สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ - ตอนที่ 47 เคสที่ 23 เปิดเทอม
อันที่จริง วันเปิดภาคเรียนที่สองของจิตตฯคือเมื่อวาน
และก็อย่างที่รู้ ผมเล่นเกมหนักข้อจนต้องโดดเรียน
ลงท้ายก็เลยขาดเรียนไปวันนึง
ถ้าให้ย้อนกลับไปดูแล้ว…สำหรับตัวผมที่ทำอะไรก็สมบูรณ์แบบตลอดนั้น ทั้งผลการเรียนก็ดี การเข้าเรียนครบไม่สายสักครั้งก็ดี ไอ้ที่โดดเรียนเมื่อวานก็ทำให้มีจุดด่างพร้อยเล็กๆที่น่าหงุดหงิดใจ
แม้จะว่าเช่นนั้น แต่ไม่รู้ทำไมตัวผม ณ ปัจจุบันกลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องเล็ก
อาจจะเพราะพึ่งเคยทำอะไรผ่อนคลายแบบไม่ต้องคิดอะไรเยอะเป็นครั้งแรกล่ะมั้ง? พอว่าในมุมนั้นแล้ว แสดงว่าพี่น้ำกับสไปรท์นี่ หัวสมองน่าจะผ่อนคลายกันสุดๆ…
“ประธานคะ! เมื่อวานโดดเรียนสินะคะ!?”
ทันทีที่มาถึงห้องสภาช้าเล็กน้อยเพราะเผลอหลับในห้องเรียน ในช่วงเวลาชมรม ห้องสภานักเรียน ทันทีที่ผมก้าวขาเข้าไม่ถึงก้าว ก็โดนเด็กสาวในชุดนักเรียนตะโกนถาม
เธอยืนเท้าเอวด้วยสีหน้าโมโห ชฎาบนศีรษะเด่นสะดุดตา ใบหน้าก็นับว่าเป็นคนสวยน่ารักคนนึง …ก็ในสายตามนุษย์ทั่วๆไปล่ะนะ
อืม…ถึงจะสงสัยว่าทำไมถึงโพล่งใช้คำว่า ‘โดดเรียน’ ก็เถอะ แต่ก็นะ…
ผมตอบเธอไปว่า
“ไม่สบายน่ะ”
โกหกนั่นแหละ อย่างผมมันป่วยได้ที่ไหนกันเล่า จะไวรัสหรือเชื้อโรคอะไรก็ตามแต่ที่มนุษย์จะเจ็บป่วยกันน่ะ ทำอะไรผมไม่ได้หรอก
พลอยจัดชฎาให้เข้าที่ก่อนกวักมือเรียกให้ผมเข้าไป ดูจากหน้าแล้วคงโกรธน่าดู
ซึ่งถ้ารู้เหตุผลจริงๆ ที่ผมโดดเรียนล่ะก็ มีหวังโดนบ่นจนหูชาแน่
และพอว่าในประเด็นนั้นแล้ว แค่โกหกผีนางรำมันจะยากสักแค่ไหนกันเชียว?
เมื่อผมวางกระเป๋าและนั่งลงที่โต๊ะประจำตำแหน่ง
พลอยก็เท้าโต๊ะจ้องหน้าถาม
ทำไมสายตาที่จ้องมันแปลกๆล่ะเนี่ย? ผมคิดไปเองรึเปล่านะ?
“ป่วย? ประธานป่วยได้ด้วยเหรอคะ?”
