สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ - ตอนที่ 43 เศษเสี้ยวเรื่องราวที่หนึ่ง พี่น้ำ (1)
- Home
- All Mangas
- สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ
- ตอนที่ 43 เศษเสี้ยวเรื่องราวที่หนึ่ง พี่น้ำ (1)
ฉันมีงานพิเศษที่แอบทำกับกลุ่มเพื่อนอยู่ค่ะ
และตอนนี้! ก็อยู่ในปฏิบัติการที่ว่านั่นเอง!
“คุณครูขา~ เหมือนที่ล้างมือห้องน้ำชั้นหนูจะเสียไงไม่รู้อะค่า~ ครูช่วยไปดูด้วยกันหน่อยได้มั้ยคะ?”
พวกฉันอาศัยจังหวะที่อาจารย์คนอื่นกลับไปหมด จนเหลือแค่อาจารย์แก่ๆคนนี้ในพักครู ซึ่งในหมู่นักเรียนชอบพูดกันว่าเป็นเฒ่าหัวงูเสียด้วย
และเด็กสาวที่กำลังพูดด้วยเสียงเย้ายวนนั่นคือเพื่อนของฉันเอง ‘นุ่น’
นุ่นแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักเรียนหญิงไทยแต่กระโปรงสั้นจนก้มนิดเดียวก็เห็นชั้นใน เปิดกระดุมเม็ดบนจนเห็นเนินอก
แหม…ที่จริงฉันก็แต่งตัวแบบนั้นเปี๊ยบเลยล่ะ ก็แฟชั่นอะเนอะ
ให้ใส่กระโปรงยาวคลุมเข่าแบบนั้น ก็ไม่เซ็กซี่กันพอดี
อาจารย์แก่ได้ยินดังนั้นก็รีบตอบ
“ดะ ได้สิ! เดี๋ยวครูดูให้!”
“ขอบคุณค่า~ ถ้าไม่ได้ครูช่วยหนูนี่แย่เลย”
ว่าแล้วนุ่นกับอาจารย์ก็พากันเดินไปทางห้องน้ำที่อยู่อีกชั้นนึง ซึ่งคนที่จงใจทำเสียก็คือพวกฉันเองนี่แหละ เท่ากับว่าตอนนี้ห้องพักครูไร้คนคุม
ทางสะดวก
ฉันเหลือบมองจากบันได เมื่อเห็นว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ก็กระซิบกับเด็กสาวข้างๆ
“นิด! ตอนนี้แหละ! รีบไปกันเถอะ!”
ฉันเอ่ยเร่งเพื่อนสาวที่ชื่อ ‘นิด’
นี่ก็เพื่อนสนิทของฉันอีกคน ที่กำลังอยู่ในปฏิบัติการเช่นเดียวกัน
“อืม! ไปกัน!”
นิดพยักหน้ายิ้มแย้ม
พวกฉันพากันย่องเข้าไปในห้องพักครู พร้อมกับค้นหาเอกสารบนโต๊ะ
อย่างที่รู้ว่าอีกไม่กี่วันก็จะเข้าช่วงสอบแล้ว และนี่คือโอกาสอันดีที่ฉันจะหาเงินพิเศษโดยไม่ต้องทำงานค่ะ!
แช๊ะ!
“เดี๋ยวเถอะ! ปิดเสียงด้วยสิ!”
