สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ - ตอนที่ 58 เคสที่ 30 เรื่องที่หลงลืม (1)
- Home
- All Mangas
- สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ
- ตอนที่ 58 เคสที่ 30 เรื่องที่หลงลืม (1)
พักนี้ ผมมักจะลืมอะไรหลายๆอย่าง
ซึ่งในหลายอย่างที่ว่ามานั้น เมื่อใช้คำว่าลืมแล้ว จะนึกยังไงก็นึกไม่ออก
แต่ว่า มันจะมีอยู่เรื่องนึงที่ติดๆอยู่ในใจ แม้จะนึกไม่ออกก็ตาม
สิ่งนั้นค่อนข้างสร้างความหงุดหงิดให้ผมไม่น้อย เอ…ทำไมนึกไม่ออกแล้วถึงได้หงุดหงิดแบบนี้ล่ะเนี่ย แถมยังเป็นเรื่องที่นึกออกขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมคงได้ร้อง อ๋อ! เสียงดังๆด้วยสิ
เรื่องอะไรกันน้า
“…คริสโตเฟอร์”
“อ๊ะ อืม”
ผมรับเอกสารจากดิว
“จิ๊บ!”
เจี๊ยบก็ชี้ปีกพลางว่าแบบนั้น
ดิวแปลภาษา
“…เจี๊ยบถามว่าคริสโตเฟอร์เป็นอะไรน่ะ”
“เปล่านี่”
“จิ๊บ!”
“…ทำหน้าเหมือนหงุดหงิดอะไรสักอย่าง ถ้าให้เดาคงเป็นเรื่องที่ตัวเองหลงลืมไป”
“ไอ้ลูกเจี๊ยบนี่มันอ่านใจได้ด้วยเหรอ…”
เล่นพูดอย่างกับหลุดมาอยู่ในหัวผมตอนช่วงเปิดตอนเมื่อกี้เลยนะนั่น
ผมปัดมือ
“ไม่ต้องสนใจหรอก แค่เรื่องไร้สาระที่ขนาดจำยังจำไม่ได้เลยนี่นะ”
“จิ๊บ!”
“…แต่ก็ยังหงุดหงิดถึงขนาดนั้น คงไม่ใช่เรื่องไร้สาระอย่างที่คริสโตเฟอร์ว่าหรอก”
“โทษที ตกลงที่เธอพูดนั่นคือแปลที่เจี๊ยบพูด หรือเธอพูดเองกันแน่เนี่ย?”
ดิวเอียงคอ
“…เจี๊ยบสิ”
“งั้นเหรอ”
“…อือ แต่ฉันก็สงสัย งั้นคริสโตเฟอร์มีเรื่องอะไร…คุยกับพวกฉันก็ได้นะ”
ให้ปรึกษาผีปอบกับลูกเจี๊ยบ ดูจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไหร่เลยนะนั่น
อีกทั้งตัวผมยังจำไม่ได้ ต่อให้ถามไป ดิวกับเจี๊ยบจะไปรู้เรื่องที่ผมลืมได้ยังไงกันล่ะ?
ดังนั้น ปล่อยไว้แบบนี้แหละ ไว้นึกออกเมื่อไหร่ก็……
“…หรือถ้าไม่อยากคุยกับฉัน ลองคุยกับ ‘หมิงหมิง’ แทนก็ได้”
“อ๋อออออออออ!!!!!”
อ๋ออออออออ!!!!!
เออ! ไอ้เรื่องนี้แหละ! ไม่ผิดแน่! ทำเอาเสียงหลุดแบบไม่ทันตั้งตัวเลย!
“อ๋ออออออ!!!! หมิงหมิง! ใช่ๆ! หมิงหมิง!”
“…ยะ อยากคุยกับหมิงหมิงขนาดนั้นเลยเหรอ…?”