แน่ะ มีถามหลอกซะด้วย แต่ยากหน่อยนะ ผมรู้ว่าพลอยไม่มีความรู้เรื่องภูตผีต่างชาติมากนัก ขนาดซัคคิวบัสยังไม่รู้จัก
ฉะนั้น แถมั่วทรงไปเลย
“อืม พอดีกลับบ้านเกิดแล้วติดหวัดของที่นั่นมาน่ะ เป็นไข้หวัดของนรกเลยล่ะ ฉันก็กลัวว่าถ้ายังไม่หายดีแล้วเอามาแพร่เชื้อที่โรงเรียนจะแย่เอา หวัดของนรกนี่น่ากลัวมากเลยนะ? ผีไทยอย่างพวกเธอโดนเข้าไปมีหวังได้ไปเยี่ยมนรกก่อนวัยอันควรแน่”
“เอ…จากที่ฟังก็เข้าใจได้อยู่หรอกค่ะ แต่ทำไมเหมือนประธานแค่มั่วขึ้นมาเองยังไงไม่รู้สิคะ? แถมยังพูดยาวแปลกๆด้วย”
“อย่าไร้สาระน่า …ตอนนี้ก็หายดีแล้วถึงได้มาเรียนนี่แหละ”
“แล้วอาการป่วยเป็นยังไงบ้างคะ?”
“จะอยากรู้ไปทำไมเนี่ย???”
“แหม ไข้หวัดนรกเลยนะคะ? ใครได้ยินก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดา”
สงสัยก็ส่วนหนึ่ง แต่ท่าทางเหมือนจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งมากกว่าแฮะ…เอาเถอะ
จะแสดงให้ดูว่าการโกหกมันง่ายแค่ไหน!
ผมปัดมือตอบ
“…ตัวร้อน …ไอ …คันคอ”
“ก็เหมือนหวัดปกติเลยนะคะ???”
“แต่รุนแรงกว่าน่ะ…”
อืม ไม่ค่อยผ่านเลยแฮะ ตามปกติผมไม่น่าจะแถมั่วจนโดนจับผิดง่ายขนาดนั้นนี่นา?
สงสัยจะเพราะสายตาจริงจังปนสงสัยของยัยผีนางรำนี่นั่นแหละ
เพราะงั้นหลบตาตอนตอบน่าจะดี
คิดได้ดังนั้น ผมก็แกล้งทำเป็นหยิบเอกสารขึ้นมาตรวจทาน
“ดิฉันยังถามไม่จบเลยนะคะ ประธาน”
“ก็ถามมาสิ”
“ปิดเทอมประธานทำอะไรบ้างคะ?”
โอ้โห ภาพสงครามตลอดหลายวันบินเข้ามาจนอยากโยนงานสภาทิ้งแล้วกลับไปเล่นเลยนะเนี่ย…
แต่จะแสดงท่าทางแบบนั้นออกไปไม่ได้!
“อ่านหนังสือ แล้วก็เล่นกับเซอร์บี้นิดหน่อย ส่วนใหญ่ฉันก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำปิดเทอมอยู่แล้ว”
“แค่นั้นเองเหรอคะ? อ่านหนังสือแล้วก็เล่นกับสัตว์เลี้ยง???”
“เออสิ…”
ใช่! เกือบลืม!
ผมพูดค้างไว้แค่นั้นแล้วพูดเสริม
“กะ กะ กะ ก่อนหน้านั้นก็กลับไปเยี่ยมนรกด้วยล่ะน่ะ ไม่ได้ทำแค่นั้นหรอก ถึงได้ติดหวัดมานี่ไง”
“เห… เหรอคะ แล้วก็นอนซมจนถึงเมื่อวานสินะคะ?”
“อือ ตามนั้นแหละ”
พลอยหรี่ตามอง
สายตาน่าหงุดหงิดจริ๊ง ถึงผมจะโกหกก็เถอะ แต่อย่าใช้สายตาจับผิดได้มั้ยฮึ?
ผมรีบเปลี่ยนประเด็น
“ดิวกับพี่ต้นยังไม่มาเหรอ?”
ดิวมาช้านิดหน่อยเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับพี่ต้นแล้ว เทอมก่อนผมพึ่งเดินเรื่องการที่ชมรมอื่นมาขอให้สภาช่วยงานส่วนที่ทางชมรมต้องทำเองไปแล้ว
เพราะงั้นหลังจากนี้พี่ต้นคงมาสภาทุกเย็น
พลอยหันไปทางประตู
“นั่นสินะคะ พึ่งเปิดเทอมไม่กี่วันคงติดธุระหลายๆอย่างมั้งคะ?”
“เหรอๆ”
“ว่าแต่ประธานขอบตาดำจังนะคะ?”