“โทษทีๆ ลืมไปๆ”
นิดขอโทษด้วยสีหน้ายิ้มแย้มตามเคย
ตอนนี้พวกฉันกำลังทำเรื่องที่ถ้าถูกจับได้มีหวังโดนไล่ออกจากโรงเรียน ไม่ใช่มีหวังสิ…โดนไล่ออกแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์
เมื่อพวกฉันหาเอกสารที่ต้องการเจอ ก็ช่วยกันถ่ายรูป
สิ่งที่ถ่ายก็คือ…ข้อสอบที่จะออกในการสอบที่จะถึงนี้
แน่นอนว่ามีนักเรียนที่เรียนไม่เก่งบางคนยอมจ่ายให้กับรูปถ่ายโง่ๆพวกนี้แน่นอน! ต่อให้จะเรียนไม่เก่งขนาดไหน แต่ถ้ารู้ข้อสอบล่วงหน้าล่ะก็ ยังไงก็ต้องทำข้อสอบได้
และฉันยังมีออปชั่นเสริมอีกต่างหาก คือการเอาคำถามพวกนี้ไปจ้างเด็กเรียนเก่งๆทำ โดยอ้างว่าเป็นข้อสอบจากโรงเรียนกวดวิชา พอได้ทั้งคำถามและคำตอบปุ๊บ ก็จัดขายเป็นเซ็ทเลยไงล่ะคะ!
เรียกว่าแค่ถ่ายรูปแค่นี้ ก็ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ
หลังจากที่ถ่ายไปได้ราวสองสามวิชา เสียงข้อความจากนุ่นที่ไปกับอาจารย์ก่อนหน้านี้ก็ดังขึ้น คงใกล้จะกลับมาแล้วสินะ
ได้เวลาเผ่น!
“หนีเร็ว! นิด!”
ฉันเอ่ยเร่งเพื่อนสาวที่ร่วมกันถ่ายรูปข้อสอบ
เธอก็พยักหน้าตอบกลับมา
“ตามเวลาเป๊ะเลยเนอะ! ‘น้ำ’!”
นิดที่ใบหน้าจะแต้มด้วยรอยยิ้มเสมอบอกฉันแบบนั้น
และ น้ำ นั่นก็คือ…ชื่อเล่นของฉันเอง
“ไม่เป๊ะมากหรอกย่ะ! เหลืออีกตั้งหลายวิชา! พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”
“รับทราบ!!”
นิดตะเบ๊ะ ก่อนที่พวกเราจะรีบออกมาจากห้องพักครู
…และนี่จะเป็นเรื่องราวของฉันช่วงที่อยู่มอห้า ช่วงก่อนที่จะเข้าสภานักเรียน…
+ +
รุ่งเช้าวันถัดมา พวกฉันมาขายสินค้าโดยได้เงินเป็นกอบเป็นกำอย่างที่ว่า แน่นอนว่าการซื้อขายไม่ได้ประเจิดประเจ้อ มีแต่คนวงในเท่านั้นที่รู้ว่าพวกฉันทำการขายข้อสอบ
เด็กนักเรียนมากมายมารุมซื้อที่ตรอกด้านหลังตึกเรียน ถ้าเป็นที่นี่ ต่อให้เป็นอาจารย์ที่ตรวจตราช่วงเช้าก็จะไม่ผ่านมาเห็น
“วิทย์ห้าร้อย! สังคมสามร้อย! ส่วนภาษาอังกฤษแค่สองร้อยเท่านั้นจ้า!”
ฉันตะโกนด้วยเสียงที่พอให้นักเรียนที่ยืนมุงได้ยิน ในมือของฉันและนิด รวมถึงนุ่นที่เป็นคนหลอกล่ออาจารย์เมื่อวาน มีปึกกระดาษที่ปริ๊นท์มาจากรูปถ่าย
ทั้งหมดนั้นคือข้อสอบสามวิชาที่จะทำเงินให้!
แม้การซื้อขายจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่แล้วนักเรียนกลุ่มนึงก็ยกมือถาม
“ไม่มีคณิตศาสตร์เลยเหรอ!?”
“ยังไม่มีจ้า! แต่พรุ่งนี้เช้ามารอรับได้เลย! คณิตห้าร้อยเท่าวิทย์นะ!”
พอได้เงินแล้วจะอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ ต่อให้เป็นวิชาไหน พวกฉันที่ได้ฉายาว่า ‘สามน.’ ก็หามาได้แน่นอน!