ดิวก้าวถอยหลังพร้อมทำสีหน้ากังวล
“จิ๊บ”
เจี๊ยบก็ส่ายศีรษะด้วยอารมณ์แบบ ‘ไม่ไหวเล้ย เป็นอะไรของเขากันนะ’
หมิงหมิง วิญญาณฆ่าตัวตาย เป็นเคสที่เกิดขึ้นเมื่อเทอมที่แล้ว ณ ตึกเรียนเก่า ซึ่งในปัจจุบันทุบทิ้งไปแล้ว
ให้สรุปใจความของเคสนั้นง่ายๆก็ มีลูกเคสมาร้องเรียนว่าเห็นวิญญาณโดดตึกช่วงดึกจนทำให้ชมรมของลูกเคสไม่กล้าซ้อมเพื่อไปแข่งงานอะไรสักอย่าง
ผมกับดิวก็พากันไปตึกเรียนนั้น ก่อนจะได้พบกับหมิงหมิงและก็ยมบาล
ผมอาศัยทักษะการต่อรองอันเฉียบคม จนสุดท้ายก็เลยพาหมิงหมิงให้มาฆ่าตัวตายที่ตึกชมรมทุกเที่ยงคืน จนกว่าการลงโทษจากกรรมนั้นจะหมดลง
นับจากวันนั้น จำนวนครั้งของการลงโทษก็น่าจะหมดไปตั้งนานแล้ว แถมยังพึ่งผ่านปิดเทอมไปหมาดๆด้วย
กล่าวคือ ตอนนี้หมิงหมิงน่าจะไปสู่สุคติแล้ว
ทว่า เพราะยังไม่เห็นว่าไปแล้วไปลับแบบชัดๆเนี่ยแหละ เรื่องนี้มันถึงได้ติดใจนัก
แล้วก็…
“ดิว! เมื่อกี้เธอบอกว่าให้ฉันคุยกับหมิงหมิงแทนสินะ!?”
“อะ อืม…”
“แสดงว่าตอนนี้หมิงหมิงยังไม่ไปสู่สุคติสินะ!”
“…คงงั้นนะ…”
“แล้วตอนนี้หมิงหมิงอยู่ไหน!?”
ดิวชี้นิ้ว
“ข้างหลังคริสโตเฟอร์”
“ปัดโธ่ว้อย!!!”
ผมคำรามและหันหน้ากลับไป
เด็กสาวผมสั้นผิวแทนพร้อมด้วยเครื่องแบบนักเรียนไทยก็โบกมือ
“เสียงดังจัง คริสคริสเรียกฉันเหรอ?”
“อย่าเรียกว่าคริสคริส!”
ดิวกับเจี๊ยบฉงน
“จิ๊บ?”
“…ตกลงคริสโตเฟอร์เป็นอะไรน่ะ?”
ไม่รู้แล้วว่าใครกำลังถามอยู่กันแน่
ผมป้ายนิ้วใส่หมิงหมิง
“ดิว เธอก็อยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ? ตอนฉันพายัยนี่มาจากตึกเรียนเก่า”
“ใช่ๆ ดิวๆก็อยู่นี่!”
ส่วนหล่อนไม่ต้องตามน้ำมั่วๆสั่วๆเลยนะ ยัยผีฆ่าตัวตาย
“จิ๊บ…?”
ดิวผงกหัว
“…อืม แล้ว…?”
“ระยะเวลาลงโทษของยัยนี่ตอนเราเจอมันสามสิบกว่าวันไม่ใช่เรอะ?”
“สามสิบสอง!”
หยุดแทรกสักทีเห๊อะ
ผมพูดต่อ
“นี่ก็เลยเวลาที่ว่ามาแล้ว ที่จริงควรหมดไปตั้งแต่ช่วงปิดเทอมแล้วด้วย ไม่นึกสงสัยหรือกังวลสักหน่อยเหรอ? ทำไมยัยนี่ถึงยังโผล่หน้ามาที่นี่ได้น่ะ?”
ดิวกับเจี๊ยบกุมคาง
“จิ๊บ…?”
“…สงสัยก็สงสัยอยู่หรอก แต่ไม่ค่อยเข้าใจว่าคริสโตเฟอร์กังวลตรงไหน?”
“เป็นงั้นเองสินะ เออ…แล้วก็อย่าว่างั้นงี้เลยนะ เจี๊ยบ แกช่วยหยุดพูดสักแป๊บได้มั้ย? เล่นเอาฉันไม่รู้แล้วว่ากำลังคุยกับแกหรือดิวอยู่กันแน่”
เจี๊ยบตาโต ก่อนจะทำหน้างอนๆและหลบไปทางอื่น ตอนนี้จึงเห็นแค่ก้อนอะไรไม่รู้เหลืองๆบนไหล่ดิว
ผมเกาศีรษะบ่น
“เฮ้อ…ที่จริงจะไม่รู้ว่าฉันกังวลเรื่องอะไรก็ไม่แปลกหรอก…”
“แล้วคริสคริสกังวลอะไรเหรอ!?”
