สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ - ตอนที่ 46 เคสที่ 22 วันว่างๆ ของประธานนักเรียน
- Home
- All Mangas
- สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ
- ตอนที่ 46 เคสที่ 22 วันว่างๆ ของประธานนักเรียน
สีแดง…
สีดำ…
ความร้อน…
ความวุ่นวาย…
เสียงกรีดร้อง…
เสียงสาปแช่ง…
นั่นคือหลายสิ่งที่ผ่านเข้ามาในสายตา
ซึ่งถ้าจะพูดถึงว่าสิ่งเหล่านั้นคืออะไร ทุกสิ่งที่กล่าวมาคือ ‘บ้านเกิดของผม’
และแน่นอน ผมไม่มีความคิดจะบอกหรอกนะว่านรกหน้าตาจริงๆ เป็นยังไง เพราะงั้นเอาไปแค่นั้นพอ …ถึงหลายคนอาจจะคิดว่า ‘ไอ้ที่พูดๆมาเมื่อกี้มันไม่ใช่นรกของไทยหรอกเรอะ?’ แต่ก็เอาเถอะ จะแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น
“กลับไปทีไรก็หน่ายใจทุกที ว่างั้นมั้ย? เซอบี้”
“““บ๊อก!”””
ผมเดินผ่านวงเวทดาวหกแฉกที่มีขนาดเท่าตัวคนและกลับมาที่บ้านพักพร้อมกับเซอบี้
แม้จะเป็นลูกซาตาน แต่อารมณ์คิดถึงบ้านเกิดจนช่วงปิดเทอมต้องหาเวลาแวะไปก็ยังมีอยู่ในใจลึกๆ ไม่น้อย
ด้วยเหตุนั้น ผมจึงเจียดเวลาปิดเทอมนิดหน่อย กลับไปเยี่ยมนรก …ซึ่งในส่วนประเด็นดังกล่าว เป็นข้อมูลที่ห้ามให้คนเป็นทราบ
สรุปง่ายๆ คือผมกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดก็พอ
ผมย้ายมานั่งที่ห้องนั่งเล่น
เมื่อพิงหลังกับโซฟา เซอบี้ก็ขึ้นมาบนตัก
“แกก็เถอะ ถ้าไม่อยากตามมาก็อยู่ที่นั่นเลยก็ได้ ฉันบอกทุกปีแล้วนะ”
“““บ๊อก”””
ดูเหมือนจะยังอยากอยู่กับผมต่อแฮะ
ผมไม่มีงานอดิเรก ช่วงปิดเทอมสำหรับผมคือช่วงพักผ่อนหย่อนใจอยู่เฉยๆ ไร้กำหนดการ ไร้ที่หมาย ไร้การกระทำ จะว่าเป็นคนขี้เกียจก็ย่อมได้ แต่ว่าไงดีล่ะ…ไม่มีไรทำนี่เนอะ
พูดถึงงานอดิเรกแล้ว คนในสภานี่ ช่วงปิดเทอมเขาทำอะไรกันบ้างนะ…
คิดไปก็ป่วยการ จะติดต่อไปก็ใช่ที ผมเข้าใจความรู้สึกของการที่อยากพักใจไม่คุยกับหัวหน้าของมนุษย์ล่ะนะ
เพราะงั้นเลี่ยงการติดต่อกับสมาชิกสภาไปนั่นแหละดีที่สุด
…เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ผมไม่ได้เอาโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย แถมยังไปตั้งหลายวัน อาจจะมีใครโทรหาล่ะมั้ง?
แล้วจะเป็นใครได้ล่ะ? นึกไม่ค่อยออกเลย เราก็ไม่ได้ค้างคาเรื่องอะไรไว้นี่นา
ผมที่นึกเช่นนั้นก็ไปหยิบโทรศัพท์ พอไปถึงเสียงเรียกเข้าก็ตัดลงพอดี
“…..”
…สองร้อยสิบสาย…
แถมยังเป็นเบอร์ที่ผมไม่รู้จักด้วย
ครั้นจะเป็นมิจฉาชีพ ก็ต้องขอนับถือในความพยายาม
ด้วยความสงสัยผมจึงโทรกลับไป
รอต่อสายสักพัก…
“…ฮัล…”
‘พี่คริสโตเฟิ่น!!!’
ผมรีบยกโทรศัพท์ห่างตัว เสียงดังโคตร
จากนั้นก็ได้ยินเสียงแว้ดๆ อยู่อีกพักนึง ผมรอจนเสียงเงียบลง
“ฮัลโหล?”