อ๋อ สามน. ที่ว่าก็มาจากชื่อเล่นของพวกฉันนี่แหละ ไม่รู้โดนเรียกแบบนั้นตั้งแต่ตอนไหน แต่ก็ชินไปแล้วล่ะ
…ถึงเวลาเข้าแถว พวกฉันสามคนที่โดดกันเป็นเรื่องปกตินั้น ก็นั่งนับเงินกันอย่างสุขใจ การเข้าแถวตอนเช้าไม่ได้อยู่ในหัวเลยสักนิด
เพื่อนนิดที่แฝงด้วยรอยยิ้มเบิกบานก็ชูเงินขึ้นฟ้า
“ไม่อยากเชื่อเลย! ได้มาตั้งเกือบหมื่นแน่ะ!”
เพื่อนนุ่นที่เห็นดังนั้นก็หัวเราะคิกคัก
“ใครจะไปคิดละว่าหาเงินง่ายขนาดนี้ แถมสอบรอบนี้หาลูกค้าง่ายกว่าครั้งก่อนซะอีก สงสัยจะมีฐานลูกค้าแล้วสิเนอะ?”
ส่วนฉันที่ดีใจกับจำนวนไม่แพ้กันก็นับแบงก์ร้อยแบงก์พันมากมายลงกระปุก
“รีบๆเก็บได้แล้ว พรุ่งนี้ยังต้องขายกันอีก ไว้ค่อยแบ่งเงินกันทีเดียว”
““ค่า หัวหน้า””
สองเพื่อนรักตอบเสียงใส ไม่รู้ทำไมถึงลงมติให้ฉันเป็นหัวหน้า แต่จะยังไงก็ได้ทั้งนั้น!
พอมาคิดดูแล้ว นี่ก็พึ่งจะอยู่มอห้ากันเองนี่นะ…ยังมีเวลาทำเงินอีกตั้งเป็นปี …ว้า อยากให้การสอบมีเยอะกว่านี้จัง
นุ่นที่เห็นฉันยิ้มแย้มก็เอ่ย
“น้ำเนี่ยนะ ดีใจถึงขนาดฉันยังมองออกเลยนะเนี่ย~”
“มองออกด้วยเหรอ~ น่าอายจัง!”
กับเพื่อนสองคนนี้ที่สนิทมาตั้งแต่มอต้น แม้ฉันจะเป็นผีไร้หัว แต่พวกเธอก็รับรู้อารมณ์ของฉันได้ชัดเจน
“จะเอาเงินที่ได้ไปซื้อการ์ตูนใช่มั้ย?”
“อื้ม! มีเล่มใหม่ออกเต็มเลยล่ะ! จะเอาไปซื้อให้เกลี้ยงร้านเลยคอยดู!”
“เพื่อนน้ำเนี่ย…อย่างกับพวกโอตาคุไม่มีผิด”
นิดพูดเสริม
พวกเธอรู้งานอดิเรกของฉันดี และฉันก็ไม่มีความคิดจะปิดบังกับสองคนนี้
เดี๋ยวช่วงเย็นต้องดำเนินแผนอีกครั้ง คราวนี้จะต้องถ่ายวิชาที่เหลือมา เพราะงั้นพวกฉันจึงใช้เวลาช่วงที่โดดแถวนี้ นัดแนะกันพอสังเขป
“ฉันไปสืบมาแล้วล่ะ วันนี้เจ้าเฒ่าหัวงูจะอยู่เป็นคนสุดท้ายเหมือนเดิม”
“ตายแล้วๆ! หรือว่าเจ้านั่นนึกอยากเจอเพื่อนนุ่นสองต่อสองทุกเย็นกันน้า! น่าขยะแขยงชะมัด”
“แก่จะลงโลงอยู่แล้ว ไปโดนตัวไหนมาถึงคิดว่ามีเด็กนักเรียนมาชอบกัน คิกคิก!”