อุบ๊ะ รำคาญจริง!
ดิวเอียงคอช้าๆ
“……?”
และก็เงียบเป็นเป่าสาก
“เฮ้ย จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”
“…คริสโตเฟอร์คุยกับฉันหรือเจี๊ยบ?”
“ฉันจะคุยกับลูกเจี๊ยบเพื่อ? ฟังยังไม่ออกเลยด้วย”
“…แต่เมื่อกี้คริสโตเฟอร์ก็คุยกับเจี๊ยบมาตลอดนะ”
“สรุปไอ้ก่อนหน้านี้คือเธอไม่ได้พูดเองสักคำเลยสินะ…”
“…อือ?”
การสนทนานี่ช่างหาประโยชน์มิได้ เอาเป็นว่ารีบเดินงานดีกว่า นี่ก็เรียกว่าเลยกำหนดเวลามาไกลโข ถ้าไม่เกิดปัญหามากเท่าที่คิดก็ดีล่ะนะ…
ผมถามหมิงหมิง
“โรแลนด์อยู่ไหน?”
โรแลนด์คือชื่อของยมบาล ซึ่งที่จริงแล้วเป็นยมทูตที่ส่งตรงมาจากประเทศอื่น ด้วยเหตุอะไรสักอย่างถึงได้มาทำงานที่ไทย ผมได้เจอโรแลนด์ก็ตอนทำเคสของยัยหมิงหมิงนี่แหละ
ดังนั้นจะขอเรียกว่ายมบาลไปก่อนแล้วกัน ไหนๆตำแหน่งหน้าที่ในประเทศนี้ก็เรียกแบบนั้นล่ะนะ
ยมบาลจะมีหน้าที่ในการจัดการดูแลวิญญาณ และในกรณีของหมิงหมิงที่เป็นวิญญาณฆ่าตัวตายซึ่งต้องรับโทษด้วยการฆ่าตัวตายซ้ำๆที่ตึกเรียนเก่าจนครบกำหนดลงโทษนั้น โรแลนด์จึงเป็นคนจัดการ
ในช่วงจบเคสดังกล่าว ผมได้ขอให้โรแลนด์ย้ายหมิงหมิงให้มาทำโทษที่ตึกชมรมแทน และยังเลื่อนเวลาทำโทษจากสองทุ่มกลายเป็นเที่ยงคืนอีกด้วย
…ก็ประมาณนั้น ที่ถามหาเพราะมีเรื่องต้องถามโรแลนด์เยอะเลยล่ะนะ
หมิงหมิงจิ้มคาง
“อืม…เจ้านั่นน่ะเหรอ… ไม่รู้สิ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ตึกนี้ก็ไม่เห็นเลยนะ”
ตั้งแต่…ย้ายมาตึกนี้…
คำพูดนั้นทำผมกังวลยิ่งกว่าเดิม
ไม่ดิ ส่อแววชิ*หายเลยนี่หว่า
“มะ มีวิธีติดต่อรึเปล่า…?”
หมิงหมิงมองเพดาน
“อืม~ ไม่มีนะ ปกติเจ้านั่นจะโผล่มาหาเองตลอด แต่ก็อย่างที่พูดไป ตั้งแต่ย้ายมาตึกนี้ก็ไม่เจอแล้ว”
“เข้าใจล่ะ…ขอฉันโทรศัพท์แป๊บ”
ผมแบมือ ก่อนที่จะปรากฏโทรศัพท์สีดำสนิทที่ปุ่มกดเป็นสีแดง มันโผล่ขึ้นมาราวกับเล่นกล
นี่ไม่ใช่ของที่มีต้นกำเนิดจากภพนี้ …ตีง่ายๆว่าเป็นโทรศัพท์ของนรกก็แล้วกัน
ดิว เจี๊ยบ หมิงหมิงยื่นคอมอง
“มือถือเหรอ?”