“ติดธุระสินะ…เอาเถอะ ไหนๆฉันก็ไม่ได้มาตั้งวันนึง จะปล่อยให้แล้วกัน”
“เมินที่ดิฉันถามรึเปล่าคะ?”
“ไม่ได้เมิน แค่คำถามไม่น่าตอบ”
“แล้วตกลงทำไมขอบตาดำเหมือนคนไม่ได้นอนแบบนั้นล่ะคะ?”
ยัยนี่ยังไม่หายสงสัยสินะ ให้ตายสิ…
“นี่พลอย คนป่วยมันก็ต้องนอนไม่ค่อยหลับมั้ย? เอาเวลาจับผิดฉันไปทำงานดีกว่า อย่าให้ฉันต้องบ่นเลยน่า”
“แหม ถามเพราะเป็นห่วงไม่ได้จับผิดสักหน่อย”
“อ้อเรอะ”
“และถึงจะบอกว่างานก็เถอะ พึ่งเปิดเทอม สภาก็ไม่ค่อยมีงานอะไรอยู่แล้วนี่คะ? คนมาขอช่วยก็ไม่มีด้วย เมื่อวานก็เงียบเป็นป่าช้าเลยล่ะค่ะ”
“งบประมาณก็อีกตั้งหลายอาทิตย์กว่าจะได้สินะ แถมหน้าที่นั้นก็เป็นของดิวแล้วด้วย”
“ใช่ค่ะ เพราะงั้นไหนๆก็ว่าง พวกเรามาคุยเรื่อยเปื่อยกันสองคนดีกว่าค่ะ!”
ผมได้ยินดังนั้นก็เงยมอง
ช่างเป็นสายตาที่ไม่เหมือนกับอยากคุยเรื่อยเปื่อยสักนิด …มองดีๆเหมือนจะมีคำว่า ‘น่าสงสัย น่าสงสัย’ สลักอยู่ในดวงตา
แต่นี่คือคำท้าสินะ? ว่าเธอจะจับโกหกได้หรือผมจะแถเนียนกว่า
เอาสิ ของแค่นี้ไม่คณามืออยู่แล้ว!
ผมแสยะยิ้มแล้วลุกขึ้น
“เออ อยากคุยอะไรก็ว่ามา ผีนางรำ”
“ได้เลยค่ะ ซาตาน”
พวกผมย้ายมาที่โต๊ะรับแขก หลังจากพลอยชงน้ำชาเสร็จก็นั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม
“…เซอร์บี้เป็นไงบ้างคะ?”
เปิดได้ไม่ค่อยดีเลยนะ คำถามแค่นี้มันจะไปจับอะไรได้กัน?
ผมเยาะเย้ยในใจ ตอบออกไปด้วยสีหน้าปกติ
“กินเยอะเหมือนเดิม…แต่หลังจากวันที่พวกเธอมาติวหนังสือ ก็เหมือนจะซึมๆกว่าเดิม น่าจะอยากมีคนมาเล่นด้วยเยอะๆล่ะมั้ง?”
“ไว้ช่วงวันหยุด ฉันจะชวนคนอื่นแวะไปแล้วกันค่ะ ประธานสะดวกรึเปล่าคะ?”
“ก็ได้อยู่หรอก ยังไงบ้านฉันก็ไม่มีใครอยู่นี่นะ”
“พูดถึงวันหยุดแล้ว แหม…ก็นึกถึงปิดเทอมที่พึ่งผ่านมาเลยนะคะ”
โห? รอบนี้ยิงตรงมาเลยแฮะ ไม่อ้อมค้อมสักนิด
“ฉันไม่มีอะไรให้นึกถึงเท่าไหร่ เธอล่ะ? ปิดเทอมทำอะไรบ้าง?”
“ก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับครอบครัวน่ะค่ะ ส่วนของฝากที่ซื้อมาให้คนในสภาอยู่ในห้องเก็บของ มีของที่พี่ต้นซื้อมาด้วย ฉันกับพี่ต้นเอามาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่เพราะประธาน พี่น้ำ แล้วก็น้องสไปรท์ไม่อยู่ เลยยังไม่ได้เอาออกมาน่ะค่ะ”
“ของฝากสินะ พวกของกินสิท่า?”