ฉันฟังเพื่อนๆต้อล้อต่อกระซิกกัน ก่อนจะกล่าว
“งั้นวันนี้ก็เอาแบบเดิมเลยนะ ให้นุ่นจัดการเจ้าเฒ่าเหมือนเดิม”
นุ่นฟังแล้วก็แกล้งทำหน้าเขินๆ
“เริ่มกังวลแล้วสิเนี่ย ว่าจะโดนไอ้แก่นั่นทำมิดิมิร้ายรึเปล่า~”
“อย่าห่วงเลย! แก่ขนาดนั้นเตะทีเดียวก็ปลิวแล้ว!”
นิดตบไหล่นุ่นและพากันหัวเราะขบขัน
นี่แหละชีวิตวัยรุ่นล่ะ …ฉันคิดแบบนั้น
พึ่งขึ้นมอห้ามาหมาดๆก็ก่อวีรกรรมซะขนาดนี้ เคราะห์ดีที่โรงเรียนนี้ไม่ได้เคร่งเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยมากนัก เผลอๆคงไม่มีใครคิดหรอกว่านักเรียนที่เป็นถึงเชื้อสายผีสาง จะมาแอบขโมยข้อสอบไปขาย
ง่ายดายจังเลยน้า~
ในช่วงพริบตาที่คิดแบบนั้น…
จู่ๆ ก็เกิดลมโกรกอย่างรุนแรง
“อะ ว้าย!?”
“ละ ลมแรงจัง!”
ถึงพวกเธอจะว่าเช่นนั้น แต่ฉันกลับสัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองจากเงามืด
ทว่า เมื่อหันไปยังทิศทางดังกล่าว กลับไม่พบอะไรเลย
“…รู้สึกแปลกๆไงไม่รู้สิ”
ฉันพึมพำกับตัวเอง โดยที่นิดกับนุ่นไม่ได้รู้สึกถึงสายตานั่นเลยแม้แต่นิดเดียว…
…ช่วงเย็น ได้เวลาเริ่มปฎิบัติการอีกครั้ง
ฉันกับนิดจะซุ้มรออยู่ตรงบันได เนื่องด้วยเป็นช่วงเวลาชมรม จึงไม่มีนักเรียนในตึกเรียน
และที่สำคัญคือครูส่วนใหญ่จะทยอยกลับบ้านหมดแล้ว ที่จริงก็เคยว่าจะรอให้กลับไปให้หมดก่อนค่อยแอบเข้าไป แต่ว่าครูคนที่ออกเป็นคนสุดท้ายจะล็อคประตูห้องนี่สิ
ลงท้ายก็เลยต้องหาวันที่ครูซึ่งหลอกง่ายๆเป็นคนล็อคห้อง แบบที่ทำอยู่ตอนนี้
“น่าจะเหลือแค่เจ้าเฒ่าแล้วล่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะค้า~”
นุ่นพูดพร้อมปลดกระดุมเสื้อให้ลึกกว่าเดิม ดูเหมือนจะเรียกอาจารย์แก่ที่จำชื่อไม่ได้คนนั้นเป็นแบบนี้ไปแล้ว
“โชคดีล่ะ~”
นิดอวยพรนุ่นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ไม่ลืมที่ฉันจะโทรหานุ่นทิ้งไว้ด้วย เพื่อให้ได้ยินการสนทนาของพวกเธอ เหตุผลก็เพื่อไม่ให้พรวดพราดออกไปผิดจังหวะจนโดนจับ
…รอเพียงไม่นาน
“อุ๊ย? วันนี้จารย์ก็อยู่ด้วยเหรอคะเนี่ย? แหม~ อย่าบอกนะว่ามารอเจอหนูน่ะ~”
นิดฟังเสียงของนุ่นจากโทรศัพท์พลางหัวเราะ
“ให้เพื่อนนุ่นจัดการนี่ดีสุดแล้วเนอะ! ทำเสียงกระเส่าจนเจ้าเฒ่าเสียอาการเลย!”