‘ก็ตามที่หนูพูดไปเมื่อกี้แหละ’
“โทษที ไม่ได้ฟังน่ะ”
‘อื๋อ? คือพี่คริสโตเฟอร์ปล่อยหนูคุยอยู่คนเดียวตั้งนานอะเหยอ?’
ปลายสายคือเด็กสาวรุ่นน้องหนึ่งในสมาชิกสภานักเรียน …เสือสมิงสไปรท์นั่นเอง
ผมขี้เกียจสนใจจึงถามเข้าประเด็นที่หล่อนน่าจะพูดไปก่อนหน้านี้อีกครั้ง
“โทรมามีอะไร?”
‘เรื่องสำคัญสุดๆ!’
“หืม…อยากติวหนังสือเหรอ? ขยันจังนะ ไม่คิดเลยว่าอย่างเธอจะมีกะจิตกะใจติวหนังสือช่วงปิดเทอมกับเขาด้วย”
‘บ้าเป่า? หนูโทรมาชวนเล่นเกมต่างหาก’
ไม่น่าไปหวังอะไรกับยัยนี่เล้ย…
“ไม่รู้หรอกนะว่านึกไงโทรมาชวน แต่ฉันพึ่งกลับถึงบ้านเอง อยากพักเหนื่อยสักหน่อย …แล้วก็นะ ฉันไม่เล่นเกม”
ประโยคแรกๆไม่ค่อยสำคัญหรอก สำคัญที่ประโยคหลังมากกว่า
คือก็อย่างที่น่าจะเดาออก ผมไม่สันทัดเรื่องเกมเลยสักนิด
‘ไปไหนมานิ?’
“นรก”
‘ไม่ชวนหนูไปมั่งอะ?’
“รอไปตอนตายโน่น”
‘หนูไม่ตายเร็วๆนี้หรอกน่า’
“ก็คงงั้น”
ผมตอบขอไปที พลางนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง
สไปรท์ทำเสียงปนเสียดาย
‘เอาเต๊อะ ถ้าอยากเล่นก็ทักหาหนูได้นะ’
“ก็บอกว่าฉันไม่เล่นเกมไงเล่า”
‘เออน่ะๆ ไว้เจอกาน!’
และสายก็ตัดลงแค่นั้น
ผมจ้องโทรศัพท์…ขณะคิดว่า ทำไมคนที่โทรมาถึงเป็นสไปรท์กันนะ น่าจะมีคนอื่นที่มีโอกาสให้โทรหาผมอีกตั้งเยอะไม่ใช่เรอะ?
…หลังจากนั้น ผมก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสายลม…
“อืม อืม อืม”
“““บ๊อก! บ๊อก!”””
“…อย่างที่คิดจริงๆด้วย”
“““บ๊อก?”””
ผมหันสายตาไปยังเซอบี้ที่กำลังลิ้นห้อยพร้อมเอ่ยด้วยคำพูดที่ไม่น่าออกจากปากผม
“น่าเบื่อชะมัดเลย…”
ถึงจะไปฆ่าเวลาที่บ้านเกิด แต่กว่าจะเปิดเทอมก็ยังอีกนาน
ตัวผมที่อยู่ตั้งมอห้า ได้ผ่านประสบการณ์ที่เรียกว่าปิดเทอมมานักต่อหนัก แต่ว่า…ไอ้ความเบื่อหน่ายที่อยู่บ้านไม่มีอะไรทำนี่ ก็ไม่เคยจะชินสักที
ป่านนี้ก็น่าจะสอบซ่อมเสร็จแล้วด้วย แถมครูใหญ่ก็ไม่ได้ติดต่อมา แสดงว่าไม่มีความจำเป็นต้องไปช่วยงานที่โรงเรียน
…งานสภาไม่มี อ่านหนังสือก็ไม่ต้อง และในเมื่อไม่มีงานสภา เคสก็ไม่มีให้ทำเช่นกัน
ทำไมถึงได้ชอบปิดเทอมกันนะ ไอ้การอยู่บ้านเฉยๆตั้งหลายวัน มันน่าอภิรมย์ตรงไหนกัน?
ผมเหลาะแหละอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เปิดโทรทัศน์ดูรายการตลก …ขณะคิดว่าเซนส์ด้านมุกตลกของมนุษย์นี่มันฝืดสิ้นดี
“เซอบี้…เดินเล่นกันมั้ย?”