“…ส่งกลิ่นแปลกๆ”
“จิ๊บ…”
ผมกดเบอร์พลางตอบ
“มือถือของนรกน่ะ …ถ้าเป็นของที่คนในโลกนี้ใช้ มันต่อสายไปนรกไม่ได้”
“คริสคริสจะโทรหาใครเหรอ?”
“คนรู้จัก…ว่าจะให้ติดต่อโรแลนด์ให้หน่อย”
เลขประจำตัวของโรแลนด์ก็จำได้ เหลือแค่ใช้เส้นสายของคนรู้จักที่ว่าช่วยติดต่อให้มาหาผมที่ห้องสภาก็พอ …น่าจะได้แหละ ยังไงคนที่ว่าก็กำลังฝึกงานเกี่ยวกับส่วนนั้นอยู่แล้วด้วย
ผมต่อสาย
รอสักพักปลายสายก็รับ ผมพูด
“ฮัลโหล… …หะ? ทำไมไม่กลับบ้าน? ก็กลับไปตอนปิดเทอมแล้วไง! …เออ…อ่า…อืม… …พูดจบยัง? นั่นแหละ มีเรื่องจะรบกวนหน่อย พอดีกำลังตามหายมทูตที่ชื่อโรแลนด์อยู่… รู้แล้วๆ…ก็กำลังจะบอกนี่ไง จดดีๆล่ะ…”
และผมก็บอกเลขประจำตัวของโรแลนด์ให้ปลายสาย
“เรียบร้อยนะ? อ้อ…ฝากบอกด้วยว่าให้มาหาที่ห้องสภาเป็นเรื่องของหมิงหมิง โรแลนด์น่าจะเข้าใจแหละ… …เออๆ แค่นี้นะ”
และผมก็วางสายไปแค่นั้น
เฮ้อ…คุยแค่ไม่กี่นาที แต่เหนื่อยใจชะมัด แถมรู้สึกเหมือนจะโดนทวงหนี้ทีหลังด้วย
“คุยกับใครล่ะนั่น? คริสคริส ฟังแล้วเหมือนจะสนิทกันน่าดูเลย”
ไอ้ที่เถียงๆกันเมื่อกี้คือมองว่าสนิทหรอกเรอะ?
ผมถอนหายใจตอบ
“คนรู้จักไง ไม่ต้องสนใจหรอก ยังไงถ้าไม่มีอะไรผิดปกติพวกเธอก็ไม่มีโอกาสได้เจออยู่แล้ว …ที่สำคัญตอนนี้คือรอเจอยมบาลนั่นล่ะนะ”
ดิวเอ่ยด้วยเสียงเรียบๆมาว่า
“…ครอบครัวเหรอ? ฝั่งนั้นเขาถามว่าทำไมคริสโตเฟอร์ไม่กลับบ้าน?”
“ก็…ประมาณนั้นแหละ”
“อืม…?”
เธอก็เหมือนจะไม่อยากซักไซ้ต่อ ผมก็ไม่สะดวกที่จะบอกเหมือนกัน เข้าใจไปแบบนั้นแหละดี
เดี๋ยวนะ…ว่าแต่ผมเคยพาโรแลนด์มาที่ห้องสภารึยังนะ? เริ่มจะกังวลแล้วสิ โรแลนด์จะหาห้องสภาเจอรึเปล่า
เอ…เคยก็เคยอยู่หรอก แต่ยมบาลต้องดูแลวิญญาณหลายพื้นที่เสียด้วยสิ ต่อให้จะนับแค่ในเขตนี้ ก็ยังมีกรณีที่โรแลนด์อาจจำไม่ได้ว่าห้องสภาอยู่ตรงไหน
เจ้านั่นคงเปิดสมุดรายชื่อวิญญาณที่รับผิดชอบ แล้วดูตำแหน่งล่าสุดของหมิงหมิงสินะ…
ถ้าตามที่ผมเข้าใจ ไปรอที่ตึกเรียนเก่าดีกว่า
“ดิว หมิงหมิง ไปตึกเรียนเก่ากัน”
“โดนทุบไปแล้วนี่?”