“นุ่นเธอเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นอยู่แล้วอะเนอะ แค่ครูแก่ๆคนเดียว ง่ายเหมือนปลอกกล้วย”
นิดก็พยักหน้าเห็นด้วยให้คำพูดของฉันพร้อมเอ่ย
“พูดถึงแฟน…พวกฉันก็มีแฟนกันแล้วนะ เมื่อไหร่เพื่อนน้ำจะมีแฟนสักทีเนี่ย?”
คำถามนั้น ทำฉันกุมคาง
“เอ…เด็กโรงเรียนนี้มีแต่พวกบ้าๆบอๆซะด้วยสิ ยังหาที่ถูกใจไม่เจอเลย”
“แล้วต้นล่ะ? รู้จักกันไม่ใช่เหรอ? รายนั้นนี่หล่อลากไส้เลยนะ?”
“แหม แค่เพื่อนสมัยเด็กเอง อีกอย่างช่วงนี้ก็ไม่ได้คุยแล้วด้วย …และก็ดีแต่หน้าตาเท่านั้นแหละ หมอนั่นน่ะ”
ไม่ได้นึกถึงเลยแฮะ ต้นก็เรียนอยู่ที่นี่เหมือนกันนี่นา ถึงจะมีเดินผ่านกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทักทายหรือพูดคุยสักนิด …เผลอๆหมอนั่นอาจจะจำฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ ไว้มีโอกาสค่อยทักก็แล้วกัน
แล้วก็ยังหล่อเสมอต้นเสมอปลายเลยนะ …ถึงฉันจะไม่รู้สึกว่างั้นก็เถอะ
“เพื่อนสมัยเด็กเนอะ …น่าเสียดายจัง ถ้าฉันกับต้นเป็นแบบนั้นก็ดีสิ”
“จ้าๆ”
ฉันตอบปัดๆ
นิดยิ้มกว้าง
“รีบๆหาที่ถูกใจสักทีเถอะน่า! หุ่นอย่างเพื่อนน้ำน่ะ จะผู้ชายคนไหนก็ชอบทั้งนั้นแหละ!”
ว่าแล้วเธอก็บีบเค้นหน้าอกฉันอย่างสนุกสนาน
“อะฮะฮ่ะ! อย่าสิ! มันจั๊กจี้นะ!”
ขณะกำลังหยอกล้อกันตามประสา เสียงของนุ่นที่โทรทิ้งไว้ก็…
“เหมือนที่ล้างมือในห้องน้ำชั้นหนูจะเสียอีกแล้วอะค่า~ ครูช่วยไปดูด้วยกันหน่อยได้มั้ยคะ?”
““…””
ฉันกับนิดหยุดเล่นและมองหน้ากันทันที
เดี๋ยวสิ…เล่นพูดเหมือนเมื่อวานเป๊ะ เกิดโดนจับได้ขึ้นมาจะทำยังไงเนี่ย! แถมรอบนี้พวกเรายังไม่ได้ยุ่งอะไรกับห้องน้ำเลยนะ!
ฉันกังวลใจจนเผลอกลืนน้ำลาย นิดก็เช่นกัน
แต่แล้ว เสียงของอาจารย์แก่ที่ตอบกลับมา กลับเกินความคาดหมายไปไกล
“อืม ไปสิ”
เป็นเสียงเรียบๆเสียจนขนลุก
“อะ…คะ ค่ะ!”
นุ่นก็แปลกใจไม่ต่างกับพวกฉันที่กำลังฟัง
นิดขมวดคิ้วจ้องไปที่โทรศัพท์
“ไอ้แก่นั่นลืมกินยาอะไรรึเปล่าเนี่ย? ต่อให้เป็นเด็กอนุบาลก็น่าจะสงสัยไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นสินะ…ฉันก็แปลกใจเหมือนกัน แต่ก็นะ! เอาไรมาก อย่างน้อยก็ตามแผน!”