“บ๊อก?”
“นั่นสินะ วันนี้ไม่ต้องดีกว่า”
หมอนี่ก็คงรู้สึกเพลียๆไม่ต่างจากผม เดินเล่นเอาไว้วันหลังก็ได้
ตัวเราปีก่อนๆ มันอยู่ไปได้ยังไงกันนะ เรานั่งว่างๆ แบบนี้ทั้งวันเลยงั้นเหรอ?
ระหว่างคิดไม่ตก ผมก็เหลือบไปทางโทรศัพท์…
…ไม่เอาน่า
…ถ้าเอาด้วยตอนนี้ก็เหมือนแพ้
…แต่ว่า อย่างยัยเด็กนั่นคงไม่คิดอะไรหรอก…
สุดท้ายก็ทำได้เพียงเถียงกับตัวเองแค่สองวิเศษ ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ต่อสายไปยังเบอร์ล่าสุด
เธอรับสายอย่างรวดเร็ว
“สไปรท์”
‘อาโย๋? ผู้ใดนิ’
“ฉันเอง”
‘โอ้? มีไรเหยอ? หนูกำลังเล่นเกมอยู่เลย’
“เสมอต้นเสมอปลายจริงนะ”
‘ถือสายไว้แป๊บได้แมะ? อีกเดี๋ยวจะได้กินไก่แล้ว’
“กินไก่? เล่นเกมทำอาหารหรือไง?”
‘เกมยิงปืนต่างหาก’
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไก่?”
‘นี่! เหลือแค่ตี้เดียวเอง! พวกเราเหลือตั้งสี่คน รีบๆเข้าไปฆ่ามันเล้ย!!!’
ดูเหมือนยัยเสือสมิงกำลังสื่อสารกับคนที่เล่นเกมด้วยอยู่ โทรมากวนรึเปล่านะเรา แต่ช่างเถอะ อีกฝ่ายเป็นสไปรท์นี่นะ…
รอสักพัก ไม่สิ แอบนานอยู่เหมือนกัน สุดท้ายสไปรท์ก็โห่ร้องดีใจจนผมฉงน สงสัยเหมือนกันว่าไก่ที่ว่านั่นหมายถึงอะไรกันแน่
‘ยังอยู่เป่า?’
“อยู่สิ ก็บอกให้ถือสายรอไม่ใช่หรือไง?”
‘ว่าแต่ใครโทรมานะ?’
“เอ้า! ตกลงไม่รู้หรอกเรอะ!?”
‘จะรู้ได้ไงฮึ? ปกติหนูไม่รับเบอร์แปลกหรอกนะ ช่วงนี้มิจฉาชีพเยอะจะตาย หนูยิ่งโง่ๆอยู่ด้วย’
“…ประหลาดใจที่เธอกล้าคุยโทรศัพท์กับคนไม่รู้จัก แถมยังบอกให้เขาถือสายรออีกนะ…”
แล้วเธอก็โทรหาผมเบอร์นี้ไม่ใช่หรือไง? เฮ้อ ช่างประไร ขี้เกียจจะเถียงแล้ว
ขอบอกไว้ก่อน ที่ผมยอมรับคำชวนของสไปรท์น่ะ ก็แค่อยากเข้าใจถึงการใช้วันหยุดของมนุษย์ก็เท่านั้น ซึ่งถ้าว่าในกรณีนั้นแล้ว สไปรท์เป็นคนที่ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมได้ไร้สาระที่สุดแล้วล่ะ
ในกรณีนี้ ที่พูดไปนั่นเป็นคำชมนะ
ผมเข้าประเด็นทันที
“ที่เธอชวนก่อนหน้านี้…”
‘โอ้!? จะเล่นจริงเหรอ!? พี่น้าม! พี่คริสโตเฟอร์จะเล่นด้วยแหละ’
“เฮ้ยเดี๋ยว!? พี่น้ำก็อยู่ด้วยเรอะ!?”
‘ใช่จิ หะ…อ๋อ อ๋อ …อืม อืม …พี่คริสโตเฟอร์ พี่น้ำบอกว่าไม่ต้องห่วง จะเก็บเป็นความลับไม่บอกพี่พลอยให้’
“ทำไมพูดเหมือนก่อนฉันจะทำอะไรต้องขออนุญาตพลอยก่อนทุกครั้งเลยล่ะหา?”