“ไม่เกี่ยวหรอก ฉันคิดว่าโรแลนด์น่าจะไปเจอฉันที่นั่นมากกว่า รีบไปกัน”
ถ้าไปแล้วไม่เจอค่อยกลับมาที่สภาอีกที เห็นยังงี้ผมก็ไม่อยากให้คนที่ผมเรียกมาต้องลำบากในการเจอผมหรอก อันไหนช่วยได้ก็ช่วยๆไป
พวกผมสามคนมาถึงตึกเรียนเก่า ที่ตอนนี้เป็นเพียงสถานที่โล่งๆพร้อมด้วยเศษตึกนิดหน่อยที่เหมือนจะยังเก็บไม่เรียบร้อย
อีกทั้งปลายสายตายังเห็นร่องรอยความผิดพลาด…เศษซากโต๊ะเก้าอี้ที่พังพินาศ
ผมพยายามไม่มองไปยังทิศทางนั้นพลางสอดส่องสายตาหาโรแลนด์
“จะมามั้ยนะ? หรือมันจำได้ว่าห้องสภาอยู่ตรงไหนได้กันเนี่ย?”
“นี่คริสคริส”
“อะไร? ถ้าว่างก็ช่วยๆกันดูหน่อยสิ เผื่อทำท่าจะบินผ่านจะได้ตะโกนเรียก”
“คือฉันอยากถามว่าให้ดิวดิวมาด้วยทำไมเหรอ?”
“…ห้องสภาไม่มีคนนะ”
ดิวพูดเสียงเรียบๆแบบนั้น
จริงอยู่ที่ห้องสภาไม่มีคนเฝ้า สมาชิกคนอื่นก็ติดธุระประปราย
แต่ว่า เอาดิวกับเจี๊ยบมาด้วยน่าจะดีกว่า
“ไม่มีใครมาขอให้ช่วยหรอก วันนี้สนใจแค่เรื่องของหมิงหมิงเถอะ”
ตามจริงก็ไม่ได้แน่ใจขนาดนั้น คนมันจะมาขอให้สภาช่วยมันก็มาได้ตลอดเวลา แค่เรื่องหมิงหมิงตอนนี้มันสำคัญกว่างานสภา
อืม…ค่อนข้างร้ายแรงเลยล่ะ
จู่ๆ บรรยากาศก็เย็นลง
ความรู้สึกนั้นทำผมหันคอกลับไป
พบกับร่างดำที่เหมือนเสื้อคลุมขยับได้ พร้อมด้วยเคียวในกำมือ
ผมโบกมือ
“กะแล้วว่าต้องมาที่นี่ โรแลนด์”
“ต้องขอโทษจริงๆครับ คือกระผมจำไม่ได้ว่าห้องสภาอยู่ตรงไหน…”
ยมบาลโรแลนด์ก้มศีรษะ แต่เอ่อ…ไม่ต้องสุภาพมากก็ได้ ครั้งก่อนที่เจอผมแค่ขู่เฉยๆเอง
เอาเถอะ ถึงจะดูแล้วเสียชื่อยมบาล แต่ตัวตนของผมก็อยู่เหนือยมบาลหรือยมทูตอยู่แล้วล่ะนะ ดังนั้นจึงอยู่ในเกณฑ์ที่พอจะเข้าใจได้แหละ
โรแลนด์เอ่ย
“เห็นคุณซาตานบอกว่าเป็นเรื่องหมิงหมิงสินะครับ?”
“อืม”
“มีปัญหาอะไรเหร…เหวอ!!!???”
ชุดคลุมดำร้องเสียงหลงเมื่อสายตาไปบรรจบกับวิญญาณฆ่าตัวตายที่ผมพามา
“ทะ ทะ ทะ ทำไมเธอถึงยังอยู่ที่นี่ล่ะครับ!?”
“ฉันสิต้องถาม หน้าที่นายคือส่งวิญญาณที่รับผิดชอบไปสู่สุคติเมื่อจบการลงโทษไม่ใช่เรอะ? แล้วยัยนี่ก็ครบกำหนดไปตั้งนานแล้ว ทำไมไม่มารับตัวไปสักที”
“ที่เรียกกระผมมาเพราะเรื่องนี้เหรอครับ!?”
“ใช่ ทำไม?”
โรแลนด์กุมขมับ
“คือ…หลังจากกระผมเปลี่ยนสถานที่ใช้กรรมของหมิงหมิงแล้ว ผมก็คิดว่าคุณซาตานจะเป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่างต่อให้น่ะครับ…”
“หาาาาา!?”