ฉันเลือกที่จะถึงความฉงนไว้เบื้องหลัง เงินตรามันร้องเรียกจนทำให้ไม่สนใจรายละเอียดยิบย่อย ขอแค่ถ่ายรูปวิชาที่เหลือได้และเอาไปขายก็พอ!
นิดก็ยิ้มแย้มเช่นเดิม แต่ฉันมองออกว่ามีความกังวลเล็กน้อยอยู่ในรอยยิ้ม
…เฉกเช่นเมื่อวาน ฉันกับนิดย่องเข้าไปในห้องพักครูที่ไร้ผู้คนและไม่ได้ล็อค
ลงมือค้นแฟ้มเอกสาร หาวิชาที่พลาดไปจากเมื่อวาน
…แต่ไม่ว่าจะหานานเท่าไหร่…
“เพื่อนน้ำ…หามาจะทั้งห้องแล้วนะ ไม่เห็นมีเลย หรือว่าอาจารย์จะรู้ทันกัน?”
ฉันตอบด้วยความตึงเครียดว่า
“ไม่น่าใช่นะ ถ้ารู้ก็ต้องหาตัวคนทำแล้วสิ เอาข้อสอบไปแจกจ่ายมันร้ายแรง …แต่เล่นเงียบแบบนี้แล้วจะคิดว่าพวกอาจารย์รู้ มันก็…”
ไม่สมเหตุสมผล
นั่นคือที่ฉันคิด
ตุ้บ…
เสียงทึบๆดังขึ้นตรงหน้าประตู
เมื่อฉันลองเพ่งสายตามอง ก็พบว่าเป็นแฟ้มกระดาษที่ด้านหน้าเขียนว่า ‘วิชาคณิตศาสตร์’ …อีกทั้งยังมีวิชาอื่นๆอีกด้วย
แฟ้มข้อสอบของทุกวิชากองอยู่บนพื้น จะใช้คำนั้นก็ไม่ผิด
ไม่ใช่ว่าแฟ้มกระดาษหล่นลงมาจากที่ใด …มีใครบางคนที่เป็นคนโยนแฟ้มนั้นเข้ามาราวกับทิ้งเศษขยะต่างหาก
ใครบางคนคนนั้นเอ่ย
“พวกแกหานี่อยู่สินะ?”
เป็นเสียงที่เย็นเฉียบและคมกริบเหมือนใบมีด เกิดมาพึ่งเคยได้ยินเสียงที่น่าพรั่นพรึงถึงเพียงนั้นก็วันนี้
เจ้าของเสียงพูด ค่อยๆก้าวเข้ามาในห้องพักครู
‘เขา’ แต่งตัวแปลกไปจากนักเรียนชายปกติ
สายตาจ้องมอง พร้อมล้วงกระเป๋ากางเกง ใบหน้าเชิดขึ้นราวกับไม่เกรงกลัวสิ่งใด
ฉันกับนิดรีบลุกขึ้นปัดฝุ่น เล่นละครตบตา
“วะ ว้า…แย่เลยเนอะนิด เอกสารที่ครูให้มาเอา ดันหาไม่เจอซะได้เนอะ?”
“อะ อืม! ใช่ๆ หาไม่เจอเลย!”
พวกฉันรีบกลบเกลื่อนไปแบบนั้น
“ต้องไปขอโทษครูเขาซะแล้วสิ กลับกันดีกว่า!”
เมื่อฉันกับนิดพยายามจะเดินเลี่ยงเขาคนนั้น แต่อีกฝ่ายกลับยืนจังก้าโดยไม่ถอยไปเลยสักก้าว
จากหน้าตาแล้ว คงเด็กกว่าล่ะมั้ง…?