“ใช่ค่ะ…แต่เอ พูดแล้วก็สงสัยนิดหน่อยนะคะ เมื่อวานพี่น้ำกับน้องสไปรท์ก็ไม่ได้มาเรียนเหมือนกัน ป่วยรึเปล่าน้า?”
รู้ถึงขั้นนั้นเลยเหรอ?
หึ คิดว่าผมจะหวั่นไหวกับของแค่นั้นกันสินะ? คิดผิดแล้วล่ะ
“บังเอิญจังนะ เมื่อวานฉันก็หยุดด้วยสิ”
ยังอยู่ในการคาดเดา อย่างพลอยน่ะ เธอรู้อยู่แล้ววันไหนสมาชิกสภาขาดเรียน ผมไม่แสดงพิรุธออกไปกับจิตวิทยาราคาถูกแค่นี้หรอก
“ใช่ค่ะ บังเอิญสุดๆ น่าแปลกนะคะ ทั้งที่ประธานไม่เคยจะขาดเรียนแท้ๆ กลับมาป่วยพอดีวันเดียวกับที่สองคนนั้นหยุดเสียนี่”
“เรื่องบังเอิญมันก็เกิดได้ตลอดแหละนะ ฉันก็ลูกซาตานด้วยสิ ถึงพูดไปแล้วจะดูเกินจริงไปหน่อย แต่ความบังเอิญที่เกิดขึ้นในโลกมนุษย์มันก็แปลกๆงี้แหละ”
ผมพูดเสียงเรียบ
พลอยพยักหน้าพึงพอใจ
“ตอนเช้าฉันบังเอิญเจอพี่น้ำพอดีด้วยค่ะ แน่นอนว่าได้คุยกันนิดหน่อย”
“งั้นเหรอ? แล้วคุยเรื่องอะไรบ้างล่ะ?”
เมื่อผมถามแบบนั้น พลอยก็เดาะลิ้นเบาๆ
ก่อนจะเปลี่ยนมายิ้มแย้มตามเดิม
“เรื่องทั่วไปแหละค่ะ ส่วนใหญ่ก็ถามว่าปิดเทอมทำอะไรบ้าง รู้สึกพี่น้ำจะเล่นเกมกับน้องสไปรท์…”
พูดถึงตรงนั้น เธอก็เหลือบมองมาที่ผมอย่างเฉียบคม
…อ่อนไป …อ่อนไป กระจอกไปนะ ผีนางรำ
ถึงพี่น้ำจะรับปากมาแล้ว แต่โดยเนื้อแท้สองคนนั้นเป็นคนปากพล่อย เพราะงั้นผมจึงกำชับไปแล้วว่าห้ามบอกเรื่องที่ผมเล่นเกมกับคนในสภาเด็ดขาด
และถ้าบอกแค่นั้นอาจไม่มีแรงจูงใจมากพอ ดังนั้นผมจึงแถมไปอีกว่าจะให้หยุดงานสภาฟรีๆหนึ่งอาทิตย์
เพราะงั้นในอาทิตย์นี้จะไม่เห็นหน้าสองหน่อนั้นแน่นอน อีกทั้งถ้าไม่มาสภา โอกาสที่สองคนนั้นจะเผลอหลุดปากกับพลอยหรือพี่ต้นกับดิวก็น้อยลงเยอะ
จากข้อมูลดังกล่าว แสดงว่าพลอยได้แค่สงสัย แต่ยังไม่ทราบแน่ชัด จึงพูดค้างไว้แค่นั้นเพื่อให้ผมพลาดหลุดปากออกมาเอง
แต่ก็อย่างที่พูด กระจอกมาก!!!