ทำไมเป็นงั้นเล่า! เดี๋ยวสิ…ที่โรแลนด์มันหายหัวเพราะคิดว่าผมจะจัดการต่อให้งั้นเรอะ!? งั้นที่หายหัวไปก็เข้าเค้าอยู่ล่ะ แต่ว่า!?
ผมชี้นิ้ว
“ฉันจะทำงั้นได้ไง! ถึงจะเป็นซาตานก็เถอะ! ฉันไม่ได้ทำหน้าที่นั้นอยู่สักหน่อย! คิดไปเองว่าฉันจะรับผิดชอบต่อก็แย่สิ!”
“คงเป็นการเข้าใจที่ผิดพลาดของทั้งสองฝ่ายสินะครับ”
“ฝ่ายนายคนเดียวต่างหาก!”
โอ๊ย…ตายๆ บรรลัยแน่แบบนี้
“เอ่อ คริสคริส นี่คือแย่รึเปล่า?”
“แย่สุดๆเลยด้วย! โรแลนด์! ให้ไวเลย! เผื่อยังทัน!”
“ทันงั้นเหรอ…แต่กระผมว่า…”
“เร็วๆเถอะน่า!!!”
“คะ ครับ!!!”
โรแลนด์กำเคียวแน่นก่อนจะชูไปทางหมิงหมิง แสงสว่างเล็กก้อนกลมๆที่ปล่อยออกมาจากปลายเคียวก็ลอยไปกระทบกับร่างของหมิงหมิง
พริบตานั้นที่หมิงหมิงส่องแสงสว่าง
“กะ เกิดอะไรขึ้น!?”
“ก็ส่งเธอไปสุคติไงเล่า! อย่าฝืนหรือเกร็งล่ะ! ห้ามเด็ดขาด!”
“เอ๋! ทำไมกะทันหันแบบนี้เนี่ย!?”
…ท่าทีไม่อยากไปนั่น ก็คือการที่จิตใจไม่ยอมรับการไปสู่สุคติ ซึ่งตามจริงอารมณ์ส่วนบุคคลของวิญญาณจะไม่มีผลต่อการส่งตัว แต่ว่า…
แต่ว่า หมิงหมิงอยู่เกินกำหนดเวลามานานเกินไป
และก็เป็นอย่างที่คาด แสงสว่างค่อยๆดับลง
ผมกับโรแลนด์คอตก
หมิงหมิงมองร่างตัวเองที่เป็นปกติก่อนจะยิ้มแย้ม แต่ก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีที่เห็นท่าทีของพวกผม
ดิวยกมือสั้นๆ
“…ขอถามได้มั้ยว่าเมื่อกี้คืออะไร?”
ผมรับคำถาม แต่หันไปปรึกษาโรแลนด์ก่อน
“เรื่องนี้บอกคนเป็นได้ใช่มั้ย?”
“คิดว่าได้นะครับ? ไม่ใช่ข้อมูลลับ”
พอได้รับคำยืนยัน ผมก็ตอบดิวออกไป
“วิญญาณที่อยู่ระหว่างทำโทษ คือวิญญาณที่ติดค้างการไปสู่สุคติ…”
“…อืม”
“เมื่อการทำโทษสิ้นสุดลง หน้าที่การส่งวิญญาณนั้นจะเป็นของยมบาลที่รับผิดชอบ เพราะถ้าเลยกำหนดเวลา…วิญญาณจะเริ่มเกิดพันธะกับสถานที่ชดใช้กรรม เอ่อ…แล้วก็…”
“…สรุปมาเลยก็ได้”
ดิวที่เห็นผมลำบากกับการอธิบายก็ว่าแบบนั้น
โรแลนด์พยักหน้าให้ผม
ผมจึงเอ่ยด้วยเสียงเหนื่อยหน่ายใจอย่างถึงที่สุด
“…วิญญาณนั้น จะกลายเป็นวิญญาณที่ไม่สามารถไปสู่สุคติได้ หรือถ้าที่ฉันเข้าใจ ประเทศนี้น่าจะเรียกว่า…”
“…ว่า?”
“ผีเจ้าที่น่ะ…”
เคสที่ 30 เรื่องที่หลงลืม /มีต่อ