แล้วนี่ก็ปิดเทอม ผมจะทำอะไรก็ไม่กระทบต่อหน้าที่การงานหรอก กล่าวคือ ผมจะเอาเวลามาทิ้งกับการเล่นเกมไร้สาระเพื่อฆ่าเวลากับสไปรท์และพี่น้ำก็ไม่มีใครว่าได้
ผมพูดต่อ
“บอกไว้ก่อน ฉันเล่นเกมไม่เป็นนะ”
‘อย่าห่วงน่าพี่คริสโตเฟอร์ เดี๋ยวหนูสอนให้ …ให้หนูกับพี่น้ำช่วยสอน รับรองพี่คริสโตเฟอร์ต้องเล่นเป็นอย่างแน่นวล!’
“งั้นเดี๋ยวฉันเปิดคอมแป๊บ”
‘โอ้!? ได้ยินพี่คริสโตเฟอร์พูดว่าจะเล่นเกมด้วยเสียงจริงจังแล้วหนูสะท้านเลยนะเนี่ย!?’
“ไม่ได้สนใจเป็นพิเศษ แค่ว่างเฉยๆ”
พอผมตอบ ก็ได้ยินเสียงซุบซิบเบาๆ
และสไปรท์ก็พูดขึ้น
‘พี่น้ำบอกว่าพี่คริสโตเฟอร์ซึนเดเระแน่ะ’
“ไม่ค่อยจะเข้าหูเท่าไหร่เลยนะนั่น?”
‘เดี๋ยวหนูส่งลิ้งค์ดิสข่อยให้! เข้ามาก็บอกแล้วกันเนอะ! มีแค่หนูกับพี่น้ำเอง อย่างพี่คริสโตเฟอร์ที่ไม่ชอบคนเยอะๆน่าจะดีใจชิมิล้า?’
“เออๆ”
ผมก็เลยขึ้นมาที่ห้องนอน ตอนช่วงที่เช่าบ้านนี้ก็ซื้อเครื่องเรือนเครื่องใช้ และเครื่องเรือนเครื่องใช้ที่ว่า ก็มีคอมพิวเตอร์ติดมาด้วย
เนื่องจากไม่รู้ว่าเขาใช้สเปคกันแบบไหน ตอนซื้อเลยบอกไปว่า ‘ขอที่ราคาแพงสุด’ เพราะงั้นถึงจะซื้อมาหลายปี ก็น่าจะพอเล่นเกมไหว
…ข้ามเรื่องตอนเข้าดิสข่อยไปแล้วกัน ผมมันก็บื้อเทคโนโลยีหรือของเถือกๆนี้ด้วย กว่าจะเข้าดิสข่อยได้ก็ให้สไปรท์สอนอยู่สักพัก
สุดท้ายก็มาร่วมพูดคุยกับสไปรท์กับพี่น้ำจนได้…
‘มาแล้วเหยอ!?’
‘พี่ดีใจนะเนี่ย ไม่คิดว่าจะได้เล่นเกมกับน้องคริส’
สองสมาชิกสภาที่เหลวแหลกที่สุดกำลังทักทายผมผ่านทางดิสข่อย
“สวัสดีครับพี่น้ำ ว่าแต่เกมที่จะเล่นต้องโหลดด้วยใช่มั้ยครับ?”
‘อืมๆ! สมัยนี้ก็งี้แหละ ไม่ได้เล่นผ่านเว็บสักหน่อย’
“จะสมัยไหนผมก็ไม่รู้ทั้งนั้นแหละครับ …เกมที่จะเล่นชื่ออะไรเหรอครับ?”
‘‘พับพี’น่ะ’’
“…”
เดี๋ยวนี้ชื่อเกมมันแปลกชะมัดเลยแฮะ
บ่นในใจพอประมาณ
หลังจากรอโหลดเกมที่ใช้เวลาสักเล็กน้อย สมัครระหงรหัส…เอาเป็นว่าพร้อมสำหรับทุกอย่างแล้ว ผมก็ได้เริ่มเล่นเกมที่ว่านั่น
ดูเหมือนทั้งสองคนจะสมัครไอดีใหม่เพื่อมาเล่นกับผมด้วย โดยให้เหตุผลว่าแรงค์ห่างกันเกินไปเลยเล่นด้วยกันไม่ได้
อะไรประมาณนั้น
…ในชั่วโมงแรก เรียกว่าลงไปวิ่งเล่นก็น่าจะได้ เพราะไม่ถนัดการควบคุมด้วยคีย์บอร์ด อีกทั้งยังต้องควบคุมมุมกล้องผ่านเมาส์ กับคนที่พึ่งเล่นเกมครั้งแรกแล้ว เป็นการบังคับที่น่าสับสนพอดู
และไม่รู้ทำไม ต่อให้ผมจะแทบไม่ได้ทำอะไร ก็จบที่อันดับหนึ่งอยู่ดี …แต่พอเข้าใจคอนเซ็ปเกมคร่าวๆแล้ว
เกจความเอนจอยอยู่ที่ เฉยๆ
มนุษย์วัยนี้สนุกกับของแบบนี้จริงดิ?