ผมซดน้ำชาเบาๆหนึ่งอึก
“เล่นเกมสินะ…สองคนนั้นนี่จริงๆเล้ย เข้าใจอยู่หรอกว่าปิดเทอม แต่เอาเวลาไปใช้กับเกมหมดนี่เสียเปล่าชะมัด”
“ค่ะ…”
“ไว้เจอรอบหน้าคงต้องตักเตือนหน่อยแล้วสิ ทำแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน ยิ่งกับตัวเองที่เรียนไม่ค่อยเก่งด้วย อย่างน้อยก็น่าจะอ่านหนังสือหนังหาสักหน่อย เผลอๆการบ้านปิดเทอมก็คงได้แจ้นมาขอให้ฉันช่วยสิเนี่ย”
ผมบ่นน้ำไหลไฟดับ
ไม่ผิดสังเกตสักนิด ปกติผมก็บ่นเรื่องสองคนนั้นกับพลอยประมาณนี้อยู่แล้ว
พลอยนิ่งเงียบ
‘ชนะแล้ว’ ผมคิดเช่นนั้น
ง่ายดายจริงๆ
ผมลุกบิดขี้เกียจ
“ไม่มีใครมาเลยแฮะ พี่ต้นกับดิวก็ด้วย …แย่จัง วันนี้คงต้องทำงานกันสองคนล่ะนะ”
“พี่ต้นกับดิวเดี๋ยวก็มาค่ะ”
“เอ้า? ไหนบอกว่าสองคนนั้นติดธุระไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ค่ะ แต่เดี๋ยวก็มา”
กำกวมจังแฮะ รู้สึกแปลกๆชอบกล…
…ไม่ทันจะได้สงสัย ประตูห้องก็ถูกเปิดอย่างรุนแรงอย่างกับโดนกระแทก
ผมสะดุ้งเฮือก กลับกันที่พลอยนั่งนิ่งจิบน้ำชา
“…!?”
ที่ประตู มองเห็นสไปรท์กับพี่น้ำโดนล็อคแขนอุดปากเข้ามาในสภา
ซึ่งสองคนที่ล็อคพวกเธอไว้คือพี่ต้นกับดิว
“พะ พี่ต้น! ดิว! ทำอะไรกันเนี่ย!?”
“พี่ก็ไม่อยากทำงี้หรอกนะ”
“นะ น้องคริส!”
พี่ต้นปล่อยพี่น้ำลงกับพื้นเหมือนโยน แล้วทำไมคำพูดพี่แกต้องเท่ขนาดนี้ด้วย?
“อู้อี้!”
“…นิ่งไว้”
สไปรท์ดีดดิ้นแต่สู้แรงดิวไม่ไหวซะงั้น หล่อนเป็นเสือสมิงไม่ใช่เรอะ มาแพ้ปอบได้ไงหา?
พี่น้ำคลานเข่าเอ่ย
“นะ น้องคริส! พะ พี่ขอโทษ!”
“พะ พี่น้ำพูดบ้าอะไรอยู่ครับ!?”
“กะ กะ กะ ก็มัน…!?”
เชี่*ไรเนี่ย เริ่มจะตามไม่ทันแล้วนะ!
แต่ต้นเหตุน่าจะมาจากยัยผีนางรำที่ทำหน้าเหนืออยู่ตรงนั้นสินะ!
ผมถามเสียงแข็ง
“พลอย…เธอ…ทำอะไรลงไป”
“หาความจริงค่ะ”
และลุกขึ้น
“ความจริง…อะไร…?”
“ความจริงที่ว่าทำไมประธานที่ไม่เคยขาดเรียนสักครั้ง ถึงได้มาขาดเรียนพอดีวันเปิดเทอมน่ะค่ะ”
จากนั้นเธอก็เดินวนรอบห้องช้าๆ ราวกับนักสืบที่กำลังไขคดี
ส่วนผมเป็นคนร้าย
“ตอนแรกดิฉันก็คิดว่าประธานป่วยนั่นแหละค่ะ ทว่า ดิฉันดันรู้มาจากพี่ต้นว่าพี่น้ำก็หยุดเรียนเหมือนกัน ส่วนน้องสไปรท์ก็ลองแวะไปดูที่ห้องเรียนหลังจากนั้น ก็พบว่าเธอหยุดเรียนเช่นกัน”
“…”
“แปลกใช่มั้ยล่ะคะ? ทำไมสองคนนี้ถึงได้หยุดเรียนพร้อมกับประธานพอดิบพอดี? จะใช้คำว่าบังเอิญก็ได้ แต่ก็อย่างที่บอกไปเมื่อครู่ ฉันพูดถึงประธานที่ไม่เคยหยุดเรียนสักครั้งอยู่นะคะ?…เพราะงั้นจะบอกว่าบังเอิญ ดิฉันคิดว่ามันฟังดูเหลือเชื่อไปหน่อย”
“นี่เธอ…”
“อ๊ะ! อ๊ะ! ดิฉันยังพูดไม่จบค่ะ รบกวนช่วยเงียบด้วย”
หนอย…!