ฉันพูดกับเขาด้วยเสียงเย้ายวน
“แหม~ น้องอยู่มอสี่ใช่มั้ยคะเนี่ย? ขอทางให้พวกพี่ๆหน่อยได้รึเปล่า?”
“…”
เขานิ่งเงียบ
“เอ๋~ หรือว่าจะหลงเสน่ห์พวกพี่รึเปล่าน้า~ เอางี้มั้ย? ถ้าน้องไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร เดี๋ยวพี่ให้ไอจี เอามั้ย?”
“…”
สงสัยจะคุยไม่รู้เรื่อง…
“เฮ้อ ถ้าจะไม่พูดอะไรพี่ขอตัวแล้วกั…”
ฉันที่ตัดสินใจแบบนั้นก็ถอนหายใจ และพยายามเบียดไหล่เด็กมอสี่ที่ยืนขวางทาง
แต่ไม่ทันจะจบประโยค เขาก็พูดขึ้นโดยที่พวกฉันไม่ทันตั้งตัว
“ด้วยนามแห่งข้า พวกแกจงฟัง…”
““เอ๋…?””
“ถอยไป”
ถ้อยคำดังกล่าว ส่งผลให้ขาทั้งสองถอยกลับเข้าไปในห้องพักครูโดยไม่สามารถขัดขืน
นิดตาโตพร้อมพูดเสียงดัง แฝงอารมณ์หงุดหงิด
“นี่น้อง!? เล่นแบบนี้พวกพี่ไม่ตลกด้วยนะ!?”
“ใช่ๆ! อยู่แค่มอสี่เองไม่ใช่เหรอ? น้องน่ะ!”
เสียงที่แฝงด้วยความโมโหของพวกฉัน ทำเอาเด็กชายมอสี่ตรงหน้าพ่นลมหายใจ
เขาเกาศีรษะ
“พวกแกมีสิทธิ์เรียกฉันแบบนั้นด้วยเรอะ?”
“…เดี๋ยวสิ! พูดจากับรุ่นพี่ให้มันดีๆหน่อย!”
เมื่อนิดตะโกน อีกฝ่ายก็เหลือบมองพร้อมด้วยวงเวทดาวหกแฉกที่เกิดขึ้นบริเวณริมฝีปาก
“หุบปาก”
นิดพยายามจะเปล่งเสียง แต่ก็ได้แต่เกาปากด้วยความตื่นตระหนก
“นะ นิด! เป็นอะไรไปน่ะ!?”
“อื้อ! อื้อ!!!?”
มีแต่เสียงฟังไม่ได้ศัพท์ที่เค้นออกมาจากลำคอ
เขาพูดกับฉันมาว่า
“แกก็อย่าเสียงดัง ฉันรำคาญ”
“อะ อะไรของน้องเนี่ย!? บ้าไปแล้วหรือไง!?”
“ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งเรอะ?”
แต่ละประโยคที่เสียดเข้ามา ทำให้ความกลัวก่อเกิดโดยไม่อาจต้านทาน วาจาของเด็กคนนี้แฝงด้วยแรงกดดันสูงเสียจนต้องหวาดผวา
…คะ ใครกันเนี่ย…
แม้ความกลัวจะถาโถม แต่ความคิดนั้นก็ทำให้ฉันรวบรวมความกล้าแล้วถามออกไป
“นะ น้องเป็นใครกัน!?”
เขาบนศีรษะสีแดงสดทั้งสองข้าง ดวงตาสีแดงเลือดมองต่ำลงมา สีหน้าราวกับมองเศษขยะ
และเขาก็แนะนำตัว
“…รองประธานนักเรียน คริสโตเฟอร์”
…และนั่นคือการพบกันครั้งแรกของฉันกับน้องคริส …น้องคริสสมัยมอสี่…
เศษเสี้ยวเรื่องราวที่ 1 (พี่น้ำ) /มีต่อ