีจ้าวดังอยู่ในหัวเขาไม่หยุด ทำให้เขาไม่สบายใจทุกครั้งที่ได้ยิน อีกทั้งสัญชาตญาณยังบอกเขาไม่ให้เชื่อคำพูดทุกคำของชายคนนี้เลย!
ยอมทิ้งศักดิ์ศรี? เห็นเงินก็ตาโต? หญิงใจง่ายหลายใจ?
จะต้องเป็นเพราะเขาหลอกล่อหรงหรงถึงได้กลายเป็นแบบนี้…ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ ไม่ผิดแน่นอน…เขาเป็นสาเหตุให้หรงหรงต้องตาย…เขาทอดทิ้งหรงหรง เธอถึงฆ่าตัวตาย…ต้องใช่แน่ๆ…แน่ๆ เลย…
สวีจ้าว! ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่…ฉันจะไม่ยอมจบแค่นี้แน่!
‘แต่เธอจะทำอะไรได้ล่ะ? ถึงจะแค่อีกนิดเดียวเท่านั้น แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี’
เสียงแหลมราวกับแม่มดนั่นดังขึ้นจากก้นบึ้งจิตใจของติงตงเซิง แล้วเขาก็เหลือบไปเห็นเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกตู้เก็บของในห้องครัวร้านริมทาง…
เขาเห็นเงาสะท้อนของตัวเองกำลังมองมา ราวกับว่ามันมีชีวิต…เขามองดูเงาสะท้อนของตัวเองที่กำลังมองตอบเขาอย่างเหยียดหยาม
“เธอก็เป็นแค่นักเรียน จะไปทำอะไรได้ แต่สวีจ้าวเป็นที่รู้จักในทุกแวดวงสังคม และยิ่งไปกว่านั้นเธอยังไม่มีหลักฐาน แล้วจะไปแก้แค้นให้หรงหรงได้ยังไง…เธอก็แค่ผู้ชายไม่มีน้ำยาเท่านั้นแหละ”
“ไม่ใช่!!!”
ติงตงเซิงหันไปตะคอกใส่เงาสะท้อนของตัวเองทันควัน “ไม่ใช่! ไม่ใช่! ไม่ใช่!!”
เขาทุบกระจกตู้เก็บของในห้องครัวที่สะท้อนภาพตัวเองอย่างบ้าคลั่ง…
“ฉันไม่ได้ไร้น้ำยา…”
“อยากปกป้องหรือเปล่าล่ะ? ฉันรู้จักร้านแห่งหนึ่งที่ช่วยเธอได้ แน่นอนว่าไม่ได้ทำให้ฟรีๆ หรอกนะ…”