“…ประธานป่วยจริงๆ …ประสบอุบัติเหตุ …หรือมีสองคนนี้เป็นต้นเหตุ …มีความเป็นไปได้มากมายให้คาดเดาเลยล่ะค่ะ กระนั้นดิฉันกลับคิดว่าความจริงคืออย่างสุดท้ายมากกว่า จึงได้ลองให้พี่ต้นกับดิวช่วยสืบดู”
“ไม่ทำงานทำการกันหรือไง…”
“อะไรคะ? บอกไปแล้วนี่ว่าเมื่อวานไม่มีคนมาขอช่วยน่ะ? ก็เลยมีเวลาว่างเต็มที่เลยไงคะ”
ผมกำหมัดแน่น
และไม่รู้เพราะอะไร ผมถึงทำได้เพียงเงียบรอฟังสิ่งที่พลอยพูด
เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย??? สถานการณ์ผมตอนนี้มันสภาพของคนร้ายในนิยายสืบสวนชัดๆ!
“พี่น้ำกับน้องสไปรท์เล่นเกมตลอดปิดเทอม ไม่ว่าจะใครในสภาก็รู้อยู่แล้ว ที่ควรจะหาให้ได้คือประธานไปเล่นกับเขาด้วยรึเปล่า…อุ๊ย เฉลยเร็วไปซะแล้วสิ คิกคิก”
หัวเราะซะน่าเตะคว่ำ
ผมขึงตาพูด
“ฉันไม่ได้เล่นบ้าอะไรทั้งนั้น กงเกมฉันสนใจซะที่ไหน”
“ปากแข็งจริงนะคะ งั้นมาฟังพยานปากเอกของเรากันดีกว่าค่ะ …พี่ต้น”
พี่ต้นพยักหน้าและลากคอเสื้อพี่น้ำขึ้นมา
“ตะ ต้น! รุนแรงไปแล้วนะ!”
“อย่างเธอแค่นี้ยังน้อยไป เอ้า! พูดเหมือนที่พูดกับฉันเมื่อกี้”
“เอ๋!?”
“พูดเหมือนที่พูดกับฉันเมื่อกี้”
เดี๋ยวนะ…พี่น้ำโดนพี่ต้นสอบปากคำมาเรอะ!?
วิบัติแล้วไง ดูจากสภาพพี่น้ำแล้ว เผลอๆคงหลุดข้อมูลไปหมดแล้วด้วย
…ไม่สิ…
จำให้ขึ้นใจสิ ที่พี่น้ำบอกตอนนั้น…
ว่าไม่ต้องห่วง เธอจะไม่บอกพลอยแน่นอน
เพราะฉะนั้นเราจะยังหมดหวังไม่ได้! พี่น้ำต้องปากแข็งกว่าที่คิ…
“น้องสไปรท์ชวนน้องคริสเล่นเกม พอน้องคริสตอบตกลงก็เลยมาเล่นพับพีด้วยกัน เล่นไปเล่นมาน้องคริสก็ติดหนักข้อ ก็เลยใช้เวลาช่วงปิดเทอมเล่นเกมกันโต้รุ้ง สุดท้ายก็เลยโดดเรียนกันค่ะ…”
โอ้โห เ*ดเข้
นอกจากปากอ่อนยวบยาบเป็นกระดาษเช็ดตู*แล้ว สภาพไม่มีท่าทีว่าจะเลี่ยงบาลีอะไรสักอย่างให้เลยสักนิด
ผมก้าวถอยหลัง และชี้ไปที่พี่น้ำเหมือนชี้สิ่งปฎิกูล
“โกหก! ยัยผีไร้หัวนี่โกหกชัด! ใส่ร้ายกันหน้าด้านๆ!”