…ชั่วโมงที่สอง เริ่มคุ้นชินกับการควบคุม กระนั้นก็ยังไม่เพียงพอต่อการสังหารศัตรู ทำดาเมจได้นิดหน่อยแต่ยังต้องให้ทั้งสองคนช่วยปิดงาน
เกจความเอนจอย ก็ใช้ได้นะ?
…ชั่วโมงที่สามกับสี่ เรียนรู้ระบบเกมทั้งหมด การควบคุมทำได้ไม่ติดขัด แม้จะมีพลาดท่าบ้าง แต่สำหรับแรงค์เริ่มต้นแล้ว เรียกว่าผมสามารถเอาตัวรอดได้
เกจความเอนจอย สนุกล่ะมั้ง…?
.
.
.
…ชั่วโมงที่สิบ
“สไปรท์! ทิศสองร้อยสี่สิบ! หลังต้นไม้!”
‘รับแซ่บ! ย้าก!!!’
“พี่น้ำ! ผมมีเนจเหลือ! เดี๋ยวผมปาไล่พวกมันออกมาให้! ฝากจัดการด้วยครับ!”
‘ได้เลยค่า!’
คุ้นชินกับการควบคุมอวาตาร์สมมุติขั้นสูงสุด ขาดแค่ความแม่นยำในการยิงอีกนิดหน่อย กระนั้นก็สามารถอ่านเกมหรือดักทางศัตรูได้แล้ว เพราะงั้นการบุกโจมตีจึงทำได้ไม่ติดขัด ไม่รู้สึกว่าเป็นตัวถ่วง
เกจความเอนจอย เชดเข้ สนุกโคตร!
ถ้ารอบนี้ได้ที่หนึ่งล่ะก็! ระดับแรงค์ก็จะเพิ่มแล้ว!
‘น้องคริส! ฝั่งโน้นล้มสาม!’
“งั้นผมขอจัดการมันเอ๊ง!!!”
ว่าแล้วผมก็บังคับตัวละครสมมุติเข้าไปone on oneกับศัตรูคนสุดท้าย ความมั่นใจก็ส่วนหนึ่ง แต่ต่อให้พลาดท่าก็ค่อยให้พี่น้ำหรือสไปรท์จัดการก็ได้
การต่อสู้ดุเดือดจนผมจ้องหน้าจอตาไม่กะพริบ
มือสั่นเล็กน้อย…แต่ว่า!
“ต้องงี้ซิ๊!!!”
เมื่อผมจัดการศัตรูจนหมอบกระแตและหน้าจอขึ้นว่ากินไก่อะไรสักอย่าง ผมก็ชกลมด้วยความสะใจ
‘สุดยอดเลยพี่คริสโตเฟิ่น!’
‘ไม่คิดว่าจะไหวนะเนี่ย? น้องคริสนี่เรียนรู้เร็วจังนะคะ’
“แหมๆ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ! พี่น้ำกับสไปรท์สอนดีต่างหาก”
สไปรท์กับพี่น้ำตอบด้วยความเขินอายว่า
‘พะ พี่คริสโตเฟอร์ก็พูดเกินปาย~’
‘ขอบคุณนะคะ แล้วเป็นไงบ้าง? สนุกรึเปล่า?’
“ถือว่าฆ่าเวลาได้ดีเลยครับ”
เป็นการเปิดมุมมองใหม่เลยนะเนี่ย ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเกมที่เด็กๆชอบเล่นกัน จะให้ความบันเทิงมากเช่นนี้ ไม่แปลกใจที่สองคนนี้จะติดกันขนาดนั้น
อืมๆ คงต้องเพลาๆเรื่องการติดเกมของสองคนนี้ลงสักหน่อยแล้วสิ ยังไงก็พอเข้าใจหัวอกแล้วด้วย
ผมเหลือบมองนาฬิกา ดึกขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย…
“งั้นผมขอตัวก่อนดีกว่า”
‘นั่นสินะ พี่ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เที่ยงด้วยสิ’
‘หนูก็บอกแล้วว่าให้หาขนมมากินระหว่างเล่นน่ะ!’