“ฮือๆ….น้องคริส พี่ขอโทษ อย่าโกรธพี่เลยนะ…”
ผมหันไปหาพลอย
“นี่เตี๊ยมกันมาใช่มั้ย!? อย่างฉันเนี่ยนะจะไปเล่นเกมกับพวกบ้าสองตัวนี้กัน!”
พี่น้ำได้ยินดังนั้นก็หน้าซีด อ้าปากค้าง …คงกำลังทำหน้าแบบนั้นอยู่นั่นแหละ
ส่วนสไปรท์ที่โดนดิวล็อคแขนอุดปากก็เหมือนจะน้ำตาไหล
แต่ตูไม่สนหรอกเฟ้ย!
พลอยหลับตาผงกศีรษะ
“คิดแล้วว่าประธานต้องพูดแบบนี้ คนอย่างประธานต่อให้หาเหตุผลชัดๆ ก็คงไม่ยอมรับความผิดง่ายๆจนกว่าจะสิ้นท่า เลยให้ดิวไปสืบอีกต่อนึง”
“ดิวงั้นรึ!?”
พอหันไปมองอย่างรวดเร็วจนคอแทบเคล็ด เห็นว่าดิวเปิดหน้าจอโทรศัพท์โชว์มาทางผม
ส่วนสไปรท์ที่พึ่งโดนปล่อยตัวก็คลานเข่าไปหาพี่น้ำเพื่ออะไรก็ไม่รู้…
ดิวเอ่ย
“…รายชื่อเพื่อนในส*รีมของพี่น้ำกับสไปรท์ …เจ้านี่คือแอคเคาท์ใหม่พึ่งสร้าง …คริสโตเฟอร์พลาดแล้วล่ะ”
“ฉันพลาดตรงไหนกัน!?”
“…พึ่งเคยเล่นเกมออนไลน์สิท่า”
“หมายความว่าไง…”
ดิวก้าวขาช้าๆ
ผมกลืนน้ำลายดังอึก
เธอยื่นหน้าจอโทรศัพท์ให้ผมดู
“…‘คริสโตเฟอร์ วิลเลี่ยม’ …คนที่เอาชื่อจริงมาตั้งชื่อแบบนี้ …มีแต่คนพึ่งเคยเล่นเกมเท่านั้น”
บ้าจริง…
พลาดงั้นรึ พลาดไปแล้วอย่างนั้นรึ!?
บัดซบ ทำไมกันล่ะ ก็ไอ้ตรงช่องกรอกข้อมูลมันให้เขียนชื่อนามสกุลไม่ใช่หรือไง มีเหตุผลอะไรต้องใช้ชื่ออื่นด้วยล่ะ …ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว้อยย
ผมก้าวถอยหลังอีกครั้ง ก่อนจะเอามือยันกำแพงไว้ไม่ให้ล้ม
กุมหน้าใช้ความคิด
ไม่ เรายังไม่แพ้ เรายังไม่แพ้
ผมพยายามบอกตัวเองแบบนั้น
“ขะ ของแค่นี้มันจะเป็นหลักฐานได้ไง! แค่ชื่อใครมันจะตั้งก็ได้มั้ยล่ะ! อีกอย่างนะ คริสโตเฟอร์ วิลเลี่ยม มันก็ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวสักหน่อย!!!”
“…เอ่อ”
ดิวกะพริบตาเหมือนไม่อยากเชื่อว่าผมจะพูดแบบนั้น
“เธอก็จะใส่ร้ายฉันสินะ!?”
“…ฮึ่ม”
ดิวย่นริมฝีปากและส่ายศีรษะ
เดินไปยื่นโทรศัพท์ให้พลอย ซุบซิบกันเบาๆสองคน
จากนั้น พลอยก็แสยะยิ้ม
“ประธานคะ”
“อะไรอีก? ขอบอกนะว่าฉันยังไม่ยอมรับหรอก”
“ประธานบอกว่าคริสโตเฟอร์ วิลเลี่ยมมีหลายคนสินะคะ?”
“เออสิ”
“งั้นถ้านี่ล่ะ รับรองว่ายังไงก็มีแค่คนเดียวแน่นอนค่ะ”
“???”
ผมงงเป็นไก่ตาแตก และความผิดพลาดอย่างที่สองก็ถูกประทับเข้ามาในดวงตาของผม
ในช่องแนะนำตัวแอคเคาท์ของเจ้าคริสโตเฟอร์ วิลเลี่ยมนั้น เขียนเอาไว้ว่า…
‘ประธานนักเรียนโรงเรียนอาคมจิตตฯ ลูกซาตาน!’
“บัดซบบบ!!!!”
เข่าผมทรุดพร้อมลงไปทุบพื้นอย่างแรง
พลอยทำหน้าเอือมๆ
“…ถึงจะไม่นับเรื่องโดดเรียน แต่ดิฉันว่าประธานอย่าเล่นเกมออนไลน์เลยดีกว่าค่ะ…”
ดิวพูดเสริมขึ้นมา
“…พึ่งเคยเจอคนเอาข้อมูลจริงๆไปใส่แบบนั้นเหมือนกัน”
ทำไงได้เล่า! ก็เขาให้เขียนแนะนำตัวนี่หว่า! ต้องไปโทษเจ้าตัวระบบต่างหาก! แล้วยิ่งบอกให้ใส่ข้อมูลแบบนั้น เกมเมอร์สมัยนี้ทำไมถึงคิดวิธีใส่ข้อมูลปลอมขึ้นมาได้กัน!?
หัวหมุนติ้ว หน้ามืดทำอะไรไม่ถูก
ผมเหลือบมองพี่ต้น
“…พี่ต้นก็ช่วยพลอยด้วยสินะครับ”
พี่ต้นกุมต้นคอตอบด้วยสีหน้ากังวล
“อืม… พี่แค่ไม่อยากให้น้องประธานติดเกมเหมือนยัยน้ำน่ะ โทษทีนะ ที่ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกัน”
หล่อจริงนะพ่อคุณ
ถึงขั้นที่พี่ต้นยังไม่ช่วย แสดงว่าครั้งนี้ผมผิดเต็มประตู
พอคิดได้แบบนั้นผมก็ลุกขึ้น
เดินผ่านทั้งพลอยและดิว ไปหยุดที่พี่น้ำกับสไปรท์ โดยมีพี่ต้นมองด้วยสีหน้าฉงน
พี่น้ำถามเสียงสั่น
“นะ น้องคริสไม่โกรธพี่ใช่มั้ย?”
“หนะ หนูขอโต๊ด…พี่คริสโตเฟอร์”
ผมก้มมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย
…นั่นสินะ สองคนนี้ไม่ได้ผิดอะไรหรอก เราต่างหากที่หักห้ามใจตัวเองไม่ได้
ไม่ควรเอาความผิดมาลงที่พวกเธอ…
ผมชันเข่าและยื่นมือไปหาพี่น้ำกับสไปรท์
“ไม่โกรธหรอกครับ ผมผิดเอง”
“น้องคริสไม่ได้ผิดคนเดียวสักหน่อย!”
“ใช่ๆ! พวกเราสามคนผิดด้วยกันหมดเนี่ยแหละ!”
ฟังแล้วน้ำตาจะไหล
ผมยิ้มบางๆและจับมือพวกเธอ
“ช่างเถอะ …ไว้วันไหนค่อยมาเล่นด้วยกันอีกนะ พับพีน่ะ”
““ค่ะ!/ค่า!””
“นี่พวกประธานทำซึ้งเรื่องบ้าอะไรอยู่คะเนี่ย!?”
บรรยากาศซึ้งกินใจโดนตัดบทเอาดื้อๆด้วยเสียงตะโกนของผีนางรำรองประธานที่ดังไปทั่วทั้งตึกชมรม
เคสที่ 23 เปิดเทอม? /จบ