พี่น้ำหัวเราะคิกคักตอบสไปรท์
‘เข้าใจแล้วค่ะ ไว้วันหลังจะเอามากินละกัน ไว้เล่นกันต่อพรุ่งนี้นะ’
“พรุ่งนี้ก็จะเล่นกันอีกเหรอครับ?”
ผมถามพวกเธอไปแบบนั้น
‘อื้ม ปิดเทอมก็ต้องเล่นเกมเนี่ยแหละ ถึงจะใช้เวลาว่างได้ดีที่สุด’
อืม อืม อืม สมเหตุสมผลสุดๆ
และผมก็พูดด้วยความลำบากใจเล็กน้อย
“อะ เอ่อ ถ้าไม่ว่าอะไร พรุ่งนี้ขอผมเล่นด้วยได้มั้ยครับ…?”
ถึงจะพอเล่นเป็นแล้วก็ตาม แต่สองคนนี้ที่จริงอยู่แรงค์สูงกว่านี้ ครั้นจะให้มาเล่นกับผมที่พึ่งไต่แรงค์มาได้นิดหน่อย ก็อาจจะรบกวนหรือทำให้ลำบากใจได้
แม้จะคิดอย่างนั้น…
‘‘ด้วยความยินดีเลย!’’
…ปลายเดือน
เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ประมาณตีสอง ขอบตาคล้ำเล็กน้อยจากการอดหลับอดนอนมาหลายสัปดาห์ ถึงพี่น้ำกับสไปรท์จะถนัดโต้รุ้งกว่าผมหลายขุม แต่เล่นกันเป็นบ้าเป็นหลังแบบนี้ จึงได้ยินเสียงเอื่อยๆเนือยๆจากทั้งสองคน…
‘ยาหนูหมด…’
“เอาของฉันก็ได้…”
‘ทั้งสองคน มีตี้มา…’
“‘โอ้…’”
ความสนุกยังไม่จางหาย กระนั้นสภาพพวกผมตอนนี้อย่างกับผัก ที่ไร้ซึ่งความสดใสในน้ำเสียง
ตีสองงั้นเหรอ…เช้านี้ก็เปิดเทอมแล้วนี่นะ การบ้านปิดเทอม…ลืมสนิทเลยแฮะ
เอาเถอะ ส่งช้าสักหน่อยจะเป็นไรไป
และยังไงก็ลากสองคนนี้มาเล่นเกมด้วยแล้ว ทำเสร็จเมื่อไหร่ค่อยไปช่วยทำก็แล้วกัน ถือว่าตอบแทนที่ช่วยสอนเล่น
ถึงจะเป็นการบ้านมอสี่กับมอหกที่ต่างหลักสูตร ผมก็ทำได้ง่ายๆ…เรานี่มันเก่งจริมๆ
แต่ก็น้า…นอนตอนนี้ก็เหมือนจะตื่นไปเรียนไม่ไหวไงไม่รู้
เอ…เปิดเทอมวันแรกงั้นเหรอ…
…คงเพราะเล่นเกมติดต่อนานเกินไป ความคิดความอ่านผมเลยรวนๆชอบกล ถ้าเป็นผมตามปกติคงไม่พูดอะไรแบบนี้ออกไปแน่…
แต่ผมก็พูดออกไป
ด้วยเสียงเฉื่อยๆ
“นี่ พี่น้ำ…สไปรท์”
‘‘หือ…?’’
“…พรุ่งนี้โดดเรียนกันมั้ย? ไม่ไปสักวันคงไม่เป็นไร…”
อย่างที่เดาได้ สองคนนี้ไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว ยิ่งผมเป็นคนเอ่ยปากเองยิ่งแล้วใหญ่ ประธานนักเรียนอุตส่าห์ออกปากว่าจะโดดเรียนเลยนี่นะ…
สุดท้ายก็เล่นเกมถึงเช้าจนไม่ไปเรียน ก่อนจะพากันหลับเป็นตาย ส่วนจะตื่นตอนไหนก็ไว้เป็นเรื่องของอนาคตแล้วกัน…
เคสที่ 22 วันว่างๆของประธานนักเรียน /จบ